ประสบการณ์เข้าอบรม NLP ของ โค้ช VAS

กระทู้สนทนา
ผมได้มีโอกาสเข้าคอร์ส อบรม ของ โค้ช vas ชาวสิงคโปร์ เชื้อสายอินเดีย ครั้งล่าสุด เมื่อเดือน ตค 60
ผมพบเจอคอร์สนี้จาก facebook ทีแรกก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ดูหัวข้อเรื่อง life purpose and passion มันเหมือนมีบางอย่างที่อาจจะทำให้เรา
ค้นพบว่า เราต้องการอะไร จุดประสงค์ของการดำรงอยู่ของเราคืออะไร อะไรที่เราชอบทำจะหาเจอยังไง คำถามเหล่านี้ นำพาให้ผมไปลงทะเบียนสมัคร
เข้าอบรมแบบฟรี มันมีเสียตังแบบ 5900 กับ 2900 แต่ผมก็เลือกแบบฟรี เพราะเคยผ่านการอบรมแบบนี้มาพอสมควร ผมนั้นอยู่อุดร งานจัดที่ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ผมก็ต้องออกค่าเดินทาง รถไฟ 979 บาท เครื่องบินขากลับ 1200 บาท แล้วก็พักที่คอนโดผม อยู่พญาไท การอบรมนั้น มี 3 วัน 9.00-22.00 ทุกวัน
ทุกวัน ผมจะตื่นตี 5 ออกเดินทางโดยแท็กซี่ จากคอนโด ถึงเซ็นทรัลแจ้ง ราคาประมาณ 200 บาท วันแรกไปแต่เช้าเพราะกลัวลงทะเบียนไม่ทัน ลงทะเบียนอบรม รับป้ายแขวนคอ ซึ่ง ถ้าคุณมางานนี้ฟรี สายห้อยคอก็จะสีน้ำเงินมีชื่อ เบอร์โทรเขียนไว้ ถ้าคุณเสียเงิน 5900 ก็จะเป็น vip สายห้อยคอจะสีแดงขนาดใหญ่ ส่วนสายสีเขียวคือแบบพรีเมี่ยม ราคา 2900 ทำให้ผมรู้สึกถึง การนั่งเครื่องบินที่แบ่งชนชั้น economy business และ first class แต่ก็สมเหตสมผลที่เขาจัดระเบียบอย่างนั้น ผมมาคนที่ 4 หรือ 5 ของวันแรก ถึงประมาณ 6 โมงเช้า มีคนมานั่งรอก่อนหน้า 3-4 คน ประตูเข้าฮอลล์ ที่เปิดให้เข้าคือ ประตู 1,2,5,6
1 สำหรับ vip นั่งหน้าสุด ประตู 2 สำหรับ premium ประตู 5,6 สำหรับ general หรือ ฟรี นั่นเอง เวลาเข้าเวลาออกฮอลล์ เขาจะให้ vip เข้าก่อน ตามด้วย premium และค่อย มาเป็น general คนเบียดมากสำหรับ general พูดถึงการอบรม ส่วนตัว ผมคิดว่าผมฉลาดพอและพร้อมเปิดรับถ้ารู้สึกว่ามันดีจิง
แต่ยอมรับ โค้ชคนนี้พูดจาไม่รู้เรื่อง จับประเด็นได้ยาก คำถามเกิดขึ้นในใจว่า คุณพูดอะไร พูดทำไม ลึกๆก็ชื่นชมตรง เขาพูดแต่เช้ายันค่ำแบบใส่อารมณ์ด้วยได้ตลอดวัน ขนาดอายุ 62 ปีแล้วนะนั่น เนื้อหาที่อบรม ผมจำไม่ค่อยได้ เพราะ ฟังแล้วงง หลายคนอาจจะรู้เรื่อง แต่สำหรับผม ซึ่งจบวิศวะ ป โท มา ก็บอกอีกครั้งว่าจับประเด็นยาก เหมือนคุณอ่านข้อคิดดีๆ จากในเน็ต หรือที่ไหน แล้วมาพูดวกไปเวียนมา เป็น ชม กิจกรรมที่สำหรับทำในการอบรม ก็สนุกดีครับ มีการจ้องตาคนแปลกหน้า 3-4 คน ระหว่างจ้องก็มีการพูดกล่อมไปเรื่อย มีการใช้สมองคิดย้อนไปในอดีต มีการหลับตาสะกดจิต ซึ่งสะกดจิต คน 3000 คน ทั้งฮอลล์ ดูเผินๆ มันติ๊งต๊อง ให้จินตนาการเป็นนกอินทรีย์บินไปนู่นไปนี่ ให้จินตนาการเป็นคนที่เราชื่นชม หลับตาฟังการกล่อม สะกดจิตไป พวกอาสาสมัครที่ดูแล ความเรียบร้อยในงาน ดูเอาจิงเอาจิงกับหน้าที่ตัวเองมาก การไปห้องน้ำนี่คือปัญหาใหญ่ของทุกคน เพราะในฮอลล์หนาวมากๆ ผู้หญิงแถวเข้าห้องน้ำนี่ยาว 40-50 คน การพักเบรก การเข้าออกประตู มีระเบียบที่ค่อนข้างเคร่ง อันนี้ก็น่าชื่นชมกับการจัดระเบียบคนหมู่มาก
กลับมาถึงเนื้อหา ปกติผมฟังก็งั้นๆน่ะคับ พยายามคิดตามไปก็เหมือนเดิมเขาพูดวกไปวนมา ไม่รู้ฟังแล้วได้อะไร แต่ผมก็ไม่ปิดกั้นตัวเองก็อยู่ครบสามวันเต็มแต่ก็ยอมรับชีวิตมีทิศทางชัดเจนขึ้น การกระตุ้นแรงใจย้ำไปย้ำมา เริ่มติดหัว สรุปก็ได้บางอย่างกลับมาอยู่ คุ้มไหมกับการอดทนมานั่งฟัง นั่งทำกิจกรรม ผมว่าก็ไม่ถือว่าสูญเปล่า ผมเชื่อทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งฮอลล์ นั่นแหละ และก็คงคิดว่าการมาฟังอะไรแบบนี้อาจจะช่วยได้ เพราะเราก็ไม่ได้เสียอะไรมาก ไม่เสียค่าบัตร แต่อย่างว่าในงานเขาก็มีการโฆษณาขายคอร์สอบรมนั่นนี่ ราคาเป็นหมื่นเป็นแสน มีการเอาคนที่เคยอบรมแล้วมาบรรยายสรรพคุณของคอร์ส ซึ่งก็อีกแหละ ผมจับประเด็นที่เขามายืนๆพูดไม่ได้ ผมอาจจะโง่ในแนวนี้ก็ได้ แต่ผมมั่นใจ มีคนฟังไม่รู้เรื่องเหมือนผมแน่นอน การตลาดแนวนี้ก็เกลื่อนในการสัมมนาอื่นๆก็ทำกัน ตั้งราคาแพงแล้วมาลดราคาต่อหน้าให้ดู การนำคนเป็นหมอ เป็นนักธุรกิจ มาพูดเพื่อให้คอร์สดูน่าเชื่อถือ สรุป การอบรมแบบนี้มันจะได้ผลกับคนที่ อินกับมันมากๆ ประมาณหลงใหลคลั่งไคล้ ในตัว vas ชาวอินเดียผู้นี้ ประหนึ่งเป็นศาสดามาทำให้พวกเขาพ้นทุกข์
อย่างไรก็ตาม ผมค่อนข้าง โอเคกับการอบรมครั้งนี้นะครับ ได้เจอคนที่มีปัญหาแบบเราเต็มไปหมด ได้ทำกิจกรรมเพี้ยนๆ ได้รับอะไรบางอย่างฝังในหัว
การอบรมก็มีเรื่อยๆครับ สมัครลงทะเบียน ได้เรื่อยๆ จะมีอีกเมื่อไหร่ก็ติดตามเขาได้ในเฟสบุ้ค ยังไงก็ลองดูครับไม่เสียหาย ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่