Top 10 ที่ต้องไปกับเวลาแค่ 24 ชั่วโมง『Salzburg』ประเทศออสเตรีย

วันนี้เราจะมาดูกันว่า ถ้าเรามีเวลาแค่ 24 ชั่วโมง หรือ 1 วันใน Salzburg เราควรจะไปที่ไหนบ้าง และทำยังไงให้ประหยัดที่สุดในขณะที่เที่ยวให้เยอะที่สุด

เมืองยอดฮิตอย่าง Salzburg ในประเทศ Austria เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายดนตรีคลาสสิคของ Mozart และศิลปะสไตล์ Barogue และสมัยปี 1965 ก็ยังเป็นเมืองที่ใช้สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ The Sound of Music นอกจากนั้นก็ยังเป็นหนึ่งใน UNESCO World Heritage Site โดยมีเทือกเขา Alp รายล้อม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่ทุกๆปีมักจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทุกหย่อมหญ้า

การที่เราจะเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญต่างๆในเมือง Salzburg ได้อย่างคุ้มค่า ประหยัด และสบายใจที่สุด คงจะต้องพึ่ง Salzburg Card สักใบให้อุ่นใจ โดยเจ้าการ์ดใบนี้จะทำให้เราสามารถใช้รถเมล์ได้ฟรี (ปกติตั๋ววันจะอยู่ที่ 130 บาท) และเข้าชมสถานที่สำคัญต่างๆ เช่นปราสาท Hellbrune ได้ฟรีอีกด้วย ไหนๆก็ไม่ได้ไปบ่อยๆ ผมจึงตัดสินใจซื้อการ์ดใบนี้อย่างไม่ลังเลครับ เดี๋ยวเราจะมาดูกันในตอนท้ายว่าจะประหยัดไปได้สักกี่ตัง

วิธีการซื้อการ์ดใบนี้มีหลายช่องทางครับ นอกจากจะซื้อที่เคาเตอร์ในสถานีโดยตรงแล้ว ก็สามารถซื้อผ่านทาง Agency ออนไลน์ได้ทั่วไป ส่วนตัวแล้วผมใช้บริการของ kkday.com ครับ https://www.kkday.com/en/product/6843?cid=4752 ในราคา 950 บาท พอดีว่าเวลาซื้อออนไลน์เค้าไม่ชาร์ตเพิ่ม แล้วก็สะดวกครับ ที่สำคัญ ถูกกว่าช่วง High-season ประมาณ 3 ยูโร (ประหยัดค่าเบียร์ไปเย้อ!)

ตอนนี้ผมก็ได้การ์ดสำคัญมาอยู่ในมือแล้วครับ ตอนนี้ผมจะเที่ยวฟรีทั้งวั้น (ยกเว้นค่ากิน) เอาให้หนำใจไปเลย และตอนนี้ผมขอนำเสนอ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไปแล้วคุ้มค่ากับ 950 บาท เอาแบบว่าเที่ยวให้ลืมเหนื่อยไปเลยครับ

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ก่อนอื่นให้เราไปที่ Tourist Info ที่สถานี Salzburg Hauptbahnhof เพื่อเปิดสิทธิ์และรับ Salzburg Card ของเรามาเลยครับผม หลังจากนั้นเราจะไปที่ยอดเขา Untersberg กันก่อนเป็นอันดับแรกเลยครับ

1. ภูเขา Untersberg

การเตรียมตัว
    เนื่องจากยอดเขา Untersberg มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,853 เมตร ดังนั้นการเตรียมเสื้อผ้าจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก อาทิเช่น เสื้อกันหนาว กางเกงขายาว รองเท้า หรือถุงเท้า แต่ผมรับรองได้ว่าวิวข้างบนคุ้มค่าแก่เตรียมตัวอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเห็นตัวเมือง Salzburg แล้วก็ยังเห็นดินแดนของฝั่งประเทศ Germany อีกด้วย

วิธีการเดินทาง
การเดินทางไปภูเขา Untersberg ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของ Salzburg นั้นสามารถไปได้ไม่ยาก โดยให้เรานั่งรถเมล์สาย 25 ซึ่งคันนี้จะเวียนมาจอดอยู่บริเวณชานชาลาด้านหน้าของ Main Station เพียงแค่เราโชว์ Salzburg Card ให้คนขับรถดูก็เป็นอันใช้ได้ และที่สำคัญนับตั้งแต่นี้ไปไม่ต้องจ่ายเงินค่ารถเมล์เลย ให้เรานั่งรถไปเรื่อยๆจนถึงสถานีปลายทาง Untersbergbahn โดยจะใช้เวลาประมาณ 25 นาทีครับ

กิจกรรม
พอเดินเข้ามาข้างในเราก็ไม่ต้องต่อคิวเพราะเรามี! Salzburg Card 555+ ให้เดินเข้าไปขึ้นกระเช้าได้เลยครับ โดยเราจะใช้เวลาลอยฟ้าทั้งหมดประมาณ 12 นาทีก็จะถึงยอดเขา และในระหว่างนั้นเราก็จะได้ชื่นชมบรรยากาศรอบๆ ซึ่งจะเห็นทั้งเมือง ธรรมชาติ และเทือกเขาต่างๆที่สวยงาม พอถึงยอดเราก็สามารถจะเดินเล่นอยู่ใกล้ๆสถานี หรือปีนเขาไปชมวิวสวยๆต่อก็ยังได้ครับ

ค่ากระเช้าไป-กลับ 940 บาท (ฟรี)
เวลาที่ใช้ 60-90 นาที (รวมขึ้น-ลงกระเช้า)

2. Hellbrunn Palace & Trick Fountains

วิธีการเดินทาง
หลังจากลงเขาแล้วก็ให้เดินกลับไปยังสถานี Untersbergbahn ครับ โดยให้นั่งรถเมล์สายเดิมซึ่งเค้าจะวนกลับไปทางสถานีหลัก ให้เราลงป้ายที่ชื่อว่า Schloss Hellbrunn และเมื่อลงจากรถแล้วก็จะมีป้ายบอกทางไปปราสาท ให้เดินไปตามทางอีกประมาณ 100 เมตรก็ถึงละครับ

กิจกรรม
พอมาถึงก็เดินหาห้องขายตั๋วเพื่อจองคิวเข้า Trick Fountain (ทางเข้าจะอยู่ด้านหน้า) ซึ่งเป็น Highlight ของที่นี่ครับ ด้านในต้องบอกว่าสนุกมากๆครับ ผมใช้คำว่าปราสาทที่สนุกที่สุดเลยก็ว่าได้ ถ้าคุณไม่เปียกสักนิดละก็รับรองว่ามาไม่ถึงแน่ๆ แต่แอบใบ้ให้นะครับว่ามีอะไรบ้าง อย่างเช่น Mechanical Theatre ตามรูป อันนี้จะใช้แรงดันน้ำล้วนๆไม่มีไฟฟ้าผสม โดยจะขับเคลื่อนตุ๊กตาไม้กว่า 200 ตัว แสดงให้เห็นถึงชีวิตประจำวันของคนในเมือง แม้แต่เสียงเพลงประกอบฉากจากออแกนก็ยังใช้แรงดันน้ำล้วนๆเช่นกัน

ค่าเข้า 490 บาท (ฟรี)
เวลาที่ใช้ 45 นาที ต่อรอบ

3. Mirabell Palace and Gardens

วิธีการไป
    หลังจากชื่นชมปราสาทแล้วเรารีบไปกันต่อเถอะครับ ให้เราเดินกลับไปยังป้ายรถเมล์ Schloss Hellbrunn (อันเดิมที่เราลงเมื่อกี้) แล้วก็นั่งรถเมล์สาย 25 เหมือนเดิมนี่แหละครับ วิ่งต่อไปเรื่อยๆ แล้วลงที่สถานี Mirabellplatz พอใกล้ๆถึงเราจะเห็นสวน Mirabell ฝั่งซ้ายครับ หาง่ายมาก

กิจกรรม
พอเรามาถึงก็สามารถเดินเล่นได้ตามอัธยาศัยครับ ไม่ต้องกังวลว่าจะจ่ายอะไร โดยทั่วไปนักท่องเที่ยวจะมาที่นี่เพื่อชมดอกไม้สวยๆหลากหลายชนิดท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว โดยมีพระราชวังเป็นฉากหลัง และที่นี่มักใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งอันสุดแสนจะโรแมนติก แต่อย่างไรก็ตามในฤดูหนาวดอกไม้เหล่านี้ก็จะร่วงโรยหมดเหลือไว้แค่กิ่งไม้ครับ

ค่าเข้าชม ไม่มี
เวลาที่ใช้ 30-45 นาที

4. Mozart Residence

วิธีการเดินทาง
หลังจากนั้นให้เราเดินลงใต้ไปทางแม่น้ำครับ ประมาณ 2-3 นาทีเราก็จะเจอ Mozart Residence ให้แวะตรงนี้ก่อน รับรองไม่ผิดหวัง

กิจกรรม
ใครอยากรู้ประวัติของ Mozart ให้มาที่นี่ครับ รับรองได้เห็นของดีเพียบ! มีเครื่องดนตรีหลายชนิด กระทั่งฟอร์เต้เปียโน มีเอกสารสำคัญที่ Mozart เขียนเอง มีรูปภาพ และที่นี่เค้าก็มี Audio Guide นำทางให้เราตลอด แต่ก็มีข้อควรระวังนะครับว่าข้างในเค้าห้ามถ่ายรูป

ค่าเข้าชม 430 บาท (ฟรี)
เวลาที่ใช้ 30-60 นาที

5. Makartsteg Bridge

วิธีการเดินทาง
พอเราออกมาจาก Mozart Residence ก็จะมองเห็นแม่น้ำอยู่ทางซ้ายไกลๆ ให้เราเดินไปตามทางประมาณ 2-3 นาที ก็จะเจอสะพานเป้าหมายแล้วครับ

กิจกรรม
ตรงนี้เป็นทางผ่านที่น่าสนใจครับ เป็นสะพานที่รวม Love Lockers จากทั่วโลก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคู่รักที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักกันตลอดไป?! ใครที่ชื่นชอบความน่ารักคิกขุอาโนเนะก็ต้องแวะถ่ายรูปกันนานหน่อยนะคร้าบ

ค่าเข้าชม ไม่มี
เวลาที่ใช้ 5-10 นาที

6. Salzburg City Cruises

วิธีการเดินทาง
สุดสะพาน Makartsteg Bridge เราจะมองเห็นตู้ขายตั๋วเดินเรือ ให้สังเกตป้ายของ Salzburg Card ครับ เพราะเราต้องไปลงทะเบียนตรงนั้น

กิจกรรม
ในเมื่อเราเดินมาเหนื่อยๆ ก็ต้องนั่งพักผ่อนให้ละอองน้ำเป็นทางผ่านบนเรือสุดหรู ซึ่งเราจะได้ชมบรรยากาศรอบๆเมือง Salzburg แบบ Panoramic View กันเลยทีเดียว โดยเรือลำนี้จะวิ่งทวนแม่น้ำเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร ซึ่งกัปตันเรือจะเป็นไกด์ในการล่องเรือตลอดการเดินทาง  ส่วนขากลับเราจะได้สัมผัสเรือดริฟก็คราวนี้ละครับ ผมแนะนำให้เพิ่มเงินอีก 120 บาทเพื่อนั่ง Class A บริเวณด้านหลังของเรือ (ด้านนอก) ข้อดีคือจะได้เห็นวิวด้านนอกเรือโดยปราศจากกระจกกั้น ถ้าใครกลัวหนาวที่นี่ก็มีบริการแจกผ้าห่มให้แก้เขินนะจ๊ะ

ค่าเข้าชม 590 บาท (ฟรี) (Class A เพิ่มอีก120 บาท)
เวลาที่ใช้ 45 นาที

7. Mozart’s Birthplace

วิธีการเดินทาง
หลังจากเดินข้ามสะพานมาแล้วก็ให้ตรงไปเรื่อยๆครับ พอเจอทางตันก็ให้เลี้ยวซ้าย แล้วเดินไปเรื่อยๆจนเจอซอยแรก คุณก็จะพบกับบ้านเกิดของ Mozart ครับโป้ม

กิจกรรม
Wolfgang Amadeus Mozart เกิดในนี้เลยครับ ตั้งแต่ปี 1756 แล้วก็อาศัยอยู่กับครอบครัวเป็นเวลา 17 ปีด้วยกันก่อนจะย้ายไปอยู่ Mozart Residence ที่เราเพิ่งไปมา แต่ที่นี่ก็จะมีบรรยากาศของศตวรรษที่ 18 ชัดเจน และเราจะได้เห็นข้าวของต่างๆที่ Mozart ใช้งานในยุคสมัยนั้นทีเดียวเลยนะครับโผ้ม

ค่าเข้าชม 430 บาท (ฟรี)
เวลาที่ใช้ 30-60 นาที

8. Getreidegasse

กิจกรรม
ขณะนี้เราก็มาอยู่ในบริเวณตรอก Getreidegasse โดยไม่รู้ตัว ซึ่งนอกจากจะมี Mozart’s Birthplace แล้วละก็ ที่นี่ยังมีร้านค้าระดับ High-end มากมายให้เลือกจับจ่ายใช้สอยได้ตามอัธยาศัย ซึ่งถ้าหากคุณมาถึงที่นี่แล้วก็ต้องมีไอเทมติดตัวกลับบ้านสักชิ้นให้ได้เลยนะครับ

ค่าเข้าชม ไม่มี
เวลาที่ใช้ แล้วแต่คุณผู้หญิงเลยคร้าบ
ค่าเสียหาย แล้วแต่เงินในกระเป๋านะคร้าบ

9. Cable Railway to the Fortress

วิธีการเดินทาง
ให้เราเดินต่อไปทางโบสถ์คาทอลิคครับ จากนั้นให้เสียงเพลงคอยนำทาง คุณจะเจอกับกระดานหมากรุกใหญ่เท่าบ้าน ไม่พอก็ยังม่ีคนเล่นมันอีกนะเอาซี๊ ตอนนี้ก็เท่ากับว่าด้านหน้าของคุณจะเป็นป้อมปราการแล้วหละครับ ให้เราเดินเข้าหาป้อมแล้วก็จะเจอกับทางเข้ากระเช้าจิ๋วโบราณ

กิจกรรม
แม้ว่าจะเป็นรถรางที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1892 แล้วก็ตาม แต่ตอนนี้เค้าเปลี่ยนมาใช้รถแบบใหม่ ทันสมัย ไฉไลกว่าเดิม ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 1 นาทีจากสถานีถึงตัวปราสาท เพรางั้นแล้วอย่ากระพริบตานะครับ ขอให้พบวิวอันสวยสดงามงามตลอด 1 นาที (555+)

ราคาไป-กลับ 330 บาท (ฟรี)
เวลาที่ใช้ 1 นาที

10. Hohensalzburg Fortress

วิธีการเดินทาง
ที่สุดท้ายหลังจากการนั่งรถบัส เดินข้ามแม่น้ำ ผ่านตรอกซอกซอย และต่อด้วยกระเช้าสุดเก่า ในที่สุดก็ถึงซ้าาาาาากที

กิจกรรม
ถ้ามาเมืองนี้แล้วไม่ได้ขึ้นป้อม Hohensalzburg ก็อย่าไปคุยเชียวนะครับว่ามาถึงแล้ว ตรงนี้นับได้ว่าเป็นที่สุดของวันเลยก็ว่าได้ นอกจากจะมองเห็นปราสาทจากทุกมุมของเมืองแล้ว ด้านบนของปราสาทก็ยังมีจุดชมวิวมากมายที่มองไปรอบๆแล้วรับรองได้ว่าสุดติ่งกระดิ่งแมว เอาเป็นว่ารูปที่ถ่ายมาทั้งวันลบทิ้งก็ไม่เสียดายครับ (เค้าปู้ดเล่น) ถึงตรงนี้ให้เราโชว์ Salzburg Card แล้วเดินตามไกด์เข้าไปเลยครับ นึกภาพแล้วน้ำตาจิไหล เอาแค่ห้องคุมขังนักโทษในประสาทก็ขนลุกแล้ว

โบนัสสำหรับตอนนี้ก็คงไม่พ้นยอดปราสาทครับ โดยเราจะมองเห็นวิวรอบๆเมืองได้อย่างครบถ้วน ถึงตรงนี้ต้องบอกว่าคุ้มค่ามหาศาลครับ

ค่าเข้าชม 470 บาท (ฟรี)
เวลาที่ใช้ 45-60 นาที




ถึงตรงนี้แทนที่จะจ่ายเงินถึง 3,930 บาทเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผมว่ายอมจ่าย 950 บาท เพื่อซื้อ Salzburg Card ดีที่สุดครับ ครบถ้วนและคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ถ้าเพื่อนๆมีเวลามากกว่านี้ก็สามารถไปเยี่ยมเยียนตามสถานที่ต่างๆที่เหลือให้เยอะกว่าก็ยังได้ครับ

และสุดท้ายผมก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะครับ ยิ้ม

ถ้ายังไม่หนำใจสามารถติดตามกันต่อได้ที่ www.facebook.com/27daydream นะครับผม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่