รีวิวสมาร์ทโฟนค่ายใหญ่ที่ฮิตมากๆในปัจจุบันนี้ มาดูว่าแกะกล่องออกมาแล้วมีอะไรแปลกใหม่ทันสมัยมาให้เราบ้างไปดูที่ค่ายแรกกันเลย
สำหรับ iPhone 7 Plus มาพร้อมตัวกล่องโดยรวมเป็นสีขาว ส่วนหน้ากล่องเป็นรูปตัวเครื่อง iPhone สีแดงและที่ข้างกล่องนั้นเขียนแค่ iPhone ติดไว้โดยไม่ได้ระบุรุ่นว่าเป็น iPhone 7 เหมือนรุ่นก่อนหน้าที่มีบอกเอาไว้
ในกล่องของ iPhone 7 Plus
ตัวเครื่อง iPhone 7 Plus หูฟังแบบ Lightning EarPods หัวแปลงแบบ Lightning เป็น 3.5 มม. อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จขนาด 1W สายเชื่อมต่อ USB Lightning สำหรับการชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล เอกสารประกอบการใช้งาน
จับ iPhone 7 Plus ครั้งแรกก็เหมือนเราจับ iPhone 6/6s, 6 Plus/6s Plus แหละครับ รูปร่างภายนอกเหมือนกัน 90% ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
iPhone 7 Plus นั้นขนาดหน้าจอใหญ่ 5.5 นิ้วเท่ากับ iPhone 6 Plus, 6s Plusด้านหลังสายสัญญาณหายไปทำให้ดูสวยขึ้น ตรงกลางจะเป็นโลโก้ Apple และด้านล่างจะมีคำว่า iPhone และรายละเอียดเกี่ยวกับการผลิต
iPhone 7 Plus มาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัว แยกเป็นเลนส์ Wide สำหรับถ่ายมุมกว้างและเลนส์ Telephoto สำหรับถ่ายระยะไกล ตัวกล้องจะใหญ่กว่า iPhone 6 Plus, 6s Plus ค่อนข้างมาก ด้านข้างขวามีปุ่ม Power และช่องถาดซิมที่ถาดซิมนั้นเล็กว่า iPhone รุ่นก่อนหน้าและมีซีลยางกันน้ำมาด้วยครับ ส่วนด้านข้างซ้ายมีปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และปิดเสียงที่มองแล้วยังคล้ายกับรุ่นเดิม ส่วนปุ่ม Home นั้นภายนอกอาจจะดูเหมือนเดิมนะแต่จะรู้ถึงความต่างเมื่อกด และส่วนสุดท้ายคือช่องเสียบหูฟังหายไปเพิ่มเติมเข้ามาคือเจาะรูที่เคสให้เหมือนว่ามีลำโพงอีกตัวเพิ่มมาในฝั่งนั้นแต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ลำโพง
ต่อไปมาลงรายละเอียดส่วนที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละส่วนกันบ้าง
ปุ่ม Home แบบ Taptic Engine ลักษณะการออกแบบปุ่ม Home หากมองจากภายนอกจะไม่แตกต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้า แต่สิ่งที่แตกต่างนั้นจะอยู่ที่ระบบภายใน คือถ้าไม่เปิดเครื่องและไม่ใช้ผิวหนังสัมผัสปุ่ม Home ใหม่นั้น เมื่อกดที่ปุ่มแล้วจะไม่ยุบตัวและไม่ตอบสนองต่อการกด กดปุ่ม Home แล้วระบบสั่นจาก Taptic Engine จะทำงาน เพื่อบอกให้รู้ว่ากดแล้ว ระดับการสั่นมี 3 ระดับ สามารถปรับตั้งค่าได้โดยเลือก สั่นเบา สั่นปานกลางหรือสั่นแรง ปุ่ม Home ยังใช้ Touch ID รุ่นที่ 2 แบบเดียวกับ iPhone 6s ที่ทำให้สแกนนิ้วได้อย่างรวดเร็ว
นี่คือการเปลี่ยนแปลงของปุ่ม Home ใน iPhone 7 แน่นอนว่าปุ่มนี้กันน้ำได้และกันรอยขีดข่วนได้ระดับหนึ่ง ไม่แนะนำให้ใช้ของแข็งขูดที่ปุ่มเพราะจะทำให้สแกนนิ้วไม่ได้หลังจากการใช้งานพบว่าปุ่ม Home ใหม่ดีในจุดที่ว่ากดเล่นไม่ได้ถ้าไม่เปิดเครื่อง, อายุการใช้งานนั้นอาจจะยาวนานกว่าเดิมลดความเสี่ยงของฝุ่นและน้ำที่จะเข้าไปใต้ปุ่ม, แม้ปุ่มจะไม่ได้ยุบตัวลงเมื่อกด แต่ว่าระบบ Taptic Engine นั้นตอบสนองได้ค่อนข้างดีในส่วนของการสั่นแจ้งเตือน ส่วนที่ต้องปรับตัวในการใช้งานคือ “ต้องใช้ผิวหนังสัมผัสที่ปุ่มก่อนจึงจะกดได้ ถ้าใช้เล็บจิกเพื่อกดจะไม่สามารถทำได้นะ” ดังนั้นหากใครนิ้วเปื้อนแล้วคิดจะกดก็ต้องหาทางออกกันให้ดี
การแสดงผลหน้าจอ
หน้าจอ iPhone 7 Plus มีความละเอียดที่ 1920×1080px หน้าจอแสดงผลได้อย่างคมชัด และมีสีสันที่สดใสพร้อมแสดงรายละเอียดของสีได้ดีกว่าเดิม คุณสมบัติตัวจอเป็นแบบ IPS ทำให้สามารถแสดงผลหน้าจอได้ทุกมุมมอง การสัมผัสที่หน้าจอทำได้ดีและลื่นไหลไม่มีสะดุดเช่นเดิม
กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP67
iPhone 7 Plus มาพร้อมระบบกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP67 ซึ่งถือว่าเป็น iPhone รุ่นแรกที่สามารถกันน้ำได้อย่างเป็นทางการ โดย IP67 นั้นกล่าวไว้ว่า สามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% สามารถกันน้ำได้ 30 นาที เมื่ออยู่ในน้ำระดับไม่เกิน 1 เมตร กันเหงื่อได้ กันฝนสาดได้
ลำโพงแบบ Stereo
เป็น iPhone รุ่นแรกที่มีลำโพงแบบสเตอรีโอ เสียงจะออกจากลำโพงที่อยู่ด้านล่างตัวเครื่องอยู่ที่ด้านขวา 1 อันให้เสียงออกไปทางแหลมนิดๆ และลำโพงอีกจุดจะออกที่หูฟังด้านบน ส่วนด้านซ้ายล่างที่เจาะรูเหมือนว่าเป็นช่องลำโพงนั้นจะไม่มีลำโพงอยู่แต่อย่างใด
กล้องหลังใหม่
กล้องหลังของ iPhone 7 Plus มีความละเอียด 12MP มีระบบกันภาพสั่น (OIS) มี LED Flash 4 ดวง แบบ True Tone ช่วยปรับอุณหภูมิและความสะดวกของภาพถ่ายได้ดียิ่งขึ้นหากต้องถ่ายภาพโดยการใช้แสงแฟลชช่วยจุดที่น่าสนใจในรุ่นนี้ คือ กล้องหลัง 2 ตัว ของ iPhone 7 Plus โดยกล้องแรกจะเป็นแบบ Telephoto และ Wide angle ความละเอียด 12MP มีคุณสมบัติการซูมภาพ 2 เท่า ถ่ายภาพแบบ RAW ได้ และถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้
แกะกล่อง Samsung Galaxy S8+
สำหรับ Samsung Galaxy S8+ นั้นจะมาในกล่องสีดำสวยเข้มดุดัน
เมื่อเปิดฝาออกมาก็จะพบกับตัวเครื่องสวยๆ งามๆ ของ Samsung Galaxy S8+ เป็นอันดับแรก
ซึ่งภายในกล่องก็มีอุปกรณ์มาให้ใช้งานอย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่หูฟังคุณภาพสูงจากแบรนด์ AKG, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จความเร็วสูง, สายเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C, อะแดปเตอร์ microUSB to USB Type-C, USB Connector, เข็ม SIM Door Key, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกันสินค้าสายของหูฟัง AKG นี้จะเป็นผ้า จึงหมดปัญหาในเรื่องของสายพันกัน แต่อย่างไรก็ดีที่สายหูฟังส่วนบน ก็ยังคงถูกหุ้มด้วยยางอยู่เช่นเดิมของแถม Premium Set มีอะไรบ้างมาดูกัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าผู้ที่สั่งจอง Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ นั้นจะได้รับของสมนาคุณ Premium Set หลายรายการรวมมูลค่ากว่า 6,950 บาท ซึ่งเราจะมาเริ่มกันที่ ลำโพงบลูทูธ Level Box Slim ที่มาพร้อมคุณสมบัติของการป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPx7 และคุณภาพเสียงที่ดี บนดีไซน์สวยกะทัดรัดที่พกพาได้ง่าย อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น Power Bank ได้อีกด้วย โดยลำโพงบลูทูธ Level Box Slim ที่แถมมาให้นี้เป็นสีพิเศษสีดำ (Limited Edition) ที่ไม่มีจำหน่ายแยก (ปกติรุ่นวางจำหน่ายทั่วไปมีเฉพาะสีน้ำเงิน กับสีแดง)
โดยทางด้านขวาของลำโพงจะมีสัญญาณไฟ LED สำหรับแจ้งสถานะปริมาณของแบตเตอรี่ที่คงเหลือ
ด้านหน้าเป็นส่วนของลำโพงเสียง และมีแบตเตอรี่ขนาด 2600 mAh บรรจุอยู่ภายใน
ด้านบนมีปุ่มการสั่งงานต่างๆ ได้แก่ ปุ่มเล่นเพลง/หยุด หรือเปิด-ปิด บลูทูธ, ปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง และปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง
อีกหนึ่งความน่าสนใจของ ลำโพงบลูทูธ Level Box Slim คือ สามารถทำงานร่วมกับระบบเสียงบน Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ ได้อย่างเต็มฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็น การปรับค่าอีควอไลเซอร์
หรือแม้แต่การปรับค่าเสียงเบส หรือเสียงต่ำ ก็สามารถทำได้ทั้งหมด
อีกทั้งใน Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ นั้นยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ และแยกใช้งานอย่างอิสระได้ 2 แอปพลิเคชัน เช่นหูฟังหนึ่งอาจใช้ฟังเสียงจาก YouTube ส่วนอีกหูฟังหนึ่งอาจใช้ฟังเสียงจากเครื่องเล่นเพลง
เป็นไงกันบ้างคะ เราคัดแต่ตัวท๊อปๆมาให้ดูว่าแกะกล่องออกมาและได้อะไรบ้าง มีของอะไรน่าเล่น แปลกใหม่ มีอะไรพิเศษในเทคโนโลยีสมัยนี้ เหมาะสมกับราคาไหม ทำไมถึงราคาค่อนข้างสูง ตัวที่คัดมานี้เชื่อว่าใครหลายคนก็ต้องคิดว่ามีอะไร ทำไมถึงราคาสูง และเป็นสมาร์ทโฟนในใจของใครหลายๆคน ที่นี้ก็เปรียบเทียบดูกันนะคะว่าสมควรแก่ราคาหรือไม่
[CR] รีวิวสมาร์ทโฟนค่ายใหญ่
สำหรับ iPhone 7 Plus มาพร้อมตัวกล่องโดยรวมเป็นสีขาว ส่วนหน้ากล่องเป็นรูปตัวเครื่อง iPhone สีแดงและที่ข้างกล่องนั้นเขียนแค่ iPhone ติดไว้โดยไม่ได้ระบุรุ่นว่าเป็น iPhone 7 เหมือนรุ่นก่อนหน้าที่มีบอกเอาไว้
ในกล่องของ iPhone 7 Plus
ตัวเครื่อง iPhone 7 Plus หูฟังแบบ Lightning EarPods หัวแปลงแบบ Lightning เป็น 3.5 มม. อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จขนาด 1W สายเชื่อมต่อ USB Lightning สำหรับการชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล เอกสารประกอบการใช้งาน
จับ iPhone 7 Plus ครั้งแรกก็เหมือนเราจับ iPhone 6/6s, 6 Plus/6s Plus แหละครับ รูปร่างภายนอกเหมือนกัน 90% ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
iPhone 7 Plus นั้นขนาดหน้าจอใหญ่ 5.5 นิ้วเท่ากับ iPhone 6 Plus, 6s Plusด้านหลังสายสัญญาณหายไปทำให้ดูสวยขึ้น ตรงกลางจะเป็นโลโก้ Apple และด้านล่างจะมีคำว่า iPhone และรายละเอียดเกี่ยวกับการผลิต
iPhone 7 Plus มาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัว แยกเป็นเลนส์ Wide สำหรับถ่ายมุมกว้างและเลนส์ Telephoto สำหรับถ่ายระยะไกล ตัวกล้องจะใหญ่กว่า iPhone 6 Plus, 6s Plus ค่อนข้างมาก ด้านข้างขวามีปุ่ม Power และช่องถาดซิมที่ถาดซิมนั้นเล็กว่า iPhone รุ่นก่อนหน้าและมีซีลยางกันน้ำมาด้วยครับ ส่วนด้านข้างซ้ายมีปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และปิดเสียงที่มองแล้วยังคล้ายกับรุ่นเดิม ส่วนปุ่ม Home นั้นภายนอกอาจจะดูเหมือนเดิมนะแต่จะรู้ถึงความต่างเมื่อกด และส่วนสุดท้ายคือช่องเสียบหูฟังหายไปเพิ่มเติมเข้ามาคือเจาะรูที่เคสให้เหมือนว่ามีลำโพงอีกตัวเพิ่มมาในฝั่งนั้นแต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ลำโพง
ต่อไปมาลงรายละเอียดส่วนที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละส่วนกันบ้าง
ปุ่ม Home แบบ Taptic Engine ลักษณะการออกแบบปุ่ม Home หากมองจากภายนอกจะไม่แตกต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้า แต่สิ่งที่แตกต่างนั้นจะอยู่ที่ระบบภายใน คือถ้าไม่เปิดเครื่องและไม่ใช้ผิวหนังสัมผัสปุ่ม Home ใหม่นั้น เมื่อกดที่ปุ่มแล้วจะไม่ยุบตัวและไม่ตอบสนองต่อการกด กดปุ่ม Home แล้วระบบสั่นจาก Taptic Engine จะทำงาน เพื่อบอกให้รู้ว่ากดแล้ว ระดับการสั่นมี 3 ระดับ สามารถปรับตั้งค่าได้โดยเลือก สั่นเบา สั่นปานกลางหรือสั่นแรง ปุ่ม Home ยังใช้ Touch ID รุ่นที่ 2 แบบเดียวกับ iPhone 6s ที่ทำให้สแกนนิ้วได้อย่างรวดเร็ว
นี่คือการเปลี่ยนแปลงของปุ่ม Home ใน iPhone 7 แน่นอนว่าปุ่มนี้กันน้ำได้และกันรอยขีดข่วนได้ระดับหนึ่ง ไม่แนะนำให้ใช้ของแข็งขูดที่ปุ่มเพราะจะทำให้สแกนนิ้วไม่ได้หลังจากการใช้งานพบว่าปุ่ม Home ใหม่ดีในจุดที่ว่ากดเล่นไม่ได้ถ้าไม่เปิดเครื่อง, อายุการใช้งานนั้นอาจจะยาวนานกว่าเดิมลดความเสี่ยงของฝุ่นและน้ำที่จะเข้าไปใต้ปุ่ม, แม้ปุ่มจะไม่ได้ยุบตัวลงเมื่อกด แต่ว่าระบบ Taptic Engine นั้นตอบสนองได้ค่อนข้างดีในส่วนของการสั่นแจ้งเตือน ส่วนที่ต้องปรับตัวในการใช้งานคือ “ต้องใช้ผิวหนังสัมผัสที่ปุ่มก่อนจึงจะกดได้ ถ้าใช้เล็บจิกเพื่อกดจะไม่สามารถทำได้นะ” ดังนั้นหากใครนิ้วเปื้อนแล้วคิดจะกดก็ต้องหาทางออกกันให้ดี
การแสดงผลหน้าจอ
หน้าจอ iPhone 7 Plus มีความละเอียดที่ 1920×1080px หน้าจอแสดงผลได้อย่างคมชัด และมีสีสันที่สดใสพร้อมแสดงรายละเอียดของสีได้ดีกว่าเดิม คุณสมบัติตัวจอเป็นแบบ IPS ทำให้สามารถแสดงผลหน้าจอได้ทุกมุมมอง การสัมผัสที่หน้าจอทำได้ดีและลื่นไหลไม่มีสะดุดเช่นเดิม
กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP67
iPhone 7 Plus มาพร้อมระบบกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP67 ซึ่งถือว่าเป็น iPhone รุ่นแรกที่สามารถกันน้ำได้อย่างเป็นทางการ โดย IP67 นั้นกล่าวไว้ว่า สามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% สามารถกันน้ำได้ 30 นาที เมื่ออยู่ในน้ำระดับไม่เกิน 1 เมตร กันเหงื่อได้ กันฝนสาดได้
ลำโพงแบบ Stereo
เป็น iPhone รุ่นแรกที่มีลำโพงแบบสเตอรีโอ เสียงจะออกจากลำโพงที่อยู่ด้านล่างตัวเครื่องอยู่ที่ด้านขวา 1 อันให้เสียงออกไปทางแหลมนิดๆ และลำโพงอีกจุดจะออกที่หูฟังด้านบน ส่วนด้านซ้ายล่างที่เจาะรูเหมือนว่าเป็นช่องลำโพงนั้นจะไม่มีลำโพงอยู่แต่อย่างใด
กล้องหลังใหม่
กล้องหลังของ iPhone 7 Plus มีความละเอียด 12MP มีระบบกันภาพสั่น (OIS) มี LED Flash 4 ดวง แบบ True Tone ช่วยปรับอุณหภูมิและความสะดวกของภาพถ่ายได้ดียิ่งขึ้นหากต้องถ่ายภาพโดยการใช้แสงแฟลชช่วยจุดที่น่าสนใจในรุ่นนี้ คือ กล้องหลัง 2 ตัว ของ iPhone 7 Plus โดยกล้องแรกจะเป็นแบบ Telephoto และ Wide angle ความละเอียด 12MP มีคุณสมบัติการซูมภาพ 2 เท่า ถ่ายภาพแบบ RAW ได้ และถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้
แกะกล่อง Samsung Galaxy S8+
สำหรับ Samsung Galaxy S8+ นั้นจะมาในกล่องสีดำสวยเข้มดุดัน
เมื่อเปิดฝาออกมาก็จะพบกับตัวเครื่องสวยๆ งามๆ ของ Samsung Galaxy S8+ เป็นอันดับแรก
ซึ่งภายในกล่องก็มีอุปกรณ์มาให้ใช้งานอย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่หูฟังคุณภาพสูงจากแบรนด์ AKG, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จความเร็วสูง, สายเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C, อะแดปเตอร์ microUSB to USB Type-C, USB Connector, เข็ม SIM Door Key, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกันสินค้าสายของหูฟัง AKG นี้จะเป็นผ้า จึงหมดปัญหาในเรื่องของสายพันกัน แต่อย่างไรก็ดีที่สายหูฟังส่วนบน ก็ยังคงถูกหุ้มด้วยยางอยู่เช่นเดิมของแถม Premium Set มีอะไรบ้างมาดูกัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าผู้ที่สั่งจอง Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ นั้นจะได้รับของสมนาคุณ Premium Set หลายรายการรวมมูลค่ากว่า 6,950 บาท ซึ่งเราจะมาเริ่มกันที่ ลำโพงบลูทูธ Level Box Slim ที่มาพร้อมคุณสมบัติของการป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPx7 และคุณภาพเสียงที่ดี บนดีไซน์สวยกะทัดรัดที่พกพาได้ง่าย อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น Power Bank ได้อีกด้วย โดยลำโพงบลูทูธ Level Box Slim ที่แถมมาให้นี้เป็นสีพิเศษสีดำ (Limited Edition) ที่ไม่มีจำหน่ายแยก (ปกติรุ่นวางจำหน่ายทั่วไปมีเฉพาะสีน้ำเงิน กับสีแดง)
โดยทางด้านขวาของลำโพงจะมีสัญญาณไฟ LED สำหรับแจ้งสถานะปริมาณของแบตเตอรี่ที่คงเหลือ
ด้านหน้าเป็นส่วนของลำโพงเสียง และมีแบตเตอรี่ขนาด 2600 mAh บรรจุอยู่ภายใน
ด้านบนมีปุ่มการสั่งงานต่างๆ ได้แก่ ปุ่มเล่นเพลง/หยุด หรือเปิด-ปิด บลูทูธ, ปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง และปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง
อีกหนึ่งความน่าสนใจของ ลำโพงบลูทูธ Level Box Slim คือ สามารถทำงานร่วมกับระบบเสียงบน Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ ได้อย่างเต็มฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็น การปรับค่าอีควอไลเซอร์
หรือแม้แต่การปรับค่าเสียงเบส หรือเสียงต่ำ ก็สามารถทำได้ทั้งหมด
อีกทั้งใน Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ นั้นยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ และแยกใช้งานอย่างอิสระได้ 2 แอปพลิเคชัน เช่นหูฟังหนึ่งอาจใช้ฟังเสียงจาก YouTube ส่วนอีกหูฟังหนึ่งอาจใช้ฟังเสียงจากเครื่องเล่นเพลง
เป็นไงกันบ้างคะ เราคัดแต่ตัวท๊อปๆมาให้ดูว่าแกะกล่องออกมาและได้อะไรบ้าง มีของอะไรน่าเล่น แปลกใหม่ มีอะไรพิเศษในเทคโนโลยีสมัยนี้ เหมาะสมกับราคาไหม ทำไมถึงราคาค่อนข้างสูง ตัวที่คัดมานี้เชื่อว่าใครหลายคนก็ต้องคิดว่ามีอะไร ทำไมถึงราคาสูง และเป็นสมาร์ทโฟนในใจของใครหลายๆคน ที่นี้ก็เปรียบเทียบดูกันนะคะว่าสมควรแก่ราคาหรือไม่