สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะแนวทางการแก้ไขหน่อยค่ะ เครียดมากๆ  
         คือพ่อเรากับเพื่อนร่วมงานอีก 1 คน ไปค้ำประกันให้กับ บี (นามสมมุติ) ซึ่งก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่เดียวกันนั่นล่ะ เขากู้เงิน ชพค.ค่ะ จากธนาคารออมสิน เงินต้น 1,200,000 บาท ดอกเบี้ย 8 % ต่อปี หลังจากนั้นไม่กี่เดือน บี ก็ลาออกจากที่ทำงานค่ะ (แต่พ่อเรากับเพื่อนแล้วก็บีทำงานด้วยกันมานานแล้วนะคะเกือบ 10 ปีได้) หลังจากที่บี ออกจากงานไปพ่อเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยค่ะ อยู่มาวันหนึ่งมีจดหมายจากธนาคารออมสินค่ะมาที่บ้าน บอกว่าบีขาดส่งเงินกู้หลายงวดแล้ว แต่ทางพ่อเราก็ไม่นิ่งเฉยนะคะทางเราก็พยายามติดต่อไปหาบี ติดต่อได้ค่ะ บี บอกว่า บีไม่หนีนะ แต่บีไม่มีจ่าย เพราะบีไม่มีจะจ่าย เรากับเพื่อนอีกคนก็เครียดเลยค่ะเอายังไงดีล่ะทีนี้  จากนั้นไม่นานก็มีจดหมายศาลค่ะ มาว่าใครพ่อเรากับเพื่อนอีกคนไปชำระหนี้ มิฉะนั้นจะอายัดทรัพย์ทั้งหมด พ่อเรากับเพื่อนอีกคนก็เลยพาบีไปทำการประนอมนี้ค่ะ บีก็โอเคนะคะ ที่จะชำระจ่ายตามโครงสร้างหนี้ใหม่ แต่ทางพ่อเรากับเพื่อนอีกคนเขาก็กังวลว่าไม่จะไม่จ่ายหนี้อีก เพราะทางพ่อเรากับเพื่อนก็มีทรัพย์เป็นชื่อของตัวเองอยู่บ้าง ทางธนาคารเลยมีข้อเสนอให้พ่อกับเพื่อนอีกคนว่า ถ้าอยากจะหลุดจากการเป็นคน ค้ำประกันได้ จะแบ่งหนี้เป็น 3 ก้อน คือตอนนี้ทางเราก็ทำเรื่องขอถอนจากการเป็นผู้ค้ำประกันไปนะคะเผื่อสำนักงานใหญ่ของออมสินตัดสินใจว่าจะให้ชำระเท่าไรที่จะสามารถออกจากการเป็นคนค้ำประกันได้  แต่ทางเราก็ขอทำหนังสือขอส่วนลดนะเพราะพ่อเราก็มีภาระหนี้สินของพ่อก็เยอะอยู่แล้ว ยังต้องมาเอาหนี้ของคนอื่นมาเป็นของตัวเองอีก พ่อเรามีกำลังสูงสุดแค่ 200,000  วันนี้ทางธนาคารโทรมาคะบอกว่าให้ชำระหนี้ 450,000 ถึงจะหลุดจากการเป็นคนค้ำได้ อยากทราบว่าทางเราสามารถขอส่วนลดจากธนาคารได้ไหมคะ เพราะเราก็ยอมที่จะชำระ เราไม่หนี้ พอมีทางออกไหมคะมิฉะนั้นพ่อเราก็จะเป็นผู้ค้ำประกันคนเดียวต่อไป เพราะเพื่อนพ่อที่ค้ำประกันอีกคนหนึ่งเขาสามารถวางเงินในจำนวนที่ 450,000 ได้ แต่พ่อเรามีเงินอยู่แค่ 200,000