= = = = = เอาภาพมาคุย แนะนำ ติชม หรืออื่น ๆ = = = = =
ช่วงหลัง ๆ มานี่ขึ้นเหนือไปถ่ายรูปทีไร (ไม่ได้มีงานรับจ้างอะไรหรอก ไปถ่ายเอง ถ่ายไปด้วย ฝึกไปด้วย แล้วก็เอามาขาย stock ด้วย แต่ไม่ค่อยได้ส่งขายใน stock หรอก ออกแนวขี้เกียจส่ง แต่ชอบไปถ่าย 555) ผมจะต้องแวะอยุธยาไปวัดไชยวัฒนารามช่วงเช้ามืดเป็นประจำ ปกติก็ไปด้วยมอเตอร์ไซค์ตลอด แต่ทริปช่วงปลายตุลาคมนี้กะว่าจะไปรถยนต์ดีไหม กำลังดูอยู่
แต่ทริปล่าสุดขึ้นเหนือ (23 กันยายน 2560) รอบนี้ท้องฟ้าไม่เป็นใจ เมฆแน่นฟ้าไปหมดสำหรับวัดไชยวัฒนาราม ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า แถวนั้นมีวัดอีกหลายวัดที่เคยเห็นรูปจากหลาย ๆ คนไปถ่ายมาแล้วสวยมาก อยากมีภาพแบบนั้นซักครั้ง ก็ตัดสินใจไม่รอเมฆจากวัดไชยวัฒนาราม (จริง ๆ ดูก็รู้ว่ามันไม่หายไปไหนแน่สำหรับเมฆ เพราะแอปพยากรณ์อากาศก็บอกว่าจะมีเมฆยาว ๆ ไปเลย) มุ่งตรงไปวัดพนัญเชิงวรวิหารทันทีตั้งแต่ยังไม่ 7 โมงเช้า (พิกัด GPS :
https://goo.gl/maps/6Twqpm8A9dz)
เอาเจ้า Honda CRF 250L ที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่ถึงสัปดาห์ หรือสองสัปดาห์เนี้ยแหละ ไปจอดที่ลานจอดรถใกล้ร้านค้าข้าง ๆ รั้ววัด เผื่อว่าจะได้ถามแม่ค้าเรื่องข้อมูลพิธีห่มจีวรหลวงพ่อโต เพราะเคยอ่านมาว่าจะมีพิธีเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้น แต่แม่ค้าต่าง ๆ ดูกำลังวุ่นวายกับการตั้งร้านรอรับลูกค้าที่ใกล้จะมาถึงกัน ผมจึงไม่ได้ถามแม่ค้า แต่มีโอกาสได้คุยกับป้าที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นจนได้ข้อมูลว่า พิธีถวายห่มจีวรหลวงพ่อโตมีทำวันตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปจนถึงช่วง 17.30 น.เห็นจะได้ ผมก็ดีใจ ทีหลังมาวันธรรมดาคนน่าจะน้อยลงอีก มีโอกาสหามุมไม่ขวางทางผู้คนมากนัก
ว่าแล้วก็เดินสำรวจรอบวัด แต่ไม่ได้สนใจนัก เพราะใจอยู่ที่ด้านในที่ยังไม่เปิดให้เข้า ผมได้เดินด้านในแต่ไม่ใช่ภายในโบสถ์ เป็นรอบ ๆ โบสถ์ด้านใน เห็นตัวองค์หลวงพ่อโตครั้งแรก รู้สึกประทับใจ คือปกติไม่ค่อยได้เข้าวัด และถ้าได้เข้าก็มักจะเป็นวัดเล็ก ๆ พอเจอวัดหลัก ๆ มีองค์พระสวย ๆ ใหญ่ ๆ ก็รู้สึกดี รู้สึกว่าสวยมาก
พอได้เวลาผมก็เดินถ่ายรูปอยู่ภายในแบบหาที่หลบ ๆ หน่อย คนแทบจะยังไม่มีเพราะประตูเพิ่งเปิด ยังไม่ 8 โมงเช้าดีเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายถ่ายจนไปนั่งอยู่ด้านหน้าองค์พระติดผนังโบสถ์ ได้มุมที่คิดว่าดีแล้วก็รออยู่อย่างนั้นจนพิธีเริ่ม
มีพระภิกษุมานั่งตรงที่ผมอยู่ (ผมไปซุกติดกับที่นั่งของท่านโดยไม่รู้ว่าเป็นที่นั่งของพระ) ผมก็เลยจะลุกออก เพราะคิดว่าไม่สมควร พระท่านบอกว่า ไม่ต้องหรอก ถ่ายไปเถอะ ก็ดีใจ ไม่ต้องย้ายที่แล้ว 555
ถ่ายมาชุดเดียว ดูแอปพยากรณ์อากาศไปพลาง ตัดสินใจเปลี่ยนกำหนดการที่กะจะไปค้างระหว่างทางก่อนไปเชียงใหม่ ก็เปลี่ยนมาเป็นวิ่งตรงไปเชียงใหม่ยาวเลย เพราะฉะนั้นต้องรีบ ไม่อย่างนั้นจะถึงดึกเกินไป (เจ้ามอเตอร์ไซค์ผมบรรทุกของหนัก ปี๊บใหญ่ ลมปะทะที่ความเร็ว 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วรถส่าย เลยต้องรีบไปถ้าคิดจะไปเชียงใหม่เลย)
ก็เลยมาเป็นภาพชุดนี้ ซึ่งมารู้หลังจากกลับจากเชียงใหม่ (และจากทริปพาน้องสาวเที่ยวเพชรบูรณ์) ว่า ทางวัดเขาเปลี่ยนรูปแบบการทำพิธีถวายจีวรหลวงพ่อโตแล้ว ในใจก็รู้สึกเสียดายนิด ๆ คือมุมภาพแบบนั้น อารมณ์แบบนั้น มันก็สวยนะ แต่ก็เข้าใจว่าดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่มีเจ้าหน้าที่ไปเดินบนพระพุทธรูป (ถ้าใครเคยไปดูพิธีนี้ จะรู้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ 3 - 5 คนเดินอยู่ตรงตักองค์หลวงพ่อโตเพื่อรับจีวรจากคนที่มาถวายด้านล่างเพื่อเอาไปคล้องตรงบ่าท่าน)
ใครมีความเห็น คำแนะนำอะไรก็บอกได้นะครับ หรือจะไปชมภาพอื่น ๆ ในเพจผมต่อก็ยินดีครับ เพจ "บันทึกการเดินทางของข้าพเจ้า"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/omeoyou/
ภาพทั้งหมดมาจากกล้อง Nikon D750 เลนส์ที่ผมใช้จะเป็นชุดของ Tamron 15-30, 24-70 และ 70-200 ตัว SP F2.8 รุ่นแรกทั้งหมดครับ แต่คราวนี้มีพก Sigma 50mm. F1.4 ไปลองถ่ายด้วย (ปกติเป็นคนติดถ่ายเลนส์ซูม ชอบจัดองค์ประกอบโดยไม่ครอปตอนหลัง เลยไม่ค่อยชอบใช้พวก fix แต่ก็อยากลองว่าถ้าใช้ fix จริง ๆ จัง ๆ มันจะเป็นไงเรื่องคุณภาพของภาพ)
เลนส์ Tamron SP 15-30 F2.8
ISO250 @15mm. f7.1 0.4sec.
ภาพนี้เกิดจากภาพประมาณ 3 - 4 ภาพ (เพิ่งทำภาพเสร็จ แต่ก็ไม่ได้จำหรอกว่ากี่ภาพ เพราะช๊อตแบบนี้ก็ถ่ายมาเผื่อไว้ 7 - 8 ภาพเอามาประกอบ) แต่ภาพที่เอามาประกอบจะไปเน้นเรื่อง speed เพื่อให้จังหวะการขยับของผู้คนที่มาถวายจีวรนั้นตรงใจมากที่สุด ซึ่งด้านซ้ายของภาพตรงใจบ้าง ขวาไม่ตรงใจบ้าง ก็เอามาประกอบ ๆ กัน
คร่าว ๆ ก็ปรับคมใน Lightroom ทั้งหมดก่อน แล้วส่งไป Photoshop แบบหลายเลเยอร์ในไฟล์เดียว จากนั้นก็เอาส่วนนั้น ส่วนนี้ของแต่ละภาพมา ปรับแสงด้วย curve แล้วก็บันทึก แล้วมา export ใน Lightroom (ผมชอบทำแบบนี้ ไม่ได้ใช้ Photoshop จัดการเรื่องพวกนี้ จะใช้มันประกอบภาพ หรือตกแต่งเท่าที่จำเป็น
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @38mm. f2.8 1/3sec.
ภาพนี่ถ่ายมาภาพเดียวเลย แต่ก็ยังนึกเสียดายตอนมาทำภาพ เพราะมันมีส่วนที่หลุดไฮไลท์ไปบ้างตรงบริเวณแก้มขององค์พระ จริง ๆ ภาพนี้มีอีก 3 - 4 ใบในระยะต่างออกไป แต่ถ่ายมาแบบใบเดียวหมด แต่เลือกใบนี้มาให้ดูแทน ภาพนี้ถ่ายช่วง 7.30 น. โบสถ์ด้านในยังไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้า
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @24mm. f7.1 1/6sec.
ถ่ายมา 3 - 4 ใบในค่าแสงที่ต่างกัน แล้วเอามารวมประมาณ 2 - 3 ใบเพื่อให้ส่วนที่หลุดไฮไลท์มาก ๆ มีเนื้อภาพกลับมา แต่งภาพเน้นไปทาง clearity และจัดการความคมให้เสร็จ จากนั้นส่งไป Photoshop เพื่อประกอบส่วนที่ภาพไม่หลุดไฮไลท์ของภาพหนึ่งมารวมกับภาพฐานที่เป็นภาพหลัก
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @24mm. f7.1 1/5sec.
องค์ประกอบภาพนี้ตอนแรกก็มอง รู้สึกว่าน่าสนใจ ก็ตั้งกล้องถ่ายเลย แต่ก็รู้สึกรำคาญแสงจากโคมไฟที่หลุดไฮไลท์ คือตอนถ่ายไม่มั่นใจว่าจะเอามาทำได้ดีไหม แม้ว่าจะถ่ายเผื่อค่าแสงไว้แล้วเหมือนภาพก่อน
แต่ภาพชุดนี้ทั้งชุดตอนเอามารวมค่าแสง (ไม่ใช่ HDR นะ แต่เลือกส่วนที่หลุดไฮไลท์มาจากภาพที่ไม่หลุดแทน) กลับพบว่า การทำภาพชุดนี้ไม่ยากเหมือนภาพอื่น ๆ ที่เคยทำแฮะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @24mm. f11 3sec.
เป็นมุมที่ชอบนะ จริง ๆ ภาพนี้จะใช้ใบเดียวก็ได้ แต่ก็ถ่ายเผื่อมาแล้ว และไม่อยากดึง shadow มาก เลยทำเหมือนภาพด้านบน เอาส่วนที่หลุดไฮไลท์มาจากอีกภาพมาใช้แทน แล้วเน้นไปที่คอนทราสต์จัด ๆ หน่อย ภาพนี้อยากได้แบบนั้น
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @24mm. f2.8 0.5sec.
เป็นภาพที่รู้สึกว่ามันอึดอัดไปนิด ตอนถ่ายภาพนี้ครั้งแรกหยิบเลนส์ 15-30 mm. มา แต่รู้สึกว่ามันกว้างไป เอา 24 เนี้ยแหละ น่าจะกำลังดี แต่ตอนนี้รู้สึกแคบไปนิดนึง แต่ก็ยัง ok นะ ถ้าถามว่าอยากทำอะไรเพิ่ม ก็อยากทำให้พระพุทธรูปองค์ดำ ๆ ด้านล่างเด่นขึ้นมาให้ชัดเจนขึ้น น่าจะดูมีอะไรมากขึ้น
ภาพนี้ไปเน้นที่ความสด และคอนทราสต์จัดที่ใบหน้าขององค์หลวงพ่อโต ส่วนอื่นคอนทราสต์ไม่จัดเลยเมื่อเทียบกับภาพอื่น
ภาพชุดนี้มีถ่ายมาไม่เยอะ แล้วก็รีบไปต่อเชียงใหม่ ในใจรู้สึกดีใจว่าเขามีพิธีห่มจีวรหลวงพ่อโตทุกวัน ไว้วันหลังมาถ่ายเพิ่มได้ แต่ตอนนี้ทางวัดเลิกวิธีการห่มจีวรแบบนี้ไปแล้วละ
ภาพถ่ายครั้งแรกพิธีถวายห่มจีวรหลวงพ่อโต ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร
ช่วงหลัง ๆ มานี่ขึ้นเหนือไปถ่ายรูปทีไร (ไม่ได้มีงานรับจ้างอะไรหรอก ไปถ่ายเอง ถ่ายไปด้วย ฝึกไปด้วย แล้วก็เอามาขาย stock ด้วย แต่ไม่ค่อยได้ส่งขายใน stock หรอก ออกแนวขี้เกียจส่ง แต่ชอบไปถ่าย 555) ผมจะต้องแวะอยุธยาไปวัดไชยวัฒนารามช่วงเช้ามืดเป็นประจำ ปกติก็ไปด้วยมอเตอร์ไซค์ตลอด แต่ทริปช่วงปลายตุลาคมนี้กะว่าจะไปรถยนต์ดีไหม กำลังดูอยู่
แต่ทริปล่าสุดขึ้นเหนือ (23 กันยายน 2560) รอบนี้ท้องฟ้าไม่เป็นใจ เมฆแน่นฟ้าไปหมดสำหรับวัดไชยวัฒนาราม ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า แถวนั้นมีวัดอีกหลายวัดที่เคยเห็นรูปจากหลาย ๆ คนไปถ่ายมาแล้วสวยมาก อยากมีภาพแบบนั้นซักครั้ง ก็ตัดสินใจไม่รอเมฆจากวัดไชยวัฒนาราม (จริง ๆ ดูก็รู้ว่ามันไม่หายไปไหนแน่สำหรับเมฆ เพราะแอปพยากรณ์อากาศก็บอกว่าจะมีเมฆยาว ๆ ไปเลย) มุ่งตรงไปวัดพนัญเชิงวรวิหารทันทีตั้งแต่ยังไม่ 7 โมงเช้า (พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/6Twqpm8A9dz)
เอาเจ้า Honda CRF 250L ที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่ถึงสัปดาห์ หรือสองสัปดาห์เนี้ยแหละ ไปจอดที่ลานจอดรถใกล้ร้านค้าข้าง ๆ รั้ววัด เผื่อว่าจะได้ถามแม่ค้าเรื่องข้อมูลพิธีห่มจีวรหลวงพ่อโต เพราะเคยอ่านมาว่าจะมีพิธีเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้น แต่แม่ค้าต่าง ๆ ดูกำลังวุ่นวายกับการตั้งร้านรอรับลูกค้าที่ใกล้จะมาถึงกัน ผมจึงไม่ได้ถามแม่ค้า แต่มีโอกาสได้คุยกับป้าที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นจนได้ข้อมูลว่า พิธีถวายห่มจีวรหลวงพ่อโตมีทำวันตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปจนถึงช่วง 17.30 น.เห็นจะได้ ผมก็ดีใจ ทีหลังมาวันธรรมดาคนน่าจะน้อยลงอีก มีโอกาสหามุมไม่ขวางทางผู้คนมากนัก
ว่าแล้วก็เดินสำรวจรอบวัด แต่ไม่ได้สนใจนัก เพราะใจอยู่ที่ด้านในที่ยังไม่เปิดให้เข้า ผมได้เดินด้านในแต่ไม่ใช่ภายในโบสถ์ เป็นรอบ ๆ โบสถ์ด้านใน เห็นตัวองค์หลวงพ่อโตครั้งแรก รู้สึกประทับใจ คือปกติไม่ค่อยได้เข้าวัด และถ้าได้เข้าก็มักจะเป็นวัดเล็ก ๆ พอเจอวัดหลัก ๆ มีองค์พระสวย ๆ ใหญ่ ๆ ก็รู้สึกดี รู้สึกว่าสวยมาก
พอได้เวลาผมก็เดินถ่ายรูปอยู่ภายในแบบหาที่หลบ ๆ หน่อย คนแทบจะยังไม่มีเพราะประตูเพิ่งเปิด ยังไม่ 8 โมงเช้าดีเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายถ่ายจนไปนั่งอยู่ด้านหน้าองค์พระติดผนังโบสถ์ ได้มุมที่คิดว่าดีแล้วก็รออยู่อย่างนั้นจนพิธีเริ่ม
มีพระภิกษุมานั่งตรงที่ผมอยู่ (ผมไปซุกติดกับที่นั่งของท่านโดยไม่รู้ว่าเป็นที่นั่งของพระ) ผมก็เลยจะลุกออก เพราะคิดว่าไม่สมควร พระท่านบอกว่า ไม่ต้องหรอก ถ่ายไปเถอะ ก็ดีใจ ไม่ต้องย้ายที่แล้ว 555
ถ่ายมาชุดเดียว ดูแอปพยากรณ์อากาศไปพลาง ตัดสินใจเปลี่ยนกำหนดการที่กะจะไปค้างระหว่างทางก่อนไปเชียงใหม่ ก็เปลี่ยนมาเป็นวิ่งตรงไปเชียงใหม่ยาวเลย เพราะฉะนั้นต้องรีบ ไม่อย่างนั้นจะถึงดึกเกินไป (เจ้ามอเตอร์ไซค์ผมบรรทุกของหนัก ปี๊บใหญ่ ลมปะทะที่ความเร็ว 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วรถส่าย เลยต้องรีบไปถ้าคิดจะไปเชียงใหม่เลย)
ก็เลยมาเป็นภาพชุดนี้ ซึ่งมารู้หลังจากกลับจากเชียงใหม่ (และจากทริปพาน้องสาวเที่ยวเพชรบูรณ์) ว่า ทางวัดเขาเปลี่ยนรูปแบบการทำพิธีถวายจีวรหลวงพ่อโตแล้ว ในใจก็รู้สึกเสียดายนิด ๆ คือมุมภาพแบบนั้น อารมณ์แบบนั้น มันก็สวยนะ แต่ก็เข้าใจว่าดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่มีเจ้าหน้าที่ไปเดินบนพระพุทธรูป (ถ้าใครเคยไปดูพิธีนี้ จะรู้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ 3 - 5 คนเดินอยู่ตรงตักองค์หลวงพ่อโตเพื่อรับจีวรจากคนที่มาถวายด้านล่างเพื่อเอาไปคล้องตรงบ่าท่าน)
ใครมีความเห็น คำแนะนำอะไรก็บอกได้นะครับ หรือจะไปชมภาพอื่น ๆ ในเพจผมต่อก็ยินดีครับ เพจ "บันทึกการเดินทางของข้าพเจ้า"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพทั้งหมดมาจากกล้อง Nikon D750 เลนส์ที่ผมใช้จะเป็นชุดของ Tamron 15-30, 24-70 และ 70-200 ตัว SP F2.8 รุ่นแรกทั้งหมดครับ แต่คราวนี้มีพก Sigma 50mm. F1.4 ไปลองถ่ายด้วย (ปกติเป็นคนติดถ่ายเลนส์ซูม ชอบจัดองค์ประกอบโดยไม่ครอปตอนหลัง เลยไม่ค่อยชอบใช้พวก fix แต่ก็อยากลองว่าถ้าใช้ fix จริง ๆ จัง ๆ มันจะเป็นไงเรื่องคุณภาพของภาพ)
เลนส์ Tamron SP 15-30 F2.8
ISO250 @15mm. f7.1 0.4sec.
ภาพนี้เกิดจากภาพประมาณ 3 - 4 ภาพ (เพิ่งทำภาพเสร็จ แต่ก็ไม่ได้จำหรอกว่ากี่ภาพ เพราะช๊อตแบบนี้ก็ถ่ายมาเผื่อไว้ 7 - 8 ภาพเอามาประกอบ) แต่ภาพที่เอามาประกอบจะไปเน้นเรื่อง speed เพื่อให้จังหวะการขยับของผู้คนที่มาถวายจีวรนั้นตรงใจมากที่สุด ซึ่งด้านซ้ายของภาพตรงใจบ้าง ขวาไม่ตรงใจบ้าง ก็เอามาประกอบ ๆ กัน
คร่าว ๆ ก็ปรับคมใน Lightroom ทั้งหมดก่อน แล้วส่งไป Photoshop แบบหลายเลเยอร์ในไฟล์เดียว จากนั้นก็เอาส่วนนั้น ส่วนนี้ของแต่ละภาพมา ปรับแสงด้วย curve แล้วก็บันทึก แล้วมา export ใน Lightroom (ผมชอบทำแบบนี้ ไม่ได้ใช้ Photoshop จัดการเรื่องพวกนี้ จะใช้มันประกอบภาพ หรือตกแต่งเท่าที่จำเป็น
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @38mm. f2.8 1/3sec.
ภาพนี่ถ่ายมาภาพเดียวเลย แต่ก็ยังนึกเสียดายตอนมาทำภาพ เพราะมันมีส่วนที่หลุดไฮไลท์ไปบ้างตรงบริเวณแก้มขององค์พระ จริง ๆ ภาพนี้มีอีก 3 - 4 ใบในระยะต่างออกไป แต่ถ่ายมาแบบใบเดียวหมด แต่เลือกใบนี้มาให้ดูแทน ภาพนี้ถ่ายช่วง 7.30 น. โบสถ์ด้านในยังไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้า
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @24mm. f7.1 1/6sec.
ถ่ายมา 3 - 4 ใบในค่าแสงที่ต่างกัน แล้วเอามารวมประมาณ 2 - 3 ใบเพื่อให้ส่วนที่หลุดไฮไลท์มาก ๆ มีเนื้อภาพกลับมา แต่งภาพเน้นไปทาง clearity และจัดการความคมให้เสร็จ จากนั้นส่งไป Photoshop เพื่อประกอบส่วนที่ภาพไม่หลุดไฮไลท์ของภาพหนึ่งมารวมกับภาพฐานที่เป็นภาพหลัก
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @24mm. f7.1 1/5sec.
องค์ประกอบภาพนี้ตอนแรกก็มอง รู้สึกว่าน่าสนใจ ก็ตั้งกล้องถ่ายเลย แต่ก็รู้สึกรำคาญแสงจากโคมไฟที่หลุดไฮไลท์ คือตอนถ่ายไม่มั่นใจว่าจะเอามาทำได้ดีไหม แม้ว่าจะถ่ายเผื่อค่าแสงไว้แล้วเหมือนภาพก่อน
แต่ภาพชุดนี้ทั้งชุดตอนเอามารวมค่าแสง (ไม่ใช่ HDR นะ แต่เลือกส่วนที่หลุดไฮไลท์มาจากภาพที่ไม่หลุดแทน) กลับพบว่า การทำภาพชุดนี้ไม่ยากเหมือนภาพอื่น ๆ ที่เคยทำแฮะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @24mm. f11 3sec.
เป็นมุมที่ชอบนะ จริง ๆ ภาพนี้จะใช้ใบเดียวก็ได้ แต่ก็ถ่ายเผื่อมาแล้ว และไม่อยากดึง shadow มาก เลยทำเหมือนภาพด้านบน เอาส่วนที่หลุดไฮไลท์มาจากอีกภาพมาใช้แทน แล้วเน้นไปที่คอนทราสต์จัด ๆ หน่อย ภาพนี้อยากได้แบบนั้น
เลนส์ Tamron SP 24-70 F2.8
ISO100 @24mm. f2.8 0.5sec.
เป็นภาพที่รู้สึกว่ามันอึดอัดไปนิด ตอนถ่ายภาพนี้ครั้งแรกหยิบเลนส์ 15-30 mm. มา แต่รู้สึกว่ามันกว้างไป เอา 24 เนี้ยแหละ น่าจะกำลังดี แต่ตอนนี้รู้สึกแคบไปนิดนึง แต่ก็ยัง ok นะ ถ้าถามว่าอยากทำอะไรเพิ่ม ก็อยากทำให้พระพุทธรูปองค์ดำ ๆ ด้านล่างเด่นขึ้นมาให้ชัดเจนขึ้น น่าจะดูมีอะไรมากขึ้น
ภาพนี้ไปเน้นที่ความสด และคอนทราสต์จัดที่ใบหน้าขององค์หลวงพ่อโต ส่วนอื่นคอนทราสต์ไม่จัดเลยเมื่อเทียบกับภาพอื่น
ภาพชุดนี้มีถ่ายมาไม่เยอะ แล้วก็รีบไปต่อเชียงใหม่ ในใจรู้สึกดีใจว่าเขามีพิธีห่มจีวรหลวงพ่อโตทุกวัน ไว้วันหลังมาถ่ายเพิ่มได้ แต่ตอนนี้ทางวัดเลิกวิธีการห่มจีวรแบบนี้ไปแล้วละ