ขอออกตัวก่อนนะคะว่ายูสนี้เป็นยูสของพี่ ที่ตัวโรสเองยืมจะเอามาแชร์เรื่องความสวยความงามกันสักเล็กสักน้อย ที่สำคัญ ! เรื่องนี้ยังเหมาะกับน้องๆ หนูๆ ที่เพิ่งจะเริ่มหัดแต่งหน้า ต้องเขียนๆ ลบๆ ฝึกฝนฝีมือจนกว่าจะเข้าที่ ดังนั้นเรื่องของ Remover หรือ คลีนซิ่ง นี่สำคัญมากเลยเจ้าคะ แต่งบ่อยๆ เข้าถ้าลบหน้าไม่สะอาดละก็ สิวบุกแน่ๆ ...
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่รีวิวแรกจาก
สวยประหลาด วันนี้อยู่กับ
'โรส' นะคะ โดยปกติแล้วโรสเนี่ยเป็นคนที่แต่งหน้าฉ่ำและชุ่มเนียนมากๆ (แต่งหน้าหนัก) ซึ่งตอนแต่งก็ไม่ได้มีปัญหามากมาย แต่ตอนล้างเนี่ยสิคะ ปัญหาที่ตามมาเลยก็คือเรื่อง
'สิว' ค่ะคุณขา โอ้โหคุณพระ
#เอามือทาบอก ถึงแม้ว่าเราจะมีผู้ช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้าหลังการแต่งหน้า อย่าง
'คลีนซิ่ง' อยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหาน่าปวดหัว จนบางครั้งพอเป็นอีกแล้วโรสก็ลมแทบจับเลยล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าสิวพวกนั้นมาได้ยังไง ทั้งที่หลังแต่งหน้าเราก็ทำความสะอาดจนแน่ใจว่าหน้าเราหลงไม่เหลือเศษเครื่องสำอางแล้วจริงๆ
คราวนี้ก็มีบรรดาแฟนๆ ของสวยประหลาดยิงคำถามเข้ามาได้ตรงและแรงมากจริงๆ ว่าสรุปแล้ว
"คลีนซิ่งยี่ห้อไหนดี และคลีนยี่ห้อไหนที่แย่ ?" ถึงแม้ว่าจะตอบได้ยาก แต่ก็นับว่าเป็นคำถามที่น่าจะให้ประโยชน์กับบรรดาสาวกที่ใช้คลีนซิ่งเป็นประจำ หรือแม้แต่มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนรู้เลือกสิ่งดีๆ ให้กับใบหน้าของตัวเอง อิฉัน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความงามอันดับหนึ่งของโลก (โลกของดิฉัน) จึงขอจัดให้คลีนซิ่งได้ดวลกันไปเลย !! ระหว่างคลีนซิ่ง 3 ยี่ห้องดังที่โรสเลือกมา ตัวไหนจะช่วยให้ใบหน้าของเรากลับมาสดใสไร้เครื่องสำอางได้หมดจดจริงๆ รวมถึงใช้สำลีได้น้อยสุดๆ เรามาเริ่มกันเลยค่ะ
ผู้ท้าชิงที่ 1 : NIVEA Make Up Cleansing Water สูตรที่โรสเลือกใช้วันนี้เป็นขวดสีชมพู สูตร Extra Bright Make Up Clear ช่วยให้ผิวหน้าขาว กระจ่างใส
ผู้ท้าชิงที่ 2 : GARNIER Micellar Cleansing Water สูตรที่โรสเลือกใช้วันนี้เป็นขวดสีฟ้า สูตร For Oily , Acne-Prone Skin ช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีความมันบนใบหน้า เป็นสิวง่าย
ผู้ท้าชิงที่ 3 : Freyja Peau Face Cleasing Micellar Water เป็นน้องใหม่ในสังเวียนคลีนซิ่ง ที่โรสเลือกใช้ตัวนี้ด้วยเพราะเขามาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าและช่วยบำรุงไปในคราวเดียวกัน ตัวนี้ผลออกมาจากเป็นยังไงต้องรอดูในการทดสอบค่า
คราวนี้ เมื่อรู้จักกับทั้ง 3 ยี่ห้อ
'คลีนซิ่ง' กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะมาทำการประชันให้เห็นกันไปเลย !! ว่ายี่ห้อไหนเริ่ด ยี่ห้อไหนเฟล แต่ก่อนอื่น ก่อนที่จะลบหน้า ก็ต้องแต่งหน้าก่อน แต่โรสจะไม่ทำการทดสอบบนหน้าของโรสหรอกค่ะ
เพราะโรสสวยมาก โรสจะทำการทดสอบไปแขน 3 แขนที่ผิวตัวอย่าง โดยทำการละเลงเครื่องสำอางลงไปคล้ายกับการแต่งหน้า เริ่มต้นจากการลง รองพื้น แป้ง อายแชโดว์ตาและคิ้ว มาสคร่า ปิดท้ายด้วยลิปสติกแบบกันน้ำค่ะ โอโห้ ! หินไปอีกกก ...
ต่อมา เมื่อหน้าตาที่เราลงบนแขนทดสอบพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาที่จะนำเอาคลีนซิ่งทั้งสามตัวม ทีละตัว มาเทลงบนสำลีสะอาด แล้วค่อยๆ เช็ดเอาเครื่องสำอางออกทีละแขน แขนละ 1 ยี่ห้อ โดยมีกฎอยู่ว่า สำลี 1 แผ่นจะเช็ดวน 4 ครั้ง จากนั้นก็ใช้สำลีที่มีคลีนซิ่งเช็ดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนไม่หลงเหลือคราบของเครื่องสำอาง คลีนซิ่งยี่ห้อไหนใช้สำลีน้อยที่สุด สะอาดที่สุด ยี่ห้อนั้นก็ชนะไปเลยค่ะ !
เริ่มการทดสอบ
ทดสอบคลีนซิ่งตัวที่ 1 : NIVEA Make Up Cleansing Water
ต้องบอกก่อนเลยว่าตัวนี้นั้น Water สมชื่อ เนื่องจากผิวสัมผัสของคลีนซิ่งไม่มีความลื่นอะไรทั้งสิ้น เหมือนเอาน้ำเปล่ามาเช็ดล้างเครื่องสำอางน่ะคุณขา พอเช็ดไปได้สักสามแผ่น โรสก็สอบถามเจ้าของแขนว่ามีความรู้สึกอย่างไรบ้าง ซึ่งเขาก็บอกว่ารู้สึกแสบเล็กน้อย หากมองด้วยตาเปล่าก็จะเห็นผิวหนังที่มีความแดง พอสำลีแผ่นที่ 5 ผ่านไป เจ้าของแขนทดสอบถึงร้อง 'โอ๊ย!!' โรสก็มีความสงสารอยู่ไม่น้อย แต่ก็ทดสอบให้เสร็จ ในที่สุด การทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งตัวแรกใช้สำลีไปถึง 7 แผ่น ผิวถึงจะสะอาดหมดจด ไม่หลงเหลือคราบเครื่องสำอาง
ทดสอบคลีนซิ่งตัวที่ 2 : GARNIER Micellar Cleansing Water
คลีนซิ่งตัวนี้มีความเป็นน้ำแร่ แต่ก็ยังใช้แขนทดสอบของคนเดิมที่เปลี่ยนข้างเอาเท่านั้น ซึ่งพอถามถึงความรู้สึก เขาได้บอกกับโรสว่าพอผ่านสำลีไป 2 แผ่น ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากตัวแรก เพราะตัวคลีนตัวนี้ซิ่งมีความลื่น ใช้ทำความสะอาดแล้วไม่แสบผิว มีความหนืดขณะที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกโอเคกว่าตัวแรก ใช้สำลีไปทั้งหมด 4 แผ่น แขนถึงสะอาดหมดจด ไม่หลงเหลือคราบเครื่องสำอางให้เห็น ตัวที่ 2 นี้ก็ถือว่า 'เก๋' เพราะใช้ลำสีน้อยกว่าตัวแรกตั้งครึ่งหนึ่ง
ทดสอบคลีนซิ่งตัวที่ 3 : Freyja Peau Face Cleasing Micellar Water
ต้องบอกเลยค่ะคุ๊ณณณณ ว่า คลีนซิ่งตัวนี้มีกลิ่นหอมน่าใช้มาก ! ขนาดว่ายังไม่ได้ใช้จริง คอนเฟิร์มด้วยตัวของโรสเอง และเจ้าของแขนทดสอบที่ 3 เลยค่ะ ถึงแม้ว่าคลีนซิ่ง
Freyja Peau นี้จะเป็นน้องใหม่ในวงการ แต่ก็มีดีไม่แพ้ 2 ตัวแรกเลย เพราะตัวคลีนซิ่งมาพร้อมกับเทคโลโนยีที่จะช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด พร้อมกับดูแลและฟื้นบำรุงผิวของเราไปในตัว ตัวคลีนซิ่งนั้นเป็น
'Micellar Water' หรือภาษาไทยก็คือ
'น้ำแร่' ที่มีประจุขนาดจิ๋ว
S-100 เมื่อใช้แล้ว ประจุเหล่านั้นก็จะเข้าไปผลักเอาเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตามรูขุมขนออกได้อย่างหมดจด ที่สำคัญ ยังมีส่วนประกอบของ
'สาหร่ายแดง' หรือ
'สาหร่ายหิมะ' ที่จะเข้าไปช่วยยับยังเอนไซม์ที่จะทำลายคอลลาเจนบนผิว อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟู ป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ พอเริ่มใช้จริงแล้ว ตัวคลีนซิ่งนั้นนุ่มลื่นไปกับผิว ดูเริ่ดมาก ใช้แล้วผิวไม่รู้สึกแสบ ผ่านก็ใช้สำลีไปเพียง 2 แผ่นก็สะอาดเกือบหมด แต่เอาให้ชัวร์ด้วยแผ่นที่ 3 สรุปว่า คลีนซิ่งตัวนี้ใช้สำลีไปแค่เพียง 3 แผ่น มันดีย์มาก มันหอมด้วย ! ปรบมือรัวรัว !!!!!!!
สรุปผลการประชันคลีนซิ่งในครั้งนี้
-
NIVEA Make Up Cleansing Water ใช้สำลีไป 7 แผ่น
-
GARNIER Micellar Cleansing Water ใช้สำลีไป 4 แผ่น
-
Freyja Peau Face Cleasing Micellar Water ใช้สำลีไป 3 แผ่น
------
ผู้ชนะของเรา ก็คือ ...
Freyja Peau Face Cleasing Micellar Water
กรี๊สสสสสสสสสสส !!!
------
จริงๆ ต้องบอกเลยนะคะว่า โดยส่วนตัวของโรสแล้วก็ใช้คลีนซิ่งของ
Freyja Peau อยู่เหมือนกันค่ะ กว่าจะมาเจอตัวนี้ก็ลองผิดลองถูกอยู่พอสมควร กว่าจะได้สิ่งที่ดีและก็เหมาะกับผิวของเราจริงๆ แต่ตอนนี้ ความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของการทำความสะอาดผิวหลังการแต่งหน้า สาเหตุการเกิดสิวที่เกิดจากการแต่งหน้าของโรสแทบจะไม่มีเลยค่ะ เพราะอะไรรู้ไหมคะโรสจะย้ำให้อ่านกันอีกสักรอบ เพราะตั้งแต่มาใช้ตัว
Freyja Peau ก็เป็นคลีนซิ่งอีกหนึ่งที่อยากแนะนำให้ใช้ ทำความสะอาดได้หมดจด มีกลิ่นหอม อีกทั้งผิวสัมผัสน้ำแร่ก็ยังเนียน ลื่น จึงมั่นใจได้ว่าจะเป็นอันตรายต่อผิวของเราแน่ๆ อีกทั้งในตัวคลีนซิ่งก็ยังเป็น
น้ำแร่ประจุ S-100 ที่จะเข้าไปผลักเอาเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตามรูขุมขนออกได้อย่างหมดจด และยังมีส่วนประกอบของ
'สาหร่ายแดง' หรือ
'สาหร่ายหิมะ' ที่จะเข้าไปช่วยยับยังเอนไซม์ที่จะทำลายคอลลาเจนบนผิว ช่วยฟื้นฟูและป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดูสวยเหมือนโรสยังไงละคะ
Freyja Peau หาซื้อได้ที่ไหน ?
เอาจริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะกะเกณฑ์หรอกนะคะว่าจะต้องใช้คลีนซิ่งของ Freyja Peau เพียงอย่างเดียวถึงจะดี แต่ถ้าจะเอาคำตอบว่าคลีนซิ่งยี่ห้อไหนดีที่สุด ก็ขอตอบเลยว่า ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจและความเข้ากันได้ของสภาพผิวแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็สามารถทำความสะอาดได้เช่นเดียวกัน จะชอบ แล้วซื้อ หรือไม่ชอบ แล้วไม่ซื้อ อันนี้ก็ต้องตัดสินใจกันดูค่ะ ส่วนคลีนซิ่ง Freyja Peau หากว่าใครสนใจอยากจะไปลองหามาใช้เหมือนโรสบ้าง ก็ไปได้เลยที่
Evenboy ทุกสาขาค่ะ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ เป็นคลีนซิ่งอีกหนึ่งตัวที่โรสใช้และชอบ เพราะคิดว่าเริ่ดที่สุด คุ้มค่าที่สุดค่า
ปิดท้ายกับศึกการประชันคลีนซิ่งไว้เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการค่ะ
บรัยยยยยยยยส์ ม๊วฟฟฟฟฟฟฟ
[SR] ศึกประชัน 3 คลีนซิ่งยี่ห้อดัง ขวดไหนจะเริ่ด ขวดไหนจะพัก ต้องดู !!
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่รีวิวแรกจาก สวยประหลาด วันนี้อยู่กับ 'โรส' นะคะ โดยปกติแล้วโรสเนี่ยเป็นคนที่แต่งหน้าฉ่ำและชุ่มเนียนมากๆ (แต่งหน้าหนัก) ซึ่งตอนแต่งก็ไม่ได้มีปัญหามากมาย แต่ตอนล้างเนี่ยสิคะ ปัญหาที่ตามมาเลยก็คือเรื่อง 'สิว' ค่ะคุณขา โอ้โหคุณพระ #เอามือทาบอก ถึงแม้ว่าเราจะมีผู้ช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้าหลังการแต่งหน้า อย่าง 'คลีนซิ่ง' อยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหาน่าปวดหัว จนบางครั้งพอเป็นอีกแล้วโรสก็ลมแทบจับเลยล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าสิวพวกนั้นมาได้ยังไง ทั้งที่หลังแต่งหน้าเราก็ทำความสะอาดจนแน่ใจว่าหน้าเราหลงไม่เหลือเศษเครื่องสำอางแล้วจริงๆ
คราวนี้ก็มีบรรดาแฟนๆ ของสวยประหลาดยิงคำถามเข้ามาได้ตรงและแรงมากจริงๆ ว่าสรุปแล้ว "คลีนซิ่งยี่ห้อไหนดี และคลีนยี่ห้อไหนที่แย่ ?" ถึงแม้ว่าจะตอบได้ยาก แต่ก็นับว่าเป็นคำถามที่น่าจะให้ประโยชน์กับบรรดาสาวกที่ใช้คลีนซิ่งเป็นประจำ หรือแม้แต่มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนรู้เลือกสิ่งดีๆ ให้กับใบหน้าของตัวเอง อิฉัน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความงามอันดับหนึ่งของโลก (โลกของดิฉัน) จึงขอจัดให้คลีนซิ่งได้ดวลกันไปเลย !! ระหว่างคลีนซิ่ง 3 ยี่ห้องดังที่โรสเลือกมา ตัวไหนจะช่วยให้ใบหน้าของเรากลับมาสดใสไร้เครื่องสำอางได้หมดจดจริงๆ รวมถึงใช้สำลีได้น้อยสุดๆ เรามาเริ่มกันเลยค่ะ
ผู้ท้าชิงที่ 1 : NIVEA Make Up Cleansing Water สูตรที่โรสเลือกใช้วันนี้เป็นขวดสีชมพู สูตร Extra Bright Make Up Clear ช่วยให้ผิวหน้าขาว กระจ่างใส
ผู้ท้าชิงที่ 2 : GARNIER Micellar Cleansing Water สูตรที่โรสเลือกใช้วันนี้เป็นขวดสีฟ้า สูตร For Oily , Acne-Prone Skin ช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีความมันบนใบหน้า เป็นสิวง่าย
ผู้ท้าชิงที่ 3 : Freyja Peau Face Cleasing Micellar Water เป็นน้องใหม่ในสังเวียนคลีนซิ่ง ที่โรสเลือกใช้ตัวนี้ด้วยเพราะเขามาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าและช่วยบำรุงไปในคราวเดียวกัน ตัวนี้ผลออกมาจากเป็นยังไงต้องรอดูในการทดสอบค่า
คราวนี้ เมื่อรู้จักกับทั้ง 3 ยี่ห้อ 'คลีนซิ่ง' กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะมาทำการประชันให้เห็นกันไปเลย !! ว่ายี่ห้อไหนเริ่ด ยี่ห้อไหนเฟล แต่ก่อนอื่น ก่อนที่จะลบหน้า ก็ต้องแต่งหน้าก่อน แต่โรสจะไม่ทำการทดสอบบนหน้าของโรสหรอกค่ะ เพราะโรสสวยมาก โรสจะทำการทดสอบไปแขน 3 แขนที่ผิวตัวอย่าง โดยทำการละเลงเครื่องสำอางลงไปคล้ายกับการแต่งหน้า เริ่มต้นจากการลง รองพื้น แป้ง อายแชโดว์ตาและคิ้ว มาสคร่า ปิดท้ายด้วยลิปสติกแบบกันน้ำค่ะ โอโห้ ! หินไปอีกกก ...
ต่อมา เมื่อหน้าตาที่เราลงบนแขนทดสอบพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาที่จะนำเอาคลีนซิ่งทั้งสามตัวม ทีละตัว มาเทลงบนสำลีสะอาด แล้วค่อยๆ เช็ดเอาเครื่องสำอางออกทีละแขน แขนละ 1 ยี่ห้อ โดยมีกฎอยู่ว่า สำลี 1 แผ่นจะเช็ดวน 4 ครั้ง จากนั้นก็ใช้สำลีที่มีคลีนซิ่งเช็ดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนไม่หลงเหลือคราบของเครื่องสำอาง คลีนซิ่งยี่ห้อไหนใช้สำลีน้อยที่สุด สะอาดที่สุด ยี่ห้อนั้นก็ชนะไปเลยค่ะ !
เริ่มการทดสอบ
ทดสอบคลีนซิ่งตัวที่ 1 : NIVEA Make Up Cleansing Water
ต้องบอกก่อนเลยว่าตัวนี้นั้น Water สมชื่อ เนื่องจากผิวสัมผัสของคลีนซิ่งไม่มีความลื่นอะไรทั้งสิ้น เหมือนเอาน้ำเปล่ามาเช็ดล้างเครื่องสำอางน่ะคุณขา พอเช็ดไปได้สักสามแผ่น โรสก็สอบถามเจ้าของแขนว่ามีความรู้สึกอย่างไรบ้าง ซึ่งเขาก็บอกว่ารู้สึกแสบเล็กน้อย หากมองด้วยตาเปล่าก็จะเห็นผิวหนังที่มีความแดง พอสำลีแผ่นที่ 5 ผ่านไป เจ้าของแขนทดสอบถึงร้อง 'โอ๊ย!!' โรสก็มีความสงสารอยู่ไม่น้อย แต่ก็ทดสอบให้เสร็จ ในที่สุด การทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งตัวแรกใช้สำลีไปถึง 7 แผ่น ผิวถึงจะสะอาดหมดจด ไม่หลงเหลือคราบเครื่องสำอาง
ทดสอบคลีนซิ่งตัวที่ 2 : GARNIER Micellar Cleansing Water
คลีนซิ่งตัวนี้มีความเป็นน้ำแร่ แต่ก็ยังใช้แขนทดสอบของคนเดิมที่เปลี่ยนข้างเอาเท่านั้น ซึ่งพอถามถึงความรู้สึก เขาได้บอกกับโรสว่าพอผ่านสำลีไป 2 แผ่น ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากตัวแรก เพราะตัวคลีนตัวนี้ซิ่งมีความลื่น ใช้ทำความสะอาดแล้วไม่แสบผิว มีความหนืดขณะที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกโอเคกว่าตัวแรก ใช้สำลีไปทั้งหมด 4 แผ่น แขนถึงสะอาดหมดจด ไม่หลงเหลือคราบเครื่องสำอางให้เห็น ตัวที่ 2 นี้ก็ถือว่า 'เก๋' เพราะใช้ลำสีน้อยกว่าตัวแรกตั้งครึ่งหนึ่ง
ทดสอบคลีนซิ่งตัวที่ 3 : Freyja Peau Face Cleasing Micellar Water
ต้องบอกเลยค่ะคุ๊ณณณณ ว่า คลีนซิ่งตัวนี้มีกลิ่นหอมน่าใช้มาก ! ขนาดว่ายังไม่ได้ใช้จริง คอนเฟิร์มด้วยตัวของโรสเอง และเจ้าของแขนทดสอบที่ 3 เลยค่ะ ถึงแม้ว่าคลีนซิ่ง Freyja Peau นี้จะเป็นน้องใหม่ในวงการ แต่ก็มีดีไม่แพ้ 2 ตัวแรกเลย เพราะตัวคลีนซิ่งมาพร้อมกับเทคโลโนยีที่จะช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด พร้อมกับดูแลและฟื้นบำรุงผิวของเราไปในตัว ตัวคลีนซิ่งนั้นเป็น 'Micellar Water' หรือภาษาไทยก็คือ 'น้ำแร่' ที่มีประจุขนาดจิ๋ว S-100 เมื่อใช้แล้ว ประจุเหล่านั้นก็จะเข้าไปผลักเอาเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตามรูขุมขนออกได้อย่างหมดจด ที่สำคัญ ยังมีส่วนประกอบของ 'สาหร่ายแดง' หรือ 'สาหร่ายหิมะ' ที่จะเข้าไปช่วยยับยังเอนไซม์ที่จะทำลายคอลลาเจนบนผิว อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟู ป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ พอเริ่มใช้จริงแล้ว ตัวคลีนซิ่งนั้นนุ่มลื่นไปกับผิว ดูเริ่ดมาก ใช้แล้วผิวไม่รู้สึกแสบ ผ่านก็ใช้สำลีไปเพียง 2 แผ่นก็สะอาดเกือบหมด แต่เอาให้ชัวร์ด้วยแผ่นที่ 3 สรุปว่า คลีนซิ่งตัวนี้ใช้สำลีไปแค่เพียง 3 แผ่น มันดีย์มาก มันหอมด้วย ! ปรบมือรัวรัว !!!!!!!
สรุปผลการประชันคลีนซิ่งในครั้งนี้
- NIVEA Make Up Cleansing Water ใช้สำลีไป 7 แผ่น
- GARNIER Micellar Cleansing Water ใช้สำลีไป 4 แผ่น
- Freyja Peau Face Cleasing Micellar Water ใช้สำลีไป 3 แผ่น
------
ผู้ชนะของเรา ก็คือ ...
Freyja Peau Face Cleasing Micellar Water
กรี๊สสสสสสสสสสส !!!
------
จริงๆ ต้องบอกเลยนะคะว่า โดยส่วนตัวของโรสแล้วก็ใช้คลีนซิ่งของ Freyja Peau อยู่เหมือนกันค่ะ กว่าจะมาเจอตัวนี้ก็ลองผิดลองถูกอยู่พอสมควร กว่าจะได้สิ่งที่ดีและก็เหมาะกับผิวของเราจริงๆ แต่ตอนนี้ ความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของการทำความสะอาดผิวหลังการแต่งหน้า สาเหตุการเกิดสิวที่เกิดจากการแต่งหน้าของโรสแทบจะไม่มีเลยค่ะ เพราะอะไรรู้ไหมคะโรสจะย้ำให้อ่านกันอีกสักรอบ เพราะตั้งแต่มาใช้ตัว Freyja Peau ก็เป็นคลีนซิ่งอีกหนึ่งที่อยากแนะนำให้ใช้ ทำความสะอาดได้หมดจด มีกลิ่นหอม อีกทั้งผิวสัมผัสน้ำแร่ก็ยังเนียน ลื่น จึงมั่นใจได้ว่าจะเป็นอันตรายต่อผิวของเราแน่ๆ อีกทั้งในตัวคลีนซิ่งก็ยังเป็นน้ำแร่ประจุ S-100 ที่จะเข้าไปผลักเอาเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตามรูขุมขนออกได้อย่างหมดจด และยังมีส่วนประกอบของ 'สาหร่ายแดง' หรือ 'สาหร่ายหิมะ' ที่จะเข้าไปช่วยยับยังเอนไซม์ที่จะทำลายคอลลาเจนบนผิว ช่วยฟื้นฟูและป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดูสวยเหมือนโรสยังไงละคะ
Freyja Peau หาซื้อได้ที่ไหน ?
เอาจริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะกะเกณฑ์หรอกนะคะว่าจะต้องใช้คลีนซิ่งของ Freyja Peau เพียงอย่างเดียวถึงจะดี แต่ถ้าจะเอาคำตอบว่าคลีนซิ่งยี่ห้อไหนดีที่สุด ก็ขอตอบเลยว่า ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจและความเข้ากันได้ของสภาพผิวแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็สามารถทำความสะอาดได้เช่นเดียวกัน จะชอบ แล้วซื้อ หรือไม่ชอบ แล้วไม่ซื้อ อันนี้ก็ต้องตัดสินใจกันดูค่ะ ส่วนคลีนซิ่ง Freyja Peau หากว่าใครสนใจอยากจะไปลองหามาใช้เหมือนโรสบ้าง ก็ไปได้เลยที่ Evenboy ทุกสาขาค่ะ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ เป็นคลีนซิ่งอีกหนึ่งตัวที่โรสใช้และชอบ เพราะคิดว่าเริ่ดที่สุด คุ้มค่าที่สุดค่า
ปิดท้ายกับศึกการประชันคลีนซิ่งไว้เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการค่ะ บรัยยยยยยยยส์ ม๊วฟฟฟฟฟฟฟ