หลายคนที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 1,2,3) เพราะหวังว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นในขณะขับขี่รถยนต์โดยเฉพาะประกันชั้น 1 ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ทางบริษัทประกันจะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลและเคลียร์เหตุการณ์ให้ ซึ่งสิ่งนี้ก็นับว่าเป็นข้อดีที่คนส่วนใหญ่เลือกทำประกัน และในการเลือกซื้อประกันหลายคนก็มักจะมองว่าเบี้ยประกันที่ไหนถูกกว่ากัน ทุนประกันบริษัทไหนจะให้สูงกว่ากัน อู่บริษัทไหนจะมีให้เลือกมากกว่ากัน ตลอดจนบริษัทประกันไหนจะมีชื่อเสียงในการให้บริการ และมีความรวดเร็วมากกว่ากัน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกซื้อประกันชั้น 1 เพื่อความสะบายใจในการขับรถ
จนกระทั้งวันหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุรถผมถูกชนท้าย ผมและคู่กรณีลงมาเคลียร์กันและไปตกลงกันที่โรงพัก เจ้าหน้าที่บริษัทประกันทั้งของผมและคู่กรณีต่างมาที่เกิดเหตุด้วยกันทั้งคู่ (ขอสงวนชื่อบริษัทฯ) เมื่อดูที่เกิดเหตุแล้วชัดเจนว่าคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด ร้อยเวรปรับเงินคู่กรณี 400 บาท ประกันคู่กรณีรับผิดชอบในการซ่อมรถให้ บริษัทประกันผมออกใบเคลมให้ผมเอารถเข้าอู่ได้ เราเลยต่างแยกย้ายกันกลับ ระหว่างทางน้องที่นั่งมาด้วยบ่นว่าปวดหัว แต่คิดว่าคงไม่เป็นไรน่าจะเคล็ดขัดยอก จนวันรุ่งขึ้นก็ยังไม่หายปวด น้องเค้าจึงไปโรงพยาบาล โดยใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพของบริษัทฯ น้องเค้าได้เล่าว่าเมื่อวานเกิดอุบัติเหตุแล้ว มีอาการปวดหัวเล็กน้อย แต่วันนี้ปวดมากขึ้น หมอจึงเอาไปเอ็กซ์เรย์ ปรากฎว่ากระโหลกร้าว เพราะตอนชนน้องนั่งเบาะหลังแล้วหัวมากระแทกเบาะหน้า หมอนัดมาทำการรักษาเป็นระยะซึ่งน้องเค้าก็ใช้บัตรประกันสุขภาพในการรักษามาตลอด จนกระทั้งจำนวนครั้งในการรักษาหมดประกัน (เข้ารักษาได้ 30 ครั้งต่อปี ตามวงเงินที่กำหนด) จึงแจ้งบริษัทประกันของรถผมให้ทราบเพื่อให้ช่วยเหลือค่าใช้จ่าย เพราะเราเป็นประกันชั้น 1 อย่างไงบริษัทประกันก็คงดูแล แต่ผิดคาดบริษัทประกันแจ้งว่าเราเป็นฝ่ายถูก ต้องให้คู่กรณีรับผิดชอบ ไม่ใช่บริษัทประกันรับผิดชอบ ทางประกันผมมีน้ำใจโทรนัดบริษัทฯประกันคู่กรณีให้ไปเจรจารกันที่โรงพัก เมื่อไปถึงปรากฎว่าประกันคู่กรณ๊บอกยังรับผิดชอบให้ไม่ได้ต้องใช้สิทธิ์ พรบ.ก่อน หากวงเงินค่ารักษาเกิน 8 หมื่น บริษัทประกันจะรับผิดชอบต่อ ซึ่งพรบ.ของคู่กรณีที่ชนเป็นบริษัทอะไรก็ไม่ทราบผมต้องไปคุยเอาเอง แต่ก็ยังมีน้ำใจให้เบอร์โทรคู่กรณีให้ผมไปเจราเอาเอง ผมโทรไปคู่กรณีรับสายเมื่อเล่าเหตุการณ์ให้ฟังคู่กรณีแจ้งว่าเราเค้ามีประกันชั้น 1 ก็ไปตกลงกับประกันเอาเอง ผมบอกว่าทางประกันคุณให้โทรมาเพื่อเอา พรบ.จากคุณ ทางคู่กรณีบอกว่ายังไม่ว่างติดงาน และรถอยู่อู่ ไกล รออาทิตย์นึง (คือคนเจ็บต้องรักษาแต่ให้รอ 1 อาทิตย์) เลยโทรไปที่ประกันชั้น 1 คู่กรณีให้ช่วยเร่งรัดให้หน่อย ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ใช่หน้าที่เค้า ไปเร่งให้ไม่ได้ ถ้าอยากไวก็ไปแจ้งร้อยเวร ให้ร้อยเวรโทรเรียกคู่กรณีมา ผมจึงโทรไปประกันผมว่าให้ช่วยหน่อย หรือขอใช้สิทธิ์ พรบ.ของรถผมรักษาแทนก่อนได้ไหม (พรบ.กับประกันชั่น 1 ของผมเป็นบริษัทเดียวกัน) เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ได้ เราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด เรารับผิดชอบแทนให้ไม่ได้ ต้องให้คู่กรณีมารับผิดชอบ
ตกลง...ถ้าผมเป็นฝ่ายถูก ผมต้องเดินเรื่องเองหมดเลยใช่ไหม ถ้าคู่กรณีไม่มี พรบ. จะเรียกร้องค่ารักษาจากใคร ถ้าเรียกร้องกับคู่กรณีแล้วเค้าไม่มีเงิน ใครจะเป็นคนจ่ายค่ารักษา หรือคนเจ็บที่เป็นฝ่ายถูกต้องรักษากันเอาเอง ตกลงประกันชั้น 1 ไม่ได้เทพอย่างที่เราคิดใช่ไหม
เมื่อประกันชั้น 1 ไม่ได้เทพอย่างที่คิด
จนกระทั้งวันหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุรถผมถูกชนท้าย ผมและคู่กรณีลงมาเคลียร์กันและไปตกลงกันที่โรงพัก เจ้าหน้าที่บริษัทประกันทั้งของผมและคู่กรณีต่างมาที่เกิดเหตุด้วยกันทั้งคู่ (ขอสงวนชื่อบริษัทฯ) เมื่อดูที่เกิดเหตุแล้วชัดเจนว่าคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด ร้อยเวรปรับเงินคู่กรณี 400 บาท ประกันคู่กรณีรับผิดชอบในการซ่อมรถให้ บริษัทประกันผมออกใบเคลมให้ผมเอารถเข้าอู่ได้ เราเลยต่างแยกย้ายกันกลับ ระหว่างทางน้องที่นั่งมาด้วยบ่นว่าปวดหัว แต่คิดว่าคงไม่เป็นไรน่าจะเคล็ดขัดยอก จนวันรุ่งขึ้นก็ยังไม่หายปวด น้องเค้าจึงไปโรงพยาบาล โดยใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพของบริษัทฯ น้องเค้าได้เล่าว่าเมื่อวานเกิดอุบัติเหตุแล้ว มีอาการปวดหัวเล็กน้อย แต่วันนี้ปวดมากขึ้น หมอจึงเอาไปเอ็กซ์เรย์ ปรากฎว่ากระโหลกร้าว เพราะตอนชนน้องนั่งเบาะหลังแล้วหัวมากระแทกเบาะหน้า หมอนัดมาทำการรักษาเป็นระยะซึ่งน้องเค้าก็ใช้บัตรประกันสุขภาพในการรักษามาตลอด จนกระทั้งจำนวนครั้งในการรักษาหมดประกัน (เข้ารักษาได้ 30 ครั้งต่อปี ตามวงเงินที่กำหนด) จึงแจ้งบริษัทประกันของรถผมให้ทราบเพื่อให้ช่วยเหลือค่าใช้จ่าย เพราะเราเป็นประกันชั้น 1 อย่างไงบริษัทประกันก็คงดูแล แต่ผิดคาดบริษัทประกันแจ้งว่าเราเป็นฝ่ายถูก ต้องให้คู่กรณีรับผิดชอบ ไม่ใช่บริษัทประกันรับผิดชอบ ทางประกันผมมีน้ำใจโทรนัดบริษัทฯประกันคู่กรณีให้ไปเจรจารกันที่โรงพัก เมื่อไปถึงปรากฎว่าประกันคู่กรณ๊บอกยังรับผิดชอบให้ไม่ได้ต้องใช้สิทธิ์ พรบ.ก่อน หากวงเงินค่ารักษาเกิน 8 หมื่น บริษัทประกันจะรับผิดชอบต่อ ซึ่งพรบ.ของคู่กรณีที่ชนเป็นบริษัทอะไรก็ไม่ทราบผมต้องไปคุยเอาเอง แต่ก็ยังมีน้ำใจให้เบอร์โทรคู่กรณีให้ผมไปเจราเอาเอง ผมโทรไปคู่กรณีรับสายเมื่อเล่าเหตุการณ์ให้ฟังคู่กรณีแจ้งว่าเราเค้ามีประกันชั้น 1 ก็ไปตกลงกับประกันเอาเอง ผมบอกว่าทางประกันคุณให้โทรมาเพื่อเอา พรบ.จากคุณ ทางคู่กรณีบอกว่ายังไม่ว่างติดงาน และรถอยู่อู่ ไกล รออาทิตย์นึง (คือคนเจ็บต้องรักษาแต่ให้รอ 1 อาทิตย์) เลยโทรไปที่ประกันชั้น 1 คู่กรณีให้ช่วยเร่งรัดให้หน่อย ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ใช่หน้าที่เค้า ไปเร่งให้ไม่ได้ ถ้าอยากไวก็ไปแจ้งร้อยเวร ให้ร้อยเวรโทรเรียกคู่กรณีมา ผมจึงโทรไปประกันผมว่าให้ช่วยหน่อย หรือขอใช้สิทธิ์ พรบ.ของรถผมรักษาแทนก่อนได้ไหม (พรบ.กับประกันชั่น 1 ของผมเป็นบริษัทเดียวกัน) เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ได้ เราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด เรารับผิดชอบแทนให้ไม่ได้ ต้องให้คู่กรณีมารับผิดชอบ
ตกลง...ถ้าผมเป็นฝ่ายถูก ผมต้องเดินเรื่องเองหมดเลยใช่ไหม ถ้าคู่กรณีไม่มี พรบ. จะเรียกร้องค่ารักษาจากใคร ถ้าเรียกร้องกับคู่กรณีแล้วเค้าไม่มีเงิน ใครจะเป็นคนจ่ายค่ารักษา หรือคนเจ็บที่เป็นฝ่ายถูกต้องรักษากันเอาเอง ตกลงประกันชั้น 1 ไม่ได้เทพอย่างที่เราคิดใช่ไหม