ครั้งนี้พวกเราจะมาเล่าเรื่องการปีน Mount Rinjani ไป Senaru Crater Rim นอนหนึ่งคืนบนนั้นค่ะ
เดินไป 9 ชั่วโมง ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อเตรียมตัว กินข้าวแล้ว รถมารับ 6:45amขับไปแป๊ปนึงก็ถึงทางเข้า เดินไป 30-45 นาทีก็ถึง National Park ทำ registration เสร็จก็เดินไป Pos 1 ใช้เวลา 1 ชม เดินกันไปชิลๆ ยังไม่รู้สึกถึงความยาก ลำบาก ข้างหน้า
เรารู้สึกถึงความโหดร้ายก็หลังจาก Pos 2 ก่อนหน้านั้นก็เดินในป่า ไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ที่ Pos 2 porters ของเราเตรียมอาหาร ปูเสื่อรอต้อนรับอย่างดี อาหารเที่ยงเป็นข้าวไก่ทอด ผัดผักเต้าหู้ มีผลไม้ด้วยแล้วก็ ชา กาแฟ นํ้าอัดลม พวกขนม Oreo/chocolate bar ไกด์จะเอาให้กินระหว่างทาง เวลาเหนื่อยๆ แล้วเค้าก็แบกนํ้าให้ด้วย
เราไปแบบ private tour มีแค่เราสองคน ไกด์ และก็ porters อีกสองคน
มีคนเคยบอกว่า porters จะเป็น hero ของพวกเรา อันนี้เรื่องจริง porters เก่งมากๆ แบกเสบียงคนละ 30 กว่าโล ใส่รองเท้าแตะเดิน แล้วยังเดินเร็วกว่าพวกเราอีก พวก porters จะขึ้นไปทำอาหาร จองที่กาง tent เตรียมห้องนํ้า (toilet tent) ทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่เราจะปีนไปถึง บางกลุ่มเราเห็น porters กาง Tent ที่ๆวิวไม่ดี ได้อยู่หลังเขาเพราะมาช้าก็มี
ของเราพอไปถึงก็ได้กินกล้วยทอดราดด้วย chocolate + cheese แสนอร่อย เค้าทำออกมาให้เราร้อนๆ มาพร้อมชาที่เค้ารู้แล้วว่าเราชอบ porters จำได้ว่าใครกินอะไร ไม่กินอะไร กล้วยทอดเป็นรางวัลและแรงพลักดันที่ดีมาก คิดตลอดทางว่าเดินไปให้ถึงแล้วจะได้กิน (พวกเราอยู่เพื่อกินค่ะ 555+)
หลังจาก Pos 2 ทางจะชันขึ้นค่ะ ก้าวแต่ละก้าวสูงขึ้น แล้วพื้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็น ทรายกับหิน จากที่ไม่มีแดด มีต้นไม้คลุม ตอนนี้ก็น้อยลง กว่าจะถึง pos 3 ก็บ่ายสามแล้ว รีบกิน oreo เสร็จก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินขึ้นเนินหินที่สูงชัน ( 60++ องศา) ไกด์จะค่อยบอกว่าข้ามเนินอันนี้ไปก็จะถึงแล้ว แต่ที่ไหนได้ โดนหลอก T_T เค้าพูดให้ดีใจเราจะได้เดินเพราะเราพักตลอด อากาศก็ร้อน แดดก็แรงไม่มีที่ให้หลบแดดเลย
เราเดินแบบนี้อยู่ประมาณ 2 ชม ก็ข้ามหินเนินสุดท้ายไป แล้วก็เดินไปอีก 15นาทีก็จะถึงจุดหมายที่ crater rim กว่าจะเห็นทะเลสาบก็คือตอนถึง tent แล้ว คือทั้งทาง 9 ชม ใช้ความอดทนล้วนๆ ในการเดินไปให้ถึงจุดหมาย เพราะมองไม่เห็นจุดหมายเลยนะคะ
ถ้าถามเราว่าคุ้มไหม เราว่าก็สวยดี แต่ไม่ขนาดเดิน 16 ชม ไปกลับ พระอาทิตย์ตกสวยมาก แต่มันไปตกฝั่ง ภูเขาไฟ Agung (ที่บาหลี) ไม่ได้ตกหลัง Rinjani
ทริปนี้ทำไปสำหรับประสมการณ์ใหม่ๆมากกว่า กลับมาจะได้มีเรื่องเล่าเยอะๆ เพราะพวกเราเป็น storyteller
ก็เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ระหว่างเราสองคนนั้นแหละ
Timeline:
7am - start
8am - registration
9am - pos 1 / 10am pos extra
11:30am - pos 2
2:30am - pos 3
5pm - reach crater rim campsite
6pm - sunset
หลังจากเดินลงเขาด้วยความทรมาน เราก็นั่งรถและข้ามเรือไปเกาะ Gili Trawagan ไปพักกันชิลๆ สองคืน เล่น subwing ทดสอบกำลังแขนกันไปอย่างมันส์ (ขาพังแล้ว แขนก็ต้องพังด้วย) สนุกมากกก เล่นไม่ยากอย่างที่คิดมีหมุน 360 ด้วยนะ ไปดูได้ใน vdo 555+
พอวันกลับก็นั่งรถม้า (9.30am) ต่อเรือ และรถ กว่าจะถึงสนามบิน Lombok แล้วก็บินมาต่อเครื่อง การบินไทย ที่ Jakarta กว่าจะถึงบ้านที่ไทยก็เที่ยงคืน เดินทางทั้งหมด 15 ชมได้ค่ะ บอกแล้วทริปนี้ความอดทนล้วนๆ
ฝากติดตาม facebook/traveldouble ด้วยค่ะ
แถมภาพนํ้าตก เราไปกันเย็นก่อนปีน Rinjani สวยมากแต่ต้องเดินข้ามนํ้าไปมากว่าจะถึง นํ้าประมาณครึ่งเข่า
IG: traveldouble
www.traveldouble.co
2 สาวเพื่อนซี้ เส้นทางนรกสู่ภูเขาไฟ Rinjani + กีฬาทางนํ้าเก๋ๆ (subwing)
เดินไป 9 ชั่วโมง ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อเตรียมตัว กินข้าวแล้ว รถมารับ 6:45amขับไปแป๊ปนึงก็ถึงทางเข้า เดินไป 30-45 นาทีก็ถึง National Park ทำ registration เสร็จก็เดินไป Pos 1 ใช้เวลา 1 ชม เดินกันไปชิลๆ ยังไม่รู้สึกถึงความยาก ลำบาก ข้างหน้า
เรารู้สึกถึงความโหดร้ายก็หลังจาก Pos 2 ก่อนหน้านั้นก็เดินในป่า ไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ที่ Pos 2 porters ของเราเตรียมอาหาร ปูเสื่อรอต้อนรับอย่างดี อาหารเที่ยงเป็นข้าวไก่ทอด ผัดผักเต้าหู้ มีผลไม้ด้วยแล้วก็ ชา กาแฟ นํ้าอัดลม พวกขนม Oreo/chocolate bar ไกด์จะเอาให้กินระหว่างทาง เวลาเหนื่อยๆ แล้วเค้าก็แบกนํ้าให้ด้วย
เราไปแบบ private tour มีแค่เราสองคน ไกด์ และก็ porters อีกสองคน
มีคนเคยบอกว่า porters จะเป็น hero ของพวกเรา อันนี้เรื่องจริง porters เก่งมากๆ แบกเสบียงคนละ 30 กว่าโล ใส่รองเท้าแตะเดิน แล้วยังเดินเร็วกว่าพวกเราอีก พวก porters จะขึ้นไปทำอาหาร จองที่กาง tent เตรียมห้องนํ้า (toilet tent) ทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่เราจะปีนไปถึง บางกลุ่มเราเห็น porters กาง Tent ที่ๆวิวไม่ดี ได้อยู่หลังเขาเพราะมาช้าก็มี
ของเราพอไปถึงก็ได้กินกล้วยทอดราดด้วย chocolate + cheese แสนอร่อย เค้าทำออกมาให้เราร้อนๆ มาพร้อมชาที่เค้ารู้แล้วว่าเราชอบ porters จำได้ว่าใครกินอะไร ไม่กินอะไร กล้วยทอดเป็นรางวัลและแรงพลักดันที่ดีมาก คิดตลอดทางว่าเดินไปให้ถึงแล้วจะได้กิน (พวกเราอยู่เพื่อกินค่ะ 555+)
หลังจาก Pos 2 ทางจะชันขึ้นค่ะ ก้าวแต่ละก้าวสูงขึ้น แล้วพื้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็น ทรายกับหิน จากที่ไม่มีแดด มีต้นไม้คลุม ตอนนี้ก็น้อยลง กว่าจะถึง pos 3 ก็บ่ายสามแล้ว รีบกิน oreo เสร็จก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินขึ้นเนินหินที่สูงชัน ( 60++ องศา) ไกด์จะค่อยบอกว่าข้ามเนินอันนี้ไปก็จะถึงแล้ว แต่ที่ไหนได้ โดนหลอก T_T เค้าพูดให้ดีใจเราจะได้เดินเพราะเราพักตลอด อากาศก็ร้อน แดดก็แรงไม่มีที่ให้หลบแดดเลย
เราเดินแบบนี้อยู่ประมาณ 2 ชม ก็ข้ามหินเนินสุดท้ายไป แล้วก็เดินไปอีก 15นาทีก็จะถึงจุดหมายที่ crater rim กว่าจะเห็นทะเลสาบก็คือตอนถึง tent แล้ว คือทั้งทาง 9 ชม ใช้ความอดทนล้วนๆ ในการเดินไปให้ถึงจุดหมาย เพราะมองไม่เห็นจุดหมายเลยนะคะ
ถ้าถามเราว่าคุ้มไหม เราว่าก็สวยดี แต่ไม่ขนาดเดิน 16 ชม ไปกลับ พระอาทิตย์ตกสวยมาก แต่มันไปตกฝั่ง ภูเขาไฟ Agung (ที่บาหลี) ไม่ได้ตกหลัง Rinjani
ทริปนี้ทำไปสำหรับประสมการณ์ใหม่ๆมากกว่า กลับมาจะได้มีเรื่องเล่าเยอะๆ เพราะพวกเราเป็น storyteller
Timeline:
7am - start
8am - registration
9am - pos 1 / 10am pos extra
11:30am - pos 2
2:30am - pos 3
5pm - reach crater rim campsite
6pm - sunset
หลังจากเดินลงเขาด้วยความทรมาน เราก็นั่งรถและข้ามเรือไปเกาะ Gili Trawagan ไปพักกันชิลๆ สองคืน เล่น subwing ทดสอบกำลังแขนกันไปอย่างมันส์ (ขาพังแล้ว แขนก็ต้องพังด้วย) สนุกมากกก เล่นไม่ยากอย่างที่คิดมีหมุน 360 ด้วยนะ ไปดูได้ใน vdo 555+
พอวันกลับก็นั่งรถม้า (9.30am) ต่อเรือ และรถ กว่าจะถึงสนามบิน Lombok แล้วก็บินมาต่อเครื่อง การบินไทย ที่ Jakarta กว่าจะถึงบ้านที่ไทยก็เที่ยงคืน เดินทางทั้งหมด 15 ชมได้ค่ะ บอกแล้วทริปนี้ความอดทนล้วนๆ
ฝากติดตาม facebook/traveldouble ด้วยค่ะ
แถมภาพนํ้าตก เราไปกันเย็นก่อนปีน Rinjani สวยมากแต่ต้องเดินข้ามนํ้าไปมากว่าจะถึง นํ้าประมาณครึ่งเข่า
www.traveldouble.co