สวัสดีคะ เหตุการณ์ของเราเกิดขึ้นเมื่อวาน วันที่7/10/60 สามีเราเป็นชาวต่างชาติ ระหว่างที่เราหาที่จอดรถในห้าง สามีเราลงไปรอในห้างก่อนและกดเงินจากตู้ATM ครั้งแรกกดที่ตู้ธนาคารกรุงเทพเนื่องจากเป็นบัตรธนาคารกรุงเทพ แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลอะไรกดไม่ได้ สามีจึงย้ายไปกดตู้ATMธนาคารกสิกร ที่บริเวณทางออกห้างชั้น2 ของเซ็นทรัลลาดพร้าว จากคำบอกเล่าของสามีคือ ระหว่างที่กด มีเสียงเหมือนเงินออก และหน้าจอก็ค้างอยู่นานมาก แต่ในที่สุดก็ออกมาแค่ตัวบัตร เงินไม่ออก ประกอบกับช่วงนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนเบอร์และโทรศัพท์พอดี ทำให้เราไม่เห็นหรือได้รับเมสเสจการเคลื่อนไหวบัญชี รวมถึง mobile app ด้วย ที่เรายังไม่ได้ทำการติดต่อธนาคารเพื่ออัพเดทใหม่ เราเข้าใจเพียงแค่บัตรATM น่าจะมีปัญหา หรือติดปัญหาลิมิตการกดเงิน ไม่คิดถึงขั้นว่าเงินตัดไปจากบัญชีแล้ว จากนั้นพอเราจอดรถเสร็จ สามีโทรมาบอกเรื่องราว เราจึงรีบไปติดต่อธนาคารสาขาในห้างทันที พนักงานผุ้ชายหน้าเคาน์เตอร์ทำหน้าตาไม่พอใจ และพูดน้ำเสียงกระชากใส่เรา ว่าเรากดที่ไหน แล้วเอาบัตรไปเช็คแล้วทำเสียงไม่พอใจอีกครั้ง พร้อมบอกเราว่า
"ก็เนี้ยคุณกดเงินออกไปแล้วนะวันนี้คุณกดเกินลิมิตมันจะออกได้ไง"
เราก็บอกว่า
"วันนี้ตอนเช้าเรากดไปหนึ่งครั้งใต้คอนโดแค่20,000 ถ้าคุณบอกลิมิต50,000 เราก็ต้องกดได้อีก 30,000 ถูกไหมคะ "
แต่พนักงานยังขึ้นเสียงแล้วบอกว่า
วันนี้คุณกดไป40,000 แบ่งเป็นรอบละ20,000
เราเลยรู้แล้วตอนนั้นว่า 20,000 ที่สามีกดจากตู้กสิกรน่าจะมีปัญหาแล้ว เลยให้พนักงานช่วยเช็ค พนักงานเคาน์เตอร์เรียกพนักงานกดคิวให้ไปต่อสาย call centerให้เราคุย เราคุยกับพนักงานอยู่นาน อธิบายเรื่องราว สรุปคือเราต้องรอวันที่19/10/60 ถึงจะตอบได้ว่าเราจะได้เงินคืนไหม
เราเสียเงินไปแบบงงๆ 20,000 บาท สำหรับคนอื่นไม่ทราบว่าเยอะไหม แต่สำหรับเรามันเยอะ เราและสามีต้องกินต้องใช้ เรามีค่าใช้จ่ายที่ต้องจัดการ
เริ่มตั้งแต่สายตาดูถูกเหมือนเรามาโกหกว่าไม่ได้รับเงินจากพนักงานเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงเทพ ไปจนถึงคำว่าลูกค้าต้องรอจนวันที่19/10/60 ของcall center บอกตรงๆคะ เสียความรู้สึก คือทางธนาคารไม่มีวิธีจัดการให้เร็วขึ้นเหรอคะ เราต้องรอทุกวันพร้อมกับกังวลว่าจะได้เงินคืนไหม เพราะไม่มีคำตอบที่แน่ชัดถึงการคืนเงิน การเขียนกระทู้ครั้งนี้ อยากเตือนทุกคนเป็นอุทาหรณ์ของการกดเงินจากตู้ หรือการทำธุรกรรมใดๆก็ตาม ซึ่งเราก็ไม่รู้จะเตือนยังไงดี เพราะก็ไม่มีสัญญาณใดๆบ่งบอกว่าปัญหานี้จะเกิด ตอนนี้เราได้แต่ภาวนาว่าขอให้ได้เงินกลับคืนมา
กดเงินจากตู้กสิกร เงินไม่ออกมา แต่เงินถูกตัดจากบัญชี!!!!!
สวัสดีคะ เหตุการณ์ของเราเกิดขึ้นเมื่อวาน วันที่7/10/60 สามีเราเป็นชาวต่างชาติ ระหว่างที่เราหาที่จอดรถในห้าง สามีเราลงไปรอในห้างก่อนและกดเงินจากตู้ATM ครั้งแรกกดที่ตู้ธนาคารกรุงเทพเนื่องจากเป็นบัตรธนาคารกรุงเทพ แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลอะไรกดไม่ได้ สามีจึงย้ายไปกดตู้ATMธนาคารกสิกร ที่บริเวณทางออกห้างชั้น2 ของเซ็นทรัลลาดพร้าว จากคำบอกเล่าของสามีคือ ระหว่างที่กด มีเสียงเหมือนเงินออก และหน้าจอก็ค้างอยู่นานมาก แต่ในที่สุดก็ออกมาแค่ตัวบัตร เงินไม่ออก ประกอบกับช่วงนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนเบอร์และโทรศัพท์พอดี ทำให้เราไม่เห็นหรือได้รับเมสเสจการเคลื่อนไหวบัญชี รวมถึง mobile app ด้วย ที่เรายังไม่ได้ทำการติดต่อธนาคารเพื่ออัพเดทใหม่ เราเข้าใจเพียงแค่บัตรATM น่าจะมีปัญหา หรือติดปัญหาลิมิตการกดเงิน ไม่คิดถึงขั้นว่าเงินตัดไปจากบัญชีแล้ว จากนั้นพอเราจอดรถเสร็จ สามีโทรมาบอกเรื่องราว เราจึงรีบไปติดต่อธนาคารสาขาในห้างทันที พนักงานผุ้ชายหน้าเคาน์เตอร์ทำหน้าตาไม่พอใจ และพูดน้ำเสียงกระชากใส่เรา ว่าเรากดที่ไหน แล้วเอาบัตรไปเช็คแล้วทำเสียงไม่พอใจอีกครั้ง พร้อมบอกเราว่า
"ก็เนี้ยคุณกดเงินออกไปแล้วนะวันนี้คุณกดเกินลิมิตมันจะออกได้ไง"
เราก็บอกว่า
"วันนี้ตอนเช้าเรากดไปหนึ่งครั้งใต้คอนโดแค่20,000 ถ้าคุณบอกลิมิต50,000 เราก็ต้องกดได้อีก 30,000 ถูกไหมคะ "
แต่พนักงานยังขึ้นเสียงแล้วบอกว่า
วันนี้คุณกดไป40,000 แบ่งเป็นรอบละ20,000
เราเลยรู้แล้วตอนนั้นว่า 20,000 ที่สามีกดจากตู้กสิกรน่าจะมีปัญหาแล้ว เลยให้พนักงานช่วยเช็ค พนักงานเคาน์เตอร์เรียกพนักงานกดคิวให้ไปต่อสาย call centerให้เราคุย เราคุยกับพนักงานอยู่นาน อธิบายเรื่องราว สรุปคือเราต้องรอวันที่19/10/60 ถึงจะตอบได้ว่าเราจะได้เงินคืนไหม
เราเสียเงินไปแบบงงๆ 20,000 บาท สำหรับคนอื่นไม่ทราบว่าเยอะไหม แต่สำหรับเรามันเยอะ เราและสามีต้องกินต้องใช้ เรามีค่าใช้จ่ายที่ต้องจัดการ
เริ่มตั้งแต่สายตาดูถูกเหมือนเรามาโกหกว่าไม่ได้รับเงินจากพนักงานเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงเทพ ไปจนถึงคำว่าลูกค้าต้องรอจนวันที่19/10/60 ของcall center บอกตรงๆคะ เสียความรู้สึก คือทางธนาคารไม่มีวิธีจัดการให้เร็วขึ้นเหรอคะ เราต้องรอทุกวันพร้อมกับกังวลว่าจะได้เงินคืนไหม เพราะไม่มีคำตอบที่แน่ชัดถึงการคืนเงิน การเขียนกระทู้ครั้งนี้ อยากเตือนทุกคนเป็นอุทาหรณ์ของการกดเงินจากตู้ หรือการทำธุรกรรมใดๆก็ตาม ซึ่งเราก็ไม่รู้จะเตือนยังไงดี เพราะก็ไม่มีสัญญาณใดๆบ่งบอกว่าปัญหานี้จะเกิด ตอนนี้เราได้แต่ภาวนาว่าขอให้ได้เงินกลับคืนมา