ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นแบบ University recommeded

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิป ...

วันนี้อยากมาแบ่งปันประสบการณ์ของตัวผมเองครับ เกี่ยวกับทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (ทุนมง หรือทุน mext เรียกได้หลายอย่าง)
ตอนนี้ผมเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่นที่กำลังเรียนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นครับ มหาวิทยาลัยคิวชูเทคโนโลยี (Kyushu Institute of Technology)

ก่อนอื่นต้องอธิบายลักษณะทุนรัฐบาลญี่ปุ่นก่อนนะครับว่าเป็นทุนอะไร แบบไหน
- ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นทุนให้เปล่า ไม่ต้องจ่ายเงินคืน หรือทำงานให้กับหน่วยงานใดๆ หลังเรียนจบ
- ได้รับเงิน 145,000 เยนต่อเดือนครับ (อันนี้เป็นจำนวนเงินที่ผมได้สำหรับนักเรียน ป เอก นะครับ)

- ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น มี 2 รูปแบบ
รูปแบบที่ 1: เป็นเหมือนการสอบชิงทุนทั่วไปครับ สมัครสอบและสอบที่สถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย (เรื่องว่าสอบอะไรบ้าง ผมไม่แน่ใจนะครับ)
รูปแบบที่ 2: เรียกว่า University recommneded (ผมได้ทุนในรูปแบบนี้) เป็นการยื่นสมัครกับทางมหาลัยที่เราสนใจโดยตรงครับ

ผมขอเน้นไปที่รูปแบบที่ 2 นะครับ (เพราะเป็นประสบการณ์ตรงของผม)
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ารูปแบบที่ 1 นั้น ยากมากๆสำหรับผม เพราะพื้นฐานแล้วผมไม่ใช่คนฉลาด ตลอดที่ผ่านมาอาศัยความขยัน ความถึก ไปเรื่อยๆครับ เพราะงั้นผมเลยหาทุนนี้ในรูปแบบที่ 2 นั่นคือยื่นกับทางมหาลัยโดยตรงและทำตามขั้นตอนของมหาลัยนั้นๆ ตั้งแต่การยื่นเอกสาร และการสอบสัมภาษณ์ .. ใช่แล้วครับ! แค่สอบสัมภาษณ์ ซึ่งง่ายกว่ารูปแบบที่ 1 ที่ต้องสอบข้อเขียนวิชาการ แต่มันเป็นวิธีการที่เปิดโอกาสให้ทุกคนครับ

ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกในแบบที่ 2 นั้น ผมไม่สามารถรู้แน่นอนได้ว่าคณะกรรมการ (อาจารย์) เขาตัดสินจากอะไร แต่ในความคิดผม คิดว่าเป็นพวกประวัติในเอกสารที่เรายื่นไป เช่น เกรดเฉลี่ย งานวิจัยที่เคยทำมา ประสบการณ์ทางด้านวิชาการอื่นๆ ซึ่งถ้าหากว่าใครที่มีงานวิจัยตีพิมพ์ทั้ง conference หรือ journal มาก่อนนั้น อาจจะเป็นที่น่าสนใจและได้รับคัดเลือกต่อไป (ย้ำอีกรอบว่านี่เป็นแค่ความคิดผมนะครับ)

หลังจากเราได้รับคัดเลือกแล้ว เขาจะนัดเราสัมภาษณ์ผ่านทาง skype หรือช่องทางอื่นๆ ทางอินเตอร์เน็ตครับ
การสอบสัมภาษณ์ก็จะต้องเตรียมพวก power point แนะนำตัวเอง งานวิจัยที่เคยทำ และงานที่คาดว่าอยากจะทำในอนาคต มาพรีเซนต์และdiscuss กันครับ เวลาสัมภาษณ์ก็ประมาณ 30 - 40 นาที เสร็จแล้วก็รออย่างเดียวครับ...

เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง (2-3 สัปดาห์) เขาจะส่งเมล์มาแจ้งผลนะครับ ว่าเราผ่านหรือไม่ผ่านการสอบสัมภาษณ์
ในกรณีผ่านการสอบนั้น ขั้นตอนถัดไปคือการส่งเอกสารสำคัญอื่นๆ ที่ทางทุนรัฐบาลเขากำหนดมา เช่น ใบเกรด ใบตรวจร่างกาย ใบสมัคร เขียน research plan และอื่นๆ อีกมากมายก่ายกอง ตามที่เขากำหนด(ผมจำไม่หมด) แต่อย่างไรแล้ว เราก็ต้องทำตามนั้นให้ทันเวลาที่กำหนดด้วยครับ ค่อนข้างเร่งรีบพอสมควร (แต่มาถึงขั้นนี้อะไร ลำบากแค่ไหนก็ต้องผ่านไปได้)

หลังจากที่เราผ่านขั้นตอนยื่นเอกสารต่างๆเสร็จแล้ว ก็รอไปอีกครับ..... นานพอสมควร นานจนใจหายเหมือนกัน 555 ก็..ประมาณช่วงเดือน 7-8 นั้นแหละครับ เราจะได้ใบรับรองจากรัฐบาลและมหาลัยอย่างเป็นทางการครับ ว่าเราเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่นแล้ว จากนั้นก็เป็นขั้นตอนการนำเอกสารที่ได้จากทางญี่ปุ่นไปขอวีซ่าเพื่อมาเรียนต่อที่มหาลัยที่เราสมัครไว้ และนอกจากนั้นมหาลัยก็จะกำหนดวันที่เราจะบินมาประเทศเขาให้ครับ (หรือบางมหาลัยก็แล้วแต่จะตกลงกันครับ) เป็นอันจบกระบวนการทั้งหมดครับผม

สุดท้ายผมอยากบอกว่า คนที่ได้รับทุนไม่ใช่คนที่เก่งหรือฉลาดที่สุดเสมอไปครับ แต่เป็นคนที่ไม่ละทิ้งความพยายามขวนขวายและตั้งใจมากกว่าที่จะได้ทุนนะครับ เพราะทุนในโลกนี้มีเยอะมากๆ ถ้าเราพยายามหามันและสมัครมัน สักวันนึงเราจะได้มันครับ เพราะผมเป็นคนนึงที่สมัครทุนหลายที่มากๆ ทั้ง กพ.ของไทย ทั้งทุนในมหาลัยชั้นนำของโลกก็เคย(ทั้งๆที่รู้ว่าเราคงไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้จิงๆ 555 ) แต่อย่างไงก็ตามโอกาสมันเป็นของทุกคนที่ไม่ทิ้งโอกาสครับ อันไหนเปิดให้ยื่นก็ยื่นไปก่อนครับ ได้หรือไม่ได้นั้นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าไม่ยื่น ไม่กล้าสมัคร นั่นก็เท่ากับว่าเราทิ้งโอกาสไปตั้งแต่เริ่มแล้ว

ผมหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นข้อมูลสำหรับคนที่กำลังอยากหาทุนเรียนต่อ และเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังท้อแท้ครับ
ผมขอจบการแบ่งปันประสบการณ์เท่านี้ก่อนนะครับ หากใครมีประสบการณ์ที่แตกต่างจากนี้ มาพูดคุยกันได้ครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่