เมื่อได้ฤกษ์ซื้อบ้านใหม่ หลาย ๆ คนก็คงต้องมีการต่อเติม ตกแต่ง เพื่อให้ได้บ้านในฝันที่รอคอยกัน เป้ก็เหมือนกันค่ะ แต่โชคดีว่าตัวเองซื้อบ้านมือสองที่เจ้าของแต่งเกือบหมดแล้วทุกอย่าง เหลือแค่ห้องครัว (ซึ่งเป็นห้องที่เป้ให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะว่าการใช้ห้องครัวของแต่ละบ้านมันต่างกัน) ตอนแรกรู้สึกดีใจที่ได้ทำครัวเอง แต่พอจะเลือกว่าใช้ใครเนี่ยมันไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะความต้องการมีไม่จำกัดแต่เงินในกระเป๋าจำกัด ก็เลยต้องเลือกบริษัทที่เราคิดว่าดีที่สุดกับงบประมาณที่มี ดังนั้นปฏิบัติการตามหาช่างเพื่อมาทำครัวพื้นที่เล็ก ๆ คือ ห้องกว้าง 2.7 * 3 เมตร จึงเริ่มขึ้น
เริ่มแรกสามีบอก “เธอเราเอาครัวพอประมาณพอนะ ทำเคาน์เตอร์เดียวก็พอ ประหยัดเงิน” เราก็แบบอึ้ง ไม่ได้นะคะ ทำเคาน์เตอร์เดียว ช้านไม่พอ ช้านต้องการพื้นที่ ====> สุดท้ายได้เคาน์เตอร์แถมมาจ้า
สามี “เธอ เพื่อความปลอดภัยของลูก เราเอาเตา Induction นะ” ไม่นะ ช้านต้องการเตาแก๊ส เพราะทำกับข้าว อาหารไทย สะใจดี ====> ข้อนี้เถียงแพ้เลยต้องยอมค่ะ แต่ความจริงการใช้เตาอินดักชั่นดีตอนทำอาหารพวกทอดน้ำมันกระเด็น เพราะเราจะเอากระดาษวางไว้บนเตารอบๆ กระทะ พอทอดเสร็จเอาทิชชู่ซับมันเช็ดเตา ช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นเยอะ
สามี “เธอ เตา Induction เอาแบบฝังนะ แต่งบมีไม่เกิน 20,000 บาท” ค่ะ ฝันไปเลยค่ะคุณ ถ้ามีงบแค่นี้เตาแก๊สโลด 10,000 เดียวเอง อย่างเริ่ด หลายหัวเตา ====> งบบานมากกกก
สามี “เธอ เอาเครื่องล้างจานด้วยนะ” ม๊ายยยยย มันแพงและทำให้พื้นที่ครัวฉันลดลง ====> ดีตรงไม่ต้องล้าง ครัวไม่จานกองอิเระเขระขระ แต่มันทำให้พื้นที่เก็บของลดลง
สามี “เอาสวย ๆ ครัวฝรั่ง แข็งแรง แต่ไม่แพงนะ” ช้านจะไปหาที่ไหน ??? =====> เดี๋ยวรอดูค่ะ
Etc…..
คิดว่าบทสนทนาข้างบน หลาย ๆ บ้านคงคุ้นเคย เราเองก็มีการถกเถียงกันเยอะมากค่ะ และก็ชวนกันไปดู HOMEPRO สามีเราก็เมากับเหล่าบรรดาเซลในห้าง จนปวดหัวต้องกลับมาบ้าน และสรุปว่า ไม่เห็นมีอันไหนดีเลย แถมแพงด้วย สรุป ต้องมาหาข้อมูลในเน็ท ไปของบจากนาง จนในที่สุด งบ 200,000 บาทของเราก็ขยายไปที่ 400,000 บาท รวมทุกอย่าง และจากเคาน์เตอร์ ตัว I สองตัวขนานกัน ก็มีเคาน์เตอร์ Pantry ตัว L หน้าห้องครัว ขนาด 80 x 2.10 เมตร เพิ่มมาด้วย
โดยเรา กำหนด Spec ของครัวเราแบบนี้
1.ต้องทำจากอุปกรณ์ที่แข็งแรง ทนน้ำ ทนปลวก ซึ่งอย่างต่ำวัสดุต้องเป็น VIVA BOARD, หรือ PLAZWOOD ท๊อปต้องเป็นแกรนิตหรือหินสังเคราะห์เท่านั้น เพราะบ้านเราทำครัวจริงจัง (ใครบอกว่าอาหารฝรั่งไม่เลอะ ถ้าทำแบบพวกสเต็กเนี่ยก็น้ำมันกระเด็นเหมือนกัน)
2.มีเครื่องใช้ไฟฟ้าคือ เตาอินดักชั่น เตาอบ และมีช่องเพื่อเอาไมโครเวฟมาบิ้วอินทีหลัง (ตอนแรกคิดว่าใช้ของที่มีไปก่อน) มีเครื่องล้างจาน (ซึ่งได้จากเจ้าของเก่ายกให้) มีที่ดูดควันแบบต่อท่อ ซิ้งต้องเป็นสองหลุมแบบที่ลึกสุดในตลาดที่มี
3.ดีไซน์ครัว สามีขอแบบเรียบ ๆ แนว Contemporary ไม่เอา Vintage เพราะบ้านก็หวานมากพอแล้ว และอีกอย่างคือ เราอยากได้หน้าบานเรียบ เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด
4.ครัวให้ทำลักษณะเหมือนเจ้าของบ้านเดิม คือเป็นครัวปิด ในห้องซึ่งมีประตูบานเลื่อนกั้นกับตัวบ้าน แต่สามีเราขอให้มีเคาน์เตอร์บาร์เพิ่ม ซึ่งเราก็ว่าดี เพราะมันจะได้มีที่วาง ที่พักอาหาร ก่อนยกมาเสิร์ฟ แต่เราคิดว่าจะใช้เคาน์เตอร์บาร์นี้ กินมื้อเช้า หรืออาหารว่างด้วย (ตอนแรกสามีเราอยากได้ครัวเปิดเชื่อมกับห้องกินข้าวและห้องรับแขกเลย แต่เราปฏิเสธไป เพราะคิดว่ากลิ่นอาหารคงตลบอบอวลน่าดู
หลังจากคุยกันจนได้ข้อตกลงว่า ครัวของเราจะเป็นประมาณไหน เราก็เลยตามหาผู้รับเหมา โดยเราก็มาเขียนกระทู้ถามในพันทิปแต่ก็ข้อมูลก็น้อยมากค่ะ เจ้าที่มีส่วนใหญ่รับทำ MDF เท่านั้นซึ่งเราไม่ต้องการ เราก็เลยลองโทรเช็ค คุย กับหลาย ๆ เจ้าเท่าที่ทำไหว และรู้สึกพอ ทีนี้เราก็เลยคิดว่ามาเขียนไว้ใน Pantip ดีกว่า เผื่ออนาคตใครจะตามหาจะได้มีข้อมูลไปช่วยในการตัดสินใจ รีวิวนี้จึงเป็นรีวิวที่พูดถึง Supplier แต่ละรายที่เราได้คุย ต้องขอบอกว่าอันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผู้ใช้บริการ ซึ่งเราได้เจอเจ้าหน้าที่ คนเป็น ๆ แค่สามรายที่เราเลือกมาเท่านั้น การตัดสินใจของเราอาจจะไม่ถูกต้อง 100% และอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้เสมอไป ดังนั้นจึงขอให้เพื่อน ๆ ใช้ข้อมูลนี้แค่เป็นข้อมูลอ้างอิงเบื้องต้นค่ะ
1.Persandplan ซึ่งหลายๆ ท่านในห้องนี้แนะนำ เราได้มีโอกาสคุยกับคุณอี๊ดก็รู้สึกประทับใจมาก ๆ ค่ะ และดูเค้าเต็มที่ตั้งใจบริการมาก ๆ เลย แต่สุดท้ายไม่ได้เลือกที่นี่คือไม่กล้าให้เค้ามาวัดพื้นที่ด้วย เพราะว่าพี่เค้าเน้นทำแนววินเทจซึ่งสามีเราไม่เอาแน่นอน และวัสดุของเค้าก็มีแต่ MDF ซึ่งเราก็คิดว่ามันไม่ทนทานพอสำหรับครัวบ้านเราที่ทำจริงจัง แต่ไม่เอาครัวปูน (
https://www.facebook.com/Persandplan-653597574676056/)
2.Kitchen Design by CT เราได้ติดต่อไปเพื่อถามรายละเอียดทางไลน์เบื้องต้น แต่พอเราถามไปเค้าก็บอกว่าให้ไปดูใน FB ซึ่งเราก็ไปดูแล้ว แต่ยังมีคำถาม ถามไปก็เหมือนเค้าอาจจะรำคาญเราก็เลยตัดออกไปค่ะ ไม่เป็นไร เราอาจจะทำให้เค้าเสียเวลา (
https://www.facebook.com/KitchendesignbyCT/)
3.Hollywood 88 Studio (
http://www.hollywood88.com/)เป็นหนึ่งในบริษัทที่เราให้เข้ามาวัดหน้างาน ออกแบบมาเสนอราคา การพูดคุยเบื้องต้นดีมาก มีวัสดุให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ราคาประหยัด (ใช้พวกปาร์ติเกิ้ลบอร์ดธรรมดา) ไปจนถึงราคาแพงทนทาน โดยใช้วัสดุเฉพาะ เรียกว่า Lyca มีแบบให้เลือกเยอะมาก ทาง Hollywood จะมีการพูดคุยสอบถาม แล้วให้ราคามาเบื้องต้นเพื่อเป็นการตัดสินใจ ถ้าลูกค้าสนใจก็สามารถเรียกให้ไปวัดพื้นที่ดูหน้างานได้ โดยมีการเก็บเงิน 5,000 บาท ซึ่งเงินนี้ถ้าตัดสินใจทำกับทางบริษัทก็สามารถนำไปเป็นส่วนลดได้
การนัดวัดพื้นที่จะต้องมีการโอนเงินก่อนแล้วถึงจะนัดวันได้ ซึ่งเค้าจะต้องได้รับเงินก่อนเท่านั้น อย่างกรณีเรา เรานัดวันเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากเรายุ่งมาก โอนเงินให้เค้าช้า เค้าตัดคิวเราออกไปให้คนอื่นเลย แล้วเราก็ต้องหาวันใหม่ ซึ่งสำหรับเราค่อนข้างลำบากเพราะเราก็เป็นคนงานยุ่ง งานเยอะ เดินทางต่างประเทศบ่อย ตอนแรกเจอ Supplier แบบนี้เราก็ลังเล แถมค่าวัดพื้นที่ก็แพง แต่เราตั้งใจแล้วว่าจะเรียกว่ามาวัดให้เปรียบเทียบกัน แล้วมาเขียน Pantip อยู่แล้ว เราก็เลยยอม และแจ้งว่าเรามีเดินทางตลอดให้เค้าหาคิวแทรกให้ ก็ได้คิว 1 อาทิตย์หลังจากวันที่ตั้งใจไว้ตอนแรกค่ะ
วันที่มาวัดพื้นที่ ก็ปรกติคือเค้าเข้ามาวัดพื้นที่ แล้วก็มีการให้เราให้เราเลือกสี หน้าท๊อป เค้าใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีในการวัดพื้นที่และพูดคุยกับเรา เราพยายามบอกคนที่มาวัดว่าเราต้องการอะไรบ้าง เค้าก็ฟัง (แต่เรารู้สึกว่าเค้าไม่ตั้งใจฟัง) พอถามเค้าก็บอกว่าแล้วแต่ลูกค้า (ซึ่งลูกค้าหลายคนอาจจะชอบ) แต่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้คนมาช่วยเสนอไอเดีย แต่ตอนนั้นเราไม่พูดอะไร รอดูผลงานก่อนก็ได้ ช่างเข้ามาวัดหน้างาน 9 กรกฏาคม กว่าเราจะได้รายละเอียดทั้งหมด ก็ 20 กรกฏาคม ระหว่างนั้นต้องมีการปรับแก้ ขนาดของเคาน์เตอร์ (ทั้ง ๆ ที่เราก็บอกไปแล้วว่าเราต้องการความยาวเท่าไหร่ เนี่ยเพราะไม่ตั้งใจฟังลูกค้า) เค้าส่งเป็นรูปวาดมาให้เราดูว่าแบบจะประมาณนี้ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งจริง ๆ โดยรวมเราก็โอเคกับแบบ แต่เนื่องจากห้องครัวของเรา เจ้าของเก่าเค้าได้มีการต่อท่อน้ำดี สำหรับเครื่องล้างจาน และซิ้ง พร้อมทั้งต่อไฟสำหรับเตาอบและเจาะฝ้าสำหรับตำแหน่งท่อดูดอากาศไว้แล้ว ซึ่งคนมาวัดหน้างานก็ได้มาดูจุดดังกล่าว แต่แบบที่ออกมามันไม่สัมพันธ์กัน และทำให้เราต้องเดินสายไฟเพิ่ม 3 จุดทั้ง ๆ ที่เรามีอยู่แล้ว และเราต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งเราคิดว่าไม่โอเค นอกจากนี้ราคาก็แพงกว่าเจ้าอื่น มันก็เลยทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น ซึ่งถ้าเราไม่มีตัวเปรียบเทียบอื่น เราก็ต้องบอกว่าเราอาจจะเลือกเค้ามาทำเลยค่ะ เพราะเท่าที่ดูผลงานเค้าสวย ๆ ทั้งนั้น
ข้อด้อยที่ทำให้เราไม่เลือกที่นี่
1.เค้าไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ที่เค้ามีดีลด้วยคือ Hafele ซึ่งบังเอิญว่าเราไม่ต้องการอะไรจาก Hafele เลย ยกเว้นตู้ดึงที่สูงถึงเพดาน และสามีเราต้องการบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า (เตาอบ เตาอินดักชั่น) ด้วยมากกว่า ก็เลยเลือกที่อื่น
2.เค้ารับทำเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น ดังนั้น พื้นที่ระหว่างเคาน์เตอร์และตู้ลอยที่เราจะติดกระเบื้องหรือโมเสส เราต้องหามาเอง โดยเค้ามีบริการทำให้ (อาจจะมีค่าบริการและเราต้องติดต่อเอง) ซึ่งเรามองว่าคนเวลาน้อยอย่างเราที่สั่งแทบทุกอย่างทาง line และ Internet จะไม่สะดวก เราก็เลยลดคะแนนเรื่องความสะดวกในการประสานงานลง
3.ความคล่องตัวในการเปลี่ยนแบบ หรือความตั้งใจในการเปลี่ยนแบบตามความต้องการของลูกค้ามีน้อยกว่าคู่แข่ง
4.ตอนที่ได้รูปครัวมา เราได้มาเป็นรูปวาดมาให้ แต่ไมได้แบบเรนเดอร์ภาพเสมือน ซึ่งก็พอดูออก แต่มันมีคนที่เค้าทำภาพเสมือนมาให้ มันก็ทำให้เราเห็นความแตกต่าง
5.เราคิดว่าน้องที่เค้ามาวัดหน้างาน เค้าไม่ค่อยสนใจเรา เราก็เลยเกิดความลังเลว่า ขนาดมาวัดหน้างาน เค้ายังดูไม่ค่อยสนใจความต้องการของลูกค้า แล้วถ้าเราให้เค้าทำให้เราจริง คนอื่น ๆ ในทีมจะเป็นยังไง นอกจากนี้เรายังคิดว่าน้องเค้ามีความชำนาญในงานน้อย คือสังเกตเราขอให้เค้าเสนอความเห็น ไอเดีย เค้าบอกว่า “แล้วแต่ลูกค้าชอบ” แต่ในบางเรื่องเช่นการวางเตาอบ เค้าก็ยืนกระต่ายขาเดียวว่า แบบที่เค้าเสนอจะสวยกว่า (ก็สวยกว่านะ แต่พี่ไม่สะดวกค่ะ เพราะพื้นที่มีข้อจำกัดแล้ว) คือไม่ใช่ว่าน้องเค้าแย่นะคะ น้องเค้าก็ใช้ได้ ถ้าคะแนนเต็ม 10 เราให้ 6 ( แต่มีคนแย่กว่านี้เยอะ และหลายคนที่เราคุยด้วยทางโทรศัพท์ไม่รู้เรื่อง เราไม่ให้มาวัดหน้างานเลยค่ะ) แต่เค้าอาจจะประสบการณ์น้อยไปแค่นั้น ซึ่งถ้าฝึกต้องดีขึ้นแน่นอน
ข้อดีของ Hollywood
1.เค้ามีสีและวัสดุตัวเคาน์เตอร์ หน้าท๊อปให้เลือกเยอะหลากหลายมากกกกกกกกกกก แบบก็สามารถทำได้หลายสไตล์ คือถึงแม้ว่าเราจะต้องไปหาโมเสสหรือกระเบื้องมาติดผนังเอง ถ้าอยากได้ความหลากหลาย เราก็ว่าที่นี่มีนะ ในขณะที่หลาย ๆ ร้าน หรือบริษัท จะมีสี แบบ และวัสดุที่จำกัด
2.การประสานงานโดยรวมพอใช้ ให้คะแนน 7 คะแนน และมีการตามงานค่ะ คือทำราคา ทำแบบมา แล้วมีมาถามว่าสนใจหรือไม่ วางมัดจำเมื่อไหร่ แต่ขาดตรงถามไถ่ความต้องการของลูกค้าไปนิด ถ้าเพิ่มได้จะดีมาก
4.KVIK (
http://www.kvik.co.th/)ครัวแบรนด์ยุโรปจากประเทศเดนมาร์ค ดีไซน์ดีสวยงามน่าใช้ แต่ KVIK Thailand มีตัวเลือกน้อยมากและสีจำกัด ถ้าตรงกับความต้องการคือสีดำ สีขาว ก็สามารถดูไว้เป็นตัวเลือกได้ค่ะ เซลพูดจาดีมากโดยเฉพาะสาขาพระรามเก้าและตอนขายบอกว่าทำได้ทุกอย่าง แต่วันวัดหน้างานจริง หลายอย่างทำไม่ได้เพราะของที่เค้าสั่งมามีตัวเลือกน้อย
ข้อดี
1.เป็นแบรนด์ยุโรป ชื่อเสียงเชื่อถือได้
2.บริการดี ไม่เสียค่าบริการในการให้ไปวัดพื้นที่
ข้อเสีย
1.เจ้าหน้าที่อยากไปวัดหน้างานช่วง วันจันทร์ - ศุกร์ เท่านั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราที่จะจัดเวลา แต่ถ้าเป็นมาดามเฝ้าบ้านตลอดก็จัดไปค่ะ
2.ราคาสูงกว่าบริษัทคนไทย (เค้าขายแบรนด์) แต่เท่าที่เราดูวัสดุมันไม่น่าจะแพง แค่ MDF หรือ ปาร์ติเกิ้ล ดีไซน์นอกแต่มันก็ทำมาจากเมืองจีนอะนะ เพือนเราคนเดนมาร์คงงว่าทำไม ที่เมืองไทย แบรนด์นี้กลายเป็นของไฮโซ ทั้ง ๆ ที่เดนมาร์คมันก็คือยี่ห้อที่คนทั่วไปใช้กัน (คนรวยมาก ๆ ใช้ยี่ห้ออื่น)
3.วัสดุทั้งตู้ หน้าบาน สีมีให้เลือกจำกัด คือราคาสูงขนาดนี้แต่วัสดุเป็นแค่ปาร์ติเกิ้ลเองอะและมีเพือนบอกว่าใช้งานหนักไม่ได้ มันบวม อันนี้เป็นข้อที่กลัวมากค่ะ
4.แบบถังขยะที่เป็นบิ้วอินในเคาน์เตอร์มันเป็นแบบไม่มีฝาปิดหรือที่เป็นฝาปิดก็ต้องยกเปิดปิดเอง ซึ่งเราว่ามันไม่สะดวกและไม่เหมาะสมกับครัวเมืองร้อนอย่างบ้านเรา
5.ตอนที่เราไปคุยกับเซลหรือเพือนเราที่ใช้ยี่ห้อนี้ เซลบอกทำได้ทุกอย่าง tailor made แต่เอาเข้าจริง เราขอเคาน์เตอร์เข้ามุม (Pantry หน้าห้องครัว) เค้าบอกทำไม่ได้ ความยาวไ
[CR] แชร์ประสบการณ์ ปฏิบัติการตามหาห้องครัวและรีวิวห้องครัวขนาดเล็ก
เริ่มแรกสามีบอก “เธอเราเอาครัวพอประมาณพอนะ ทำเคาน์เตอร์เดียวก็พอ ประหยัดเงิน” เราก็แบบอึ้ง ไม่ได้นะคะ ทำเคาน์เตอร์เดียว ช้านไม่พอ ช้านต้องการพื้นที่ ====> สุดท้ายได้เคาน์เตอร์แถมมาจ้า
สามี “เธอ เพื่อความปลอดภัยของลูก เราเอาเตา Induction นะ” ไม่นะ ช้านต้องการเตาแก๊ส เพราะทำกับข้าว อาหารไทย สะใจดี ====> ข้อนี้เถียงแพ้เลยต้องยอมค่ะ แต่ความจริงการใช้เตาอินดักชั่นดีตอนทำอาหารพวกทอดน้ำมันกระเด็น เพราะเราจะเอากระดาษวางไว้บนเตารอบๆ กระทะ พอทอดเสร็จเอาทิชชู่ซับมันเช็ดเตา ช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นเยอะ
สามี “เธอ เตา Induction เอาแบบฝังนะ แต่งบมีไม่เกิน 20,000 บาท” ค่ะ ฝันไปเลยค่ะคุณ ถ้ามีงบแค่นี้เตาแก๊สโลด 10,000 เดียวเอง อย่างเริ่ด หลายหัวเตา ====> งบบานมากกกก
สามี “เธอ เอาเครื่องล้างจานด้วยนะ” ม๊ายยยยย มันแพงและทำให้พื้นที่ครัวฉันลดลง ====> ดีตรงไม่ต้องล้าง ครัวไม่จานกองอิเระเขระขระ แต่มันทำให้พื้นที่เก็บของลดลง
สามี “เอาสวย ๆ ครัวฝรั่ง แข็งแรง แต่ไม่แพงนะ” ช้านจะไปหาที่ไหน ??? =====> เดี๋ยวรอดูค่ะ
Etc…..
คิดว่าบทสนทนาข้างบน หลาย ๆ บ้านคงคุ้นเคย เราเองก็มีการถกเถียงกันเยอะมากค่ะ และก็ชวนกันไปดู HOMEPRO สามีเราก็เมากับเหล่าบรรดาเซลในห้าง จนปวดหัวต้องกลับมาบ้าน และสรุปว่า ไม่เห็นมีอันไหนดีเลย แถมแพงด้วย สรุป ต้องมาหาข้อมูลในเน็ท ไปของบจากนาง จนในที่สุด งบ 200,000 บาทของเราก็ขยายไปที่ 400,000 บาท รวมทุกอย่าง และจากเคาน์เตอร์ ตัว I สองตัวขนานกัน ก็มีเคาน์เตอร์ Pantry ตัว L หน้าห้องครัว ขนาด 80 x 2.10 เมตร เพิ่มมาด้วย
โดยเรา กำหนด Spec ของครัวเราแบบนี้
1.ต้องทำจากอุปกรณ์ที่แข็งแรง ทนน้ำ ทนปลวก ซึ่งอย่างต่ำวัสดุต้องเป็น VIVA BOARD, หรือ PLAZWOOD ท๊อปต้องเป็นแกรนิตหรือหินสังเคราะห์เท่านั้น เพราะบ้านเราทำครัวจริงจัง (ใครบอกว่าอาหารฝรั่งไม่เลอะ ถ้าทำแบบพวกสเต็กเนี่ยก็น้ำมันกระเด็นเหมือนกัน)
2.มีเครื่องใช้ไฟฟ้าคือ เตาอินดักชั่น เตาอบ และมีช่องเพื่อเอาไมโครเวฟมาบิ้วอินทีหลัง (ตอนแรกคิดว่าใช้ของที่มีไปก่อน) มีเครื่องล้างจาน (ซึ่งได้จากเจ้าของเก่ายกให้) มีที่ดูดควันแบบต่อท่อ ซิ้งต้องเป็นสองหลุมแบบที่ลึกสุดในตลาดที่มี
3.ดีไซน์ครัว สามีขอแบบเรียบ ๆ แนว Contemporary ไม่เอา Vintage เพราะบ้านก็หวานมากพอแล้ว และอีกอย่างคือ เราอยากได้หน้าบานเรียบ เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด
4.ครัวให้ทำลักษณะเหมือนเจ้าของบ้านเดิม คือเป็นครัวปิด ในห้องซึ่งมีประตูบานเลื่อนกั้นกับตัวบ้าน แต่สามีเราขอให้มีเคาน์เตอร์บาร์เพิ่ม ซึ่งเราก็ว่าดี เพราะมันจะได้มีที่วาง ที่พักอาหาร ก่อนยกมาเสิร์ฟ แต่เราคิดว่าจะใช้เคาน์เตอร์บาร์นี้ กินมื้อเช้า หรืออาหารว่างด้วย (ตอนแรกสามีเราอยากได้ครัวเปิดเชื่อมกับห้องกินข้าวและห้องรับแขกเลย แต่เราปฏิเสธไป เพราะคิดว่ากลิ่นอาหารคงตลบอบอวลน่าดู
หลังจากคุยกันจนได้ข้อตกลงว่า ครัวของเราจะเป็นประมาณไหน เราก็เลยตามหาผู้รับเหมา โดยเราก็มาเขียนกระทู้ถามในพันทิปแต่ก็ข้อมูลก็น้อยมากค่ะ เจ้าที่มีส่วนใหญ่รับทำ MDF เท่านั้นซึ่งเราไม่ต้องการ เราก็เลยลองโทรเช็ค คุย กับหลาย ๆ เจ้าเท่าที่ทำไหว และรู้สึกพอ ทีนี้เราก็เลยคิดว่ามาเขียนไว้ใน Pantip ดีกว่า เผื่ออนาคตใครจะตามหาจะได้มีข้อมูลไปช่วยในการตัดสินใจ รีวิวนี้จึงเป็นรีวิวที่พูดถึง Supplier แต่ละรายที่เราได้คุย ต้องขอบอกว่าอันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผู้ใช้บริการ ซึ่งเราได้เจอเจ้าหน้าที่ คนเป็น ๆ แค่สามรายที่เราเลือกมาเท่านั้น การตัดสินใจของเราอาจจะไม่ถูกต้อง 100% และอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้เสมอไป ดังนั้นจึงขอให้เพื่อน ๆ ใช้ข้อมูลนี้แค่เป็นข้อมูลอ้างอิงเบื้องต้นค่ะ
1.Persandplan ซึ่งหลายๆ ท่านในห้องนี้แนะนำ เราได้มีโอกาสคุยกับคุณอี๊ดก็รู้สึกประทับใจมาก ๆ ค่ะ และดูเค้าเต็มที่ตั้งใจบริการมาก ๆ เลย แต่สุดท้ายไม่ได้เลือกที่นี่คือไม่กล้าให้เค้ามาวัดพื้นที่ด้วย เพราะว่าพี่เค้าเน้นทำแนววินเทจซึ่งสามีเราไม่เอาแน่นอน และวัสดุของเค้าก็มีแต่ MDF ซึ่งเราก็คิดว่ามันไม่ทนทานพอสำหรับครัวบ้านเราที่ทำจริงจัง แต่ไม่เอาครัวปูน (https://www.facebook.com/Persandplan-653597574676056/)
2.Kitchen Design by CT เราได้ติดต่อไปเพื่อถามรายละเอียดทางไลน์เบื้องต้น แต่พอเราถามไปเค้าก็บอกว่าให้ไปดูใน FB ซึ่งเราก็ไปดูแล้ว แต่ยังมีคำถาม ถามไปก็เหมือนเค้าอาจจะรำคาญเราก็เลยตัดออกไปค่ะ ไม่เป็นไร เราอาจจะทำให้เค้าเสียเวลา (https://www.facebook.com/KitchendesignbyCT/)
3.Hollywood 88 Studio (http://www.hollywood88.com/)เป็นหนึ่งในบริษัทที่เราให้เข้ามาวัดหน้างาน ออกแบบมาเสนอราคา การพูดคุยเบื้องต้นดีมาก มีวัสดุให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ราคาประหยัด (ใช้พวกปาร์ติเกิ้ลบอร์ดธรรมดา) ไปจนถึงราคาแพงทนทาน โดยใช้วัสดุเฉพาะ เรียกว่า Lyca มีแบบให้เลือกเยอะมาก ทาง Hollywood จะมีการพูดคุยสอบถาม แล้วให้ราคามาเบื้องต้นเพื่อเป็นการตัดสินใจ ถ้าลูกค้าสนใจก็สามารถเรียกให้ไปวัดพื้นที่ดูหน้างานได้ โดยมีการเก็บเงิน 5,000 บาท ซึ่งเงินนี้ถ้าตัดสินใจทำกับทางบริษัทก็สามารถนำไปเป็นส่วนลดได้
การนัดวัดพื้นที่จะต้องมีการโอนเงินก่อนแล้วถึงจะนัดวันได้ ซึ่งเค้าจะต้องได้รับเงินก่อนเท่านั้น อย่างกรณีเรา เรานัดวันเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากเรายุ่งมาก โอนเงินให้เค้าช้า เค้าตัดคิวเราออกไปให้คนอื่นเลย แล้วเราก็ต้องหาวันใหม่ ซึ่งสำหรับเราค่อนข้างลำบากเพราะเราก็เป็นคนงานยุ่ง งานเยอะ เดินทางต่างประเทศบ่อย ตอนแรกเจอ Supplier แบบนี้เราก็ลังเล แถมค่าวัดพื้นที่ก็แพง แต่เราตั้งใจแล้วว่าจะเรียกว่ามาวัดให้เปรียบเทียบกัน แล้วมาเขียน Pantip อยู่แล้ว เราก็เลยยอม และแจ้งว่าเรามีเดินทางตลอดให้เค้าหาคิวแทรกให้ ก็ได้คิว 1 อาทิตย์หลังจากวันที่ตั้งใจไว้ตอนแรกค่ะ
วันที่มาวัดพื้นที่ ก็ปรกติคือเค้าเข้ามาวัดพื้นที่ แล้วก็มีการให้เราให้เราเลือกสี หน้าท๊อป เค้าใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีในการวัดพื้นที่และพูดคุยกับเรา เราพยายามบอกคนที่มาวัดว่าเราต้องการอะไรบ้าง เค้าก็ฟัง (แต่เรารู้สึกว่าเค้าไม่ตั้งใจฟัง) พอถามเค้าก็บอกว่าแล้วแต่ลูกค้า (ซึ่งลูกค้าหลายคนอาจจะชอบ) แต่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้คนมาช่วยเสนอไอเดีย แต่ตอนนั้นเราไม่พูดอะไร รอดูผลงานก่อนก็ได้ ช่างเข้ามาวัดหน้างาน 9 กรกฏาคม กว่าเราจะได้รายละเอียดทั้งหมด ก็ 20 กรกฏาคม ระหว่างนั้นต้องมีการปรับแก้ ขนาดของเคาน์เตอร์ (ทั้ง ๆ ที่เราก็บอกไปแล้วว่าเราต้องการความยาวเท่าไหร่ เนี่ยเพราะไม่ตั้งใจฟังลูกค้า) เค้าส่งเป็นรูปวาดมาให้เราดูว่าแบบจะประมาณนี้ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งจริง ๆ โดยรวมเราก็โอเคกับแบบ แต่เนื่องจากห้องครัวของเรา เจ้าของเก่าเค้าได้มีการต่อท่อน้ำดี สำหรับเครื่องล้างจาน และซิ้ง พร้อมทั้งต่อไฟสำหรับเตาอบและเจาะฝ้าสำหรับตำแหน่งท่อดูดอากาศไว้แล้ว ซึ่งคนมาวัดหน้างานก็ได้มาดูจุดดังกล่าว แต่แบบที่ออกมามันไม่สัมพันธ์กัน และทำให้เราต้องเดินสายไฟเพิ่ม 3 จุดทั้ง ๆ ที่เรามีอยู่แล้ว และเราต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งเราคิดว่าไม่โอเค นอกจากนี้ราคาก็แพงกว่าเจ้าอื่น มันก็เลยทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น ซึ่งถ้าเราไม่มีตัวเปรียบเทียบอื่น เราก็ต้องบอกว่าเราอาจจะเลือกเค้ามาทำเลยค่ะ เพราะเท่าที่ดูผลงานเค้าสวย ๆ ทั้งนั้น
ข้อด้อยที่ทำให้เราไม่เลือกที่นี่
1.เค้าไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ที่เค้ามีดีลด้วยคือ Hafele ซึ่งบังเอิญว่าเราไม่ต้องการอะไรจาก Hafele เลย ยกเว้นตู้ดึงที่สูงถึงเพดาน และสามีเราต้องการบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า (เตาอบ เตาอินดักชั่น) ด้วยมากกว่า ก็เลยเลือกที่อื่น
2.เค้ารับทำเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น ดังนั้น พื้นที่ระหว่างเคาน์เตอร์และตู้ลอยที่เราจะติดกระเบื้องหรือโมเสส เราต้องหามาเอง โดยเค้ามีบริการทำให้ (อาจจะมีค่าบริการและเราต้องติดต่อเอง) ซึ่งเรามองว่าคนเวลาน้อยอย่างเราที่สั่งแทบทุกอย่างทาง line และ Internet จะไม่สะดวก เราก็เลยลดคะแนนเรื่องความสะดวกในการประสานงานลง
3.ความคล่องตัวในการเปลี่ยนแบบ หรือความตั้งใจในการเปลี่ยนแบบตามความต้องการของลูกค้ามีน้อยกว่าคู่แข่ง
4.ตอนที่ได้รูปครัวมา เราได้มาเป็นรูปวาดมาให้ แต่ไมได้แบบเรนเดอร์ภาพเสมือน ซึ่งก็พอดูออก แต่มันมีคนที่เค้าทำภาพเสมือนมาให้ มันก็ทำให้เราเห็นความแตกต่าง
5.เราคิดว่าน้องที่เค้ามาวัดหน้างาน เค้าไม่ค่อยสนใจเรา เราก็เลยเกิดความลังเลว่า ขนาดมาวัดหน้างาน เค้ายังดูไม่ค่อยสนใจความต้องการของลูกค้า แล้วถ้าเราให้เค้าทำให้เราจริง คนอื่น ๆ ในทีมจะเป็นยังไง นอกจากนี้เรายังคิดว่าน้องเค้ามีความชำนาญในงานน้อย คือสังเกตเราขอให้เค้าเสนอความเห็น ไอเดีย เค้าบอกว่า “แล้วแต่ลูกค้าชอบ” แต่ในบางเรื่องเช่นการวางเตาอบ เค้าก็ยืนกระต่ายขาเดียวว่า แบบที่เค้าเสนอจะสวยกว่า (ก็สวยกว่านะ แต่พี่ไม่สะดวกค่ะ เพราะพื้นที่มีข้อจำกัดแล้ว) คือไม่ใช่ว่าน้องเค้าแย่นะคะ น้องเค้าก็ใช้ได้ ถ้าคะแนนเต็ม 10 เราให้ 6 ( แต่มีคนแย่กว่านี้เยอะ และหลายคนที่เราคุยด้วยทางโทรศัพท์ไม่รู้เรื่อง เราไม่ให้มาวัดหน้างานเลยค่ะ) แต่เค้าอาจจะประสบการณ์น้อยไปแค่นั้น ซึ่งถ้าฝึกต้องดีขึ้นแน่นอน
ข้อดีของ Hollywood
1.เค้ามีสีและวัสดุตัวเคาน์เตอร์ หน้าท๊อปให้เลือกเยอะหลากหลายมากกกกกกกกกกก แบบก็สามารถทำได้หลายสไตล์ คือถึงแม้ว่าเราจะต้องไปหาโมเสสหรือกระเบื้องมาติดผนังเอง ถ้าอยากได้ความหลากหลาย เราก็ว่าที่นี่มีนะ ในขณะที่หลาย ๆ ร้าน หรือบริษัท จะมีสี แบบ และวัสดุที่จำกัด
2.การประสานงานโดยรวมพอใช้ ให้คะแนน 7 คะแนน และมีการตามงานค่ะ คือทำราคา ทำแบบมา แล้วมีมาถามว่าสนใจหรือไม่ วางมัดจำเมื่อไหร่ แต่ขาดตรงถามไถ่ความต้องการของลูกค้าไปนิด ถ้าเพิ่มได้จะดีมาก
4.KVIK (http://www.kvik.co.th/)ครัวแบรนด์ยุโรปจากประเทศเดนมาร์ค ดีไซน์ดีสวยงามน่าใช้ แต่ KVIK Thailand มีตัวเลือกน้อยมากและสีจำกัด ถ้าตรงกับความต้องการคือสีดำ สีขาว ก็สามารถดูไว้เป็นตัวเลือกได้ค่ะ เซลพูดจาดีมากโดยเฉพาะสาขาพระรามเก้าและตอนขายบอกว่าทำได้ทุกอย่าง แต่วันวัดหน้างานจริง หลายอย่างทำไม่ได้เพราะของที่เค้าสั่งมามีตัวเลือกน้อย
ข้อดี
1.เป็นแบรนด์ยุโรป ชื่อเสียงเชื่อถือได้
2.บริการดี ไม่เสียค่าบริการในการให้ไปวัดพื้นที่
ข้อเสีย
1.เจ้าหน้าที่อยากไปวัดหน้างานช่วง วันจันทร์ - ศุกร์ เท่านั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราที่จะจัดเวลา แต่ถ้าเป็นมาดามเฝ้าบ้านตลอดก็จัดไปค่ะ
2.ราคาสูงกว่าบริษัทคนไทย (เค้าขายแบรนด์) แต่เท่าที่เราดูวัสดุมันไม่น่าจะแพง แค่ MDF หรือ ปาร์ติเกิ้ล ดีไซน์นอกแต่มันก็ทำมาจากเมืองจีนอะนะ เพือนเราคนเดนมาร์คงงว่าทำไม ที่เมืองไทย แบรนด์นี้กลายเป็นของไฮโซ ทั้ง ๆ ที่เดนมาร์คมันก็คือยี่ห้อที่คนทั่วไปใช้กัน (คนรวยมาก ๆ ใช้ยี่ห้ออื่น)
3.วัสดุทั้งตู้ หน้าบาน สีมีให้เลือกจำกัด คือราคาสูงขนาดนี้แต่วัสดุเป็นแค่ปาร์ติเกิ้ลเองอะและมีเพือนบอกว่าใช้งานหนักไม่ได้ มันบวม อันนี้เป็นข้อที่กลัวมากค่ะ
4.แบบถังขยะที่เป็นบิ้วอินในเคาน์เตอร์มันเป็นแบบไม่มีฝาปิดหรือที่เป็นฝาปิดก็ต้องยกเปิดปิดเอง ซึ่งเราว่ามันไม่สะดวกและไม่เหมาะสมกับครัวเมืองร้อนอย่างบ้านเรา
5.ตอนที่เราไปคุยกับเซลหรือเพือนเราที่ใช้ยี่ห้อนี้ เซลบอกทำได้ทุกอย่าง tailor made แต่เอาเข้าจริง เราขอเคาน์เตอร์เข้ามุม (Pantry หน้าห้องครัว) เค้าบอกทำไม่ได้ ความยาวไ