สวัสดีครับ
วันนี้ผมกับครอบครัวเพิ่งเดินทางกลับจากไปทำธุระในกรุงเทพครับ โดยเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ที่สนามบินดอนเมือง เที่ยวบินวันนี้ เวลา 16.50
เรื่องก็คือ ผมกับครอบครัวไปนอนค้างบ้านป้า แล้วเขาให้ไข่ปลาคาเวียร์บดแบบหลอด 190 กรัมฝากมาสองหลอด ซึ่งหาซื้อในไทยยาก แพงด้วย ประมาณแถวๆ ร้อยบาทปลายๆ เป็นสินค้าของสวีเดน ไว้ทาขนมปังทานครับ
ผมมาถึงตรงตรวจสัมภาระ ประมาณ 16.20 พบว่า ไข่ปลาบด 2 หลอดนี้ ไม่สามารถนำเข้าไปได้ ทีนี้เขาแนะนำให้ออกไปส่งปณ. ก็ส่งไม่ทันแน่ๆ เพราะเหลือเวลาอีก 30 นาที ก็จะต้องขึ้นเครื่อง ต้องวิ่งไปทำเรื่องที่ปณ.ข้างนอก ซึ่งไกลพอตัว
ผมกับพ่อแม่พยายามอธิบายว่ามันไม่ใช่เจล ไม่ใช่ครีมอะไรทั้งนั้น มันเป็นเนื้อปลาบด แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระยืนยันคำเดียวว่าไม่ได้ ถ้าจะเอาไปต้องส่งปณ. แต่ก็ส่งไม่ทัน
เอาจริงๆมันก็เป็นความผิดของพวกผมเอง ที่ไม่ทราบว่าของแบบนี้นำขึ้นเครื่องไม่ได้ แล้วเผื่อเวลาเหลือน้อยเกินไป เพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาแบบนี้ แต่จริงๆคือ ผมเสนอว่ายินดีจะให้เปิดหลอดดูแล้ว ว่ามันเป็นของคาวไม่ใช่สารเคมี แต่ก็เหมือนจะไม่ช่วยอะไร เขาไม่ให้ท่าเดียว โดยอ้างว่ามันเกิน 100 กรัม แม่ผมก็เสนอว่าถ้าบีบออกหลอดละครึ่งได้มั้ย แต่เหมือนเขาก็ส่ายหัวอย่างเดียว พูดคำเดิมๆว่า เป็นหลอด เป็นครีม เป็นเจล ไม่ได้ ซึ่งเอาจริงๆคือมันเข้าข่ายแค่เป็นหลอดเฉยๆ ไม่ใช่ของเหลวด้วย สินค้าคือในรูปนี้ครับ
ทีนี้ผมเลยสงสัยครับ ไม่ได้จะมาโจมตีเจ้าหน้าที่ แต่อยากทราบข้อเท็จจริงว่า
1. ถ้าในกรณีที่เป็นเนื้อบดแบบนี้ แต่ไม่เป็นหลอด เป็นภาชนะอื่นแทน สามารถนำขึ้นเครื่องได้มั้ยครับ คือมันไม่ใช่เนื้อสดจากตลาดนะครับ มันเป็นของสำเร็จรูปนี่แหละ อารมณ์ปลาทูน่ากระป๋อง
2. ของที่ต้องทิ้ง เป็นไปได้มั้ยครับว่า ถ้ามันยังดีๆอยู่ เจ้าหน้าที่สนามบินมีสิทธิ์รับกลับบ้านเอง เคยได้ยินกรณีเจ้าหน้าสนามบินเอาของที่ผู้โดยสารทิ้งไปเองเมื่อนานมาแล้ว ที่สงสัยเรื่องนี้เพราะว่า แม่ผมเสนอว่าจะบีบออกให้เหลือหลอดละครึ่ีง (ต่ำกว่า 100 กรัม) เขาก็ไม่โอเค ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าหลอดละไม่เกิน 100 ได้
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ เดี๋ยวป้าถามมาว่าอร่อยมั้ย จะได้อธิบายได้แบบไม่เข้าใจเจ้าหน้าที่ผิดไปเอง 555
สอบถามเรื่องการนำของสิ่งนี้ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองครับ
วันนี้ผมกับครอบครัวเพิ่งเดินทางกลับจากไปทำธุระในกรุงเทพครับ โดยเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ที่สนามบินดอนเมือง เที่ยวบินวันนี้ เวลา 16.50
เรื่องก็คือ ผมกับครอบครัวไปนอนค้างบ้านป้า แล้วเขาให้ไข่ปลาคาเวียร์บดแบบหลอด 190 กรัมฝากมาสองหลอด ซึ่งหาซื้อในไทยยาก แพงด้วย ประมาณแถวๆ ร้อยบาทปลายๆ เป็นสินค้าของสวีเดน ไว้ทาขนมปังทานครับ
ผมมาถึงตรงตรวจสัมภาระ ประมาณ 16.20 พบว่า ไข่ปลาบด 2 หลอดนี้ ไม่สามารถนำเข้าไปได้ ทีนี้เขาแนะนำให้ออกไปส่งปณ. ก็ส่งไม่ทันแน่ๆ เพราะเหลือเวลาอีก 30 นาที ก็จะต้องขึ้นเครื่อง ต้องวิ่งไปทำเรื่องที่ปณ.ข้างนอก ซึ่งไกลพอตัว
ผมกับพ่อแม่พยายามอธิบายว่ามันไม่ใช่เจล ไม่ใช่ครีมอะไรทั้งนั้น มันเป็นเนื้อปลาบด แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระยืนยันคำเดียวว่าไม่ได้ ถ้าจะเอาไปต้องส่งปณ. แต่ก็ส่งไม่ทัน
เอาจริงๆมันก็เป็นความผิดของพวกผมเอง ที่ไม่ทราบว่าของแบบนี้นำขึ้นเครื่องไม่ได้ แล้วเผื่อเวลาเหลือน้อยเกินไป เพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาแบบนี้ แต่จริงๆคือ ผมเสนอว่ายินดีจะให้เปิดหลอดดูแล้ว ว่ามันเป็นของคาวไม่ใช่สารเคมี แต่ก็เหมือนจะไม่ช่วยอะไร เขาไม่ให้ท่าเดียว โดยอ้างว่ามันเกิน 100 กรัม แม่ผมก็เสนอว่าถ้าบีบออกหลอดละครึ่งได้มั้ย แต่เหมือนเขาก็ส่ายหัวอย่างเดียว พูดคำเดิมๆว่า เป็นหลอด เป็นครีม เป็นเจล ไม่ได้ ซึ่งเอาจริงๆคือมันเข้าข่ายแค่เป็นหลอดเฉยๆ ไม่ใช่ของเหลวด้วย สินค้าคือในรูปนี้ครับ
ทีนี้ผมเลยสงสัยครับ ไม่ได้จะมาโจมตีเจ้าหน้าที่ แต่อยากทราบข้อเท็จจริงว่า
1. ถ้าในกรณีที่เป็นเนื้อบดแบบนี้ แต่ไม่เป็นหลอด เป็นภาชนะอื่นแทน สามารถนำขึ้นเครื่องได้มั้ยครับ คือมันไม่ใช่เนื้อสดจากตลาดนะครับ มันเป็นของสำเร็จรูปนี่แหละ อารมณ์ปลาทูน่ากระป๋อง
2. ของที่ต้องทิ้ง เป็นไปได้มั้ยครับว่า ถ้ามันยังดีๆอยู่ เจ้าหน้าที่สนามบินมีสิทธิ์รับกลับบ้านเอง เคยได้ยินกรณีเจ้าหน้าสนามบินเอาของที่ผู้โดยสารทิ้งไปเองเมื่อนานมาแล้ว ที่สงสัยเรื่องนี้เพราะว่า แม่ผมเสนอว่าจะบีบออกให้เหลือหลอดละครึ่ีง (ต่ำกว่า 100 กรัม) เขาก็ไม่โอเค ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าหลอดละไม่เกิน 100 ได้
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ เดี๋ยวป้าถามมาว่าอร่อยมั้ย จะได้อธิบายได้แบบไม่เข้าใจเจ้าหน้าที่ผิดไปเอง 555