อัสลามมูอาลัยกุม!! สวัสดีคะพ่อแม่พี่น้องชาวพันทิปทุกท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเลยที่จะมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวฮ่องกงเองแบบ ละเอียดยิบของสามสาวมุสลิมะตัวน้อยๆและอีกหนึ่งหนุ่มน้อยหน้ามน
ก่อนอื่นแนะนำให้โหลดแอพ MTR Mobile มาก่อน ซึ่งเป็นแอพที่จะบอกสายรถไฟฟ้า รถบัสและอื่นๆเกี่ยวกับการเดินทางไว้ เป็นแอพที่เป็นประโยชน์มากๆ
วันที่ 1
Airport>>Hotel>> Islamic Centre Canteen>>Blue house+Wan Chai Post Office>>Hollywood Road>>The Peak>>Hotel
ทริปนี้เราเลือกที่จะบินตรงจากภูเก็ตถึงฮ่องกงด้วยสายการบิน ไฟล์ตี 3 ถึงสนามบินฮ่องกง 7.30 น.
การซื้อบัตร Octopus เราสามารถซื้อได้เลยที่สนามบิน เมื่อเอากระเป๋าเสร็จ ออกมาจะมาเจอ เคาน์เตอร์ Airport Express อยู่ตรงหน้า Arrival Hall เราสามารถซื้อกับพนักงานได้เลย โดยราคาบัตรผู้ใหญ่ ราคา 150 HKD แบ่งเป็นค่ามัดจำ 50 HKD ส่วนที่เหลือเป็นเงินไว้ใช้จ่าย 100 HKD
การเดินทางเข้าเมือง เราสามารถเลือกวิธีการเดินทางได้หลายวิธีทั้ง Airport Exprees, City Bus และ Taxi
เราเลือกที่จะนั่ง City Bus เพราะโรงแรมที่เราจองไว้อยู่แถวสถานีรถไฟฟ้า Jodan ซึ่งรถบัสสายรถ Cityflyer A21 ผ่านพอดี เราจะขึ้น Cityflyer A21 โดยเดินออกจากสนามบินไปยัง bus terminal ซึ่งจะมีป้ายเขียนบอกไว้ รถ Cityflyer A21 จะผ่านถนน Jordan ให้ลงสถานีที่ 11 Prudential Centre, Nathan Road จ่ายเงินโดย ให้เอาบัตร Octopus Card ไปแปะเครื่องจ่ายเงินตอนขึ้นรถ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ค่ารถโดยสารสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ HK$33 ซึ่งราคาจะถูกว่า Airport Express
โชคดีที่ตอนเราไปถึง ห้องที่เราจองไว้ทำความสะอาดเสร็จพอดี ทางโรงแรมเลยให้เราเช็คอินได้เลย หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ เราออกจากโรงแรมไปกินอาหารเช้ากันที่ Islamic Centre Canteen ถนน Oi Kwan ลง MTR Wanchai เดินประมาณ 750 เมตรก็ถึง
เมื่อเข้าไปใน Islamic Centre Canteen ให้ขึ้นลิฟไปที่ชั้น 4 จะเป็นร้านอาหารฮาลาล ก็จะมีอาหารหลายอย่าง ทั้งติ่มซำ ข้าวผัด หมี่ผัด หรือเป็นกับข้าว วิธีการสั่งติ่มซำให้เราไปสั่งที่เคาเตอร์พร้อมกระดาษที่พนักงานเสิร์ฟให้เรามา เขาจะมีภาพมาให้เราเลือก เราก้ชี้ๆไปว่าเอาอะไรบ้าง แล้วมารอที่โต๊ะได้เลย เขาจะเอามาเสิร์ฟเอง พูดถึงติ่มซำที่นี่รสชาตน้ำจิ้มจะออกเค็มๆหน่อย มื้อนี้เราจ่ายไปทั้งหมด 250 HKD
หลังจากนั้นเราก็เดินไปไปรษณีย์หว่านไจ๋ โดยออกจาก Islamic Centre Canteen เลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยก เดินผ่านโรงเรียน ก็จะเจอบันได ให้เดินขึ้นบันได ขึ้นมาสุดก็จะเป็นโรงพยาบาล จากนั้นเลี้ยวขวา เดินไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอ Blue House
เดินต่อมาอีกหน่อยเราก็จะเจอไปรษณีย์หว่านไจ๋
ต่อไป Hollywood road นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสีแดงไปลงที่ Sheung Wan MTR Exit A2 จากนั้งเดินไปบนถนน Ladder Street จนถึง Hollywood Road ย่านนี้เป็นย่านเมืองเก่า เราสามารถเดินเล่นได้เรื่อยๆ ไปจนถึงสถานี Central ย่านนี้ผู้คนพลุกพล่าน เราจะเห็นรถรางผ่านตลอด ทำให้เราสามารถเดินเล่นถ่ยรูปชิคๆได้
จากนั้นเราจะเดินทางขึ้นไปชมวิวที่ The Peak โดยวิธีการขึ้นไปก็มีหลายวิธี ทั้งแท๊กซี่ซึ่งราคาค่อนข้างแพง รถราง หรือรถเมล์ ถ้าใครอยากขึ้นรถรางได้ที่ Peak Tram Lower Terminus ถ้าใครอยากไปตอนเย็น แนะนำว่าให้รีบไป เพราะคนต่อแถวเยอะมาก หรือถ้าไม่ขึ้นรถราง เราสามารถขึ้นรถเมล์สาย 15 จากสถานี Central ให้ออกทางออก A ข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม เดินไปทางซ้าย จะมีทางลงไปใต้ตึก เป็นที่จอดรถเมล์สาย 15 จะมีเวลารถเที่ยวถัดไปเขียนไว้
แนะนำว่าถ้าใครขึ้นรถเมล์ให้นั่งชั้นบนฝั่งซ้าย เพราะจะตื่นเต้นนิดๆ นั่งไปจนสุดสายก็จะถึง The Peak พอดี ใช้เวลาประมาณ 1 ชม เพราะช่วงเย็นๆรถค่อนข้างติด ค่าโดยสาร 9.8 HKD สามารถจ่ายกับบัตร Octopus ได้เลย
ถ้าขึ้นไปช่วงเย็นๆจะเห็นบรรยากาสช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตก จนกระทั่งตึกต่างๆ ต่างก็เปิดไฟ ทำให้เราได้บรรยากาศทั้งกลางวันแลกลางคืน
ขากลับเราก็เลือกลงรถเมล์เหมือนเดิม เพราะThe Peak Tram มีคณะทัวร์ลงพอดี เราเลยเลือกนั่งรถเมล์เหมือเดิม หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับโรงแรม
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่1
ซื้อบัตร Octipus Card 200 HKD
ค่าติ่มซำ 250 HKD/4 คน ตกคนละ 62.50 HKD ประมาณ 266 บาท
รวมค่าใช้จ่ายต่อคน 262.50 HKD
วันที่ 2
Hotel>>Hongkong Macao Ferry Terminal>> Senado Square>> Ruins of St. Paul's>> Rua da Felicidade>> Venetian Macao>>Hongkong>>Dinner at Tsim Sha Tsui>>Hotel
ตอนแรกเรากะว่าจะตื่นกันเช้าหน่อยเพราะเราจะไปมาเก๊ากัน แต่เพราะเมื่อวานเราเหนื่อยกันมาก ทำให้วันนี้เราตื่นกันสาย มื้อเช้าจะเลือกเป็นร้านขนมปังแถวๆโรงแรม จากนั้นไปมชท่าเรือโดยการนั่ง MTR ลง Sheung Wan station เดินตามป้ายที่ท่าเรือ Hongkong Macao Ferry Terminal ซื้อตั๋วของ Turbo Jet ราคา 177 HKD ที่เคาร์เตอร์จะมีคนยืนขายอยู่ ซึ่งราคาจะแพงกว่าราคาที่เราซื้อกับเคาร์เตอร์ แต่ถ้าใครไม่อยากรอนานก็สามารถซื้อกับเขาได้ เพราะจะได้รอบเรือที่เร็วกว่า
เมื่อได้ตั๋วแล้ว ให้เราเดินไปที่ departure hall ซึ่งตรงนี้เราต้องผ่านตม. เพื่อออกนอกฮ่องกง เมื่อผ่านตม.มาแล้ว ก็เดินตามป้านไปท่าจอดเรือของ Turbo Jet ให้เราถามพนักงานว่าตั๋วของเราอยู่ท่าไหน แล้วไปรอแถวๆนั้น การเดินทางจากฮ่องกง ไปมาเก๊าใช้เวลาประมาณ 1 ชม เรือจะจอดที่ท่า macau ferry terminal
เมื่อถึงท่าเรือฝั่งมาเก๊า จะมีรถ Shuttle bus ฟรีเพื่อไปยังโรงแรมต่างๆ โดยหากออกมาจากอาคารแล้ว ให้เดินข้ามถนนโดยมีทางเดินอุโมงค์ลอดถนนไปยังท่ารถได้ ซึ่งเราเลือกนั่ง Shuttle bus ของโรงแรม Lisboa ไปลง Senado Square เพื่อเดินต่อไปยัง Senado Square ได้เลย ประมาณ700 เมตร
จาก Senado Squareเราสามารถเดินตามฝูงชนไปเรื่อยจนถึง ซากเซนต์ปอล Ruins of St. Paul's, Macau
เราสามารถเดินต่อไปย่านโคมแดง Rua da Felicidade โดยให้เดินกลับมาที่ Senado Square จากนั้นให้เลี้ยวขวา เดินประมาณ 300 เมตร ให้เข้าซอยเล็กๆ ทางซ้ายมือ
จากนั้นเราก็เดินทางไป Venetian Macao เราสามารถ เดินกลับมาขึ้นรถฟรีที่โรงแรม Lisboa เพื่อกลับไปยังท่าเรือ และนั่งรถฟรีของ Venetian Macaoจากท่าเรือไป Venetian Macaoฟรีได้ หรือจะเลือกนั่งแท็กซี่จาก แถว Senado Square ไป Venetian Macao ประมาณ 80 HKD ที่ Venetian Macao จะมีร้านอาหารฮาลาลอยู่ ชื่อร้าน Golden Peacock แต่ราคาค่อนข้างสูง เหมือนเดิมเราเลือกกินขนมปังที่เราซื้อไปจากไทยมากินˆˆ
จาก Venetian Macao เราสามารถไปหมู่บ้านไทปาได้ แต่เราไม่ได้ไป เพราะมัวแต่ดินเล่นในเวเนเชี่ยนจนค่ำพอดี จาก Venetian Macao เราก็นั่งรถฟรีกลับมาที่ท่าเรือ macau ferry terminal ตั๋วเรือของ Turbo Jet จากมาเก๊าราคา 188 HKD
เมื่อมาถึง Hongkong Macao Ferry Terminal เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Tsim Sha Tsui ออกทางออก A1 เราจะออกมาทางๆติดกับมัสยิดมาเกาลูนพอดี แถวนี้จะมีร้านอาหารอิสลามอยุ่หลายร้าน เดินออกจากรถไฟฟ้าเลี้ยวขวาข้ามถนนมาจะเป็นตึก ในตึกนี้จะมีทางเข้าอยุ่ให้เดินเข้าไปในตึก และกดลิฟท์ชั้น 2 ก็จะเจอร้านเลย วันนี้เราเลือกร้านอาหารอาหรับ รสชาติอาหารค่อนข้างดี แต่จะมีกลิ่นบารากู่อยู่นิดหน่อยพอตอนกลางวันร้านนี้จะบารากู่บริการด้วย สำหรับมื้อนี้ทั้งหมด 280 HKD
เมื่ออิ่มแล้ว เรากลับโรงแรมโดยจากจิมซาจุ่ย เราสามารถเดินกลับกลับโรงแรมได้เลย ประมาณ 1 กิโลเมตร
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 2
ค่าเรือขาไปมาเก๊า 177 HKD/คน
ค่าแท็กซี่ 72 HKD/4 คน
ค่าเรือขากลับจากมาเก๊า 188 HKD/คน
ค่าอาหาร 280 HKD /4คน ตกคนละประมาณ 298 บาท
รวมค่าใช้จ่ายต่อคน 365 HKD ประมาณ 1,552 บาท
ฮ่องกง มาเก๊า 4 วัน 3 คืน แบบฮาลาลสไตล์
ก่อนอื่นแนะนำให้โหลดแอพ MTR Mobile มาก่อน ซึ่งเป็นแอพที่จะบอกสายรถไฟฟ้า รถบัสและอื่นๆเกี่ยวกับการเดินทางไว้ เป็นแอพที่เป็นประโยชน์มากๆ
วันที่ 1
Airport>>Hotel>> Islamic Centre Canteen>>Blue house+Wan Chai Post Office>>Hollywood Road>>The Peak>>Hotel
ทริปนี้เราเลือกที่จะบินตรงจากภูเก็ตถึงฮ่องกงด้วยสายการบิน ไฟล์ตี 3 ถึงสนามบินฮ่องกง 7.30 น.
การซื้อบัตร Octopus เราสามารถซื้อได้เลยที่สนามบิน เมื่อเอากระเป๋าเสร็จ ออกมาจะมาเจอ เคาน์เตอร์ Airport Express อยู่ตรงหน้า Arrival Hall เราสามารถซื้อกับพนักงานได้เลย โดยราคาบัตรผู้ใหญ่ ราคา 150 HKD แบ่งเป็นค่ามัดจำ 50 HKD ส่วนที่เหลือเป็นเงินไว้ใช้จ่าย 100 HKD
การเดินทางเข้าเมือง เราสามารถเลือกวิธีการเดินทางได้หลายวิธีทั้ง Airport Exprees, City Bus และ Taxi
เราเลือกที่จะนั่ง City Bus เพราะโรงแรมที่เราจองไว้อยู่แถวสถานีรถไฟฟ้า Jodan ซึ่งรถบัสสายรถ Cityflyer A21 ผ่านพอดี เราจะขึ้น Cityflyer A21 โดยเดินออกจากสนามบินไปยัง bus terminal ซึ่งจะมีป้ายเขียนบอกไว้ รถ Cityflyer A21 จะผ่านถนน Jordan ให้ลงสถานีที่ 11 Prudential Centre, Nathan Road จ่ายเงินโดย ให้เอาบัตร Octopus Card ไปแปะเครื่องจ่ายเงินตอนขึ้นรถ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ค่ารถโดยสารสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ HK$33 ซึ่งราคาจะถูกว่า Airport Express
โชคดีที่ตอนเราไปถึง ห้องที่เราจองไว้ทำความสะอาดเสร็จพอดี ทางโรงแรมเลยให้เราเช็คอินได้เลย หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ เราออกจากโรงแรมไปกินอาหารเช้ากันที่ Islamic Centre Canteen ถนน Oi Kwan ลง MTR Wanchai เดินประมาณ 750 เมตรก็ถึง
เมื่อเข้าไปใน Islamic Centre Canteen ให้ขึ้นลิฟไปที่ชั้น 4 จะเป็นร้านอาหารฮาลาล ก็จะมีอาหารหลายอย่าง ทั้งติ่มซำ ข้าวผัด หมี่ผัด หรือเป็นกับข้าว วิธีการสั่งติ่มซำให้เราไปสั่งที่เคาเตอร์พร้อมกระดาษที่พนักงานเสิร์ฟให้เรามา เขาจะมีภาพมาให้เราเลือก เราก้ชี้ๆไปว่าเอาอะไรบ้าง แล้วมารอที่โต๊ะได้เลย เขาจะเอามาเสิร์ฟเอง พูดถึงติ่มซำที่นี่รสชาตน้ำจิ้มจะออกเค็มๆหน่อย มื้อนี้เราจ่ายไปทั้งหมด 250 HKD
หลังจากนั้นเราก็เดินไปไปรษณีย์หว่านไจ๋ โดยออกจาก Islamic Centre Canteen เลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยก เดินผ่านโรงเรียน ก็จะเจอบันได ให้เดินขึ้นบันได ขึ้นมาสุดก็จะเป็นโรงพยาบาล จากนั้นเลี้ยวขวา เดินไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอ Blue House
เดินต่อมาอีกหน่อยเราก็จะเจอไปรษณีย์หว่านไจ๋
ต่อไป Hollywood road นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสีแดงไปลงที่ Sheung Wan MTR Exit A2 จากนั้งเดินไปบนถนน Ladder Street จนถึง Hollywood Road ย่านนี้เป็นย่านเมืองเก่า เราสามารถเดินเล่นได้เรื่อยๆ ไปจนถึงสถานี Central ย่านนี้ผู้คนพลุกพล่าน เราจะเห็นรถรางผ่านตลอด ทำให้เราสามารถเดินเล่นถ่ยรูปชิคๆได้
แนะนำว่าถ้าใครขึ้นรถเมล์ให้นั่งชั้นบนฝั่งซ้าย เพราะจะตื่นเต้นนิดๆ นั่งไปจนสุดสายก็จะถึง The Peak พอดี ใช้เวลาประมาณ 1 ชม เพราะช่วงเย็นๆรถค่อนข้างติด ค่าโดยสาร 9.8 HKD สามารถจ่ายกับบัตร Octopus ได้เลย
ถ้าขึ้นไปช่วงเย็นๆจะเห็นบรรยากาสช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตก จนกระทั่งตึกต่างๆ ต่างก็เปิดไฟ ทำให้เราได้บรรยากาศทั้งกลางวันแลกลางคืน
ขากลับเราก็เลือกลงรถเมล์เหมือนเดิม เพราะThe Peak Tram มีคณะทัวร์ลงพอดี เราเลยเลือกนั่งรถเมล์เหมือเดิม หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับโรงแรม
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่1
ซื้อบัตร Octipus Card 200 HKD
ค่าติ่มซำ 250 HKD/4 คน ตกคนละ 62.50 HKD ประมาณ 266 บาท
รวมค่าใช้จ่ายต่อคน 262.50 HKD
วันที่ 2
Hotel>>Hongkong Macao Ferry Terminal>> Senado Square>> Ruins of St. Paul's>> Rua da Felicidade>> Venetian Macao>>Hongkong>>Dinner at Tsim Sha Tsui>>Hotel
ตอนแรกเรากะว่าจะตื่นกันเช้าหน่อยเพราะเราจะไปมาเก๊ากัน แต่เพราะเมื่อวานเราเหนื่อยกันมาก ทำให้วันนี้เราตื่นกันสาย มื้อเช้าจะเลือกเป็นร้านขนมปังแถวๆโรงแรม จากนั้นไปมชท่าเรือโดยการนั่ง MTR ลง Sheung Wan station เดินตามป้ายที่ท่าเรือ Hongkong Macao Ferry Terminal ซื้อตั๋วของ Turbo Jet ราคา 177 HKD ที่เคาร์เตอร์จะมีคนยืนขายอยู่ ซึ่งราคาจะแพงกว่าราคาที่เราซื้อกับเคาร์เตอร์ แต่ถ้าใครไม่อยากรอนานก็สามารถซื้อกับเขาได้ เพราะจะได้รอบเรือที่เร็วกว่า
เมื่อได้ตั๋วแล้ว ให้เราเดินไปที่ departure hall ซึ่งตรงนี้เราต้องผ่านตม. เพื่อออกนอกฮ่องกง เมื่อผ่านตม.มาแล้ว ก็เดินตามป้านไปท่าจอดเรือของ Turbo Jet ให้เราถามพนักงานว่าตั๋วของเราอยู่ท่าไหน แล้วไปรอแถวๆนั้น การเดินทางจากฮ่องกง ไปมาเก๊าใช้เวลาประมาณ 1 ชม เรือจะจอดที่ท่า macau ferry terminal
เมื่อถึงท่าเรือฝั่งมาเก๊า จะมีรถ Shuttle bus ฟรีเพื่อไปยังโรงแรมต่างๆ โดยหากออกมาจากอาคารแล้ว ให้เดินข้ามถนนโดยมีทางเดินอุโมงค์ลอดถนนไปยังท่ารถได้ ซึ่งเราเลือกนั่ง Shuttle bus ของโรงแรม Lisboa ไปลง Senado Square เพื่อเดินต่อไปยัง Senado Square ได้เลย ประมาณ700 เมตร
จาก Senado Squareเราสามารถเดินตามฝูงชนไปเรื่อยจนถึง ซากเซนต์ปอล Ruins of St. Paul's, Macau
เราสามารถเดินต่อไปย่านโคมแดง Rua da Felicidade โดยให้เดินกลับมาที่ Senado Square จากนั้นให้เลี้ยวขวา เดินประมาณ 300 เมตร ให้เข้าซอยเล็กๆ ทางซ้ายมือ
จากนั้นเราก็เดินทางไป Venetian Macao เราสามารถ เดินกลับมาขึ้นรถฟรีที่โรงแรม Lisboa เพื่อกลับไปยังท่าเรือ และนั่งรถฟรีของ Venetian Macaoจากท่าเรือไป Venetian Macaoฟรีได้ หรือจะเลือกนั่งแท็กซี่จาก แถว Senado Square ไป Venetian Macao ประมาณ 80 HKD ที่ Venetian Macao จะมีร้านอาหารฮาลาลอยู่ ชื่อร้าน Golden Peacock แต่ราคาค่อนข้างสูง เหมือนเดิมเราเลือกกินขนมปังที่เราซื้อไปจากไทยมากินˆˆ
จาก Venetian Macao เราสามารถไปหมู่บ้านไทปาได้ แต่เราไม่ได้ไป เพราะมัวแต่ดินเล่นในเวเนเชี่ยนจนค่ำพอดี จาก Venetian Macao เราก็นั่งรถฟรีกลับมาที่ท่าเรือ macau ferry terminal ตั๋วเรือของ Turbo Jet จากมาเก๊าราคา 188 HKD
เมื่อมาถึง Hongkong Macao Ferry Terminal เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Tsim Sha Tsui ออกทางออก A1 เราจะออกมาทางๆติดกับมัสยิดมาเกาลูนพอดี แถวนี้จะมีร้านอาหารอิสลามอยุ่หลายร้าน เดินออกจากรถไฟฟ้าเลี้ยวขวาข้ามถนนมาจะเป็นตึก ในตึกนี้จะมีทางเข้าอยุ่ให้เดินเข้าไปในตึก และกดลิฟท์ชั้น 2 ก็จะเจอร้านเลย วันนี้เราเลือกร้านอาหารอาหรับ รสชาติอาหารค่อนข้างดี แต่จะมีกลิ่นบารากู่อยู่นิดหน่อยพอตอนกลางวันร้านนี้จะบารากู่บริการด้วย สำหรับมื้อนี้ทั้งหมด 280 HKD
เมื่ออิ่มแล้ว เรากลับโรงแรมโดยจากจิมซาจุ่ย เราสามารถเดินกลับกลับโรงแรมได้เลย ประมาณ 1 กิโลเมตร
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 2
ค่าเรือขาไปมาเก๊า 177 HKD/คน
ค่าแท็กซี่ 72 HKD/4 คน
ค่าเรือขากลับจากมาเก๊า 188 HKD/คน
ค่าอาหาร 280 HKD /4คน ตกคนละประมาณ 298 บาท
รวมค่าใช้จ่ายต่อคน 365 HKD ประมาณ 1,552 บาท