เตือนภัยมิจฉาชีพในรถตู้
เล่าจากประสบการณ์วันนี้วันที่ 8 ตุลาคม 2560 วันนี้เรากับน้องสาวไปสอบที่ ม. รามคำแหง 1 โดยจขกทได้สอบรอบเช้าส่วนน้องได้สอบตอนช่วงบ่ายสอง หลังจากจขกทสอบเสร็จจขกท.ก็อยู่เป็นเพื่อนน้องถึงประมาณบ่ายโมงครึ่ง จากนั้นตัวเราได้กลับก่อนซึ่งได้ขึ้นรถตู้จากม.รามไปรังสิตโดยนั่งเบาะคู่ริมหน้าต่างเบาะที่3 นับจากด้านหลังคนขับ วันนี้เราใช้ถุงผ้าธรรมดาแบบไม่มีซิป ใส่หนังสือ กระเป๋าตังค์ กระเป๋าดินสอ วางไว้บนตัก ระหว่างที่นั่งรถตู้อยู่ด้วยความที่เพลียจากการสอบ+แอร์เย็นๆ เราก็ใส่หูฟังฟังเพลงแล้วหลับไป แต่ไม่ได้หลับสนิทมากนักก็ตื่นขึ้นมาเป็นระยะๆ ส่วนเพลงที่ฟังก็จบไปนานแล้วแต่ยังใส่หูฟังอยู่ สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งน่าจะพอมีอายุพอสมควร(ไม่ได้สังเกตหน้าตาเพราะไม่ได้คิดอะไร) (รูปร่างสันทัดใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก๊อตสีแดงขาว กางเกงขาสามส่วนสีดำผมซอยสีผมหงอกทั้งหัวแต่น่าจะเคยผ่านการย้อมผมสีน้ำตาลมาได้สัก4-6 เดือนเพราะปลายๆผมเป็นสีน้ำตาลอ่อน) <- สังเกตหลังจากตอนที่เขาย้ายจะไปจ่ายตังค์ค่ารถที่เบาะหน้า
มาเขาเรื่องต่อ เราเริ่มรู้สึกได้ถึงความแปลกๆ
เราเลยลืมตาขึ้นมาเห็นผู้ชายคนข้างๆกางหนังสือพิมพ์กว้างมากกินที่มายันตักเรา บังกระเป๋าเรามิดทำเป็นอ่านข่าว ไอเราก็ไม่ได้คิดอะไรมองในเเง่ดีสงสัยคนแก่จะอ่านหนังสือพิมพ์เพราะหน้าต่างตรงข้างๆเราเราเปิดไว้มีแสงพอดี เราเลยหลับตาจะหลับต่อ สักพักเราเริ่มรู้สึกว่าขาข้างขวามันสั่นเป็นจังหวาะเหมือนคนสั่นขา เราก็ยังหลับตาต่อเริ่มรู้สึกไม่พอใจคือมันเกินเขตเกินไปแล้ว แต่เรายังไม่พูดอะไรเราเริ่มขยับตัวให้รู้ว่าเราเริ่มอึดอัดแล้ว ในใจเราเราเริ่มรุ้สึกแปลกๆว่าทำไมเขามานั่งตรงนี้เพราะเบาะด้านหน้าเราโล่งมาก คนเราน่าจะนั่งเบาะที่ใกล้สะดวกที่สุด แต่ทำไมเขาถึงมานั่งตรงนี้ ระหว่างที่เราคิดขาเราเริ่มรู้สึกมันสั่นๆ ซึ่งมั่นใจมากว่าไม่ใช่จังหวะแบบพวกโลกจิตแน่นอน เราจึงลืมตาขึ้นมาแล้วดึงถุงผ้าที่อยู่บนตักที่มันเริ่มไหลลง เราเห็นกระเป๋าตังค์ตัวเองมันโผล่ออกมาชัดมากเหมือนจะร่วงก็แปลกใจเลยยัดมันเก็บเข้าไปลึกๆแล้วหลับตาต่อ จากนั้นผู้ชายข้างๆเราเลยพับหนังสือพิมพ์เก็บยัดใส่กระเป๋าเอกสาร ลุกไปเบาะหน้าจ่ายเงินแล้วลงจากรถไปปกติ ตัวเราเองก็ไม่ได้คิดอะไรจนกลับบ้านกินข้าวเย็นเสร็จเราก็เล่าให้แม่ฟังเท่านั้นแหละ น้องสาวเราใส่ชุดม.ปลาย ที่สอบรอบบ่ายสอบเสร็จขึ้นรถตู้กลับรังสิตเหมือนเรา ก็เล่าขึ้นมาสรุปเจอเหมือนกันเด๊ะ! หลับใส่หูฟังตื่นมามีผู้ชายมีอายุกางหนังสือพิมพ์เกินที่เหมือนกัน ลืมตาขึ้นมากระเป๋าตังค์เลื่อนขึ้นมากเหมือนกัน แล้วน้องเราก็ยัดกลับลงไปเหมือนเรา ลักษณะการแต่งตัวน่าจะคนเดียวกัน แต่ที่แน่ๆโดนรูปแบบเดียวกันเด๊ะ! นี่ถ้าวันนี้น้องเราไม่ได้เจอเหมือนเราเจอ เราคงไม่รู้ว่ากำลังจะโดนขโมยกระเป๋าตังค์ ซึ่งเรากับน้องก็ถือว่าโชคดีที่ไหวตัวทัน แต่ก็ผิดเองที่ไม่ค่อยจะระะวังตัวเท่าที่ควรเลยเป็นเป้าหมายของพวกมิจฉาชีพ เลยอยากจะฝากมาเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับทุกๆคนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะเหมือนกันโดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว เพราะไม่แน่พวกคุณอาจจะไม่โชคดีเหมือนเราสองคน
เตือนภัยมิจฉาชีพในรถตู้
เล่าจากประสบการณ์วันนี้วันที่ 8 ตุลาคม 2560 วันนี้เรากับน้องสาวไปสอบที่ ม. รามคำแหง 1 โดยจขกทได้สอบรอบเช้าส่วนน้องได้สอบตอนช่วงบ่ายสอง หลังจากจขกทสอบเสร็จจขกท.ก็อยู่เป็นเพื่อนน้องถึงประมาณบ่ายโมงครึ่ง จากนั้นตัวเราได้กลับก่อนซึ่งได้ขึ้นรถตู้จากม.รามไปรังสิตโดยนั่งเบาะคู่ริมหน้าต่างเบาะที่3 นับจากด้านหลังคนขับ วันนี้เราใช้ถุงผ้าธรรมดาแบบไม่มีซิป ใส่หนังสือ กระเป๋าตังค์ กระเป๋าดินสอ วางไว้บนตัก ระหว่างที่นั่งรถตู้อยู่ด้วยความที่เพลียจากการสอบ+แอร์เย็นๆ เราก็ใส่หูฟังฟังเพลงแล้วหลับไป แต่ไม่ได้หลับสนิทมากนักก็ตื่นขึ้นมาเป็นระยะๆ ส่วนเพลงที่ฟังก็จบไปนานแล้วแต่ยังใส่หูฟังอยู่ สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งน่าจะพอมีอายุพอสมควร(ไม่ได้สังเกตหน้าตาเพราะไม่ได้คิดอะไร) (รูปร่างสันทัดใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก๊อตสีแดงขาว กางเกงขาสามส่วนสีดำผมซอยสีผมหงอกทั้งหัวแต่น่าจะเคยผ่านการย้อมผมสีน้ำตาลมาได้สัก4-6 เดือนเพราะปลายๆผมเป็นสีน้ำตาลอ่อน) <- สังเกตหลังจากตอนที่เขาย้ายจะไปจ่ายตังค์ค่ารถที่เบาะหน้า
มาเขาเรื่องต่อ เราเริ่มรู้สึกได้ถึงความแปลกๆ
เราเลยลืมตาขึ้นมาเห็นผู้ชายคนข้างๆกางหนังสือพิมพ์กว้างมากกินที่มายันตักเรา บังกระเป๋าเรามิดทำเป็นอ่านข่าว ไอเราก็ไม่ได้คิดอะไรมองในเเง่ดีสงสัยคนแก่จะอ่านหนังสือพิมพ์เพราะหน้าต่างตรงข้างๆเราเราเปิดไว้มีแสงพอดี เราเลยหลับตาจะหลับต่อ สักพักเราเริ่มรู้สึกว่าขาข้างขวามันสั่นเป็นจังหวาะเหมือนคนสั่นขา เราก็ยังหลับตาต่อเริ่มรู้สึกไม่พอใจคือมันเกินเขตเกินไปแล้ว แต่เรายังไม่พูดอะไรเราเริ่มขยับตัวให้รู้ว่าเราเริ่มอึดอัดแล้ว ในใจเราเราเริ่มรุ้สึกแปลกๆว่าทำไมเขามานั่งตรงนี้เพราะเบาะด้านหน้าเราโล่งมาก คนเราน่าจะนั่งเบาะที่ใกล้สะดวกที่สุด แต่ทำไมเขาถึงมานั่งตรงนี้ ระหว่างที่เราคิดขาเราเริ่มรู้สึกมันสั่นๆ ซึ่งมั่นใจมากว่าไม่ใช่จังหวะแบบพวกโลกจิตแน่นอน เราจึงลืมตาขึ้นมาแล้วดึงถุงผ้าที่อยู่บนตักที่มันเริ่มไหลลง เราเห็นกระเป๋าตังค์ตัวเองมันโผล่ออกมาชัดมากเหมือนจะร่วงก็แปลกใจเลยยัดมันเก็บเข้าไปลึกๆแล้วหลับตาต่อ จากนั้นผู้ชายข้างๆเราเลยพับหนังสือพิมพ์เก็บยัดใส่กระเป๋าเอกสาร ลุกไปเบาะหน้าจ่ายเงินแล้วลงจากรถไปปกติ ตัวเราเองก็ไม่ได้คิดอะไรจนกลับบ้านกินข้าวเย็นเสร็จเราก็เล่าให้แม่ฟังเท่านั้นแหละ น้องสาวเราใส่ชุดม.ปลาย ที่สอบรอบบ่ายสอบเสร็จขึ้นรถตู้กลับรังสิตเหมือนเรา ก็เล่าขึ้นมาสรุปเจอเหมือนกันเด๊ะ! หลับใส่หูฟังตื่นมามีผู้ชายมีอายุกางหนังสือพิมพ์เกินที่เหมือนกัน ลืมตาขึ้นมากระเป๋าตังค์เลื่อนขึ้นมากเหมือนกัน แล้วน้องเราก็ยัดกลับลงไปเหมือนเรา ลักษณะการแต่งตัวน่าจะคนเดียวกัน แต่ที่แน่ๆโดนรูปแบบเดียวกันเด๊ะ! นี่ถ้าวันนี้น้องเราไม่ได้เจอเหมือนเราเจอ เราคงไม่รู้ว่ากำลังจะโดนขโมยกระเป๋าตังค์ ซึ่งเรากับน้องก็ถือว่าโชคดีที่ไหวตัวทัน แต่ก็ผิดเองที่ไม่ค่อยจะระะวังตัวเท่าที่ควรเลยเป็นเป้าหมายของพวกมิจฉาชีพ เลยอยากจะฝากมาเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับทุกๆคนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะเหมือนกันโดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว เพราะไม่แน่พวกคุณอาจจะไม่โชคดีเหมือนเราสองคน