[CR] Korea Autumn / Chapter 2 : เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง

สาวแว่น กลับมาพบกันต่อนะค่ะ สำหรับกระทู้ที่แล้ว "เกริ่นก่อนเดินทาง" รอบนี้จะมาพูดถึงการ "เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง"

เพื่อนๆ หลายคนคงอาจมีแพลนในใจก่อนว่า..."เราอยากจะไปไหน" และ "เราจะเดินทางเมื่อไร" หลังจากนั้นก็อาจจะเริ่มมองๆ ส่องๆ ทั้งตั๋วเอย ที่พักเอย สถานที่ท่องเที่ยว และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปประเทศนั้นๆ แล้วก็เริ่มวางแผนตั้งงบประมาณการเดินทางในใจ...

แต่สำหรับตัว Mars เองนั้น จริงๆ เป็นคนที่วางแพลนการเดินทางตามราคาตั๋ว คือ ถ้าเจอโปรโมชั่นตั๋วราคาถูก หรือในราคาที่ตัวเราเองรับได้ ไม่ว่าประเทศไหน เราก็วางแผนเดินทางไปประเทศนั้นทันที!!!

ไซบีเรียนฮัสกี้ ใครที่ติดตามจากกระทู้แรก จะทราบว่าการเดินทางไป "เกาหลีใต้" รอบนี้ก็เกิดจากการได้ตั๋วไป-กลับ "เกาะเชจู (Jeju Island)" ในราคาที่ค่อนข้างถูก คือได้ในราคา 2,056.74 บาท ก็เลยเป็นจุดให้เราตัดสินใจในการเดินทางไปเยือนเกาหลีในครั้งนี้!!!! (สำหรับรายละเอียดอื่นๆ อ่านย้อนหลังกันนะคะ ^^)

คราวนี้ได้ตั๋วไปเกาะเชจูแล้ว ก็ต้องหาตั๋วเดินทางไปเกาหลีกันหละ ซึ่ง Mars เชื่อว่า เพื่อนๆ แต่ละคนก็มีเทคนิค มีทริคเฉพาะตัว สำหรับตัว Mars ก็ไม่ใช่คนที่แบบว่า "หาตั๋วได้แบบสุดยอดของความถูก" หรือ "เป็นสุดยอดเซี่ยนแห่งการเที่ยว" แต่เราเชื่อว่า...เราก็เป็นคนนึงที่เก็บรวบรวมข้อมูล และจัดการแผนการเดินทางได้ดีคนหนึ่ง ก็เอาเป็นว่ามาแชร์ประสบการณ์ในมุมของเรา เผื่ออันไหนที่เพื่อนๆ เอาไปปรับใช้ได้ ก็เอาไปใช้กันแล้วกันเนอะ ^^

เยี่ยม ปัจจัยหลักๆ ในการเตรียมตัวก่อนการเดินทาง นอกจาก "เงิน" ที่เราต้องเตรียมให้พร้อม นั้นก็คือ
1. ตั๋ว
2. ที่พัก
3. สถานที่เที่ยว &  ตารางการเดินทาง / แผนการเดินทาง
4. การเดินทางภายในประเทศ (ระบบขนส่ง / รถไฟฟ้า / รถเมลล์ เป็นต้น) & ข้อควรรู้อื่นๆ เช่น ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยม ฯลฯ
+++ แต่ของ Mars จะเพิ่มอีกข้อ คือ 5. คูปองส่วนลด หรือบัตรส่วนลดต่างๆ +++

ยิ้ม ตั๋ว : Ticket
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะมีเพจ มีเว็บที่ติดตามอัพเดทเรื่องโปรโมชั่นตั๋วอยู่เป็นประจำ แต่โดยส่วนตัวของ Mars เอง จากที่ลองใช้ ลองติดตามหลายๆ เพจ หลายๆ เว็บดู จนสกรีนมาในระดับหนึ่ง ก็สรุปเลือกที่จะติดตามอยู่เพียงเว็บเดี่ยว คือ "ติดโปร"

สาเหตุที่ชอบเลย คือ เราชอบที่เค้ามีการอัพเดทโปรของสายการบินที่หลากหลาย ไม่ทุ่มไปสายการบินใดสายการบินหนึ่ง มีการอัพเดทโปรที่ทันเหตุการณ์ มีการแจ้งโปรให้เราทราบล่วงหน้าก่อนที่ราคาโปรจะจำหน่าย (ทำให้เราเตรียมตัวได้ทัน และไม่พลาดตั๋วในราคาโปร) และที่สำคัญได้ตั๋วราคาโปรจริงตามที่เค้าอัพเดท ซึ่งเค้าจะมีการลงดีเทลรายละเอียดของตั๋วนั้นไว้อย่างครบถ้วน เช่น เดินทางได้ตั้งแต่เมื่อไรถึงเมื่อไร ราคาโปรนี้ซื้อได้วันไหนถึงวันไหน วันเดินทางไหนบ้างที่มีราคาโปร เค้าจะลิสให้เราดูหมด "ซึ่งมันก็ง่ายกับเราหละ"

ลิงค์เว็บ "ติดโปร" http://www.tidpro.net/

นอกจากนี้ก็จะมีเว็บอื่นที่ใช้ดูราคาตั๋วประกอบ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าใช้ในการดูราคาตั๋วคราวๆ กับดูสายการบินที่ให้บริการ และเส้นทางการบิน เท่านั้น หลักๆ ก็จะมี Skyscanner และ Traveloka ที่ Mars เลือกใช้ และใช้มานานมากกกก

Skyscanner จะเป็นเว็บที่รวบรวมสายการบิน และราคาตั๋วจากเว็บต่างๆ ซึ่งรวมทั้งเว็บหลักขอสายการบินเองด้วย เมื่อเราถูกใจที่ราคาไหน ก็สามารถกดเข้าไปซื้อในเว็บนั้นๆ ได้เลย แต่ในเรื่องของราคาไม่ได้การันตีในราคาที่โชว์เสมอไป เราจะต้องกดเพื่อทำการจองไปจนถึงหน้า Payment จึงจะทำให้เราทราบราคาตั๋วที่แท้จริง เพราะฉะนั้น Skyscanner สำหรับ Mars จะใช้แค่ดูประกอบ เพราะบางประเทศเราก็นึกไม่ออก ว่ามีสายการบินอะไรบ้าง เส้นทางการบินแบบไหนบ้าง

แต่ในส่วนของ Traveloka จะเป็นเว็บที่เหมือน Agency ในการขายตั๋วของสายการบินในเส้นทางต่างๆ ซึ่งก็เคยใช้บริการในเรื่องของการซื้อตั๋ว ก็ถือว่าง่ายดี ไม่ติดขัดอะไร และมีรูปแบบการชำระเงินที่หลากหลาย ที่สำคัญสายการบินที่โชว์ในหน้าเว็บเพื่อทำการซื้อตั๋ว จะเป็นที่นั่งว่างที่สามารถจองได้จริง เป็นที่นั่งที่อัพเดทแบบ Real Time กับสายการบิน ซึ่งไม่เหมือนบางเว็บที่รับจอง ตัดเงิน แต่ปรากฎว่าไม่มีที่นั่ง ก็ต้องมาเสียเวลาในการ Refun ค่าตั๋วใหม่ (อันนี้เคยเจอ) แล้วส่วนใหญ่จะเป็นเว็บต่างประเทศ กว่าจะเคลียร์ กว่าจะจัดการกันได้ ก็เสียเวลาไปเยอะ -_- เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ต้องเลือกจากเว็บที่น่าเชื่อถือ และไว้ใจได้กันนะค่ะ

สาวแว่น ได้มีโอกาสเรียนรู้ระบบการจองตั๋วผ่านระบบหนึ่ง (ไม่สามารถออกชื่อได้) และระบบการจองตั๋วแบบผ่านเว็บไซค์ จึงทำให้รู้ว่าพวกนี้มีระบบความจำ คือ ยิ่งเรา Search หาบ่อยๆ มันจะทำให้ราคาตั๋วเปลี่ยน ครั้งแรกเราจะได้ตั๋วในราคาถูก จากนั้นถ้าเรา Search หาอีก หาอีก มันจะไม่ได้ในราคาเดิมหละ เพราะมันจำแล้วว่ามีการค้นหา ยิ่งค้นหาบ่อยๆ ค้นหามากๆ แสดงว่ามีคนต้องการไปหละ ราคามันเลยขยับ บวกกับทุกวันอังคาร จะเป็นวันปรับราคาภาษีสนามบิน ราคาน้ำมันของทุกสายการบิน นั้นหมายความว่า ถ้าวันพุธเราหาตั๋วแล้ว วันศุกร์เราไม่ต้องหา เพราะมันยังได้ในราคาเรทเดิม หรือใกล้เคียงอยู่ (ราคาตั๋วจะปรับขึ้นลง ขึ้นอยู่กับจำนวนการซื้อตั๋ว) เพราะฉะนั้น Mars จะ Search หาราคาครั้งแรกครั้งนึงก่อนเพื่อทราบราคาคราวๆ ก่อนที่จะซื้อล่วงหน้าอาทิตย์นึงเพื่อดูว่าราคามันสวิฟขึ้นลงขนาดไหน และวันซื้อจริงเลย

นอกเรื่อง : ราคาตั๋วจะเป็นราคาที่ฟิกส์อยู่แล้วตั้งแต่ต้น ในหนึ่งปีราคาตั๋วจะปรับหนึ่งครั้ง คือ ประมาณช่วงต้นปี (ประมาณช่วงมีนาคม) และจะมีราคาย่อยในแต่ละประเภทชั้นที่นั่ง แบ่งตามอายุของตั๋ว ประเภทตั๋ว ราคาตั๋วที่ปรับขึ้นลงก็ขึ้นกับภาษีสนามบิน น้ำมัน และจำนวนคนที่ซื้อตั๋วต่อวันของไฟล์นั้นๆ

Mars ชอบซื้อตั๋วผ่านเว็บสายการบินโดยตรงมากกว่าการซื้อผ่านเว็บขายตั๋ว เพราะส่วนใหญ่ได้ราคาที่ถูกกว่า และมั่นใจได้ว่าจองได้ชัวร์ แต่บางครั้ง Agency (บริษัทขายตั๋ว) จะมีตั๋วที่ราคาถูกกว่าหน้าเว็บของสายการบิน ++ สโลแกนที่ว่า ซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนการเดินทางอย่างน้อย 1 เดือนจะได้ตั๋วถูก อาจใช้ไม่ได้เสมอไป เพราะทุกครั้งชอบมีโปรแบบซื้อปุ๊บ บินปั๊บ ให้ช้ำใจบ้างเป็นบางที ++

ลิงค์ skyscanner : https://www.skyscanner.co.th/
ลิงค์ traveloka : https://www.traveloka.com/th-th/

สาวแว่น กลับมาที่เกาหลีกันต่อ ถ้าถามว่า...สายการบินไหนดี อันไหนโอเคร ถ้าเอาตามประสบการณ์ที่นั่งนะ (เฉพาะเส้นทางที่ไป Seoul)
Jeju Airline = ย้อนกลับไป 6 - 7 ปีที่แล้วดีมากกกก เพราะราคาถูก และ Full Service กระเป๋า 20Kg. มีอาหาร มีเล่นเกมส์บนเครื่อง แม้พื้นที่นั่งจะแคบ แต่ตอนนี้ กระเป๋าได้ 15Kg. อาหารต้องซื้อ ส่วนเครื่องนั้นลำจะเล็ก ไม่เหมาะกับคนตัวใหญ่มากๆ เพราะจะรู้สึกอึดอัด เครื่องกลางๆ ไม่เก่า ไม่ใหม่

Air Asia = อย่างที่เราๆ ทราบกันดี กระเป๋าซื้อ อาหารซื้อ แต่โดยความรู้สึกดีกว่า Jeju Airline คือ ลำใหญ่กว่า พื้นที่นั่งกว้างกว่า (ไม่เยอะมาก) ดูใหม่กว่า โปร่งสบายตากว่า

Asiana Airlines = Full Service กระเป๋า 20Kg. มีอาหาร พื้นที่นั่งกว้างกว่าสองสายการบินแรก แต่เครื่องดูกลางๆ ไม่เก่า ไม่ใหม่

Korean Air = Full Service กระเป๋า 20Kg. มีอาหาร พื้นที่นั่งกว้างกว่าสองสายการบินแรก แต่เครื่องดูกลางๆ ไม่เก่า ไม่ใหม่ มี Travel Kit เครื่องดื่มมีให้เลือกเยอะ เสริฟต์ไวน์ฟรีตลอดการเดินทาง ^^ มีไอติมให้กิน แต่โดยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรพิเศษมากกว่ากว่าสายการบินอื่นที่กล่าวไป ถ้าเทียบกับราคาที่เสียไป 555

+++ ส่วนเรื่องการบริการก็มีความรู้สึกว่าไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ถ้าให้เลือกก็สามารถบินกับสายการบินไหนก็ได้ แต่ Jeju Air จะเด็ดขาดจริงฝั่งเกาหลีเข้าไทย คือ ถ้าน้ำหนักกระเป๋าเกิน แม้จะนิดเดี่ยวก็ต้องซื้อ (เคยเกินครั้งนึง เกือบๆ 1 Kg. เสียน่าจะ 2 พัน อ้อนวอนยังไง ก็ไม่ยอมให้ -_-) แต่ถ้าสายการบินอื่นเค้าจะเฉลี่ยตามน้ำหนักรวมพร้อมกับคนที่เดินทางไปกับเรา หรือถ้าเกินมาสัก 2 - 3Kg. ก็ไม่ว่าอะไร คือ เคยเกินไป 5Kg. แต่เจ้าหน้าที่ก็ให้โหลดไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ทั้งนี้ อยากให้เพื่อนๆ เข้าใจด้วยว่า ถ้าไฟล์เราไปตรงกับกรุ๊ปทัวร์ หรือมีผู้เดินทางเยอะๆ น้ำหนักที่เกินอาจจะเกินได้ไม่มาก หรืออาจต้องมีการซื้อเพิ่ม อันนี้เข้าใจตรงกันเนอะ +++

ยิ้ม ที่พัก : Hotel / Hostel / Guest House และอื่นๆ ตามแต่จะเรียก
เกาหลีเป็นประเทศหนึ่งที่หาที่พักง่าย และมีให้เลือกหลากหลาย Hotel / Hostel / Guest House / Amartment บลาๆๆๆๆๆ มีให้เลือกจัดไปตามงบที่เราตั้งเอาไว้ จะนอรวม นอนเดี่ยว ห้องน้ำรวม ห้องน้ำส่วนตัวมีหมด ราคาเริ่มตั้งแต่คืนละ 500 ไปจนถึงหลักหมื่นบาท

แต่โดยส่วนตัว Mars มีเกณฑ์ในการเลือก คือ ห้องน้ำในตัว เพราะเราสะดวกแบบนี้ >> มีพื้นที่วางกระเป๋าได้บ้าง เพราะห้องส่วนใหญ่ที่เกาหลีจะแคบ และเราเป็นคนของเยอะ กระเป๋าใหญ่ >> ใกล้ลีมูซีน บัส เพราะสะดวกในการเดินทางไป-กลับสนามบินมากกว่าการนั่งรถไฟ  "ลีมูซีน บัส ขึ้นรถ หลับ จบ" แต่รถไฟถ้าแจ๊คพอตเจอสถานีไม่มีลิฟต์ หรือบันไดเลื่อน เตรียมตัวได้เลย (เคยมาแล้วววว) >> ใกล้รถไฟฟ้า และเดินทางไปสถานที่ต่างๆ สะดวก >> มีร้านสะดวกซื้อ หาของกินง่าย

สาวแว่น จริงๆ อยากจะแนะนำเพื่อนๆ ทุกคนเลยว่า จากการลองพักมาหลายๆ ทำเลแล้ว ทำเลที่เหมาะที่สุดในการพัก ไม่ว่าจะมือใหม่หัดเที่ยวเกาหลี หรือว่าไปมาอย่างโชกโชนแล้วก็ตาม ทำเลที่ตอบโจทย์ได้หมด ครบทุกด้าน คือ
1. เมียงดง = ใกล้รถไฟฟ้า, ลีมูซีน บัส, ร้านาสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร, สถานที่เที่ยว, แหล่ง Shopping, ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก
2. นัมแดมุน (อยู่ใกล้เมียงดง สามารถเดินไปเมียงดงได้) = เหตุผลเหมือนเมียงดงทุกประการ แม้อาจไม่ครึกครืนเท่า หรือมีโอปป้าให้ส่องไม่เยอะเท่าไร

แต่ฮงแด หรือฮงอิ อันนี้เพื่อนๆ อาจสงสัยว่าทำไมไม่แนะนำ จริงๆ ทำเลนี้ที่พักส่วนใหญ่จะต้องเดินหาสักนิดนึง การเดินไปรถไฟฟ้าอาจต้องใช้เวลาบ้าง ส่วนร้านอาหารย่านนี้จะเปิดสายๆ จะเริ่มคึกคักอีกทีช่วงบ่ายๆ คล้อยๆ ไปแล้ว ทำเลนี้โดยส่วนตัว เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวผับ เพราะมันเดินถึงกัน ถ้าพักย่านอื่นจะลำบากในการเรียก Taxi เพราะเรียกยาก แต่ถ้าใครอยากส่องโอปป้าแนะนำเลยว่าย่านนี้เถอะค่ะ ^^

สาวแว่น เพราะฉะนั้นรอบนี้ Mars เลือกพักย่าน "นัมแดมุน" ที่ Seoul และย่าน "ซอวิคโพ" ที่ Jeju (เดี๋ยวมารีวิวที่พักในกระทู้ถัดๆ ไปนะคะ)

ส่วนเว็บที่ใช้จองที่พักอยู่บ่อยๆ และใช้เป็นประจำเลย คือ Booking.com เพราะจองก่อนจ่ายเมื่อเข้าพัก ราคาถูก ที่พักมีให้เลือกเยอะ จ่ายจริงตามราคาที่จอง และที่สำคัญมีห้องจริงในวันเช็คอิน (เพราะเคยจองผ่านเว็บหนึ่ง แต่ปรากฎว่าไปหน้างานไม่มีชื่อในการจองที่พัก) เลยใช้เว็บนี้มาตลอด

ลิงค์ Booking.com : www.booking.com

เยี่ยม อีกหนึ่งเว็บที่ต้องแนะนำ เพราะเค้าเด็ดตรงที่ ถ้าจองตั๋วกับที่พักพร้อมกันจะได้ในราคาที่ถูกมากๆ นั้นก็คือ Expedia เว็บนี้ก็เชื่อถือได้ ราคาตามหน้าที่โชว์ จองแล้วมีตั๋ว มีที่พักจริง ระบบการจองตั๋วแบบ Real Time เหมือนกับ Traveloka

ลิงค์เว็บ Expedia : https://www.expedia.co.th

pompom สุดท้ายการเลือกใช้เว็บไหนก็ขึ้นกับความชอบ ความถนัด และตามประสบการณ์ที่แต่ละคนเคยได้รับ แต่โดยส่วนตัว Mars จะเป็นคนชอบเรื่องอะไรแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นเราเลยคลุกคลีกับเว็บพวกนี้มาเยอะ ลองใช้ ลองสัมผัส มานานมาก จึงได้รู้ว่าเออ อันไหนมันโอเคร อันไหนมันใช้ได้จริง เราก็ใช้อันนั้นมาตลอด แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีเว็บไหนที่น่าสนใจก็แนะนำกันเข้ามาได้นะค่ะ จะได้ลองเข้าไปเล่นดู ^^

เยี่ยม วันนี้จบที่ 2 หัวข้อใหญ่ คือ เรื่องตั๋ว และที่พัก แต่รอบหน้าเดี๋ยวเรามาต่อกับปัจจัยที่เหลือในการเตรียมตัวก่อนออกเดินทางกันค่ะ

ดอกไม้ อ่านย้อนหลัง Korea Autumn / Chapter 1 : เกริ่นก่อนเดินทาง ที่ https://ppantip.com/topic/36934331/comment1-1

ประหลาดใจกดติดตาม IG ได้ที่ mars.minwi คะ
ชื่อสินค้า:   Seoul Korea
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่