ละครซีรีส์มาแรงได้พักนึงแล้ว นักเขียนหลายท่านก็มีซีรีส์นิยายที่เขียนสืบเนื่องกันเป็นวงศ์วานว่านเครือ เช่น คุณปิยะพร ศักดิ์เกษม เป็นต้น นอกจากสายตระกูล "ศุษิระ" ที่มีต้นทางมาจาก "รากนครา" อีกหนึ่งตระกูลที่เฉิดฉายไม่แพ้กัน คือ บ้าน " เชิญอิสราชัย" โทนเรื่องของหนุ่ม ๆ ตระกูล "ก" เหล่านี้คิดว่าพอไปด้วยกันได้ แนว Romantic Suspense แต่เวลาของเส้นเรื่องจะช้าเร็วเหลื่อมกันซักหน่อย จริง ๆ หนุ่ม ๆ บ้านนี้มีหลายคน ชีวิตก็โลดโผนโจนทะยานแตกต่างกันไป คาแรคเตอร์ก็แตกต่างกันไป แต่ที่โดดเด่นน่าสนใจก็น่าจะเป็น พี่กอบ พี่เกื้อ นายกรณ์ และ ท่านกี้ นี่แหละ
บ้านแซ่เฉินนั้นไม่ค่อยจะเหมือนบ้านคนจีนทั่วไปซักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นบ้านจีนที่ "ผู้หญิง" ค่อนข้างจะมีบทบาทมาก ท่านเจ้าสัวตระกูลเฉิน หรือ ที่ลูก ๆ เรียกว่า ป้าปา มาจากเมืองจีน และ ภรรยาท่านเจ้าสัวเป็นคนไทย ซึ่งมีฐานะดีเป็นปึกแผ่นและเป็นผู้หญิงฉลาดหาตัวจับยาก ที่เขาว่าเบื้องหลังของผู้ชายที่ประสบความสำเร็จจะมีผู้หญิงหนึ่งคนอยู่ตรงนั้นเสมอ ตระกูล "เชิญอิสราชัย" ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน และ คุณสมบัติที่ว่านั้นก็ตกมาถึง "บอสลับ" ที่แท้จริงของตระกูลเฉิน ซึ่งก็เป็น "ผู้หญิง" เรากำลังกล่าวถึง คุณใหญ่ ลูกสาวคนโตของท่านเจ้าสัว หรือ ที่แวดวงธุรกิจรู้จักกันในนาม "คุณกมลาสน์" อันแปลว่า ผู้มีดอกบัวเป็นที่ประทับ (พระพรหม) ถึงแม้คุณใหญ่จะวางมือจากธุรกิจต่าง ๆ ให้ตกอยู่ในมือน้องชายอีก 4 คน เกริก เกียรติ เกรียง และ ไกร แต่อำนาจและบารมีของ "คุณใหญ่" ก็สมชื่อของเธอที่มีความหมายว่า พระพรหม ซึ่งเป็นเทพผู้ลิขิต ดังนั้นเรื่องใหญ่เรื่องคอขาดบาดตาย .... สุดท้ายจะต้องถึงมือคุณใหญ่ ประมุขตัวจริงของตระกูลเชิญอิสราชัยเสมอ
คุณเกริกน้องชายคนโต ให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาวหลายคน หนึ่ีงในนั้นคือ ผู้ชายที่ได้รับการยอมรับว่าจะกลายเป็นประมุขของตระกูลในรุ่นหลาน หากว่าด้วยเหลี่ยมคู่ทางธุรกิจ และ ความเขี้ยวคมของชั้นเชิงทั้งการงานและเรื่องส่วนตัว ไม่มีใครจะเชี่ยวชาญไปกว่า "กอบบุญ เชิญอิสราชัย" อย่างแน่นอน ในฐานะหลานชายคนโตของตระกูล กอบบุญควบคุมดูแลกิจการตระกูลเชิญอิสราชัยไปได้อย่างแนบเนียนเรียบร้อยไร้รอยตะเข็บ ด้วยเนื้อน้ำในกายคือนักธุรกิจอย่างเต็มตัว ไม่เคยมีครั้งไหนที่ลงทุนแล้วต้องเสียเปล่า จึงได้รับความไว้วางใจให้จัดการงานทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งกอบบุญก็ตอบสนองความคาดหวังได้ดีมาก ไม่ใครที่คิดกังวลเมื่อเรื่องอยู่ในมือของกอบบุญ เว้นแต่ เกื้อคุณ น้องชายคนรองที่ตะหงิด ๆ ใจอยู่เงียบ ๆ ภายใต้การเป็นผู้นำ และ ชำนาญการวางแผนเล่ห์กล กอบบุญจึงถือไพ่เหนือมือคนอื่นตลอดมา ถ้าใช้กับศัตรูก็คงไม่เป็นไรแต่กอบบุญติดเอานิสัยช่างวางแผนอันนี้มาใช้กับเรื่องของความรักด้วยนี่สิ หากเกื้อคุณก็รู้ดีว่าตัวเองก็คงไม่สามารถไปต่อกรอะไรกับพี่ชายในเรื่องนี้ได้ และ หงุดหงิดใจจนนอนไม่หลับ แล้วก็คาบความไม่สบายใจอันนี้ไปรายงานกับคุณป้าใหญ่ในฐานะหลานคนโปรด ... กอบบุญจึงเกิดดวงซวยด้วยประการฉะนี้
เรื่องราวของกอบบุญ อยู่ในนิยายเรื่อง "บ้านร้อยดอกไม้"
เรื่องย่อ : พ่อของกอบบุญสมัยก่อนมีคู่หมั้นแต่ไม่ได้แต่งกันเพราะไปจิ๊จ๊ะกับคนอื่นก่อนก็เลยต้องเสียบ้าน (เรียกว่าบ้านร้อยดอกไม้) ให้กับคู่หมั้น (กูหมู่ฉินป่ายฮวาซึ่งเป็นแม่ของพี่สะใภ้ของปาฏลี) ภายหลังบ้านหลังนั้นตกมาเป็นของปาฏลี ซึ่งตอนนั้นเรียนอยู่เมืองนอก แต่ก็ต้องกลับมากะทันหันเพราะพี่ชายและพี่สะใภ้เสียชีวิต รวมถึงโรงงานก็มีปัญหาด้วย หนึ่งในปัญหาก็คือบริษัทเสื้อผ้ามีปัญหากับคู่ค้าคือห้างฯของธัญธรซึ่งเป็นคู่ควง(ทางธุรกิจ)ของกอบบุญ ประกอบกับคุณเกริกพ่อของกอบบุญมีคำสั่งให้กอบบุญเอาบ้านร้อยดอกไม้กลับคืนมาให้ได้ ปาฏลีกับกอบบุญจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ต่อมาพ่อของปาฏลีถูกทำร้ายโดยมีกอบบุญเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง แต่ปาฏลีไม่รู้เลยว่าทุกครั้งที่ทุกข์ใจจนแอบไปแชตกับผู้ใหญ่ใจดีนาม Flora (คุณเสียง) อยู่เงียบ ๆ (ตอนแรกเป็นอีเมล์ปริศนาที่ช่วยให้หนูลีแก้ปัญหา) กลายเป็นว่าคุณเสียงนั่นแหละคือกอบบุญ เมื่อทั้งพ่อก็ป่วยพี่ก็ตายหนูลีเลยต้องหาทางกอบกู้บริษัท รวมทั้งสืบหน้ารอยรั่วและคนที่ทำร้ายพ่อโดยความช่วยเหลือของคุณเสียง ซึ่งตัวจริงก็คือคนที่ปาฏลีคิดว่าเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งนั่นเอง
"เกื้อคุณ เชิญอิสราชัย" น้องชายคนรองของกอบบุญก็เป็นอีกตัวละครที่น่าสนใจ นิสัยของชายหนุ่มรายนี้แตกต่างจากพี่ใหญ่โดยสิ้นเชิง กอบบุญดำเนินธุรกิจด้วยความองอาจแหลมคมและคุมทุกอย่างอยู่มือจนหมด ส่วน "เกื้อคุณ" ใช้กลยุทธ์น่านน้ำสีครามผูกใจคนอื่นได้อย่างทั่วถึง เกื้อคุณรู้จักคนมาก อบอุ่น นุ่มนวล ใจดี เป็นคนโอบอ้อมอารี มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเสมอ ดังนั้นไม่ว่าเดินไปที่ไหนเจรจากับใครก็มีแต่คนเอื้อเอ็นดูไปทั้งนั้น เพราะเหตุนี้เจ้าตัวจึงได้รับมอบหมายให้บุกเบิก "ตลาดใหม่" อยู่ตลอด เขี้ยวเล็บแบบนุ่มนวลที่มีนี้ แม้แต่นักธุรกิจในพื้นที่ก็ยังหวั่นไหวเพราะไม่ใช่เพียง back จะหนาเท่านั้น แต่เสน่ห์เฉพาะตัวของเกื้อคุณที่มีทำให้ "เชิญอิสราชัย" เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว หากความ "ใจดี" นี่แหละที่ทำให้เกิดความทุกข์ต่อเจ้าตัวอยู่ไม่น้อยเลย จนกระทั่ง ... คุณป้าใหญ่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยหลานชายคนโปรดนั่นแหละ
เรื่องราวของ "เกื้อคุณ" อยู่ในนิยายเรื่อง "น้ำเพชร" : ขณะที่ทำธุรกิจของตระกูลอยู่ที่ภาคใต้ "เกื้อคุณ" มีเรื่องหนึ่งที่หนักอก เรื่องของเขากับพิมรตา ... คนรักเก่าที่กำลังลำบากแสนเข็ญ และ เรื่องของเขากับอัญมณีคนที่ใจรู้สึกดี ๆ ด้วย คนที่มาดหมายในใจว่าจะกลายเป็น "เพชรน้ำหนึ่ง" ในชีวิต แล้วโชคชะตาก็ยังลิขิตให้ธุรกิจของ "เชิญอิสราชัย" และ "จางวางประวาส" ขัดแย้งกัน โดยมีเขา เกื้อคุณ คนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยเบอร์หนึ่ง พิมรตาคืออดีตน้องสะใภ้ของอัญมณี ผู้ซึ่งมีความลับดำมือซึ่งโยงใยกับความลับซึ่งเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชายเธอในแบบที่คาดไม่ถึง เกื้อคุณและอัญมณีจะหาทางออกให้กับตัวเองได้อย่างไร
นอกจากกอบบุญ และ เกื่อคุณ ทายาทของเกริกซึ่งเป็นบุตรคนโตของท่านเจ้าสัว ตามมารู้จักกับ "กรณ์ เชิญอิสราชัย" ลูกชายคนรองของคุณเกียรติ ชายผู้ควบคุม "กระเป๋าเงิน" ของตระกูลเชิญอิสราชัย หากจะพูดถึงกรณ์ เจ้าตัวอธิบายตัวเองว่าเขาคือ "แกะดำ" ตั้งแต่เด็กมากรณ์คือเด็กเจ้าปัญหา คือจอมพยศที่พ่อแม่ก็ไม่รู้จะต้องจัดการอย่างไร วาระนั้นคนที่ยื่นมือเข้ามาก็คือมือขวาของพ่อ อาฉาย ... คนที่เฝ้าดูและเข้าใจเด็กอย่างกรณ์ตลอดมา เขาให้คำปรึกษา โอบอุ้มดูแล และ เข้าใจเขามากกว่าเกียรติซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ เสียอีก ภายใต้ท่าทางไม่เป็นโล้เป็นพายนั้นแท้ที่จริงก็คือความมั่นคง ฉลาดเฉลียว และ ความแผลงที่ทำให้คนอื่นปวดเศียรเวียนเกล้าไม่เว้นแต่ละวัน นั่นก็เป็นเพราะความอยากรู้อยากลองแห่งวัยเท่านั้น เมื่อฉายเสนอให้คุณเกียรติส่งกรณ์ไปเรียนเมืองนอก สภาพแวดล้อมที่ถูกจริตกับนิสัย จึงบ่มเพาะให้กรณ์กลายเป็นชายหนุ่มอนาคตไกล มีภูมิต้านทานกับชีวิต รวมถึงความรู้และประสบการณ์อีกมากมายที่เพิ่มพูน แต่ความดื้อความซุกซนยียวนกวนประสาทที่กลายเป็นความเคยชินก็ทำให้คนทั่วไปยากที่จะมองทะลุไปถึงเนื้อตัวที่แท้จริง โดยเฉพาะผู้หญิงที่กรณ์พึงใจอยู่ลึก ๆ อย่างรีน่า ปารีณา ลูกสาวของอาฉาย คนที่เขาเคารพอย่างสุดซึ้ง
เรื่องราวของ " กรณ์ " อยู่ใน นิยายเรื่อง "ใต้เงาตะวัน" : กรณ์ เชิญอิสราชัย หนุ่ม(ที่ดูท่าว่าจะ)เสเพลของบ้านตระกูลเฉิน เรื่องมันมีอยู่ว่า รีน่า หรือ ปารีณา ลูกสาวของฉายมือขวาของคุณเกียรติผู้บริหารเครือบริษัทของตระกูลได้เสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา รีน่าผู้เป็นลูกสาวก็เกิดความสงสัยว่ามันจะเป็นอย่างที่ทุกคนคิดจริงหรือ ที่ว่าพ่อคนที่เป็นเหมือนดวงตะวันของเธอฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดฐานฉ้อโกง สายใยสุดท้ายที่คาดคิดคือสถานที่ที่พ่อของเธอเดินทางไปก่อนจะกลับมาสิ้นลมหายใจที่เมืองไทย รีน่าจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความจริงกระจ่างชัดและล้างมลทินให้พ่อของตัวเองด้วยการเดินทางไปตามรอยพ่อไปยุโรปลำพังเพียงคนเดียว ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยที่เก็บซ่อนไว้มานาน กรณ์ลูกชายคนเล็กของเกียรติที่ดูโหวกเหวกโวยวายไม่เป็นโล้เป็นพายและไม่เคยเป็นที่เคารพของรีน่าเลย กลับเป็นคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและร่วมเดินทางหาความจริงกับปารีณา
จากหนุ่มเจ้าเล่ห์อย่างกอบบุญ หนุ่มอบอุ่นอย่างเกื้อคุณ และ แบดบอยเล็ก ๆ อย่างกรณ์ หนุ่มตระกูลก็มีไทป์เงียบขรึม ระเบียบเรียบเป๊ะ อย่าง "กรีฑา เชิญอิสราชัย" จะเรียกว่าเป็น Wednesday's child ก็ไม่ผิดนักหรอกสำหรับกรีฑา หรือ ท่านกี้ ผู้พิพากษาหนุ่มซึ่งชีวิตอยู่ในระเบียบแบบแผน ด้วยบุคลิกที่เก็บตัว กรีฑาจึงไม่ได้สืบทอดธุรกิจของบ้านเหมือนกับลูกหลานคนอื่น ๆ ซึ่งคุณป้าใหญ่ก็สนับสนุนให้ลูกหลานได้เลือกทางเดินของตัวเอง กรีฑาจึงได้ทำอาชีพอย่างที่ชอบในแวดวงวิชาการ และ ดำเนินชีวิตเป็นระบบและเหตุผลตลอดมา ด้วยอาชีพและความตรงไปตรงมาเป็นนิสัย ท่านกี้จึงรักความยุติธรรมและความถูกต้องเหนือสิ่งอื่นใด มีความจริงจังและเกลียดความเหยาะแหยะเป็นที่สุด จนกระทั่งผู้หญิงชื่อ ดุริยางค์ ผ่านเข้ามาในชีวิต
เรื่องราวของ "กรีฑา เชิญอิสราชัย" อยู่ในนิยายเรื่อง "ลำนำในลมหนาว" : กรีฑาเป็นลูกคนกลางของคุณไกรมีพี่สาวที่คล่องมากและน้องสาวที่เปรี้ยวจี๊ด ส่วนตัวเองเป็นคนขรึม ๆ ชอบอ่านหนังสือ มีโลกส่วนตัว แล้วก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุ วันนึงพี่พอลหุ้นส่วนของพี่สาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุพร้อมกับพี่เคทซึ่งเป็นภรรยา ทั้งคู่ต่างเป็นเพื่อนสนิทกัน ครอบครัวก็รู้จักกัน ซึ่งครอบครัวนั้นก็นอกจากลูกชายกับสะใภ้ที่เสียชีวิตไป ก็มีพ่อที่เป็นข้าราชการเกษียณ มีแม่ที่เป็นแม่บ้าน มีหลานที่กำลังจะวัยรุ่น แล้วก็ลูกสาวที่เป็นลูกหลงห่างกับพี่ชายเกินรอบอีกหนึ่งคน ชื่อ เพลง ท่านกี้ก็รู้จักครอบครัวนี้เหมือนกัน และ รู้สึกรำคาญเพลงมาก อายุ 24 ทำตัวเหมือน 4 ขวบ พอพี่ชายพี่สะใภ้ตาย ก็กลายเป็นภาระของพ่อซึ่งอายุมากและมีโรคประจำตัว จัดการงานต่าง ๆ แทนลูกชายตัวเองจนกระทั่งล้มเจ็บและเสียชีวิตไปอีกคน ด้วยความที่เพลงเป็นน้องคนเล็ก ลูกหลง แล้วก็สุขภาพไม่ดี ที่บ้านก็เลยดูแลแบบไข่ในหินไม่ให้ทำอะไร ดังนั้นพอเกิดปัญหาเพลงก็เอาแต่ร้องไห้ แม่ของเพลงก็ไม่เคยทำงาน เป็นแม่บ้านอย่างเดียว บ้านก็ปั่นป่วนไปหมด หลาน คือ คิต ก็พยศไม่ชอบอาเพลง แต่อยากไปอยู่กับน้าครีมซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของพี่สะใภ้ของเพลง ตัวกีฑากับพี่เอื้อยก็มาเยี่ยมและต้องติดต่อกันเรื่องหุ้นเรื่องกิจการบริษัท วันนึงกรีฑารำคาญอาการร้องไห้คุดคู้ของเพลงมาก ทำไมไม่ลุกขึ้นสู้ปัญหา โตจนป่านนี้แล้ว ก็เลยใช้วาจาเชือดเข้าให้ จนกระทั่งเพลงลุกขึ้นมาจัดการอะไร ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งก็ทำได้อย่างช้า ๆ ครีมน้าของคิตก็อยากเอาตัวคิตไปอยู่ด้วยเพื่อจะเอาสมบัติ เพลงเลยเหมือนกับคนเจอศึกรอบด้าน (ที่บางศึกอย่างเช่นเรื่องของครีม เพลงก็ไม่เฉลียวใจเลย) เพลงตัดสินใจโยกย้ายครอบครัวมาอยู่ที่บ้านเช่าหลังใหม่ซึ่งอยู่ติดบ้านของกี้ (พี่เอื้อย พี่สาวพระเอกช่วยหาให้) พระเอกเองจากเดิมที่รำคาญก็กลายเป็นเวทนาแทน เลยช่วยเหลืออยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งวันนึง .... ท่านกี้มองผู้หญิงน่ารำคาญอย่างเพลงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
สี่คนสี่สไตล์ ไม่รู้มีค่ายไหนสนใจเปิดบ้านเชิญอิสราชัยบ้าง
ไว้ว่าง ๆ จะเปิดบ้านเชิญอิสราชัยในภาคสาว ๆ บ้าง
ลิลลี่ วิรงรอง หนึ่ง ก่องเพชร เก็จ เก็จไพลิน และ ทิมมี่ ทิมทอง
จะว่าไปแล้ว ... อยากเห็นละครจากชุดนิยาย "เชิญอิสราชัย" เหมือนกันนะ กอบ เกื้อ กรณ์ กี้ เปิดบ้านเชิญอิสราชัยกันเถอะ
บ้านแซ่เฉินนั้นไม่ค่อยจะเหมือนบ้านคนจีนทั่วไปซักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นบ้านจีนที่ "ผู้หญิง" ค่อนข้างจะมีบทบาทมาก ท่านเจ้าสัวตระกูลเฉิน หรือ ที่ลูก ๆ เรียกว่า ป้าปา มาจากเมืองจีน และ ภรรยาท่านเจ้าสัวเป็นคนไทย ซึ่งมีฐานะดีเป็นปึกแผ่นและเป็นผู้หญิงฉลาดหาตัวจับยาก ที่เขาว่าเบื้องหลังของผู้ชายที่ประสบความสำเร็จจะมีผู้หญิงหนึ่งคนอยู่ตรงนั้นเสมอ ตระกูล "เชิญอิสราชัย" ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน และ คุณสมบัติที่ว่านั้นก็ตกมาถึง "บอสลับ" ที่แท้จริงของตระกูลเฉิน ซึ่งก็เป็น "ผู้หญิง" เรากำลังกล่าวถึง คุณใหญ่ ลูกสาวคนโตของท่านเจ้าสัว หรือ ที่แวดวงธุรกิจรู้จักกันในนาม "คุณกมลาสน์" อันแปลว่า ผู้มีดอกบัวเป็นที่ประทับ (พระพรหม) ถึงแม้คุณใหญ่จะวางมือจากธุรกิจต่าง ๆ ให้ตกอยู่ในมือน้องชายอีก 4 คน เกริก เกียรติ เกรียง และ ไกร แต่อำนาจและบารมีของ "คุณใหญ่" ก็สมชื่อของเธอที่มีความหมายว่า พระพรหม ซึ่งเป็นเทพผู้ลิขิต ดังนั้นเรื่องใหญ่เรื่องคอขาดบาดตาย .... สุดท้ายจะต้องถึงมือคุณใหญ่ ประมุขตัวจริงของตระกูลเชิญอิสราชัยเสมอ
คุณเกริกน้องชายคนโต ให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาวหลายคน หนึ่ีงในนั้นคือ ผู้ชายที่ได้รับการยอมรับว่าจะกลายเป็นประมุขของตระกูลในรุ่นหลาน หากว่าด้วยเหลี่ยมคู่ทางธุรกิจ และ ความเขี้ยวคมของชั้นเชิงทั้งการงานและเรื่องส่วนตัว ไม่มีใครจะเชี่ยวชาญไปกว่า "กอบบุญ เชิญอิสราชัย" อย่างแน่นอน ในฐานะหลานชายคนโตของตระกูล กอบบุญควบคุมดูแลกิจการตระกูลเชิญอิสราชัยไปได้อย่างแนบเนียนเรียบร้อยไร้รอยตะเข็บ ด้วยเนื้อน้ำในกายคือนักธุรกิจอย่างเต็มตัว ไม่เคยมีครั้งไหนที่ลงทุนแล้วต้องเสียเปล่า จึงได้รับความไว้วางใจให้จัดการงานทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งกอบบุญก็ตอบสนองความคาดหวังได้ดีมาก ไม่ใครที่คิดกังวลเมื่อเรื่องอยู่ในมือของกอบบุญ เว้นแต่ เกื้อคุณ น้องชายคนรองที่ตะหงิด ๆ ใจอยู่เงียบ ๆ ภายใต้การเป็นผู้นำ และ ชำนาญการวางแผนเล่ห์กล กอบบุญจึงถือไพ่เหนือมือคนอื่นตลอดมา ถ้าใช้กับศัตรูก็คงไม่เป็นไรแต่กอบบุญติดเอานิสัยช่างวางแผนอันนี้มาใช้กับเรื่องของความรักด้วยนี่สิ หากเกื้อคุณก็รู้ดีว่าตัวเองก็คงไม่สามารถไปต่อกรอะไรกับพี่ชายในเรื่องนี้ได้ และ หงุดหงิดใจจนนอนไม่หลับ แล้วก็คาบความไม่สบายใจอันนี้ไปรายงานกับคุณป้าใหญ่ในฐานะหลานคนโปรด ... กอบบุญจึงเกิดดวงซวยด้วยประการฉะนี้
เรื่องราวของกอบบุญ อยู่ในนิยายเรื่อง "บ้านร้อยดอกไม้"
เรื่องย่อ : พ่อของกอบบุญสมัยก่อนมีคู่หมั้นแต่ไม่ได้แต่งกันเพราะไปจิ๊จ๊ะกับคนอื่นก่อนก็เลยต้องเสียบ้าน (เรียกว่าบ้านร้อยดอกไม้) ให้กับคู่หมั้น (กูหมู่ฉินป่ายฮวาซึ่งเป็นแม่ของพี่สะใภ้ของปาฏลี) ภายหลังบ้านหลังนั้นตกมาเป็นของปาฏลี ซึ่งตอนนั้นเรียนอยู่เมืองนอก แต่ก็ต้องกลับมากะทันหันเพราะพี่ชายและพี่สะใภ้เสียชีวิต รวมถึงโรงงานก็มีปัญหาด้วย หนึ่งในปัญหาก็คือบริษัทเสื้อผ้ามีปัญหากับคู่ค้าคือห้างฯของธัญธรซึ่งเป็นคู่ควง(ทางธุรกิจ)ของกอบบุญ ประกอบกับคุณเกริกพ่อของกอบบุญมีคำสั่งให้กอบบุญเอาบ้านร้อยดอกไม้กลับคืนมาให้ได้ ปาฏลีกับกอบบุญจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ต่อมาพ่อของปาฏลีถูกทำร้ายโดยมีกอบบุญเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง แต่ปาฏลีไม่รู้เลยว่าทุกครั้งที่ทุกข์ใจจนแอบไปแชตกับผู้ใหญ่ใจดีนาม Flora (คุณเสียง) อยู่เงียบ ๆ (ตอนแรกเป็นอีเมล์ปริศนาที่ช่วยให้หนูลีแก้ปัญหา) กลายเป็นว่าคุณเสียงนั่นแหละคือกอบบุญ เมื่อทั้งพ่อก็ป่วยพี่ก็ตายหนูลีเลยต้องหาทางกอบกู้บริษัท รวมทั้งสืบหน้ารอยรั่วและคนที่ทำร้ายพ่อโดยความช่วยเหลือของคุณเสียง ซึ่งตัวจริงก็คือคนที่ปาฏลีคิดว่าเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งนั่นเอง
"เกื้อคุณ เชิญอิสราชัย" น้องชายคนรองของกอบบุญก็เป็นอีกตัวละครที่น่าสนใจ นิสัยของชายหนุ่มรายนี้แตกต่างจากพี่ใหญ่โดยสิ้นเชิง กอบบุญดำเนินธุรกิจด้วยความองอาจแหลมคมและคุมทุกอย่างอยู่มือจนหมด ส่วน "เกื้อคุณ" ใช้กลยุทธ์น่านน้ำสีครามผูกใจคนอื่นได้อย่างทั่วถึง เกื้อคุณรู้จักคนมาก อบอุ่น นุ่มนวล ใจดี เป็นคนโอบอ้อมอารี มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเสมอ ดังนั้นไม่ว่าเดินไปที่ไหนเจรจากับใครก็มีแต่คนเอื้อเอ็นดูไปทั้งนั้น เพราะเหตุนี้เจ้าตัวจึงได้รับมอบหมายให้บุกเบิก "ตลาดใหม่" อยู่ตลอด เขี้ยวเล็บแบบนุ่มนวลที่มีนี้ แม้แต่นักธุรกิจในพื้นที่ก็ยังหวั่นไหวเพราะไม่ใช่เพียง back จะหนาเท่านั้น แต่เสน่ห์เฉพาะตัวของเกื้อคุณที่มีทำให้ "เชิญอิสราชัย" เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว หากความ "ใจดี" นี่แหละที่ทำให้เกิดความทุกข์ต่อเจ้าตัวอยู่ไม่น้อยเลย จนกระทั่ง ... คุณป้าใหญ่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยหลานชายคนโปรดนั่นแหละ
เรื่องราวของ "เกื้อคุณ" อยู่ในนิยายเรื่อง "น้ำเพชร" : ขณะที่ทำธุรกิจของตระกูลอยู่ที่ภาคใต้ "เกื้อคุณ" มีเรื่องหนึ่งที่หนักอก เรื่องของเขากับพิมรตา ... คนรักเก่าที่กำลังลำบากแสนเข็ญ และ เรื่องของเขากับอัญมณีคนที่ใจรู้สึกดี ๆ ด้วย คนที่มาดหมายในใจว่าจะกลายเป็น "เพชรน้ำหนึ่ง" ในชีวิต แล้วโชคชะตาก็ยังลิขิตให้ธุรกิจของ "เชิญอิสราชัย" และ "จางวางประวาส" ขัดแย้งกัน โดยมีเขา เกื้อคุณ คนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยเบอร์หนึ่ง พิมรตาคืออดีตน้องสะใภ้ของอัญมณี ผู้ซึ่งมีความลับดำมือซึ่งโยงใยกับความลับซึ่งเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชายเธอในแบบที่คาดไม่ถึง เกื้อคุณและอัญมณีจะหาทางออกให้กับตัวเองได้อย่างไร
นอกจากกอบบุญ และ เกื่อคุณ ทายาทของเกริกซึ่งเป็นบุตรคนโตของท่านเจ้าสัว ตามมารู้จักกับ "กรณ์ เชิญอิสราชัย" ลูกชายคนรองของคุณเกียรติ ชายผู้ควบคุม "กระเป๋าเงิน" ของตระกูลเชิญอิสราชัย หากจะพูดถึงกรณ์ เจ้าตัวอธิบายตัวเองว่าเขาคือ "แกะดำ" ตั้งแต่เด็กมากรณ์คือเด็กเจ้าปัญหา คือจอมพยศที่พ่อแม่ก็ไม่รู้จะต้องจัดการอย่างไร วาระนั้นคนที่ยื่นมือเข้ามาก็คือมือขวาของพ่อ อาฉาย ... คนที่เฝ้าดูและเข้าใจเด็กอย่างกรณ์ตลอดมา เขาให้คำปรึกษา โอบอุ้มดูแล และ เข้าใจเขามากกว่าเกียรติซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ เสียอีก ภายใต้ท่าทางไม่เป็นโล้เป็นพายนั้นแท้ที่จริงก็คือความมั่นคง ฉลาดเฉลียว และ ความแผลงที่ทำให้คนอื่นปวดเศียรเวียนเกล้าไม่เว้นแต่ละวัน นั่นก็เป็นเพราะความอยากรู้อยากลองแห่งวัยเท่านั้น เมื่อฉายเสนอให้คุณเกียรติส่งกรณ์ไปเรียนเมืองนอก สภาพแวดล้อมที่ถูกจริตกับนิสัย จึงบ่มเพาะให้กรณ์กลายเป็นชายหนุ่มอนาคตไกล มีภูมิต้านทานกับชีวิต รวมถึงความรู้และประสบการณ์อีกมากมายที่เพิ่มพูน แต่ความดื้อความซุกซนยียวนกวนประสาทที่กลายเป็นความเคยชินก็ทำให้คนทั่วไปยากที่จะมองทะลุไปถึงเนื้อตัวที่แท้จริง โดยเฉพาะผู้หญิงที่กรณ์พึงใจอยู่ลึก ๆ อย่างรีน่า ปารีณา ลูกสาวของอาฉาย คนที่เขาเคารพอย่างสุดซึ้ง
เรื่องราวของ " กรณ์ " อยู่ใน นิยายเรื่อง "ใต้เงาตะวัน" : กรณ์ เชิญอิสราชัย หนุ่ม(ที่ดูท่าว่าจะ)เสเพลของบ้านตระกูลเฉิน เรื่องมันมีอยู่ว่า รีน่า หรือ ปารีณา ลูกสาวของฉายมือขวาของคุณเกียรติผู้บริหารเครือบริษัทของตระกูลได้เสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา รีน่าผู้เป็นลูกสาวก็เกิดความสงสัยว่ามันจะเป็นอย่างที่ทุกคนคิดจริงหรือ ที่ว่าพ่อคนที่เป็นเหมือนดวงตะวันของเธอฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดฐานฉ้อโกง สายใยสุดท้ายที่คาดคิดคือสถานที่ที่พ่อของเธอเดินทางไปก่อนจะกลับมาสิ้นลมหายใจที่เมืองไทย รีน่าจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความจริงกระจ่างชัดและล้างมลทินให้พ่อของตัวเองด้วยการเดินทางไปตามรอยพ่อไปยุโรปลำพังเพียงคนเดียว ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยที่เก็บซ่อนไว้มานาน กรณ์ลูกชายคนเล็กของเกียรติที่ดูโหวกเหวกโวยวายไม่เป็นโล้เป็นพายและไม่เคยเป็นที่เคารพของรีน่าเลย กลับเป็นคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและร่วมเดินทางหาความจริงกับปารีณา
จากหนุ่มเจ้าเล่ห์อย่างกอบบุญ หนุ่มอบอุ่นอย่างเกื้อคุณ และ แบดบอยเล็ก ๆ อย่างกรณ์ หนุ่มตระกูลก็มีไทป์เงียบขรึม ระเบียบเรียบเป๊ะ อย่าง "กรีฑา เชิญอิสราชัย" จะเรียกว่าเป็น Wednesday's child ก็ไม่ผิดนักหรอกสำหรับกรีฑา หรือ ท่านกี้ ผู้พิพากษาหนุ่มซึ่งชีวิตอยู่ในระเบียบแบบแผน ด้วยบุคลิกที่เก็บตัว กรีฑาจึงไม่ได้สืบทอดธุรกิจของบ้านเหมือนกับลูกหลานคนอื่น ๆ ซึ่งคุณป้าใหญ่ก็สนับสนุนให้ลูกหลานได้เลือกทางเดินของตัวเอง กรีฑาจึงได้ทำอาชีพอย่างที่ชอบในแวดวงวิชาการ และ ดำเนินชีวิตเป็นระบบและเหตุผลตลอดมา ด้วยอาชีพและความตรงไปตรงมาเป็นนิสัย ท่านกี้จึงรักความยุติธรรมและความถูกต้องเหนือสิ่งอื่นใด มีความจริงจังและเกลียดความเหยาะแหยะเป็นที่สุด จนกระทั่งผู้หญิงชื่อ ดุริยางค์ ผ่านเข้ามาในชีวิต
เรื่องราวของ "กรีฑา เชิญอิสราชัย" อยู่ในนิยายเรื่อง "ลำนำในลมหนาว" : กรีฑาเป็นลูกคนกลางของคุณไกรมีพี่สาวที่คล่องมากและน้องสาวที่เปรี้ยวจี๊ด ส่วนตัวเองเป็นคนขรึม ๆ ชอบอ่านหนังสือ มีโลกส่วนตัว แล้วก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุ วันนึงพี่พอลหุ้นส่วนของพี่สาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุพร้อมกับพี่เคทซึ่งเป็นภรรยา ทั้งคู่ต่างเป็นเพื่อนสนิทกัน ครอบครัวก็รู้จักกัน ซึ่งครอบครัวนั้นก็นอกจากลูกชายกับสะใภ้ที่เสียชีวิตไป ก็มีพ่อที่เป็นข้าราชการเกษียณ มีแม่ที่เป็นแม่บ้าน มีหลานที่กำลังจะวัยรุ่น แล้วก็ลูกสาวที่เป็นลูกหลงห่างกับพี่ชายเกินรอบอีกหนึ่งคน ชื่อ เพลง ท่านกี้ก็รู้จักครอบครัวนี้เหมือนกัน และ รู้สึกรำคาญเพลงมาก อายุ 24 ทำตัวเหมือน 4 ขวบ พอพี่ชายพี่สะใภ้ตาย ก็กลายเป็นภาระของพ่อซึ่งอายุมากและมีโรคประจำตัว จัดการงานต่าง ๆ แทนลูกชายตัวเองจนกระทั่งล้มเจ็บและเสียชีวิตไปอีกคน ด้วยความที่เพลงเป็นน้องคนเล็ก ลูกหลง แล้วก็สุขภาพไม่ดี ที่บ้านก็เลยดูแลแบบไข่ในหินไม่ให้ทำอะไร ดังนั้นพอเกิดปัญหาเพลงก็เอาแต่ร้องไห้ แม่ของเพลงก็ไม่เคยทำงาน เป็นแม่บ้านอย่างเดียว บ้านก็ปั่นป่วนไปหมด หลาน คือ คิต ก็พยศไม่ชอบอาเพลง แต่อยากไปอยู่กับน้าครีมซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของพี่สะใภ้ของเพลง ตัวกีฑากับพี่เอื้อยก็มาเยี่ยมและต้องติดต่อกันเรื่องหุ้นเรื่องกิจการบริษัท วันนึงกรีฑารำคาญอาการร้องไห้คุดคู้ของเพลงมาก ทำไมไม่ลุกขึ้นสู้ปัญหา โตจนป่านนี้แล้ว ก็เลยใช้วาจาเชือดเข้าให้ จนกระทั่งเพลงลุกขึ้นมาจัดการอะไร ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งก็ทำได้อย่างช้า ๆ ครีมน้าของคิตก็อยากเอาตัวคิตไปอยู่ด้วยเพื่อจะเอาสมบัติ เพลงเลยเหมือนกับคนเจอศึกรอบด้าน (ที่บางศึกอย่างเช่นเรื่องของครีม เพลงก็ไม่เฉลียวใจเลย) เพลงตัดสินใจโยกย้ายครอบครัวมาอยู่ที่บ้านเช่าหลังใหม่ซึ่งอยู่ติดบ้านของกี้ (พี่เอื้อย พี่สาวพระเอกช่วยหาให้) พระเอกเองจากเดิมที่รำคาญก็กลายเป็นเวทนาแทน เลยช่วยเหลืออยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งวันนึง .... ท่านกี้มองผู้หญิงน่ารำคาญอย่างเพลงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ไว้ว่าง ๆ จะเปิดบ้านเชิญอิสราชัยในภาคสาว ๆ บ้าง
ลิลลี่ วิรงรอง หนึ่ง ก่องเพชร เก็จ เก็จไพลิน และ ทิมมี่ ทิมทอง