เราจะรักกันจนแก่เฒ่า ไม่ใช่รักกันไว้แค่..?

ถ้าคุณคิดจะแต่งงานกับใครสักคน คุณรู้ไหม? การแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ แต่หมายความว่าคุณกำลังทำสัญญากับใครอีกคน เป็นการปลงใจยอมรับอีกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ (ในคัมภีร์ของศาสนาคริสต์กล่าวว่า ผู้หญิงเป็นกระดูกซี่โครงของผู้ชายที่หายไป)  อย่าลืมนะ ว่าไม่ได้มีใครบังคับให้คุณเลือกคู่ครอง แต่คุณสมัครใจเองเลือกเขาเอง ฉะนั้นหลังจากที่คุณทั้งสองได้แต่งงานแล้ว คุณได้ทำสัญญากับคนที่คุณรักแล้ว คุณจะต้องดูแล รักและให้เกียรติกันและกันจนกว่าจะหมดลมหายใจ
การนอกใจคู่สมรส เป็นการกระทำที่สกปรกน่ารังเกียจที่สุด สุนัขที่สำรอกออกมาแล้วก็กลับกลืนเข้าไปใหม่ก็ยังไม่น่ารังเกียจเท่ามนุษย์ที่มีความรู้แยกผิดชอบชั่วดีในใจแต่หาได้มีความยับยั้งชั่งใจไม่ เพราะว่าอาหารที่แอบเขากินนั้นย่อมจะมีรสหวานอร่อย

ให้ระลึกอยู่เสมอว่า วันแรกที่คุณเจอสามี/ภรรยาของคุณครั้งแรก คุณตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้รู้จักเธอ นึกถึงตอนที่ให้คำมั่นสัญญากันในวันแต่งงาน นึกถึงห้วงเวลาแห่งความสุขด้วยกันในวันแรกๆ เพื่อที่คุณจะไม่ทำลายคำมั่นสัญญา ความศรัทธาของคนที่คุณรักและเขาก็รักคุณ
แน่นอนว่าพวกคุณรักกันมาก ไม่อย่างนั้นก็คงไม่แต่งงานกันหรอกจริงไหม
จำคำเหล่านี้ได้ไหม เราจะรักกันตลอดไป เราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า เราจะดูแลกันและกันไปจนวันตาย

อาจจะมีบางครั้งชีวิตหลังสมรสแล้ว คุณอาจจะเจอใครบางคนที่ใช่กว่า ถูกใจและเข้าใจคุณมากกว่า เป็นคนที่ใช่ในวันที่ผิด เขาหรือเธอคนนั้นมักจะผ่านเข้ามาในช่วงเวลาที่พอดีกันกับช่วงที่คุณรู้สึกเหนื่อยหน่ายท้อแท้กับชีวิตสมรส  บททดสอบนี้ช่างหนักและยากจริงๆ แต่ว่าคุณสามารถผ่านไปได้ถ้าคุณหนักแน่นในสิ่งที่คุณตั้งใจไว้แต่ต้น
อย่าลืมนะ คำสัญญาตอนวันแต่งงาน ท่องไว้ให้ขึ้นใจ

สามีภรรยาที่มีบุตรแล้ว คุณคิดว่าระหว่างแฟน(สามี/ภรรยา)กับบุตร คุณจะให้ความสำคัญที่ใครมากกว่ากัน
โทษนะหยาบหน่อย เห็นในปัจจุบัน หลายๆคนพูดกันว่าต้องรักลูกมากกว่าผัว ผัวเลิกแล้วก็เป็นคนอื่น

เข้าใจผิดแล้ว ลูกน่ะใครก็ย่อมรักอยู่แล้ว แต่อย่าลืมนะ ก่อนที่จะมีลูกด้วยกันนั้น พวกคุณก็รักกันมาก่อนตั้งหลายปีไม่ใช่เหรอ ตอนนั้นยังไม่มีลูกเลย พวกคุณก็มีความสุขกันดี เมื่อมีลูกแล้ว ต้องให้ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยานั้นแปรเปลี่ยนไปหรือ คิดดูนะอีกไม่กี่สิบปี ลูกคุณก็จะต้องแต่งงาน มีครอบครัวหรือมีชีวิตในทางของตัวเอง ก็มีแต่พวกคุณไม่ใช่หรือที่จะเหลือเพียงคนแก่ๆเพียงสองคนที่จะยังรักและเข้าใจกัน อยู่ด้วยกันไปอีกหลายสิบปี

เป็นไปได้ไหมที่จะให้ความสำคัญกับบุตรน้อยกว่าคู่สมรส ส่วนใหญ่แล้วปัญหาครอบครัวมักจะมีหลังจากที่มีลูกกันแล้ว เพราะความเข้าใจผิด คือการที่หลายๆคนได้ลืมจุดประสงค์ของการแต่งงานไป ลืมไปว่าตอนแต่งงาน อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันด้วยความรักความเข้าใจกัน ลืมไปว่าต้องต่อสู้และฝ่าฟันอุปสรรคมากมายขนาดไหนกว่าจะได้แต่งงานกัน ครอบครัวที่ล้มเหลวส่วนใหญ่คือ พอมีลูกด้วยกัน จุดประสงค์ก็เปลี่ยนไป เอาลูกมาเป็นที่ตั้งสำหรับชีวิตคู่ ให้ลูกสำคัญกว่า แต่ลืมไปว่าสายสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยานั้นห่างเหินกันไปเรื่อยๆ

คู่สามีภรรยาที่เข้าใจกันมักจะจัดการเรื่องการดูแลลูกได้ดีกว่า พวกเขารู้วิธีการประคับประคองชีวิตคู่ พวกเขาหาเวลาอยู่ด้วยกันสองคน ยิ่งเวลาที่ทะเลาะกันนั้นต้องรีบหาเวลาคุยปรับความเข้าใจกันตามลำพังสองคน เอาลูกไปฝากญาติๆที่ไว้ใจได้ก่อน แล้วรีบปรับความเข้าใจกันให้ได้โดยเร็วไม่ใช่ปล่อยให้ข้ามวันข้ามเดือน จนในที่สุดก็จะไม่เหลือความห่วงหาในกันอีกต่อไป ถึงเวลานั้นคงไม่ต้องพูดหรอกนะว่าจะมีปัญหาตามมาอีกมากมายแค่ไหน
หากเข้าใจวัตถุประสงค์ของการแต่งงาน ความรักของคนสองคน จะรักกันจนแก่เฒ่า ไม่หลงทางไปไหน คุณก็จะอยู่ในทางที่ถูกต้อง พ่อแม่ที่รักกันเข้าใจกันดี จะส่งผลดีกับลูกไหม แน่นอน!
จำไว้นะ ลูกน่ะคือของขวัญที่ได้มาจากความรัก คือผลพลอยได้ แต่อย่าลืมจุดประสงค์ของการแต่งงานนะ
ก่อนที่จะมีลูกกับตอนหลังจากที่มีลูกแล้ว ความตั้งใจเดิมที่สัญญากันว่าจะรักกันจนแก่เฒ่า...
รู้ไหมว่าภรรยานั้นรับภาระหนักและมีความเครียดมากมายในแต่ละวัน ฝ่ายสามีก็ควรจะเข้าใจและเห็นใจเธอให้มากที่สุด
และคนเป็นสามีก็ทำงานหนักและเครียดเหมือนกัน ฝ่ายภรรยาก็ควรปรนนิบัติอย่าให้บกพร่อง
อย่าเอาคำว่าลูกมาอ้าง อย่าเอางานมาอ้าง เพื่อที่จะโยนความผิดให้อีกฝ่าย
เมื่อชีวิตสมรสประสบความสำเร็จ มีหรือเรื่องลูกจะไม่สบผลไปด้วย แน่นอนถ้าไม่มีการอย่าร้าง ลูกๆก็จะไม่มีปัญหาครอบครัวแตกแยก
และพวกคุณก็ยังรักกันดี

เราจะรักกันไปจนแก่เฒ่า...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่