กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เมืองแห่งโอกาสที่มีใครหลายๆ คนเดินทางเข้ามาเพื่อแสวงหาโอกาสดีๆ ให้ชีวิตตนเองและครอบครัว ถ้าเค้าเหล่านั้นขยันและใจสู้พอ จากภาคเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ตะวันออกเฉียงเหนือ คนร้อยแปดจำพวก ไม่ว่ามาหางาน มารับจ้าง มาเตร็ดเตร่ก็รวมเรียก "คนกรุงเทพฯ" หรือแม้แต่แรงงานจากเพื่อนบ้านทั้งที่ถูกกฏหมายและไม่ถูกกฏหมาย มาตั้งรกรากทำมาหากินบ้าง ค้าขายอยู่ตามริมบาทวิถีอยู่ตามแหล่งเศรษฐกิจ มาเช่าบ้านอยู่กันเป็นกลุ่มเป็นชุมชนย่อยๆ ก็เยอะแยะมากมายและก็ถูกเหมารวมว่าเป็น "คนกรุงเทพฯ" เหมือนกัน

หลังฝนตกต่อเนื่องหลายชั่วโมงคืนศุกร์ต่อเสาร์ (๑๓-๑๔ ต.ค.๖๐) น้ำระบายไม่ทัน จึงท่วมหลายพื้นที่ในกรุง ก็มีภาพหนึ่งในโซเชียลมีเดีย
เป็นถนนย่านสุขุมวิท พอน้ำลด ขยะร้อยแปดผุดขึ้นมาเกลื่อนถนน และจากภาพ "น้ำลดขยะผุด" นี่เองมันก็เกิดดราม่าขึ้นในโลกโซเชียล
จิกประจาน ว่านี่ไง "คนกรุงเทพฯ" นี่แหละ เจริญวัตถุ แต่ต่ำสำนึก ในความเป็นเมืองฟ้าอมรเมืองแห่งอารยะ มักง่ายทิ้งขยะเรี่ยราดจนเกิดเป็นปัญหาซ้ำซาก

พื้นที่กรุงเทพฯ ๑,๕๖๘ ตร.กม. ประชากรตามสำมะโนครัวทะเบียนราษฏร์มีประมาณ ๘ ล้าน แต่คน "นอกทะเบียนบ้าน" สมทบอีกเกือบเท่าตัว
กรุงเทพฯ จึงยัดเยียดอยู่ด้วยนานาสารพัดผู้คน กว่า ๑๒ ล้าน และถ้าบวกรวมนักท่องเที่ยว คนต่างชาติ-ต่างภาษาเข้าไปด้วย น่าจะ ๑๔-๑๕ ล้านคน
ที่พร้อมจะสร้างปริมาณขยะขึ้นในกรุงเทพฯ ได้ด้วยกันทุกคน

เป็นปัญหาที่น่าขบคิดและควรจะร่วมมือกันแก้ไขไม่ว่าจะเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิดแท้ๆ หรือว่าเป็นแค่คนพื้นที่อื่นๆ ที่มาใช้พื้นที่กรุงเทพฯ
ในการประกอบสัมมาอาชีพหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว เราควรช่วยกันหาทางออกของปัญหาว่า ปริมาณขยะที่น้ำหอบมาประจานคาถนน
เราควรจะร่วมด้วยช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ยังไง? ดีกว่ามานั่งใช้โซเชียลมีเดียโทษกันไปมาว่า เป็นฝีมือ "คนกรุงเทพฯ" ที่มักง่ายทิ้งขยะไม่เลือกที่

สวัสดีมีชัยกันทุกท่านนะครับ