สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาพาเพื่อนๆไปเที่ยวเวียดนามใต้กัน
โดยที่ทริปนี้เราเที่ยวกันทั้งหมดเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน เดินทางไปทั้งหมด 3 เมือง ได้แก่ โฮจิมินห์(ไซง่อน) – ดารัด – มุยเน่
กำหนดงบโรงแรม+ตั๋วเครื่องบินไม่เกินคนละ 5,000 บาท
Follow
IG :
https://www.instagram.com/foto.reise/
FB :
https://www.facebook.com/journeywalker.co
ส่วนแพลนท่องเที่ยวที่เราวางกันไว้คือ วันแรก ช่วงเช้าเดินเที่ยวที่โฮจิมินห์ ตกเย็นนั่งรถนอนไปดารัด เอากระเป๋าไปฝากโรงแรมแล้วเที่ยวต่อที่ดารัด และนอนที่นี่หนึ่งคืน จากนั้นซื้อตั๋วรถนั่งไปมุยเน่ เที่ยวมุยเน่ แล้วนอนหนึ่งคืน เช้ามาเดินเที่ยวมุยเน่แล้วซื้อตั๋วรถนั่งรอบบ่ายกลับโฮจิมินห์ นอนอีกหนึ่งคืน เช้ามาซื้อของฝากแล้วนั่งเครื่องกลับไทย
ค่าใช้จ่ายหลักๆเป็นตามตารางด้านล่างนะคะ
งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า 🙂
ก่อนเดินทาง…
ณ เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ N กำลังนั่งเลื่อนหน้าจอ iPhone หาอะไรอ่านไปเรื่อยๆก็เจอเข้ากับกระทู้พันทิปกระทู้หนึ่ง
N เอ๊ะกระทู้นี้ภาพสวยจัง เข้าไปดูดีฝ่า (กระทู้นั้นคือกระทู้รีวิวเที่ยวเวียดนามนั่นเอง) …ดูไปซักพัก… หูยยย น่าเที่ยวโคด ความอยากผมนี่กิ่วขึ้นมาทันทีเลยฮะ กดไลน์หา K ดีกว่า
N : แก อยากไปเที่ยวเวียดนามนี่ๆดูกระทู้นี้ น่าเที่ยวโคด
K : เออ เอาดิ เราว่างช่วง….นะ
N : โอเคร
ผ่านไปซักพัก
N : เฮ้ยยย ตั๋วเครื่องบินลดราคาอ้ะ เอาไงดี เอาไงดี เอาไงดี
K : จองเลยๆ
และแล้ว ในที่สุดเราก็ได้ตั๋วมาครอบครองจำนวน 3 ใบถ้วน อิอิ (7,510 บาท)
เมื่อพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาบินลัดฝ้าสู่เวียดนาม เมืองแห่งรถเครื่องและเสียงแตร…
วันที่ 1
พวกเราสามคนไปขึ้นเครื่องกันที่สนามบินดอนเมืองตอนเวลาประมาณ 7 นาฬิกา และไปถึงเวียดนามประมาณ 9 นาฬิกา (เวลาที่นี่เท่ากับที่ไทยนะคะ)
โดยแลกเงินไปทั้งหมดรวมกัน 3 คน ประมาณ 300ดอลล่า กับ 1,200,000ดอง โดยเรทจะอยู่ที่ประมาณ 36 บาทต่อ 1 ดอลล่า และ 1 บาทต่อ 605 ดอง
*ใครอยากแลกเงินเพิ่มแนะนำให้แลกที่สนามบินเลยนะคะ เรทดีสุดแล้ว ดีกว่าออกมาแลกข้างนอก ใช้ us dollar แลกนะคะ ได้เรทดีกว่าเอาเงินบาทไปแลกค่ะ อ้อ แล้วก็เงินที่พกไป us พกไปพอจ่ายพวกค่าโรงแรมพอค่ะ ที่เหลือให้แลกเป็นดองให้หมดเลย เพราะพอออกมาแล้วใช้ us จ่ายจะแพงกว่าจ่ายเป็นดองนะคะ ยกเว้นค่าโรงแรมจะจ่ายเป็น us แล้วถูกกว่า (บางทีจะโดนแอบบวกถ้าจ่ายเป็นดอง ส่วน us ก็จำให้ดีๆว่าเราจองราคามาเท่าไหร่)
ส่วนเรื่องซิมมือถือแนะนำให้ซื้อซิมไปเลยนะคะ เดินออกมาจากตึกผู้โดยสารขาเข้าจะมีพวกบู้ทขายซิมอยู่ค่ะ เราแอบเห็นราคาถูกกว่าตรงที่แลกเงิน แต่ไม่ได้เข้าไปถามรายละเอียดนะคะ แล้วคือซิมนี่จำเป็นมากเพราะเดินทางไป 3 เมือง อย่างน้อยควรมีอะไรไว้ติดต่อกับคนอื่นบ้าง ซึ่งซิมที่นี่เน็ตเป็นแบบ unlimited 3g ซื้ออันเดียวแชร์กันอัพรูป โซเชี่ยลคุ้มไปเลย ส่วนราคาจะอยู่ที่ประมาณ 200,000-400,000 ดอง แล้วแต่แพคเกจที่เลือก
เมื่อแลกเงินซื้อซิมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกมาจากสนามบินให้นั่งรถเมล์สาย 152 เข้าเมือง โดยรถจะจอดอยู่หน้าสนามบิน ออกมาละมองขวามือจะเห็นรถจอดอยู่ 1-2 คัน ไม่ต้องแปลกใจนะคะถ้าไม่เห็นคนขับ ให้นั่งรอซักพักค่ะ เดี๋ยวเฮียแกโผล่มาเอง เรานั่งไปลงที่ฟาร์มงูเหลาค่ะ ค่ารถคนละ 5,000 ดอง
พอถึงฟาร์มงูเหลาพวกเราก็รีบเดินหาที่ขายตั๋วรถทัวร์กันก่อนเลย ชื่อ Phuong Trang (Futu busline) หรือใครจะซื้อกับพวกบริษัททัวร์ก็ได้นะคะ ราคาตั๋วอยู่ที่คนละ 230,000 เป็นรถนอนจาก โฮจิมินห์ – ดารัด ออกเวลา 5 ทุ่ม (ถ้าจำไม่ผิด รอบรถจะมียาวไปถึงเที่ยงคืน ใครสงสัยจะเช็คกับเว็บดูก่อนก็ได้ค่ะ
https://futabus.vn/ )
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ เราก็เดินเที่ยวกันในตัวเมืองกันค่ะ (ไปทั้งกระเป๋าแบคแพคอันหนักอึ้งนี่แหละ ไม่มีที่ให้ฝาก TAT) *แนะนำให้นอนที่นี่คืนนึงหรือไม่ก็เช่ารถ/มอไซด์ขับนะคะ ไม่ก็แท๊กซี่ แต่ต้องรถวังเรื่องโดนโกงนิดนึง ไม่ก็ซื้อเป็น day trip จะสะดวกกว่าการเดินแบกกระเป๋าตะลอนๆไปค่ะ ส่วนด้านล่างจะเป็น map สถานที่เที่ยวต่างๆในเมืองนะคะ
1. Ben Thanh Market เป็นตลาดใหญ่ใจกลางเมือง มีสินค้าให้เลือกซื้อหลากหลาย ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีรถบัส รถไปสนามบินขึ้นลงได้ที่นี่ สาย 152
2. Diamond Plaza ห้างสรรพสินค้าแบบสบายๆ ให้เดินเล่นตากแอร์ตอนร้อนๆ
3. Ferry เรือข้ามฟากของชาวโฮจิมินทร์ ขนมอเตอร์ไซค์ข้ามฟาก นั่งเรือข้ามฟากชมวิวแม่น้ำได้
4. Golden Dragon Water Puppet Theater โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ มีสองรอบ ห้าโมงเย็น กับ หกโมงครึ่งตอนเย็น
5. Ho Chi Minh City Museum พิพิธภัณฑ์วิถีชาวบ้านของคนโฮจิมินทร์สมัยก่อน
6. Ho Chi Minh Statue ลุงโฮอุ้มเด็ก ตั้งอยู่หน้าเทศบาลเมืองไซง่อน
7. Night Market, Walking Street ตอนเย็นๆ จะเป็นถนนคนเดิน มีของกินขายริมทาง และมีของขาย
8. Notredam Cathedral โบสถ์คริสต์สวยงาม มีรูปปั้นพระแม่มาเรียด้านหน้า น่าแวะมาถ่ายรูป
9. Opera House โรงละครโอเปร่า ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส
10. Post Office ที่ทำการไปรษณีย์ ดูคลาสสิค มีภาพลุงโฮแปะอยู่ขนาดใหญ่มาก
11. Reunification Palace สถานที่ทำการของอเมริกา ภายหลังถูกกองทัพลุงโฮเข้ายึดอำนาจ เปลี่ยนแปลงการปกครอง และรวมเวียดนามเหนือใต้ได้สำเร็จโรงเรียนลุงโฮ
12. Saigon Center ห้างหรู สินค้าแบรนด์เนม
13. Sinh Cafe, Pham Ngu Lao บริษัททัวร์ ขายตั๋วรถบัสเส้นทางทั่วประเทศเวียดนาม
14. Tran Hung Dao Monument ไม่รู้ว่านายพลคนนี้เป็นใคร แต่โลเคชั่นดูดี๊ดี ริมแม่น้ำ
15. War Museum พิพิธภัณฑ์สงคราม บาดแผลสมัยสงครามเวียดนาม ระหว่างเวียดกง กับ อเมริกา
ที่แรกที่เราไปคือตรงอนุเสาวรีย์ แต่กำลังงงว่าทำไมรูปปั้นกลายเป็นยืนแล้วไม่รู้ เหมือนเคยเห็นในกระทู้รีวิวว่าเป็นนั่งงะ งงแปป
เราเดินถ่ายรูปตรงนี้ซักพัก แล้วก็ไปกันต่อที่ opera house กันต่อ อันนี้เหมือนต้องซื้อตั๋วเข้าไปดูโชว์นะ (จริงๆอยากเข้าไปดูข้างในมาก แต่ต้องดูโชว์เลยได้ถ่ายแค่ข้างหน้า)
ต่อมาเป็นภาพวิวแถว central post office นะคะ ซึ่งที่นี่จะมีที่ให้แลกเงิน atm เรียงกันเป็นตับ และโทรศัพท์โทรทางไกล หรือใครจะส่งจดหมายก็ส่งได้ที่นี่เลยค่า
**Central post office คือตึกเหลืองๆขวามือนะคะ ส่วนตรงกลางเป็นโบสถ์ที่เหมือนจะเข้าไปได้ แต่เราไม่ได้เดินเข้าไปเพราะตอนไปถึงนี่เย็นมากแล้ว
วิวด้านหน้า Post office
สถานที่ถัดมาคือ Ho Chi Minh City Museum ค่าเข้าอยู่ที่คนละ 15,000 ดอง หรือ 1 usd
หลังจากเดินเล่นกันจนเย็นและท้องกิ่วแล้ว พวกเราจึงแว๊บไปหาของกิน แล้วออกมาเดินเล่นกลางคืนที่จตุรัสตรงรูปปั้นกันต่อ ซึ่ง...โอ้โห บรรยากาศต่างกับตอนกลางวันลิบลับเลยทีเดียว กลางคืนนี่คนแน่นเอี๊ยด แถมตรงสนามหญ้ายังเป็นที่คุยสวีทมุ้งมิ้งอีกด้วยนะคะ
เมื่อเดินครบจบแล้ว ก็เสร็จสิ้นภารกิจของเราในวันนี้ พร้อมเตรียมตัวรอขึ้นรถทัวร์ไปเมืองต่อไป...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากเรานั่งรอรถกันมาซักพัก (ใหญ่) ก็ถึงเวลา ฤกษ์งามยามดีได้ขึ้นรถกันซักที รถนอนที่นี่จะเป็นแบบ 2 ชั้นนะคะ มีแวะพักหนึ่งครั้งซึ่งเหมือนจะมีของให้ลงไปซื้อกิน แต่เราไม่ได้ลงไป ของที่แจกในรถจะมีแค่ผ้าเช็ดมือกับน้ำเปล่าขวดเล็ก 1 ขวดเท่านั้น
ว่าแล้วก็ไปดูภาพรถกันดีกว่า
หลังขึ้นรถปุ๊บพวกเราก็เข้าสู่โหมดนิทรากันทันทีค่ะ (แบบเหนื่อยไม่ไหวแล้ววว ขอน๊อคแปร๊บ)
วันที่ 2
นอนๆไปซักพักเราก็มาถึงตัวเมืองดารัดแล้วค่ะ อากาศเมืองนี้ออกแนวขึ้นดอยภาคเหนือเลย เย็นมากๆ ตอนตื่นนี่ถึงกับค้นเอาเสื้อหนาวในกระเป๋ามาใส่กันเลยทีเดียว
พอมาถึงท่ารถแล้วให้ถามพวกพนักงานแถวนั้นนะคะ เค้าจะมีรถตู้บริการขับพาไปส่งตรงถึงโรงแรม
และโรงแรมที่เราเลือกพักกันในหนนี้คือ Tulip Hotel (อันนี้ลืมถ่ายรูปมารีวิวอะ TAT) จะขอวิจารณ์คร่าวๆละกันนะ
โรงแรมนี้โดยรวมถือว่าโอเค แต่ต้องระวังตอนจ่ายตังนิดนึง คือถ้าจะจ่ายเป็นดองเราลองเอามาหารแล้วเหมือนเค้าแอบบวก ไม่ได้เอา us มาคูนเรทให้ดู เราเลยจ่ายเป็น usd ไปเลยง่ายดี แล้วก็ทริปต่างๆสามารถจองได้กับทางโรงแรมเลยนะคะ ส่วนใครใคร่จะเช่ารถขับ สนน.ตกอยู่ที่คันละ 1,200,000 ดอง (ถ้ามีคนขับราคาจะบวกเพิ่มขึ้นมาอีก แต่เราจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่) ซึ่งเราว่าเช่ารถแบบมีคนขับสะดวกกว่าจองทริป เพราะ 1 day trip ที่มีขายมันแยกที่เด็ดๆออกจากกัน *รถที่นี่เป็นพวงมาลัยซ้ายนะ แล้วที่นี่ไม่จำเป็นต้องวางเงินมัดจำหรือมีใบขับขี่สากลด้วย จ่ายเงินปุ๊บจบ ยืมไปได้เลย สำหรับแขกโรงแรม
ทริปที่เราและเพื่อนๆเลือกไปกันคือ tour 3
หลังจากทริปจ่ายเงินกันเสร็จสรรพ เราก็มาถึงที่แรกกันแล้ว นั่นคือ..สวนสตอร์เบอร์รี่นั่นเอง >.<
ส่วนหนุ่มยิ้มแป้นทางขวามือของรูปคือคุณไกด์ที่จะมาดูแลเราในวันนี้ ระหว่างทริปนั้น พี่แกจะพูดเป็นภาษาเวียดนามละแปลอิ้งให้ค่ะ
เมื่อจบที่แรกแล้ว เราก็มาถึงกันที่ Golden Valley ค่ะ
ข้างในจะเป็นสวนมีต้นไม้ น้ำตกให้เราเดินถ่ายรูปเล่น
ส่วนที่ต่อไป ซึ่งเป็นที่ๆเด็ดมาก คือ Langbiang Mountain ค่ะ พอไปถึงแล้วไกด์จะถามเราว่าจะขึ้นรถจี๊บไปบนเขารึเปล่า ราคาคนละ 50,000 ดอง ซึ่งมาขนาดนี้แล้วจะพลาดได้ยังไง อิอิ ใครที่ลังเลก็อยากจะบอกว่า ขึ้นเถอะค่ะ วิวและอากาศบริสุทธิ์ที่ได้รับ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน ใครยังไม่มั่นใจก็ไปชมภาพกันเลยดีกว่า ปากว่าไม่เท่าตาเห็นเนาะ
เป็นไงคะ เห็นภาพแล้วอยากขึ้นกันบ้างมั้ยเอ่ยย ??
และแล้ว เราก็มาถึงสถานที่สุดท้ายของเราในวันนี้ Old Railway Station
หลังจากเที่ยวครบทุกที่แล้ว เราก็กลับที่พักกัน เตรียมตัวอาบน้ำ เปลี่ยนชุดท่องราตรีกันต่อ
อ่านต่อ : https://ppantip.com/topic/36982822
[Journeywalker] เวียดนามใต้ โฮจิมินห์(ไซง่อน) – ดารัด – มุยเน่ (1/2)
โดยที่ทริปนี้เราเที่ยวกันทั้งหมดเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน เดินทางไปทั้งหมด 3 เมือง ได้แก่ โฮจิมินห์(ไซง่อน) – ดารัด – มุยเน่
กำหนดงบโรงแรม+ตั๋วเครื่องบินไม่เกินคนละ 5,000 บาท
Follow
IG : https://www.instagram.com/foto.reise/
FB : https://www.facebook.com/journeywalker.co
ส่วนแพลนท่องเที่ยวที่เราวางกันไว้คือ วันแรก ช่วงเช้าเดินเที่ยวที่โฮจิมินห์ ตกเย็นนั่งรถนอนไปดารัด เอากระเป๋าไปฝากโรงแรมแล้วเที่ยวต่อที่ดารัด และนอนที่นี่หนึ่งคืน จากนั้นซื้อตั๋วรถนั่งไปมุยเน่ เที่ยวมุยเน่ แล้วนอนหนึ่งคืน เช้ามาเดินเที่ยวมุยเน่แล้วซื้อตั๋วรถนั่งรอบบ่ายกลับโฮจิมินห์ นอนอีกหนึ่งคืน เช้ามาซื้อของฝากแล้วนั่งเครื่องกลับไทย
ค่าใช้จ่ายหลักๆเป็นตามตารางด้านล่างนะคะ
งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า 🙂
ก่อนเดินทาง…
ณ เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ N กำลังนั่งเลื่อนหน้าจอ iPhone หาอะไรอ่านไปเรื่อยๆก็เจอเข้ากับกระทู้พันทิปกระทู้หนึ่ง
N เอ๊ะกระทู้นี้ภาพสวยจัง เข้าไปดูดีฝ่า (กระทู้นั้นคือกระทู้รีวิวเที่ยวเวียดนามนั่นเอง) …ดูไปซักพัก… หูยยย น่าเที่ยวโคด ความอยากผมนี่กิ่วขึ้นมาทันทีเลยฮะ กดไลน์หา K ดีกว่า
N : แก อยากไปเที่ยวเวียดนามนี่ๆดูกระทู้นี้ น่าเที่ยวโคด
K : เออ เอาดิ เราว่างช่วง….นะ
N : โอเคร
ผ่านไปซักพัก
N : เฮ้ยยย ตั๋วเครื่องบินลดราคาอ้ะ เอาไงดี เอาไงดี เอาไงดี
K : จองเลยๆ
และแล้ว ในที่สุดเราก็ได้ตั๋วมาครอบครองจำนวน 3 ใบถ้วน อิอิ (7,510 บาท)
เมื่อพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาบินลัดฝ้าสู่เวียดนาม เมืองแห่งรถเครื่องและเสียงแตร…
วันที่ 1
พวกเราสามคนไปขึ้นเครื่องกันที่สนามบินดอนเมืองตอนเวลาประมาณ 7 นาฬิกา และไปถึงเวียดนามประมาณ 9 นาฬิกา (เวลาที่นี่เท่ากับที่ไทยนะคะ)
โดยแลกเงินไปทั้งหมดรวมกัน 3 คน ประมาณ 300ดอลล่า กับ 1,200,000ดอง โดยเรทจะอยู่ที่ประมาณ 36 บาทต่อ 1 ดอลล่า และ 1 บาทต่อ 605 ดอง
*ใครอยากแลกเงินเพิ่มแนะนำให้แลกที่สนามบินเลยนะคะ เรทดีสุดแล้ว ดีกว่าออกมาแลกข้างนอก ใช้ us dollar แลกนะคะ ได้เรทดีกว่าเอาเงินบาทไปแลกค่ะ อ้อ แล้วก็เงินที่พกไป us พกไปพอจ่ายพวกค่าโรงแรมพอค่ะ ที่เหลือให้แลกเป็นดองให้หมดเลย เพราะพอออกมาแล้วใช้ us จ่ายจะแพงกว่าจ่ายเป็นดองนะคะ ยกเว้นค่าโรงแรมจะจ่ายเป็น us แล้วถูกกว่า (บางทีจะโดนแอบบวกถ้าจ่ายเป็นดอง ส่วน us ก็จำให้ดีๆว่าเราจองราคามาเท่าไหร่)
ส่วนเรื่องซิมมือถือแนะนำให้ซื้อซิมไปเลยนะคะ เดินออกมาจากตึกผู้โดยสารขาเข้าจะมีพวกบู้ทขายซิมอยู่ค่ะ เราแอบเห็นราคาถูกกว่าตรงที่แลกเงิน แต่ไม่ได้เข้าไปถามรายละเอียดนะคะ แล้วคือซิมนี่จำเป็นมากเพราะเดินทางไป 3 เมือง อย่างน้อยควรมีอะไรไว้ติดต่อกับคนอื่นบ้าง ซึ่งซิมที่นี่เน็ตเป็นแบบ unlimited 3g ซื้ออันเดียวแชร์กันอัพรูป โซเชี่ยลคุ้มไปเลย ส่วนราคาจะอยู่ที่ประมาณ 200,000-400,000 ดอง แล้วแต่แพคเกจที่เลือก
เมื่อแลกเงินซื้อซิมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกมาจากสนามบินให้นั่งรถเมล์สาย 152 เข้าเมือง โดยรถจะจอดอยู่หน้าสนามบิน ออกมาละมองขวามือจะเห็นรถจอดอยู่ 1-2 คัน ไม่ต้องแปลกใจนะคะถ้าไม่เห็นคนขับ ให้นั่งรอซักพักค่ะ เดี๋ยวเฮียแกโผล่มาเอง เรานั่งไปลงที่ฟาร์มงูเหลาค่ะ ค่ารถคนละ 5,000 ดอง
พอถึงฟาร์มงูเหลาพวกเราก็รีบเดินหาที่ขายตั๋วรถทัวร์กันก่อนเลย ชื่อ Phuong Trang (Futu busline) หรือใครจะซื้อกับพวกบริษัททัวร์ก็ได้นะคะ ราคาตั๋วอยู่ที่คนละ 230,000 เป็นรถนอนจาก โฮจิมินห์ – ดารัด ออกเวลา 5 ทุ่ม (ถ้าจำไม่ผิด รอบรถจะมียาวไปถึงเที่ยงคืน ใครสงสัยจะเช็คกับเว็บดูก่อนก็ได้ค่ะ https://futabus.vn/ )
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ เราก็เดินเที่ยวกันในตัวเมืองกันค่ะ (ไปทั้งกระเป๋าแบคแพคอันหนักอึ้งนี่แหละ ไม่มีที่ให้ฝาก TAT) *แนะนำให้นอนที่นี่คืนนึงหรือไม่ก็เช่ารถ/มอไซด์ขับนะคะ ไม่ก็แท๊กซี่ แต่ต้องรถวังเรื่องโดนโกงนิดนึง ไม่ก็ซื้อเป็น day trip จะสะดวกกว่าการเดินแบกกระเป๋าตะลอนๆไปค่ะ ส่วนด้านล่างจะเป็น map สถานที่เที่ยวต่างๆในเมืองนะคะ
1. Ben Thanh Market เป็นตลาดใหญ่ใจกลางเมือง มีสินค้าให้เลือกซื้อหลากหลาย ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีรถบัส รถไปสนามบินขึ้นลงได้ที่นี่ สาย 152
2. Diamond Plaza ห้างสรรพสินค้าแบบสบายๆ ให้เดินเล่นตากแอร์ตอนร้อนๆ
3. Ferry เรือข้ามฟากของชาวโฮจิมินทร์ ขนมอเตอร์ไซค์ข้ามฟาก นั่งเรือข้ามฟากชมวิวแม่น้ำได้
4. Golden Dragon Water Puppet Theater โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ มีสองรอบ ห้าโมงเย็น กับ หกโมงครึ่งตอนเย็น
5. Ho Chi Minh City Museum พิพิธภัณฑ์วิถีชาวบ้านของคนโฮจิมินทร์สมัยก่อน
6. Ho Chi Minh Statue ลุงโฮอุ้มเด็ก ตั้งอยู่หน้าเทศบาลเมืองไซง่อน
7. Night Market, Walking Street ตอนเย็นๆ จะเป็นถนนคนเดิน มีของกินขายริมทาง และมีของขาย
8. Notredam Cathedral โบสถ์คริสต์สวยงาม มีรูปปั้นพระแม่มาเรียด้านหน้า น่าแวะมาถ่ายรูป
9. Opera House โรงละครโอเปร่า ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส
10. Post Office ที่ทำการไปรษณีย์ ดูคลาสสิค มีภาพลุงโฮแปะอยู่ขนาดใหญ่มาก
11. Reunification Palace สถานที่ทำการของอเมริกา ภายหลังถูกกองทัพลุงโฮเข้ายึดอำนาจ เปลี่ยนแปลงการปกครอง และรวมเวียดนามเหนือใต้ได้สำเร็จโรงเรียนลุงโฮ
12. Saigon Center ห้างหรู สินค้าแบรนด์เนม
13. Sinh Cafe, Pham Ngu Lao บริษัททัวร์ ขายตั๋วรถบัสเส้นทางทั่วประเทศเวียดนาม
14. Tran Hung Dao Monument ไม่รู้ว่านายพลคนนี้เป็นใคร แต่โลเคชั่นดูดี๊ดี ริมแม่น้ำ
15. War Museum พิพิธภัณฑ์สงคราม บาดแผลสมัยสงครามเวียดนาม ระหว่างเวียดกง กับ อเมริกา
ที่แรกที่เราไปคือตรงอนุเสาวรีย์ แต่กำลังงงว่าทำไมรูปปั้นกลายเป็นยืนแล้วไม่รู้ เหมือนเคยเห็นในกระทู้รีวิวว่าเป็นนั่งงะ งงแปป
เราเดินถ่ายรูปตรงนี้ซักพัก แล้วก็ไปกันต่อที่ opera house กันต่อ อันนี้เหมือนต้องซื้อตั๋วเข้าไปดูโชว์นะ (จริงๆอยากเข้าไปดูข้างในมาก แต่ต้องดูโชว์เลยได้ถ่ายแค่ข้างหน้า)
ต่อมาเป็นภาพวิวแถว central post office นะคะ ซึ่งที่นี่จะมีที่ให้แลกเงิน atm เรียงกันเป็นตับ และโทรศัพท์โทรทางไกล หรือใครจะส่งจดหมายก็ส่งได้ที่นี่เลยค่า
**Central post office คือตึกเหลืองๆขวามือนะคะ ส่วนตรงกลางเป็นโบสถ์ที่เหมือนจะเข้าไปได้ แต่เราไม่ได้เดินเข้าไปเพราะตอนไปถึงนี่เย็นมากแล้ว
วิวด้านหน้า Post office
สถานที่ถัดมาคือ Ho Chi Minh City Museum ค่าเข้าอยู่ที่คนละ 15,000 ดอง หรือ 1 usd
หลังจากเดินเล่นกันจนเย็นและท้องกิ่วแล้ว พวกเราจึงแว๊บไปหาของกิน แล้วออกมาเดินเล่นกลางคืนที่จตุรัสตรงรูปปั้นกันต่อ ซึ่ง...โอ้โห บรรยากาศต่างกับตอนกลางวันลิบลับเลยทีเดียว กลางคืนนี่คนแน่นเอี๊ยด แถมตรงสนามหญ้ายังเป็นที่คุยสวีทมุ้งมิ้งอีกด้วยนะคะ
เมื่อเดินครบจบแล้ว ก็เสร็จสิ้นภารกิจของเราในวันนี้ พร้อมเตรียมตัวรอขึ้นรถทัวร์ไปเมืองต่อไป...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากเรานั่งรอรถกันมาซักพัก (ใหญ่) ก็ถึงเวลา ฤกษ์งามยามดีได้ขึ้นรถกันซักที รถนอนที่นี่จะเป็นแบบ 2 ชั้นนะคะ มีแวะพักหนึ่งครั้งซึ่งเหมือนจะมีของให้ลงไปซื้อกิน แต่เราไม่ได้ลงไป ของที่แจกในรถจะมีแค่ผ้าเช็ดมือกับน้ำเปล่าขวดเล็ก 1 ขวดเท่านั้น
ว่าแล้วก็ไปดูภาพรถกันดีกว่า
หลังขึ้นรถปุ๊บพวกเราก็เข้าสู่โหมดนิทรากันทันทีค่ะ (แบบเหนื่อยไม่ไหวแล้ววว ขอน๊อคแปร๊บ)
วันที่ 2
นอนๆไปซักพักเราก็มาถึงตัวเมืองดารัดแล้วค่ะ อากาศเมืองนี้ออกแนวขึ้นดอยภาคเหนือเลย เย็นมากๆ ตอนตื่นนี่ถึงกับค้นเอาเสื้อหนาวในกระเป๋ามาใส่กันเลยทีเดียว
พอมาถึงท่ารถแล้วให้ถามพวกพนักงานแถวนั้นนะคะ เค้าจะมีรถตู้บริการขับพาไปส่งตรงถึงโรงแรม
และโรงแรมที่เราเลือกพักกันในหนนี้คือ Tulip Hotel (อันนี้ลืมถ่ายรูปมารีวิวอะ TAT) จะขอวิจารณ์คร่าวๆละกันนะ
โรงแรมนี้โดยรวมถือว่าโอเค แต่ต้องระวังตอนจ่ายตังนิดนึง คือถ้าจะจ่ายเป็นดองเราลองเอามาหารแล้วเหมือนเค้าแอบบวก ไม่ได้เอา us มาคูนเรทให้ดู เราเลยจ่ายเป็น usd ไปเลยง่ายดี แล้วก็ทริปต่างๆสามารถจองได้กับทางโรงแรมเลยนะคะ ส่วนใครใคร่จะเช่ารถขับ สนน.ตกอยู่ที่คันละ 1,200,000 ดอง (ถ้ามีคนขับราคาจะบวกเพิ่มขึ้นมาอีก แต่เราจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่) ซึ่งเราว่าเช่ารถแบบมีคนขับสะดวกกว่าจองทริป เพราะ 1 day trip ที่มีขายมันแยกที่เด็ดๆออกจากกัน *รถที่นี่เป็นพวงมาลัยซ้ายนะ แล้วที่นี่ไม่จำเป็นต้องวางเงินมัดจำหรือมีใบขับขี่สากลด้วย จ่ายเงินปุ๊บจบ ยืมไปได้เลย สำหรับแขกโรงแรม
ทริปที่เราและเพื่อนๆเลือกไปกันคือ tour 3
หลังจากทริปจ่ายเงินกันเสร็จสรรพ เราก็มาถึงที่แรกกันแล้ว นั่นคือ..สวนสตอร์เบอร์รี่นั่นเอง >.<
ส่วนหนุ่มยิ้มแป้นทางขวามือของรูปคือคุณไกด์ที่จะมาดูแลเราในวันนี้ ระหว่างทริปนั้น พี่แกจะพูดเป็นภาษาเวียดนามละแปลอิ้งให้ค่ะ
เมื่อจบที่แรกแล้ว เราก็มาถึงกันที่ Golden Valley ค่ะ
ข้างในจะเป็นสวนมีต้นไม้ น้ำตกให้เราเดินถ่ายรูปเล่น
ส่วนที่ต่อไป ซึ่งเป็นที่ๆเด็ดมาก คือ Langbiang Mountain ค่ะ พอไปถึงแล้วไกด์จะถามเราว่าจะขึ้นรถจี๊บไปบนเขารึเปล่า ราคาคนละ 50,000 ดอง ซึ่งมาขนาดนี้แล้วจะพลาดได้ยังไง อิอิ ใครที่ลังเลก็อยากจะบอกว่า ขึ้นเถอะค่ะ วิวและอากาศบริสุทธิ์ที่ได้รับ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน ใครยังไม่มั่นใจก็ไปชมภาพกันเลยดีกว่า ปากว่าไม่เท่าตาเห็นเนาะ
เป็นไงคะ เห็นภาพแล้วอยากขึ้นกันบ้างมั้ยเอ่ยย ??
และแล้ว เราก็มาถึงสถานที่สุดท้ายของเราในวันนี้ Old Railway Station
หลังจากเที่ยวครบทุกที่แล้ว เราก็กลับที่พักกัน เตรียมตัวอาบน้ำ เปลี่ยนชุดท่องราตรีกันต่อ
อ่านต่อ : https://ppantip.com/topic/36982822