สวัสดีค่าปกติไม่ค่อยได้มาโพสตั้งกระทู้เองเท่าไหร่
วันนี้โอกาสดี ว่างๆ เลยมารีวิวอุปกรณ์ GPS ติดตามเด็กๆ น้องหมา น้องแมวค่ะ
ก่อนอื่น ขอให้ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ตามหา/ติดตาม สัตว์เลี้ยงที่หายไปก่อน เผื่อเพื่อนๆสนใจ
เพราะเราก็งง หลายอันเกิน งงว่าจะเอาอันไหนดี 5555
1. Microchip
เราเคยได้ยินใช่ไหมคะ ตามข่าวทีวีต่างประเทศว่า เจอน้องหมาน้องแมวที่หายไปจาก microchip ที่ฝังไว้
ไอ้เราก็จินตนาการไว้ดีมาก ว่าถ้าเราฝังไว้ Microchip เกิดน้องๆหาย มันจะแบบรู้ตำแหน่งได้ (มโนก่อนหาข้อมูล)
ละพอค้นจริงๆ ก็พบว่า มันไม่ได้แบบมีเรดาร์ติดไว้ๆ อย่างที่คิด 55555
Microchip มันจะมีรหัสค่ะ ซึ่งเป็นรหัสที่ลงทะเบียนไว้ ให้นึกถึงเวลาซื้อของแล้วพนักงานยิง barcode ปิ๊ปๆๆ เลขที่ได้ก็ไป match กับข้อมูลที่ลงไว้ว่าใครเป็นเจ้าของ ถ้าเกิดมีคนเก็บน้องหมาน้องแมวได้ แล้วเอาไปแจ้งตามศูนย์ ตามโรงพยาบาลสัตว์ ก็จะทราบว่าเจ้าของคือใครอยู่ที่ไหน
ขนาดก็เล็กๆค่ะประมาณเม็ดข้าวสาร คุณหมอก็จะฉีด เข้าไปต้นคอเด็กๆ และฝังอยู่ในนั้น เคยอ่านบทความฝรั่งว่า painless (ไม่เชื่ออออออออออ ใช้เข็มเบอร์ 12 นี้ ไม่เจ็บนี้ก็กะไรอยู่นะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ Reference: http://www.catteries-barnsley.co.uk/microchipping/
https://ppantip.com/topic/35774232
https://ppantip.com/topic/33951478
สรุป Microchip
- มันคือ ปลอกคอถาวร ที่มี barcode ติดไว้ ต้องสแกนเพื่อจะได้รู้ชื่อและเบอร์โทรเจ้าของ
- ราคา: 400 -800 บาท ต่อตัว
- ข้อดี ช่วยให้รู้ข้อมูล และติดต่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้ โดยข้อมูลนั้นติดอยู่ตลอด เพิ่มโอกาสในการหาเจ้าของ
- ข้อเสีย คือเป็นวิธี invasive ดังนั้นร่างกายอาจต่อต้าน เช่น อาจมีอาการบวม อักเสบ และไม่ใช่ทุกคลินิกที่มีเครื่องอ่าน microchip
จบไปหนึ่ง ต่อไป
2. ระบบติดตามสัตว์เลี้ยง
มันมีหลายระบบค่ะ จากที่ค้นๆมา ในกระทู้เก่าๆ
2.1 ระบบแบบคลื่นวิทยุ --> ข้อดี ขนาด tag เล็ก เบา (5 g) ไม่ต้องใช้ sim card อุปกรณ์ส่งเสียงได้
ข้อเสีย รัศมีในการค้นหาจำกัด< 50 เมตร ไม่กันน้ำ
และสำคัญมาก หาร้านขายในไทย ไม่เจอ ;__; จบ
2.2 ระบบ Bluetooth --> ข้อดี ขนาด tag เล็ก เบา (10 g) ไม่ต้องใช้ sim card เชื่อมกับมือถือได้ผ่าน Bluetooth
และสามารถทราบพิกัดสุดท้ายได้ก่อนน้องหายไปขอบสัญญาณค้นหา อุปกรณ์ส่งเสียงได้
ข้อเสีย รัศมีในการค้นหาจำกัด < 50 เมตร
2.3
ระบบ GPS ------> กระทู้ส่วนใหญ่ใน pantip ใช้ GPS ทั้งแบบ DIY และแบบซื้อเป็นเครื่องๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กระทู้ เก่าๆที่มีคนเคยใช้
https://ppantip.com/topic/31492824
http://topicstock.ppantip.com/jatujak/topicstock/2012/09/J12597203/J12597203.html
https://ppantip.com/topic/33827449
พื้นที่บ้านเราค่อนข้างกว้าง เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หน้าบ้านยาวพอดู (ยาวประมาณอาคารพาณิชย์ทั่วไป 4 ช่อง)
ตอนที่กำลังหาว่าจะซื้อเจ้าไหนดีให้ยัยเหมียว ไอ้เรา Skill งานช่าง = 0 ดังนั้น ตัด DIY ทิ้งเลยค่ะ
ก็ค้นไปค้นมาก็เจอของ Viska tracker ค่ะ
งั้นมาเริ่มรีวิวดีกว่า กล่องและข้างใน
คู่มืออย่าทำหายนะคะจำเป็นมากๆสำหรับมือใหม่เครื่องมือ
อันนี้สายรัด ปกติเค้าให้สีดำมา แต่ถ้าเราเลี้ยงแมวแบบเรา หรือน้องหมาตัวเล็ก
เราต้องสั่งสายสีน้ำเงินอันเล็กเพิ่มอ่ะค่ะ จะได้เป็นสายน้ำเงินที่มีที่สอด tracker มาเรียบร้อย
เทียบขนาด
ไอ้เราคิดไว้ตอนแรกว่า แค่เปิดเครื่องโง่ๆปุ๊ปใช้ได้เลย แต่มันไม่ใช่ค่ะ! ;__; (เศร้า)
เราต้องไขฝาเครื่อง GPS ออกมาเพื่อใส่ซิม
ด้วย skill ระดับนี้แล้ว ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการไขน๊อตตัวเล็กๆค่ะ งงว่าหมุนซ้ายหรือขวา =A=
คนอื่นคงใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที
ต่อมาก็โหลด App TKstar GPS (มันจะมีอีก app ชื่อคล้ายๆกัน เอาอันที่มี คำว่า GPS นะฮับ เราโหลดอีกอัน เลยงมนานมาก)
ใส่ไอดีจากเครื่องสีขาว และ password ที่ set ไว้ ตอน register SMS
ขอถ่ายดาราวันนี้หน่อย
และ แผนที่ ไปไหนฮึยัยเหมียว
(จริงๆ ตอนเปิดตอนแรก GPS มันรวนอ่ะ ต้องรอพักนึงกว่ามันจะเด้งมาที่ที่ใช่จริงๆ)
เหตุผลที่คิดนะ เราว่าตึกที่เราอยู่มันทึบอ่ะ หรือ อาจเป็น app หรือเป็นที่ sim ก็ไม่รู้
เพราะเปิดจากมือถือเพื่อนที่ใช้ android ก็โอเค)
เกือยลืม ตอนชาร์ต ไอ้เครื่องนี้ไม่ได้ใช้ถ่านอ่ะค่ะ
ที่ชาร์ตไม่ได้เป็นหัวจุ๊ปอ่ะ มันเลยเหมือนจะไม่สนิทนะ แต่ไฟก็ชาร์ตเข้านะ 555
มันเป็นแม่เหล็กดึงระหว่างเครื่องกับสาย
สรุป ระบบ GPS เช่น Viska tracker
ข้อดี - ระบบ GPS ให้พิกัด กว้างงงงงงงง
- Real time tracking
- เหมาะกับเด็กๆที่ชอบเที่ยว ชาร์ตเครื่องทีอยู่ได้พอถึงอาทิตย์นึง
- ถ้าไม่ใช้สำหรับ สัตว์เลี้ยง แล้วก็เอาไปใช้ tracking อย่างอื่นก็ได้ (แฟน/สามี 555)
ข้อเสีย - ราคาแพง แต่ถ้าเทียบว่าเกิดเด็กๆหายไป ก็คุ้มอยู่
- ตอนแรกใช้ยากนิดหน่อย ต้องอ่านคู่มือดีๆ ไม่งั้นงง (มาก) ต้องใช้ sim card
- ใหญ่ หนักว่า แต่น้องแมวเราไม่รำคาญ ก็ OK
- เราขี้เกียจชาร์ต ต้องถอดออกมานอนวางดีๆ ตอนชาร์ต (user errorrrrrr 5555)
จบแล้วค่ะ สรุปนะ ถ้าเป็นไปได้ เราคิดว่าการตามหาเด็กๆที่หายไป
มันน่าจะต้องมีทั้งสองระบบนะ คือ ใส่ microchip ไว้สำหรับบอกคนใจดีที่เก็บเด็กๆเราได้ ว่าใครเป็นเจ้าของ
และ ระบบ GPS ที่เรามีไว้ติดตามเอง
ขอบคุณที่ติดตามค่า
ปล แก้ไขครั้งที่ 1 เอาข้อมูล ID ออกไปค่ะ
[CR] [Review] GPS tracker ติดตามน้องหมา ▼・ᴥ・▼ น้องแมว (ⓛ w ⓛ) และข้อมูล item อื่นๆเพื่อการตามหาเด็กๆ
วันนี้โอกาสดี ว่างๆ เลยมารีวิวอุปกรณ์ GPS ติดตามเด็กๆ น้องหมา น้องแมวค่ะ
ก่อนอื่น ขอให้ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ตามหา/ติดตาม สัตว์เลี้ยงที่หายไปก่อน เผื่อเพื่อนๆสนใจ
เพราะเราก็งง หลายอันเกิน งงว่าจะเอาอันไหนดี 5555
1. Microchip
เราเคยได้ยินใช่ไหมคะ ตามข่าวทีวีต่างประเทศว่า เจอน้องหมาน้องแมวที่หายไปจาก microchip ที่ฝังไว้
ไอ้เราก็จินตนาการไว้ดีมาก ว่าถ้าเราฝังไว้ Microchip เกิดน้องๆหาย มันจะแบบรู้ตำแหน่งได้ (มโนก่อนหาข้อมูล)
ละพอค้นจริงๆ ก็พบว่า มันไม่ได้แบบมีเรดาร์ติดไว้ๆ อย่างที่คิด 55555
Microchip มันจะมีรหัสค่ะ ซึ่งเป็นรหัสที่ลงทะเบียนไว้ ให้นึกถึงเวลาซื้อของแล้วพนักงานยิง barcode ปิ๊ปๆๆ เลขที่ได้ก็ไป match กับข้อมูลที่ลงไว้ว่าใครเป็นเจ้าของ ถ้าเกิดมีคนเก็บน้องหมาน้องแมวได้ แล้วเอาไปแจ้งตามศูนย์ ตามโรงพยาบาลสัตว์ ก็จะทราบว่าเจ้าของคือใครอยู่ที่ไหน
ขนาดก็เล็กๆค่ะประมาณเม็ดข้าวสาร คุณหมอก็จะฉีด เข้าไปต้นคอเด็กๆ และฝังอยู่ในนั้น เคยอ่านบทความฝรั่งว่า painless (ไม่เชื่ออออออออออ ใช้เข็มเบอร์ 12 นี้ ไม่เจ็บนี้ก็กะไรอยู่นะ) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป Microchip
- มันคือ ปลอกคอถาวร ที่มี barcode ติดไว้ ต้องสแกนเพื่อจะได้รู้ชื่อและเบอร์โทรเจ้าของ
- ราคา: 400 -800 บาท ต่อตัว
- ข้อดี ช่วยให้รู้ข้อมูล และติดต่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้ โดยข้อมูลนั้นติดอยู่ตลอด เพิ่มโอกาสในการหาเจ้าของ
- ข้อเสีย คือเป็นวิธี invasive ดังนั้นร่างกายอาจต่อต้าน เช่น อาจมีอาการบวม อักเสบ และไม่ใช่ทุกคลินิกที่มีเครื่องอ่าน microchip
จบไปหนึ่ง ต่อไป
2. ระบบติดตามสัตว์เลี้ยง
มันมีหลายระบบค่ะ จากที่ค้นๆมา ในกระทู้เก่าๆ
2.1 ระบบแบบคลื่นวิทยุ --> ข้อดี ขนาด tag เล็ก เบา (5 g) ไม่ต้องใช้ sim card อุปกรณ์ส่งเสียงได้
ข้อเสีย รัศมีในการค้นหาจำกัด< 50 เมตร ไม่กันน้ำ
และสำคัญมาก หาร้านขายในไทย ไม่เจอ ;__; จบ
2.2 ระบบ Bluetooth --> ข้อดี ขนาด tag เล็ก เบา (10 g) ไม่ต้องใช้ sim card เชื่อมกับมือถือได้ผ่าน Bluetooth
และสามารถทราบพิกัดสุดท้ายได้ก่อนน้องหายไปขอบสัญญาณค้นหา อุปกรณ์ส่งเสียงได้
ข้อเสีย รัศมีในการค้นหาจำกัด < 50 เมตร
2.3 ระบบ GPS ------> กระทู้ส่วนใหญ่ใน pantip ใช้ GPS ทั้งแบบ DIY และแบบซื้อเป็นเครื่องๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พื้นที่บ้านเราค่อนข้างกว้าง เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หน้าบ้านยาวพอดู (ยาวประมาณอาคารพาณิชย์ทั่วไป 4 ช่อง)
ตอนที่กำลังหาว่าจะซื้อเจ้าไหนดีให้ยัยเหมียว ไอ้เรา Skill งานช่าง = 0 ดังนั้น ตัด DIY ทิ้งเลยค่ะ
ก็ค้นไปค้นมาก็เจอของ Viska tracker ค่ะ
งั้นมาเริ่มรีวิวดีกว่า กล่องและข้างใน
คู่มืออย่าทำหายนะคะจำเป็นมากๆสำหรับมือใหม่เครื่องมือ
อันนี้สายรัด ปกติเค้าให้สีดำมา แต่ถ้าเราเลี้ยงแมวแบบเรา หรือน้องหมาตัวเล็ก
เราต้องสั่งสายสีน้ำเงินอันเล็กเพิ่มอ่ะค่ะ จะได้เป็นสายน้ำเงินที่มีที่สอด tracker มาเรียบร้อย
เทียบขนาด
ไอ้เราคิดไว้ตอนแรกว่า แค่เปิดเครื่องโง่ๆปุ๊ปใช้ได้เลย แต่มันไม่ใช่ค่ะ! ;__; (เศร้า)
เราต้องไขฝาเครื่อง GPS ออกมาเพื่อใส่ซิม
ด้วย skill ระดับนี้แล้ว ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการไขน๊อตตัวเล็กๆค่ะ งงว่าหมุนซ้ายหรือขวา =A=
คนอื่นคงใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที
ต่อมาก็โหลด App TKstar GPS (มันจะมีอีก app ชื่อคล้ายๆกัน เอาอันที่มี คำว่า GPS นะฮับ เราโหลดอีกอัน เลยงมนานมาก)
ใส่ไอดีจากเครื่องสีขาว และ password ที่ set ไว้ ตอน register SMS
ขอถ่ายดาราวันนี้หน่อย
และ แผนที่ ไปไหนฮึยัยเหมียว
(จริงๆ ตอนเปิดตอนแรก GPS มันรวนอ่ะ ต้องรอพักนึงกว่ามันจะเด้งมาที่ที่ใช่จริงๆ)
เหตุผลที่คิดนะ เราว่าตึกที่เราอยู่มันทึบอ่ะ หรือ อาจเป็น app หรือเป็นที่ sim ก็ไม่รู้
เพราะเปิดจากมือถือเพื่อนที่ใช้ android ก็โอเค)
เกือยลืม ตอนชาร์ต ไอ้เครื่องนี้ไม่ได้ใช้ถ่านอ่ะค่ะ
ที่ชาร์ตไม่ได้เป็นหัวจุ๊ปอ่ะ มันเลยเหมือนจะไม่สนิทนะ แต่ไฟก็ชาร์ตเข้านะ 555
มันเป็นแม่เหล็กดึงระหว่างเครื่องกับสาย
สรุป ระบบ GPS เช่น Viska tracker
ข้อดี - ระบบ GPS ให้พิกัด กว้างงงงงงงง
- Real time tracking
- เหมาะกับเด็กๆที่ชอบเที่ยว ชาร์ตเครื่องทีอยู่ได้พอถึงอาทิตย์นึง
- ถ้าไม่ใช้สำหรับ สัตว์เลี้ยง แล้วก็เอาไปใช้ tracking อย่างอื่นก็ได้ (แฟน/สามี 555)
ข้อเสีย - ราคาแพง แต่ถ้าเทียบว่าเกิดเด็กๆหายไป ก็คุ้มอยู่
- ตอนแรกใช้ยากนิดหน่อย ต้องอ่านคู่มือดีๆ ไม่งั้นงง (มาก) ต้องใช้ sim card
- ใหญ่ หนักว่า แต่น้องแมวเราไม่รำคาญ ก็ OK
- เราขี้เกียจชาร์ต ต้องถอดออกมานอนวางดีๆ ตอนชาร์ต (user errorrrrrr 5555)
จบแล้วค่ะ สรุปนะ ถ้าเป็นไปได้ เราคิดว่าการตามหาเด็กๆที่หายไป
มันน่าจะต้องมีทั้งสองระบบนะ คือ ใส่ microchip ไว้สำหรับบอกคนใจดีที่เก็บเด็กๆเราได้ ว่าใครเป็นเจ้าของ
และ ระบบ GPS ที่เรามีไว้ติดตามเอง
ขอบคุณที่ติดตามค่า
ปล แก้ไขครั้งที่ 1 เอาข้อมูล ID ออกไปค่ะ