ช่วงเวลาเดินทาง : 6-9 ตุลาคม 2560
คำโปรย
ไม่มีไรมากฮ่ะ ทริปนี้ที่จริงตั้งใจจะไปตั้งแต่มิถุนายนแต่ตารางทัวร์ดันไม่เป็นใจ สาเหตุหลักที่ไปกับทัวร์ไม่ใช่อะไรคือขี้เกียจทำการบ้านและขี้เกียจไปเสี่ยงภัยต่างๆนานาตามคำเล่าขานแห่งเมืองโฮจิมินห์ อาหารการกินไอ่เราก็ออกจะเรื่องมากนิดหนึ่ง การเดินทางต้องหารถไปเองอีก ดังนั้นไปกับทัวร์คือคำตอบดีที่สุด เพราะคราวนี้ดูจากโปรแกรมทัวร์แล้วได้ไปถึงสามเมืองคือโฮจิมินห์ มุยเน่และดาลัด
วิธีเตรียมตัว
A: การเลือกทัวร์ : ตอนแรกมีความสับสนว่าจะเวียดนามไหนดี เหนือ กลาง ใต้ หลังจากนั้นก็เริ่มดูจากสภาพอากาศที่เราจะไปช่วงนั้น ปรากฏว่าในช่วงตุลาคมถ้าจะไปเวียดนามเหนือเค้าก็เริ่มเก็บเกี่ยวนาขั้นบันไดกันไปแล้วซิกเนเจอร์ก็ไม่รู้จะดูอะไร เวียดนามกลางฝนตกหนัก น้ำท่วม หวยออกที่เวียดนามใต้อากาศกำลังดี เสี่ยงดวงว่าฝนจะตกหรือเปล่าแค่นั้น หลังจากนั้นก็ดูโปรแกรมทัวร์เกี่ยวกับเวียดนามใต้ มีคร่าวๆคือ 3 วัน2คืน และ 4 วัน 3 คืน เอาให้คุ้มเลยเราเลยเลือก 4 วัน 3 คืน ไปทั้ง 3 เมืองคือโฮจิมินท์ มุยเน่ ดาลัด เอาเนี้ยแหละคุ้มสุดล่ะ ใครสนใจโปรแกรมทัวร์หลังไมค์มาถามได้นะค่ะ
B: พาสปอร์ต : เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม สำรวจวันหมดอายุ
C: อื่นๆ
-การแลกเงิน : ตอนแรกเราแลกเงินดอลล่าร์ไปนะ 50เหรียญ ไม่ได้ใช้เลย .. ใครไปกับทัวร์แนะนำไม่ต้องแลกอะไรทั้งนั้น ไกด์ท้องถิ่นมีตังค์ให้แลกค่ะ เรากับแฟนแลกกับไกด์ 1000 บาท ได้ 600,000 ดอง ส่วนใครไปแบบแบ๊คแพ๊คแนะนำให้แลกกับร้านด้านนอกหลังจากรับประเป๋าเสร็จแล้วนะค่ะ มีร้านเยอะแยะ
-ซิมโทรศัพท์ : Sim ที่สนามบินมีขายค่ะ แต่เราซื้อกับไกด์ท้องถิ่น ยี่ห้อ Viettal 4GB 400 บาท
-กระแสไฟฟ้า : หัวปลั๊กเหมือนบ้านเราเลย สำคัญ!! อย่าลืมปลั๊กพ่วง
-กระเป๋าสะพายด้านหน้าที่มีซิป เพื่อป้องกันการล้วงกระเป๋าและโจรกรรมต่างๆ
-โทรศัพท์ กล้อง กระเป๋าเงิน พาสปอร์ตเช็คทุกๆ 1 ชั่วโมงนะค่ะ
-หมอนรองคอ แต่ละเส้นทางใช้เวลาแนะนำพกหมอนรองคอไปด้วย
ปล.***ทุกเสียงลือเสียงเล่าอ้างไม่ไกลจากความเป็นจริงหรอกค่ะ อิอิ ***
ลุย
วันที่ 1 : 6 ตุลาคม 2560
แผน : พบกันที่สนามบินดอนเมือง 05.00 น.เพื่อเช็คอิน หลังจากนั้นก็ Shopping Duty Free แล้วไปนั่งรอใน Louge Kingpower รอเวลาเรียกขึ้นเครื่อง 06.55น. ประมาณ 09.00น.ถึงสนามบิน Tan Son Nhat นครโฮจิมินห์
Landing ผ่าน ตม. ได้กระเป๋าขึ้นรถโค๊ชก็เตรียมลุยเลยฮ่ะ ตลอดทางไกด์ท้องถิ่นจะบรรยายไปเรื่อยๆ สนุกดีค่ะ แอร์เย็นๆ มีเนตให้เล่น นั่งรถชมจัตุรัสโฮจิมินห์ แล้วเดินทางไป
โบสถ์นอร์ธเธอดัม อยู่ใกล้ๆกับ ที่ทำการไปรษณีย์กลาง เข้าเมืองมาแรกก็รู้สึกเหมือนๆกับประเทศอื่น เข้ามาอีกนิดรู้เรื่องเลออออ รถติดยับบบบบบบบบบ มอไซด์เยอะจิมๆตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง เสียงบีบแตรน๊านนนนนนนนนนนนนนอื้มหื้ออออออออสุดๆบีบแตรกันเป็นเพลงเลยจร้าาาาาาา (ในภาพประกอบมิอาจนำเสียงลงได้)
** รถแท๊กซี่ยี่ห้อ VINASUN เป็นแท๊กซี่ที่ไว้ใจได้มากที่สุดค่ะ ไกด์บอก **
โบสถ์นอร์ธเธอดัมเป็นโบสถ์อายุกว่า100 นับเป็นสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของโฮจิมินห์ เหมือนกันทุกสถานที่ค่ะคนเยอะ แย่งกันถ่ายรูป แต่เราอย่าได้ยอมค่ะแย่งก็แย่ง แต่ข้างในไม่เปิดให้เข้าชม ไกด์ให้เราเที่ยวบริเวณโบสถ์และไปรษณีย์กลางประมาณ 45 นาที
ข้ามถนนไปจะเป็น
ที่ทำการไปรษณีย์กลางที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ข้างๆจะมีถนนคนเดิน McDonald ร้านกาแฟ สำหรับที่ทำการไปรษณีย์
แนะนำให้ซื้อเฉพาะโปสการ์ดและส่งไปรษณีย์เท่านั้น เพราะร้านขายของจะขายแพงไปนิดดดดต่อราคาก็ไม่ได้ ใครร้อนก็แวะกินกาแฟร้านข้างๆได้
เที่ยวจนตัวเปียกเหงื่อก็ถึงเวลาทานอาหารกลางวัน เดินทางไปใกล้ๆแม่น้ำไซง่อนไม่แน่ใจ เป็นบุฟเฟ่อาหารนานาชาติ ไทย จีน ญี่ปุ่น ทะเลเผามีหมด(ทัวร์เลี้ยงดีจริงๆ)
ทานอาหารกลางวันเสร็จก็เดินทางไปยังอำเภอกู๋จี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่ไกลนะค่ะแต่!!! ประเทศเวียดนามกำหนดให้วิ่งรถยนต์และรถบัสไว้ไม่เกิน 65 กม/ชม. กว่าจะถึงก็บ่ายสามแล้วค่ะ อุโมงค์กู๋จีนั้นถูกใช้โดยกองโจรเวียดกงเป็นจุดซ่อนตัวระหว่างการปะทะ เป็นเส้นทางสื่อสารและเสบียง โรงพยาบาล สถานที่เก็บอาหารและอาวุธและที่พักอาศัยของนักสู้กองโจรจำนวนมากเพื่อต่อสู้กับทหารสหรัฐ ระหว่างเดินชมไกด์ท้องถิ่นจะเล่าประวัติต่างๆให้ฟังค่ะ อย่าลืมมุดลงอุโมงค์ไปสัมผัสบรรยายกาศจริงๆกันด้วยนะค่ะ
หมดโปรแกรมแล้วเดินทางกลับโรงแรมในตัวเมืองโฮจิมินห์กัน วันนี้นอนที่โรงแรม Le Duy เป็นโรงแรมกลางเมืองโฮจิมินห์ ข้างๆมี KFC ตรงข้ามมีผับ คาสิโน ร้านผลไม้ปั่น สตาร์บัคอยู่ใกล้ๆ สภาพห้องสะอาด มีลิฟท์ ห้องน้ำกว้าง เราได้ห้องชั้น 6 ณ จุดๆนี้เสียงบีบแตรจะสามารถขึ้นมาได้ฮ่ะ ไกด์นัดอีกที 19.30น.ระหว่างนี้ก็เดินเที่ยวแถวโรงแรมดูบ้านดูเมืองเค้าไปก่อน
มื้อเย็นวันแรกนี้รับประทานอาหารค่ำพร้อมชมโชว์(ร้องเพลง)บนเรือล่องเรือชมความงามของแม่น้ำไซง่อน แม่น้ำสายหลักของนครโฮจิมินห์ ทานข้างเคล้าเสียงเพลงยาวๆไป ใช้เวลาในการล่องแม่น้ำไซง่อนประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ บนเรือมีเบียร์ โค้ก หากต้องการเพิ่มแจ้งไกด์ได้เลย จบรายการวันนี้เพียงเท่านี้
วันที่ 2 : 7 ตุลาคม 2560
แผน : เดินทางออกจากนครโฮจิมินห์ไปยังจังหวัดบิ่ญถ่วน เมือง ที่อยู่ของแหลมมุยเน่ >> Fairy Stream (ลำธารนางฟ้า) >> ทะเลทรายขาว >> ทะเลทรายแดง >> เข้าโรงแรม
ไลน์อาหารเช้าของโรงแรม Le Duy ,, อย่าลืมลองทานโยเกิตสูตรเวียดนามดูค่ะ อร่อยๆ
เมืองบิ่ญถ่วนมีเมืองหลวงของจังหวัดคือเมืองฟานเที้ยต (Phan Thiet) อยู่ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ประมาณ 200 กิโลเมตร **การเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโค้ชนั้นทางรัฐบาลกำหนดให้ขับความเร็วไม่เกิน 65 กม/ชม. ดังนั้นจึงใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง** หลับยาววววววๆไป รู้งี้เมื่อคืนไปเที่ยวผับฝั่งตรงข้ามยันเช้าซะก็ดี
ถึงแว้ววววววววววว 4ชั่วโมงครึ่งเองงงงเที่ยงพอดีทานอาหารกลางวันกันก่อนล่ะกัน เมนูวันนี้แนะนำโจ๊กเหลนหอยนางรม (เพราะมันตัวเล็กมาก)
เสร็จพาชม ชายหาดฟานเที้ยต **ไกด์บอกว่าชายหาดจะสวยและไม่มีขยะเฉพาะชายหาดที่มีร้านหรือโรงแรมดูแล นอกนั้นขยะเยอะจริงๆ**
จุดหมายปลายทางต่อไปคือลำธารนางฟ้า (Fairy Steam) ง่ายๆมันคือลำธารแล้วพื้นมันเป็นทรายละเอียดๆ ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษ
[CR] 2017 : อยากโดนทะเลทรายสักครั้งให้ชื่นใจ ..รีวิวโฮจิมินห์-มุยเน่-ดาลัด มันมีอัลลลไปกับทัวร์
คำโปรย
ไม่มีไรมากฮ่ะ ทริปนี้ที่จริงตั้งใจจะไปตั้งแต่มิถุนายนแต่ตารางทัวร์ดันไม่เป็นใจ สาเหตุหลักที่ไปกับทัวร์ไม่ใช่อะไรคือขี้เกียจทำการบ้านและขี้เกียจไปเสี่ยงภัยต่างๆนานาตามคำเล่าขานแห่งเมืองโฮจิมินห์ อาหารการกินไอ่เราก็ออกจะเรื่องมากนิดหนึ่ง การเดินทางต้องหารถไปเองอีก ดังนั้นไปกับทัวร์คือคำตอบดีที่สุด เพราะคราวนี้ดูจากโปรแกรมทัวร์แล้วได้ไปถึงสามเมืองคือโฮจิมินห์ มุยเน่และดาลัด
วิธีเตรียมตัว
A: การเลือกทัวร์ : ตอนแรกมีความสับสนว่าจะเวียดนามไหนดี เหนือ กลาง ใต้ หลังจากนั้นก็เริ่มดูจากสภาพอากาศที่เราจะไปช่วงนั้น ปรากฏว่าในช่วงตุลาคมถ้าจะไปเวียดนามเหนือเค้าก็เริ่มเก็บเกี่ยวนาขั้นบันไดกันไปแล้วซิกเนเจอร์ก็ไม่รู้จะดูอะไร เวียดนามกลางฝนตกหนัก น้ำท่วม หวยออกที่เวียดนามใต้อากาศกำลังดี เสี่ยงดวงว่าฝนจะตกหรือเปล่าแค่นั้น หลังจากนั้นก็ดูโปรแกรมทัวร์เกี่ยวกับเวียดนามใต้ มีคร่าวๆคือ 3 วัน2คืน และ 4 วัน 3 คืน เอาให้คุ้มเลยเราเลยเลือก 4 วัน 3 คืน ไปทั้ง 3 เมืองคือโฮจิมินท์ มุยเน่ ดาลัด เอาเนี้ยแหละคุ้มสุดล่ะ ใครสนใจโปรแกรมทัวร์หลังไมค์มาถามได้นะค่ะ
B: พาสปอร์ต : เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม สำรวจวันหมดอายุ
C: อื่นๆ
-การแลกเงิน : ตอนแรกเราแลกเงินดอลล่าร์ไปนะ 50เหรียญ ไม่ได้ใช้เลย .. ใครไปกับทัวร์แนะนำไม่ต้องแลกอะไรทั้งนั้น ไกด์ท้องถิ่นมีตังค์ให้แลกค่ะ เรากับแฟนแลกกับไกด์ 1000 บาท ได้ 600,000 ดอง ส่วนใครไปแบบแบ๊คแพ๊คแนะนำให้แลกกับร้านด้านนอกหลังจากรับประเป๋าเสร็จแล้วนะค่ะ มีร้านเยอะแยะ
-ซิมโทรศัพท์ : Sim ที่สนามบินมีขายค่ะ แต่เราซื้อกับไกด์ท้องถิ่น ยี่ห้อ Viettal 4GB 400 บาท
-กระแสไฟฟ้า : หัวปลั๊กเหมือนบ้านเราเลย สำคัญ!! อย่าลืมปลั๊กพ่วง
-กระเป๋าสะพายด้านหน้าที่มีซิป เพื่อป้องกันการล้วงกระเป๋าและโจรกรรมต่างๆ
-โทรศัพท์ กล้อง กระเป๋าเงิน พาสปอร์ตเช็คทุกๆ 1 ชั่วโมงนะค่ะ
-หมอนรองคอ แต่ละเส้นทางใช้เวลาแนะนำพกหมอนรองคอไปด้วย
ปล.***ทุกเสียงลือเสียงเล่าอ้างไม่ไกลจากความเป็นจริงหรอกค่ะ อิอิ ***
ลุย
วันที่ 1 : 6 ตุลาคม 2560
แผน : พบกันที่สนามบินดอนเมือง 05.00 น.เพื่อเช็คอิน หลังจากนั้นก็ Shopping Duty Free แล้วไปนั่งรอใน Louge Kingpower รอเวลาเรียกขึ้นเครื่อง 06.55น. ประมาณ 09.00น.ถึงสนามบิน Tan Son Nhat นครโฮจิมินห์
Landing ผ่าน ตม. ได้กระเป๋าขึ้นรถโค๊ชก็เตรียมลุยเลยฮ่ะ ตลอดทางไกด์ท้องถิ่นจะบรรยายไปเรื่อยๆ สนุกดีค่ะ แอร์เย็นๆ มีเนตให้เล่น นั่งรถชมจัตุรัสโฮจิมินห์ แล้วเดินทางไปโบสถ์นอร์ธเธอดัม อยู่ใกล้ๆกับ ที่ทำการไปรษณีย์กลาง เข้าเมืองมาแรกก็รู้สึกเหมือนๆกับประเทศอื่น เข้ามาอีกนิดรู้เรื่องเลออออ รถติดยับบบบบบบบบบ มอไซด์เยอะจิมๆตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง เสียงบีบแตรน๊านนนนนนนนนนนนนนอื้มหื้ออออออออสุดๆบีบแตรกันเป็นเพลงเลยจร้าาาาาาา (ในภาพประกอบมิอาจนำเสียงลงได้)
ข้ามถนนไปจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์กลางที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ข้างๆจะมีถนนคนเดิน McDonald ร้านกาแฟ สำหรับที่ทำการไปรษณีย์แนะนำให้ซื้อเฉพาะโปสการ์ดและส่งไปรษณีย์เท่านั้น เพราะร้านขายของจะขายแพงไปนิดดดดต่อราคาก็ไม่ได้ ใครร้อนก็แวะกินกาแฟร้านข้างๆได้
อันนี้เป็นถนนคนเดินทางข้างไปรษณีย์กลาง
แผน : เดินทางออกจากนครโฮจิมินห์ไปยังจังหวัดบิ่ญถ่วน เมือง ที่อยู่ของแหลมมุยเน่ >> Fairy Stream (ลำธารนางฟ้า) >> ทะเลทรายขาว >> ทะเลทรายแดง >> เข้าโรงแรม
เมืองบิ่ญถ่วนมีเมืองหลวงของจังหวัดคือเมืองฟานเที้ยต (Phan Thiet) อยู่ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ประมาณ 200 กิโลเมตร **การเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโค้ชนั้นทางรัฐบาลกำหนดให้ขับความเร็วไม่เกิน 65 กม/ชม. ดังนั้นจึงใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง** หลับยาววววววๆไป รู้งี้เมื่อคืนไปเที่ยวผับฝั่งตรงข้ามยันเช้าซะก็ดี
ทางนี้โดนไกด์หลอกให้ขึ้นไปบอกว่าทางลงจะไปถึงปลายทางพอดี เหนื่อยโฮกกก