สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
สเป็กเป็นสิ่งที่สมองสร้างขึ้น
จากสิ่งที่เคยพบ เห็น รับรู้ แล้วรู้สึกดี-ชอบ
เป็นเหตุเป็นผลว่าอย่างไร เพราะอะไร
สิ่งที่สมองเราสร้างเอง จึงควบคุมได้ บอกได้ อธิบายได้
แต่ความรัก เกิดจากใจ
เป็นความรู้สึกที่นอกเหนือการควบคุม
ไร้เหตุผล หลายๆครั้ง....อธิบายไม่ได้
แต่มีอำนาจมากมาย
.....มันจึงมีอำนาจอยู่เหนือสเป็ก
จากสิ่งที่เคยพบ เห็น รับรู้ แล้วรู้สึกดี-ชอบ
เป็นเหตุเป็นผลว่าอย่างไร เพราะอะไร
สิ่งที่สมองเราสร้างเอง จึงควบคุมได้ บอกได้ อธิบายได้
แต่ความรัก เกิดจากใจ
เป็นความรู้สึกที่นอกเหนือการควบคุม
ไร้เหตุผล หลายๆครั้ง....อธิบายไม่ได้
แต่มีอำนาจมากมาย
.....มันจึงมีอำนาจอยู่เหนือสเป็ก
ความคิดเห็นที่ 22
สเปค คือสิ่งที่เราอยากได้ อยากมี
เพียงเพื่อนำสิ่งนั้นมาตอบสนองความต้องการ "ของตัวเราเอง"
ถ้าจะพูดกันหยาบๆ มันก็คือความเห็นแก่ตัวรูปแบบหนึ่ง
ถ้าถามว่ามันดูรุนแรงไปหรือเปล่า ที่จะพูดแบบนั้น
คุณลองไปถามสเปคผู้ชายหรือผู้หญิงโดยส่วนใหญ่
เรามักจะได้ยินแต่คำตอบซ้ำๆเดิมครับ
ทั้งในเชิงรูปธรรม เช่น หล่อ สวย รวย หุ่นดี ตรงนั้นตรงนี้ใหญ่ ใส่แว่น ดัดฟัน
จนไปถึงนิสัยใจคอ การพูดจา การวางตัว หรืออื่นๆ
เคยคิดไหมครับว่าทำไม
คำตอบมันถึงออกมาประมาณนี้
บางทีสิ่งเหล่านี้ มันอาจจะเป็นคำว่า "มาตรฐานของความสมบูรณ์แบบ"
ที่สังคมยอมรับได้
และใครบ้างล่ะครับ ที่ไม่อยากถูกยอมรับในสังคม ?
จึงไม่แปลก ที่จะมีกระทู้ผุดขึ้นทุกวันว่า
ไม่สวยแล้วยังไง ไม่หล่อแล้วยังไง ทำไมต้องคลั่งคนขาว
และ บลา บลา บลา
เราทำและเสาะแสวงหา "สเปค" เพื่อให้คนยอมรับในตัวเรา
หรือตอบสนองความต้องการ หรือตัณหาราหะอะไรบางอย่าง
เราใช้ความเห็นแก่ตัวเหล่านี้นำทาง
และเรียกนั่นว่า "ความรัก"
แต่มันไม่ได้ใกล้เคียงเลยแม้แต่น้อย
เพราะเมื่อไรก็ตาม
ที่เราโตพอที่จะใช้ชีวิตไประดับหนึ่ง
ได้เห็นและทำความเข้าใจในความ "ไม่สมบูรณ์แบบ" ที่โลกนี้เป็น
หรือการที่เราเรียกว่า "การเข้าใจในชีวิต"
ความสุขของคนเรามันก็เปลี่ยนไปครับ
จากที่เคยเป็นคนที่คาดหวังว่าทุกอย่างต้องเป็นแบบนั้น กลับกลายเป็นคนที่เข้าใจว่าทุกอย่างมันก็เป็นแบบนี้
จากที่เคยเป็นคนที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง กลับกลายเป็นคนที่ยอมในความแตกต่าง
จากที่เคยเป็นคนที่คิดว่าความสุขคือการที่ต้องได้ดั่งใจ กลับกลายเป็นคนที่เข้าใจว่าความสุขมันก็แค่ความสบายใจ
จากที่เคยเป็นมองว่าเราต้องได้คนนั้นคนนี้ แบบนั้นแบบนี้
มันกลายเป็น "ใครก็ได้" ที่อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ
อยากที่จะเสียสละเพื่อเขา แม้เราจะเคยเป็นคนเห็นแก่ตัวแค่ไหน
และสบายใจที่ได้อยู่ด้วยกัน แม้จะไม่ต้องพูดอะไรสักคำ
ซึ่งนั่นคือความหมายของความรัก
และพอสเปค ≠ กับความรัก
คนในผลลัพธ์ที่ออกมาจึงแตกต่างกัน
สมการง่ายๆครับ
และของแบบนี้มันเร่งรัดกันไม่ได้ด้วย
จึงทำให้ระยะเวลาของ "การเข้าใจใจชีวิต" ของหลายๆคนไม่เท่ากัน
เลยไม่แปลก ที่เราเห็นคนเป็นแฟนกันแล้วเลิก แต่งงานกันแล้วแยกทาง มากมายหลายคู่
เพราะเขาเหล่านั้นอยู่บนความสัมพันธ์
ที่ต่างฝ่าย ต่างไม่ยอมเสียสละเพื่อกันและกัน
และคาดหวังในตัวอีกฝ่าย ว่าต้องเป็นแบบที่เราอยากให้เป็น
สุดท้ายแล้ว
ชีวิตของคนเรามันก็เท่านี้ครับ
คุณ ผม หรือใครๆ ต่างก็ไม่สมบูรณ์แบบกันทั้งนั้น
วันใดก็ตามที่เราเข้าใจและยอมรับได้
เราจะเลิกเหนื่อยกับการวิ่งตามหาสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
และกล้าที่จะเสียสละตัวเอง
ไปกับการเติมเต็มให้ชีวิตใครสักคนหนึ่งสมบูรณ์แบบมากขึ้น
วันนั้นจะเป็นวันที่เราจะเข้าใจครับว่าความสุขจริงๆมันคืออะไร
และผมเชื่อว่าหลายคนที่คุณเห็นว่าคบกับคนที่ไม่ตรงสเปค
เขาได้ผ่านและเข้าใจในสิ่งเหล่านี้มาแล้ว
และมีความสุขกับสิ่งเหล่านี้แล้ว
ก็เท่านั้นเองครับ
เพียงเพื่อนำสิ่งนั้นมาตอบสนองความต้องการ "ของตัวเราเอง"
ถ้าจะพูดกันหยาบๆ มันก็คือความเห็นแก่ตัวรูปแบบหนึ่ง
ถ้าถามว่ามันดูรุนแรงไปหรือเปล่า ที่จะพูดแบบนั้น
คุณลองไปถามสเปคผู้ชายหรือผู้หญิงโดยส่วนใหญ่
เรามักจะได้ยินแต่คำตอบซ้ำๆเดิมครับ
ทั้งในเชิงรูปธรรม เช่น หล่อ สวย รวย หุ่นดี ตรงนั้นตรงนี้ใหญ่ ใส่แว่น ดัดฟัน
จนไปถึงนิสัยใจคอ การพูดจา การวางตัว หรืออื่นๆ
เคยคิดไหมครับว่าทำไม
คำตอบมันถึงออกมาประมาณนี้
บางทีสิ่งเหล่านี้ มันอาจจะเป็นคำว่า "มาตรฐานของความสมบูรณ์แบบ"
ที่สังคมยอมรับได้
และใครบ้างล่ะครับ ที่ไม่อยากถูกยอมรับในสังคม ?
จึงไม่แปลก ที่จะมีกระทู้ผุดขึ้นทุกวันว่า
ไม่สวยแล้วยังไง ไม่หล่อแล้วยังไง ทำไมต้องคลั่งคนขาว
และ บลา บลา บลา
เราทำและเสาะแสวงหา "สเปค" เพื่อให้คนยอมรับในตัวเรา
หรือตอบสนองความต้องการ หรือตัณหาราหะอะไรบางอย่าง
เราใช้ความเห็นแก่ตัวเหล่านี้นำทาง
และเรียกนั่นว่า "ความรัก"
แต่มันไม่ได้ใกล้เคียงเลยแม้แต่น้อย
เพราะเมื่อไรก็ตาม
ที่เราโตพอที่จะใช้ชีวิตไประดับหนึ่ง
ได้เห็นและทำความเข้าใจในความ "ไม่สมบูรณ์แบบ" ที่โลกนี้เป็น
หรือการที่เราเรียกว่า "การเข้าใจในชีวิต"
ความสุขของคนเรามันก็เปลี่ยนไปครับ
จากที่เคยเป็นคนที่คาดหวังว่าทุกอย่างต้องเป็นแบบนั้น กลับกลายเป็นคนที่เข้าใจว่าทุกอย่างมันก็เป็นแบบนี้
จากที่เคยเป็นคนที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง กลับกลายเป็นคนที่ยอมในความแตกต่าง
จากที่เคยเป็นคนที่คิดว่าความสุขคือการที่ต้องได้ดั่งใจ กลับกลายเป็นคนที่เข้าใจว่าความสุขมันก็แค่ความสบายใจ
จากที่เคยเป็นมองว่าเราต้องได้คนนั้นคนนี้ แบบนั้นแบบนี้
มันกลายเป็น "ใครก็ได้" ที่อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ
อยากที่จะเสียสละเพื่อเขา แม้เราจะเคยเป็นคนเห็นแก่ตัวแค่ไหน
และสบายใจที่ได้อยู่ด้วยกัน แม้จะไม่ต้องพูดอะไรสักคำ
ซึ่งนั่นคือความหมายของความรัก
และพอสเปค ≠ กับความรัก
คนในผลลัพธ์ที่ออกมาจึงแตกต่างกัน
สมการง่ายๆครับ
และของแบบนี้มันเร่งรัดกันไม่ได้ด้วย
จึงทำให้ระยะเวลาของ "การเข้าใจใจชีวิต" ของหลายๆคนไม่เท่ากัน
เลยไม่แปลก ที่เราเห็นคนเป็นแฟนกันแล้วเลิก แต่งงานกันแล้วแยกทาง มากมายหลายคู่
เพราะเขาเหล่านั้นอยู่บนความสัมพันธ์
ที่ต่างฝ่าย ต่างไม่ยอมเสียสละเพื่อกันและกัน
และคาดหวังในตัวอีกฝ่าย ว่าต้องเป็นแบบที่เราอยากให้เป็น
สุดท้ายแล้ว
ชีวิตของคนเรามันก็เท่านี้ครับ
คุณ ผม หรือใครๆ ต่างก็ไม่สมบูรณ์แบบกันทั้งนั้น
วันใดก็ตามที่เราเข้าใจและยอมรับได้
เราจะเลิกเหนื่อยกับการวิ่งตามหาสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
และกล้าที่จะเสียสละตัวเอง
ไปกับการเติมเต็มให้ชีวิตใครสักคนหนึ่งสมบูรณ์แบบมากขึ้น
วันนั้นจะเป็นวันที่เราจะเข้าใจครับว่าความสุขจริงๆมันคืออะไร
และผมเชื่อว่าหลายคนที่คุณเห็นว่าคบกับคนที่ไม่ตรงสเปค
เขาได้ผ่านและเข้าใจในสิ่งเหล่านี้มาแล้ว
และมีความสุขกับสิ่งเหล่านี้แล้ว
ก็เท่านั้นเองครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมคุณตกหลุมรักคนๆนึงได้ ทั้งๆที่เขาไม่ใช่สเป็คของคุณเลย
ทั้งๆที่ เขาไม่ใช่สเป็คของคุณเลยครับ
เพิ่มเติม สเป็ค หมายถึง ทุกอย่างนะครับ
เนื่องจากมีบางความเห็นอาจจะตีกรอบคำว่า สเป็ค แค่รูปร่าง หน้าตา
มันหมายรวมถึง นิสัย อาชีพ หน้าที่การงาน อาจจะรวมถึงชื่อ และวันเดือนปีเกิด ราศีที่สมพงษ์กันด้วย
ยกตัวอย่าง บางคนมีพ่อติดเหล้า เลยตั้งสเป็คไว้ว่าจะไม่เอาผู้ชายที่ติดเหล้า ชอบปาร์ตี้ มาทำผัวเด็ดขาด เป็นต้น