สวัสดีชาวพันทิปทุกคนคะ นี้เป็นกระทู้แรกที่มารีวิวประสบการณ์การท่องเที่ยว ซึ่งมีอยู่หลายกระทู้ที่รีวิวเรื่องการไปญี่ปุ่นมาค่อนข้างมาก แต่ที่มารีวิวรอบนี้คือการตะลุยเดี่ยว!! พร้อมกับงบ 15,000 บาท (ตีเป็นเงินเยน ณ ต้นเดือนกันยา 50,000 เยน) อ่านไม่ผิดนะคะ ไปด้วยงบเท่านั้นจริงๆ ไม่ได้เขียนก่อนจะมาตั้งกระทู้ วันนี้จะด้นสดกันเลย
เริ่มแรกเลยนะคะ ตกลงกับเพื่อนว่าจะไปญี่ปุ่น แล้วบังเอิญมีโปรถูกมากของหางแดง จะไปโอซาก้าเจอราคาไม่ถูกใจ แต่โตเกียวกลับถูกใจกว่า ก็เลยตกลงกันไปเที่ยวโตเกียว จองตั๋วสิ้นเดือนมีนาคม เดินทาง 5-9 กันยายน ถ้าเอาเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินนะคะ รวมไปกลับไม่ถึง 7 พันคะ ส่วนตัวเราโหลดกระเป๋าขากลับรวม 7,125 บาท ส่วนเพื่อนโหลดทั้งขาไปขากลับเกือบๆ 8 พัน ... อ่ะๆ งง ล่ะสิทำไมมีเพื่อนไปด้วย จุดพีคมาถึงตอนเดือนปลายเดือนกรกฎาคะ เพื่อนบอก "แก ฉันไปไม่ได้ T T หาคนไปแทนที่" ก็ประกาศขายตั๋วอย่างดิบดี พอโทรคุยกับ พนง.หางแดงเท่านั้นแหละ เปลี่ยนชื่อ ผดส.ไม่ได้จ้า เงินค่าตั๋วที่จ่ายก็ไม่ได้คืน ได้แค่ค่าภาษีสนามบินของดอนเมืองและสนามบินนาริตะ แต่จะได้คืนต้องให้เที่ยวบินบินก่อน ... สุดท้ายเลยกลายเป็นที่มาของการตะลุยเดี่ยว เพื่อนก็ so sad ที่ไปด้วยไม่ได้ ด้วยเหตุผลจำเป็นจริงๆ พยายามก็แล้ว จนสุดท้าย คนเดียวก็คนเดียววุ้ย
สำหรับการไปครั้งนี้ วางแผนทำการบ้านอย่างดิบดีมาก (สุดท้ายหลงเหมือนเดิม) บ่นมาซะยาว มาเริ่มกันเลยดีกว่า
หนังสือที่อ้างอิงในการใช้เที่ยวคะ (แอบโปรโมทไปด้วย ฟรีคะฟรี)
วันที่ 5 กันยายน 2560
วันแรกของการเดินทาง พักอยู่รามคำแหง 2 แม้จะใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็สู้มาสนามบินดอนเมืองคะ เดินทางด้วย BTS จากสถานีบางนามาลงสถานีหมอชิต แล้วก็มารอรถขึ้น A1 หรือ A2 ซึ่งจะมีป้ายบอกชัดเจนคะ (อยู่ฝั่งสวนจัตุจักรนะคะ เผื่อบางคนยังไม่ทราบ) ค่าโดรสาย 30 บาท เมื่อไปถึงสนามบินดอนเมือง ก็จัดการไปเช่า Pocket Wifi ทันทีคะ ที่ใช้บริการคือ Samurai Wifi คะ พนง.ก็จะถามว่าไปประเทศไหน เขาก็จะรีบอุปกรณ์พร้อมกระเป๋าและสายชาร์ตของประเทศนั้นๆ ให้คะ ค่าเช่าเครื่องในตอนนั้นวันละ 180 บาทรวมประกันเรียบร้อยคะ (อยู่ฝั่งอาคารขาออกประเทศ ชั้น 1 คะ ใกล้ร้านอเมซอน) จัดเตรียมอุปกรณ์และเอกสารมาเรียบร้อยก่อนเดินทางแล้ว หาอะไรกินก่อนขึ้นเครื่องคะ เที่ยวบินออก 11.15 น. ลุยกันคะ
เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงคะ ถึงสนามบินนาริตะ 19.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่นคะ (เวลาบ้านเขาเร็วกว่าเรา 2 ชม.) ความรู้สึกของการไปญี่ปุ่นครั้งแรก เอ๋อคะเอ๋อ สนามบินนาริตะใหญ่มากกกกกกกก พอเดินมาถึงก็มาจุดตรวจคนเข้าเมือง ตอนเอานิ้วแตะแกน หน้าจอขึ้นเป็นภาษาไทยด้วยคะ (คนไทยไปเยอะจริงๆ บัตรที่แจกก็มีภาษาไทยกำกับให้คะ)
ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วก็ไปสถานีรถไฟ N'EX คะ เพราะเลือกพักที่ชินจูกุ นั่ง N'EX ต่อเดียวถึงเลย แต่กว่าจะหาเจอ วนหาอยู่นั้นแหละ เลือกแบบไปกลับคะราคา 4000 เยน จนท.จะออกตั๋วขาไปและขากลับให้ ขากลับให้เราไปเลือกกดเลือกที่นั่งเองที่สถานีได้เลยคะ
จนท.จะแจกตารางรถไฟออกให้ จะได้วางแผนมารอขึ้นรถไฟถูกคะ ที่นั่ง N'EX หลายๆ คนน่าจะเคยเห็นกันมาแล้ว ที่นั่งกว้าง มีที่เก็บกระเป๋า ตอนไปคนไม่ค่อยเยอะคะ เลยนั่งสบายๆ ยาวไปถึงชินจูกุเลย แล้วเนี่ยแหละ ปัญหาก็เกิด
ปัญหาที่เกิดขึ้น หาที่พักไม่เจอเนี่ยแหละคะ มาปุ๊บก็หลงซะแล้ว ก็ถามคนญี่ปุ่น (เขายินดีช่วยเรานะคะ พูดอังกฤษกันได้อยู่) ก็ส่งข้อความไปหาเจ้าของ กว่าจะตอบ ก็หาที่พักเจอจนได้ ตอนแรกแทบจะร้องไห้ หาที่พักไม่เจอ ที่พักอยู่ในอาคารรวมคะ พักอยู่ชั้น 4 พักอยู่ที่นี้ 4 คืนด้วยราคา 1,978 บาทคะ (ราคาในชินจูกุ โอ้มายก๊อด) ที่พักไม่ได้เลือกหรูหราคะ เลือกแบบพักรวม เสมือนคล้ายหอพัก นศ.เลย ห้องน้ำรวมคะ
เนี่ยแหละคะ สภาพที่พัก ไม่ได้หรูหรา (แต่พ่อบ้านหล่อมาก) กว่าจะเจอที่พักก็เที่ยงคืนของที่นั้น 7-11 ก็อยู่ตรงข้ามพอดี ก็ซื้อมากินรองท้อง (7-11 ที่นู่นราคาแพงกว่าไทยมากเลย เพราะค่าครองชีพเขาสูงกว่าเราอยู่แล้ว น้ำตากระชิกๆ ไปคะ) พอทานมื้อเย็นเสร็จ รีบอาบน้ำแล้วนอนคะ เพราะมีโปรแกรมไป คาวากูจิโกะ และวางแผนไปขึ้นรถรอบ 06.05 น. และนั้นคือเหตุผลที่เลือกที่พักในชินจูกุคะ เดินทางด้วยรถบัสคะ เพราะดูจากที่อ่านรีวิวมา เดินทางด้วยรถไฟค่อนข้างแพง แต่ถ้าใครชอบบรรยากาศชิลๆ ก็เดินทางไปรถไฟได้คะ
เดี๋ยวมาลุยต่อของวันที่ 6 ใครอ่านไม่อ่านไม่ซีเรียสคะ ขอแบ่งปันประสบการณ์ความฮาในการตะลุยเดี่ยว
[CR] [Review] ตะลุยเดี่ยวในโตเกียว 5 วัน 4 คืน ด้วยงบ 15,000 บาท
เริ่มแรกเลยนะคะ ตกลงกับเพื่อนว่าจะไปญี่ปุ่น แล้วบังเอิญมีโปรถูกมากของหางแดง จะไปโอซาก้าเจอราคาไม่ถูกใจ แต่โตเกียวกลับถูกใจกว่า ก็เลยตกลงกันไปเที่ยวโตเกียว จองตั๋วสิ้นเดือนมีนาคม เดินทาง 5-9 กันยายน ถ้าเอาเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินนะคะ รวมไปกลับไม่ถึง 7 พันคะ ส่วนตัวเราโหลดกระเป๋าขากลับรวม 7,125 บาท ส่วนเพื่อนโหลดทั้งขาไปขากลับเกือบๆ 8 พัน ... อ่ะๆ งง ล่ะสิทำไมมีเพื่อนไปด้วย จุดพีคมาถึงตอนเดือนปลายเดือนกรกฎาคะ เพื่อนบอก "แก ฉันไปไม่ได้ T T หาคนไปแทนที่" ก็ประกาศขายตั๋วอย่างดิบดี พอโทรคุยกับ พนง.หางแดงเท่านั้นแหละ เปลี่ยนชื่อ ผดส.ไม่ได้จ้า เงินค่าตั๋วที่จ่ายก็ไม่ได้คืน ได้แค่ค่าภาษีสนามบินของดอนเมืองและสนามบินนาริตะ แต่จะได้คืนต้องให้เที่ยวบินบินก่อน ... สุดท้ายเลยกลายเป็นที่มาของการตะลุยเดี่ยว เพื่อนก็ so sad ที่ไปด้วยไม่ได้ ด้วยเหตุผลจำเป็นจริงๆ พยายามก็แล้ว จนสุดท้าย คนเดียวก็คนเดียววุ้ย
สำหรับการไปครั้งนี้ วางแผนทำการบ้านอย่างดิบดีมาก (สุดท้ายหลงเหมือนเดิม) บ่นมาซะยาว มาเริ่มกันเลยดีกว่า
วันที่ 5 กันยายน 2560
วันแรกของการเดินทาง พักอยู่รามคำแหง 2 แม้จะใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็สู้มาสนามบินดอนเมืองคะ เดินทางด้วย BTS จากสถานีบางนามาลงสถานีหมอชิต แล้วก็มารอรถขึ้น A1 หรือ A2 ซึ่งจะมีป้ายบอกชัดเจนคะ (อยู่ฝั่งสวนจัตุจักรนะคะ เผื่อบางคนยังไม่ทราบ) ค่าโดรสาย 30 บาท เมื่อไปถึงสนามบินดอนเมือง ก็จัดการไปเช่า Pocket Wifi ทันทีคะ ที่ใช้บริการคือ Samurai Wifi คะ พนง.ก็จะถามว่าไปประเทศไหน เขาก็จะรีบอุปกรณ์พร้อมกระเป๋าและสายชาร์ตของประเทศนั้นๆ ให้คะ ค่าเช่าเครื่องในตอนนั้นวันละ 180 บาทรวมประกันเรียบร้อยคะ (อยู่ฝั่งอาคารขาออกประเทศ ชั้น 1 คะ ใกล้ร้านอเมซอน) จัดเตรียมอุปกรณ์และเอกสารมาเรียบร้อยก่อนเดินทางแล้ว หาอะไรกินก่อนขึ้นเครื่องคะ เที่ยวบินออก 11.15 น. ลุยกันคะ
เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงคะ ถึงสนามบินนาริตะ 19.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่นคะ (เวลาบ้านเขาเร็วกว่าเรา 2 ชม.) ความรู้สึกของการไปญี่ปุ่นครั้งแรก เอ๋อคะเอ๋อ สนามบินนาริตะใหญ่มากกกกกกกก พอเดินมาถึงก็มาจุดตรวจคนเข้าเมือง ตอนเอานิ้วแตะแกน หน้าจอขึ้นเป็นภาษาไทยด้วยคะ (คนไทยไปเยอะจริงๆ บัตรที่แจกก็มีภาษาไทยกำกับให้คะ)
ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วก็ไปสถานีรถไฟ N'EX คะ เพราะเลือกพักที่ชินจูกุ นั่ง N'EX ต่อเดียวถึงเลย แต่กว่าจะหาเจอ วนหาอยู่นั้นแหละ เลือกแบบไปกลับคะราคา 4000 เยน จนท.จะออกตั๋วขาไปและขากลับให้ ขากลับให้เราไปเลือกกดเลือกที่นั่งเองที่สถานีได้เลยคะ
จนท.จะแจกตารางรถไฟออกให้ จะได้วางแผนมารอขึ้นรถไฟถูกคะ ที่นั่ง N'EX หลายๆ คนน่าจะเคยเห็นกันมาแล้ว ที่นั่งกว้าง มีที่เก็บกระเป๋า ตอนไปคนไม่ค่อยเยอะคะ เลยนั่งสบายๆ ยาวไปถึงชินจูกุเลย แล้วเนี่ยแหละ ปัญหาก็เกิด
ปัญหาที่เกิดขึ้น หาที่พักไม่เจอเนี่ยแหละคะ มาปุ๊บก็หลงซะแล้ว ก็ถามคนญี่ปุ่น (เขายินดีช่วยเรานะคะ พูดอังกฤษกันได้อยู่) ก็ส่งข้อความไปหาเจ้าของ กว่าจะตอบ ก็หาที่พักเจอจนได้ ตอนแรกแทบจะร้องไห้ หาที่พักไม่เจอ ที่พักอยู่ในอาคารรวมคะ พักอยู่ชั้น 4 พักอยู่ที่นี้ 4 คืนด้วยราคา 1,978 บาทคะ (ราคาในชินจูกุ โอ้มายก๊อด) ที่พักไม่ได้เลือกหรูหราคะ เลือกแบบพักรวม เสมือนคล้ายหอพัก นศ.เลย ห้องน้ำรวมคะ
เนี่ยแหละคะ สภาพที่พัก ไม่ได้หรูหรา (แต่พ่อบ้านหล่อมาก) กว่าจะเจอที่พักก็เที่ยงคืนของที่นั้น 7-11 ก็อยู่ตรงข้ามพอดี ก็ซื้อมากินรองท้อง (7-11 ที่นู่นราคาแพงกว่าไทยมากเลย เพราะค่าครองชีพเขาสูงกว่าเราอยู่แล้ว น้ำตากระชิกๆ ไปคะ) พอทานมื้อเย็นเสร็จ รีบอาบน้ำแล้วนอนคะ เพราะมีโปรแกรมไป คาวากูจิโกะ และวางแผนไปขึ้นรถรอบ 06.05 น. และนั้นคือเหตุผลที่เลือกที่พักในชินจูกุคะ เดินทางด้วยรถบัสคะ เพราะดูจากที่อ่านรีวิวมา เดินทางด้วยรถไฟค่อนข้างแพง แต่ถ้าใครชอบบรรยากาศชิลๆ ก็เดินทางไปรถไฟได้คะ
เดี๋ยวมาลุยต่อของวันที่ 6 ใครอ่านไม่อ่านไม่ซีเรียสคะ ขอแบ่งปันประสบการณ์ความฮาในการตะลุยเดี่ยว