เรื่องมีอยู่ว่า..เราไปค้ำประกันรถมอเตอร์ไซต์และโทรศัพท์มือถือให้แฟนเก่า
:: โทรศัพท์ก่อนเลยนะคะ
ประมาณปลายปี 58 เราได้ไปค้ำประกันโทรศัพท์ J7 2016 ให้แฟนเก่าค่ะ
ตอนนั้นเราทำอาชีพค้าขาย เลยค้ำให้ได้
และก็ด้วยความไว้ใจค่ะ คบกันมาก็ 5 ปีได้ค่ะ พอหลังจากได้โทรศัพท์มาก็เห็นเค้าใช้อยู่ปกตินะคะ จนเข้าเดือนที่ 3 เค้าก็มาบอกว่าโทรศัพท์รวนเอาไปเข้าศูนย์ ก็ไม่ได้เอะใจอะไรค่ะ เพราะไม่ได้มีจนหมายทวงหรืออะไรมาที่บ้านเราเลย
:: รถมอเตอร์ไซน์ 2 คัน (เวฟ 125 )
และก็ช่วงปลายปี 58 เช่นกัน แฟนเราได้มาขอให้เราช่วยค้ำรถมอเตอร์ไซน์ให้อีก
โดยเค้าบอกว่าจะเอาไปให้น้องใช้และตัวเค้าจะเอาไว้ใช้ทำงานด้วย (แฟนเก่าเราตอนนั้นทำงานเก็บเงินกู้ค้ะเป็นลูกน้อง)
โดยมันบอกว่าจะให้เราค้ำ 2 คันเพราะจำเป็นจริงๆ ตอนแรกเราไม่ค้ำให้เพราะเราไม่อยากค้ำเฉยๆนี่แหละค่ะ ให้มันไปขอความช่วยเหลือจากญาติพี่น้องมัน สุดท้ายก็ไม่มีใครมาให้ได้ มันบอกว่า พ่อมันติดค้ำรถและส่งอะไรหลายอย่างให้ทางไฟแนนซ์ลองเช็คแล้วไม่ได้ ส่วนแม่มันก็ไม่มีอาชีพ บลาๆๆ
สุดท้ายเราก็ใจอ่อนค่ะ เพราะด้วยความไว้ใจ และเชื่อใจมันออกรถเวฟ 125 ในเดือนนั้น 2 คันเลค่ะ ต้นเดือนและกลางเดือน โดยใช้เงื่อนไขเดียวกันคือวางเงินดาวน์ 8000 บาท รับรถได้เลย ออกทั้งหมด 2 ร้าน ร้านละ 1 คัน
(เราก็ยังสงสัยทำไมออกรถง่ายจัง) แต่ก็ไม่ได้เอะใจอีก่ะ เพราะเราก็เห็นรถมันใช้อยู่ส่วนอีกคันก็บอกเอาไปให้น้องใช้ มันบอกว่าทั้งหมดมันส่งเอค่ะ
หลังจากออกรถมาได้ สัก 2 เดือน เราทะเลาะกันรุนแรงค่ะถึงขั้นลงไม้ลงมือ เราเลยเลิก ก็มีมาง้ออยู่เเรกๆประมาณอาทิตย์นึงแต่เราไม่ยอมคืนดีแล้วมันก็หายไปเลย โดยที่ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
......
ผ่านไปอีกสัก 1 เดือนหลังเลิกกัน มีไฟแนนซ์มาตามค่างวดรถมอร์เตอร์ไซด์ที่บ้านเราคะ 2 คันเลย (มาบริษัทละวันกันนะคะ) บอกว่าติดต่อแฟนเราไม่ได้ เราก็บอกว่าเราเลิกกันไปแล้วและไม่ได้ติดต่อ เค้าก็ชอเบอร์เราไปเราก็ให้ไป
.....
ผ่านไปอาทิตย์นึง มีเจ้าหน้าที่เข้ามาทวงค่าโทรศัพท์ที่เราไปค้ำโดยบอกว่าแฟนเราไม่เคยจ่ายเลยสักงวดเดียวเราก็บอกไปแบบเดิมค่ะ แล้วเค้าก็กลับไป
เราเริ่มไม่สบายใจเลยทักไปหาแฟนเก่า ให้ไปเปลี่ยนสัญญาคนค้ำซะ หรือถ้าไม่มีตังจ่ายให้เอารถเอาโทรศัพท์ให้เค้ายึดคืนไป
คำตอบที่ได้คือมันบอกว่ามันขายไปหมดแล้ว ส่วนตังมันก็เอาไปใช้หมดแล้ว ????
สตั้นเลยค่ะ เราก็ถามว่าจะเอาไง
ถ้างั้นให้เข้ามาเปลี่ยนสัญญาให้ไวที่สุด
ทั้งโทรไปที่บ้านมันที่บ้านมันก็ไม่รับผิดชอบ
หรือรับรู้อะไรทั้งสิ้น
ตัวมันก็ผลัดเรามาเรื่อยๆจนในที่สุดมันปิดเฟสหนีเราค้ะ ไปตามที่บ้านไปทุกที่ที่คิดว่ามันจะไปก็ไม่เจอตัวถามใครที่รู้จักก็บอกติดต่อไม่ได้
จนเราท้อ แล้วก็เลิกตามไป
ช่วงๆนั้นก็มีไฟแนนซ์โทรมาหาเป็นระยะๆ แต่เราก็บอกไปว่าเราไม่มีจ่ายให้แล้วก็กำลังตามให้รู้สึกว่าจะโทรมาถามโทรมาตามอยู่2 ครั้งค้ะแล้วก็เงียบไปเลย
จนล่าสุดเมื่อวานนี้มีหมายศาลค่าโทรศัพท์มาแล้วค้ะ แล้วก็คิดว่าอีกไม่นานค่ารถจะต้องตามมาแน่ๆ เรียกให้ไปไกล่เกลี่ยค่ะ
เครียดมากตอนนี้เรากำลังเรียนต่อ ปวส.
และไม่ได้ทำงานอะไรเลย ทรัพย์สินส่วนตัวก็ไม่มีค่ะ มีรถมอร์เตอร์ไซน์แต่เป็นชื่ออา
เราเครียดมาก กลัวว่าเค้าจะเอาเราเข้าคุกหรือต้องรับผิดชอบทั้งหมดเราก็ไม่มีค่ะ
ให้ตามคนซื้อคงยากค่ะ เราหามาหมดหาทางติดต่อทุกทางยังหาไม่เจอเลย เราควรทำยังไงดีคะ ขอคำแนะนำที
ทำยังไงดีคะ เป็นคนค้ำประกันแล้วโดนหมายศาลเรียก
:: โทรศัพท์ก่อนเลยนะคะ
ประมาณปลายปี 58 เราได้ไปค้ำประกันโทรศัพท์ J7 2016 ให้แฟนเก่าค่ะ
ตอนนั้นเราทำอาชีพค้าขาย เลยค้ำให้ได้
และก็ด้วยความไว้ใจค่ะ คบกันมาก็ 5 ปีได้ค่ะ พอหลังจากได้โทรศัพท์มาก็เห็นเค้าใช้อยู่ปกตินะคะ จนเข้าเดือนที่ 3 เค้าก็มาบอกว่าโทรศัพท์รวนเอาไปเข้าศูนย์ ก็ไม่ได้เอะใจอะไรค่ะ เพราะไม่ได้มีจนหมายทวงหรืออะไรมาที่บ้านเราเลย
:: รถมอเตอร์ไซน์ 2 คัน (เวฟ 125 )
และก็ช่วงปลายปี 58 เช่นกัน แฟนเราได้มาขอให้เราช่วยค้ำรถมอเตอร์ไซน์ให้อีก
โดยเค้าบอกว่าจะเอาไปให้น้องใช้และตัวเค้าจะเอาไว้ใช้ทำงานด้วย (แฟนเก่าเราตอนนั้นทำงานเก็บเงินกู้ค้ะเป็นลูกน้อง)
โดยมันบอกว่าจะให้เราค้ำ 2 คันเพราะจำเป็นจริงๆ ตอนแรกเราไม่ค้ำให้เพราะเราไม่อยากค้ำเฉยๆนี่แหละค่ะ ให้มันไปขอความช่วยเหลือจากญาติพี่น้องมัน สุดท้ายก็ไม่มีใครมาให้ได้ มันบอกว่า พ่อมันติดค้ำรถและส่งอะไรหลายอย่างให้ทางไฟแนนซ์ลองเช็คแล้วไม่ได้ ส่วนแม่มันก็ไม่มีอาชีพ บลาๆๆ
สุดท้ายเราก็ใจอ่อนค่ะ เพราะด้วยความไว้ใจ และเชื่อใจมันออกรถเวฟ 125 ในเดือนนั้น 2 คันเลค่ะ ต้นเดือนและกลางเดือน โดยใช้เงื่อนไขเดียวกันคือวางเงินดาวน์ 8000 บาท รับรถได้เลย ออกทั้งหมด 2 ร้าน ร้านละ 1 คัน
(เราก็ยังสงสัยทำไมออกรถง่ายจัง) แต่ก็ไม่ได้เอะใจอีก่ะ เพราะเราก็เห็นรถมันใช้อยู่ส่วนอีกคันก็บอกเอาไปให้น้องใช้ มันบอกว่าทั้งหมดมันส่งเอค่ะ
หลังจากออกรถมาได้ สัก 2 เดือน เราทะเลาะกันรุนแรงค่ะถึงขั้นลงไม้ลงมือ เราเลยเลิก ก็มีมาง้ออยู่เเรกๆประมาณอาทิตย์นึงแต่เราไม่ยอมคืนดีแล้วมันก็หายไปเลย โดยที่ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
......
ผ่านไปอีกสัก 1 เดือนหลังเลิกกัน มีไฟแนนซ์มาตามค่างวดรถมอร์เตอร์ไซด์ที่บ้านเราคะ 2 คันเลย (มาบริษัทละวันกันนะคะ) บอกว่าติดต่อแฟนเราไม่ได้ เราก็บอกว่าเราเลิกกันไปแล้วและไม่ได้ติดต่อ เค้าก็ชอเบอร์เราไปเราก็ให้ไป
.....
ผ่านไปอาทิตย์นึง มีเจ้าหน้าที่เข้ามาทวงค่าโทรศัพท์ที่เราไปค้ำโดยบอกว่าแฟนเราไม่เคยจ่ายเลยสักงวดเดียวเราก็บอกไปแบบเดิมค่ะ แล้วเค้าก็กลับไป
เราเริ่มไม่สบายใจเลยทักไปหาแฟนเก่า ให้ไปเปลี่ยนสัญญาคนค้ำซะ หรือถ้าไม่มีตังจ่ายให้เอารถเอาโทรศัพท์ให้เค้ายึดคืนไป
คำตอบที่ได้คือมันบอกว่ามันขายไปหมดแล้ว ส่วนตังมันก็เอาไปใช้หมดแล้ว ????
สตั้นเลยค่ะ เราก็ถามว่าจะเอาไง
ถ้างั้นให้เข้ามาเปลี่ยนสัญญาให้ไวที่สุด
ทั้งโทรไปที่บ้านมันที่บ้านมันก็ไม่รับผิดชอบ
หรือรับรู้อะไรทั้งสิ้น
ตัวมันก็ผลัดเรามาเรื่อยๆจนในที่สุดมันปิดเฟสหนีเราค้ะ ไปตามที่บ้านไปทุกที่ที่คิดว่ามันจะไปก็ไม่เจอตัวถามใครที่รู้จักก็บอกติดต่อไม่ได้
จนเราท้อ แล้วก็เลิกตามไป
ช่วงๆนั้นก็มีไฟแนนซ์โทรมาหาเป็นระยะๆ แต่เราก็บอกไปว่าเราไม่มีจ่ายให้แล้วก็กำลังตามให้รู้สึกว่าจะโทรมาถามโทรมาตามอยู่2 ครั้งค้ะแล้วก็เงียบไปเลย
จนล่าสุดเมื่อวานนี้มีหมายศาลค่าโทรศัพท์มาแล้วค้ะ แล้วก็คิดว่าอีกไม่นานค่ารถจะต้องตามมาแน่ๆ เรียกให้ไปไกล่เกลี่ยค่ะ
เครียดมากตอนนี้เรากำลังเรียนต่อ ปวส.
และไม่ได้ทำงานอะไรเลย ทรัพย์สินส่วนตัวก็ไม่มีค่ะ มีรถมอร์เตอร์ไซน์แต่เป็นชื่ออา
เราเครียดมาก กลัวว่าเค้าจะเอาเราเข้าคุกหรือต้องรับผิดชอบทั้งหมดเราก็ไม่มีค่ะ
ให้ตามคนซื้อคงยากค่ะ เราหามาหมดหาทางติดต่อทุกทางยังหาไม่เจอเลย เราควรทำยังไงดีคะ ขอคำแนะนำที