เกิดอุบัติเหตุที่บ้านเพียงแค่ลุกเร็วจากเก้าอี้จนหน้าคว่ำ และขาหักข้างขวา ใส่เฝือกมาทั้งหมด 46 วัน (28 Aug - 11 Oct) แล้วค่ะ และดูแลอย่างดี เชื่อฟังคุณหมอทุกอย่าง (ห้ามลงน้ำหนัก ก็ไม่เคย ลงน้ำหนัก) ห้ามโดนน้ำเด็ดขาดเพราะ เฝือกประเภทพลาสติกจะ Sensitive คืนตัวและอ่อนตัวทันทีที่ถูกน้ำ แต่เมื่อวานนี้ 10 Oct 2017 เกิดสะดุดเล็กน้อยค่ะ รู้สึก เสียวตรงกระดูกที่หัก จนตกใจมาก พยายามวางขาให้สูงกว่าระดับหัวใจ เหมือนทุกวันที่ทำตามปกติ นอนนิ่งๆ สักพักใหญ่ อาการก็ยังดูไม่ลดลงเท่าไหร่ จึงทานยาแก้ปวดเฉพาะทางที่ได้มา ลักษณะเป็น แคปซูลเล็กๆ สีเหลืองเขียว และวันนี้สังเกตุอาการ ดีขึ้นแล้วค่ะ ไม่ได้รู้สึกเสียวตรงที่กระดูกหักแล้ว

จึงเข้าใจว่า ขณะนี้กระดูกที่หักไป ภายหลังจากทานแคลเซียมที่ได้มาจากโรงพยาบาล กระดูกน่าจะมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นแล้วในระดับหนึ่งถูกมั้ยคะ? ถ้าในกรณีที่กระดูกจะผิดรูปหรือกระดูกอ้า อาการน่าจะเป็นลักษณะ ปวด และตรึงตรงที่กระดูกหักมากกว่า ที่จะรู้สึกเสียวที่กระดูก เผอิญระหว่างรักษาในขณะเปลี่ยนเฝือกทีมหมอกระดูกที่เปลี่ยนใส่ให้รัดและเท้ากระดก จนทำให้กระดูกอ้า และเกิดการบิดจัดกระดูกอีกรอบก่อนกำหนดวันนัด เพราะรู้สึกปวดจนทนไม่ไหวจริงๆ ต่อมาก็ไปหาก่อนกำหนดอีกเพราะรู้สึกเจ็บเหมือนมีแผลเสียดสีที่โคนขาหลัง หมอจึงเจาะดูปรากฏว่ามีแผลเพราะใส่สำลีรองรับนั้นมีความหนาน้อยไปทำให้เสียดสีจนเป็นแผล

แต่ครั้งนี้เกิดจากคนไข้สะดุดเอง คือ รู้สึกผิดมาก และเจ็บใจตัวเองที่ดูแลอย่างดี แต่ดันมาสะดุดอีก เพราะสาเหตุที่หักตั้งแต่แรกก็เกิดจากความประมาท ไม่ระวัง และเมื่อวานนี้ที่สะดุด ก็เพราะรีบร้อนจะล้มตัวลงนอนบนที่นอนทำให้สะดุดค่ะ

ยอมรับว่าครั้งนี้คนไข้เองที่ประมาท แต่ถ้าวันนี้ ไม่เสียวตรงที่หักแล้วไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ก่อนกำหนดเหมือน 2 ครั้งที่เคยไปก่อนกำหนดถูกมั้ยคะ ?เพราะทุกครั้งที่ไปก่อนกำหนด มันค่อนข้างเกรงใจ และรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนไข้ เรื่องเยอะ น่ารำคาญ ค่ะ แต่ต้องขอบคุณทีมแพทย์ที่เข้าใจและมักจะพูดว่า สามารถมาก่อนกำหนดได้ นะคะ