สวัสดีครับ นานๆกลับมาเยี่ยมทีนึง ก่อนหน้านี้เห็นโพสคนไปเที่ยว OKINAWA เยอะมาก ดูรีวิวเยอะมาก และรู้สึกว่า อยากไปหาฉลามวาฬตัวนั้นมากเลย ฮาๆๆ บังเอิญกับว่าโปรโมชั่นของสายการบิน Peach Air ก็ feed ขึ้นมาบนหน้า facebook พอดี ราคาได้ เวลาได้ งั้น ลุย!

Flight ของ Peach Air เวลาดีมากครับ ถึงญี่ปุ่นช่วงประมาณ 8 โมงหน่อยๆ บริการดี ยิ้มแย้ม เครื่องใหม่ โชคดีว่าไป Check-in เร็วมาก เจ้าหน้าที่จัดให้นั่งโซนที่เป็นทางออกฉุกเฉิน ก็จะกว้างหน่อย ไม่ติดขา นั่งสบายไปเลยขาไป



หลังจากลงเครื่อง เนื่องจากว่าเวลาที่เครื่องลงเช้ามาก ยังเข้าโรงแรมไม่ได้ ส่วนมากโรงแรมในญี่ปุ่นจะให้ Check-in ประมาณบ่าย 3 โมง ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็ไปเที่ยวกันดีกว่า วันแรกตัดสินใจว่าเราจะซื้อตั๋ว Mono Rail แบบ One Day Pass เพราะน่าจะไปๆกลับๆหลายเที่ยวอยู่




ตอนแรกว่าจะไปที่ Shuri Castle เป็นที่แรก แต่เนื่องจากหิวเกินไป ก็เลยยอมแพ้ แวะลงเดินหาอะไรทานกันนิดๆหน่อยๆก่อนครับ





หลังจากอาหารหนักเข้าปากแล้ว ก็มีแรงเดินต่อขึ้นมาทันที ระหว่างทางเดินที่ Shuri Castle ก็เจอร้านกาแฟน่ารักๆร้านนึงเลยแวะซะหน่อยครับ มีเมล็ดกาแฟจากหลายที่ๆให้เลือกดมก่อนสั่ง หอมอร่อยครับ แฟนคึกเลยทันทีหลังจากได้กาแฟ



ระหว่างทางที่พยายามเดินหาจุดหมายที่จะไป ก็ไปเจอกับสถานที่อะไรซักอย่างที่อ่านไม่ออก แต่สวยดี เลยแวะเข้าไปเดินนิดนึง หลังจากงงอยู่พักนึงก็รู้สึกว่าเดินออกมาดีกว่า กลัวซนผิดที่




สังเกตุได้ว่าระหว่างทาง จะเจอรูปปั้น ซีซ่า ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนี้ มองไปทางไหนก็เห็น ส่วนมากจะอยู่บนหลังคา ไม่ก็ตามเสาบ้าน หน้าตาน่ารักต่างๆกันไป


หลังจากเดินงงๆ หลงๆ ตาม Google ไปมาซักระยะนึงก็มาถึง Shuri Castle แล้วครับ เดินวนๆซักพักแล้วจะรู้สึกได้อย่างที่อ่านรีวิวกันมา ว่าอารมณ์จะออกทางจีนมากกว่าญี่ปุ่น แต่สวยดีครับ






พอจะเดินออก ก็จะผ่านโซนขายของที่ระลึก อาหารเล็กน้อย หันไปเห็น Ice Cream Blue Seal เอ้า! ของมีชื่ออีกแล้ว ลองกันเถอะ สั่งรส Okinawa Salt Cookie มาลองครับ อร่อย เค็มนิดๆ หวานเยอะๆหน่อย รวมๆก็ชอบเลยครับ


เสร็จแล้วก็กลับกันดีกว่า แดดร้อนมาก ขึ้น Mono Rail กลับตามสูตร



โรงแรมที่เราพักชื่อว่า Hotel Stork ครับ เป็นโรงแรมตึกเล็กๆ ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปโรงแรมมาเลยเนื่องจากหมดแรง ภายในห้องจะเป็น ห้องเล็กๆแบบ Duplex ต้องปีนขึ้นไปข้างบนเพื่อนอน ข้างล่างเป็นห้องน้ำ แต่มีทุกอย่างครบครันครับ สะอาด สะดวก Family Mart ใกล้มาก สบายเลย

วันที่สอง ตามที่วางแผนไว้ เราตั้งใจว่า วันที่ 2 ถึงวันสุดท้ายเราจะเช่ารถขับกันในโอกินาวาครับ เนื่องจากที่เที่ยวหลายๆที่อยู่ค่อนข้างไกล และ Mono Rail ก็มีแค่เฉพาะในเมือง Naha กลัวว่าจะไม่สะดวก เพราะฉนั้นเราจะไปเอารถที่ T-Galleria DFS กันก่อนครับ เดินไปจาก Hotel Stork แปปเดียวก็ถึง

ก่อนจะไปถึงก็ต้องแวะหาอะไรกินซะหน่อย เพราะยังไม่ถึงเวลานัด





มีความโรคจิตส่วนตัวสำหรับผมนิดนึงคือ ผมชอบเล่นตู้กดน้ำที่นี่มากครับ ฮาๆๆ ความสุขเล็กๆ เจอเป็นต้องแวะ



หลังจากข้าวเช้าเรียบร้อยแล้วเดินไปอีกนิดก็ถึงที่ละ เราติดต่อเช่ากับ OTS ไว้ครับ จองล่วงหน้านานๆมีเรทที่ถูกกว่านะ เราก็ไปเอารถกันเลย



หลังจากเข้าคิว กรอกเอกสาร ตรวจเช็คอะไรกันเรียบร้อย ก็ได้ใบรับรถมาแล้วครับ พร้อมจะไปลุยกันต่อละ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่พอไปเจอรถแล้วได้ Volkswagen Golf มา เพราะตอนแรกใน Plan ที่จองเข้าใจว่าจะเป็น Nissan Note แต่มันน่าจะเป็น Class เดียวกันของเค้า ก็ปลื้มๆกันไป




ที่แรกหลังจากรับรถมาเรียบร้อย เราจะไปหาพี่ฉลามวาฬกันทันที เพราะว่าตั้งใจมาเพราะสิ่งนี้เลย กด Map Code ในรถ ขึ้นทางด่วน ใช้เวลาซักพักนึง ก็จะไปถึง Okinawa Churaumi Aquarium ครับ จริงๆถ้าเป็นบ้านเราน่าจะถึงเร็วกว่านี้ เพราะที่นี่ทางด่วนวิ่งได้แค่ 80 ก็ไหลๆกันไป





หลังจากมาถึงแล้ว เนื่องจากเวลาได้พอดี เราเลยตัดสินใจเดินไปดูโชว์โลมากันก่อนเลยครับ จะเปิดการแสดงเป็นช่วงๆ เช็คเวลาด้านหน้าได้เลยครับ






ความรู้สึกส่วนตัว โลมาบ้านเราเล่นใหญ่กว่าเยอะเลย ฮาๆๆ แต่น่ารักดีครับ เบาๆ อะ ไปเดินโซน Aquarium กันดีกว่า




หลังจากเดินตามทางมาได้ซักพัก ก็จะมาเจอกับพระเอกของเราแล้วครับ พี่ฉลามวาฬ




พอมาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆแล้ว ประทับใจมากครับ ตัวโตดีจริงๆเลย เพลินมากครับ ว่ายวนไปวนมา สงสารมันเหมือนกัน แต่ว่าอลังการมากครับ แค่นี้ก็คุ้มค่าบัตรแล้ว หลังจากเดินออกมา ก็จะเจอกับโซนเครื่องในครับ



ผ่านไปก็จะเจอพยูน น่ารักมากครับ ใช้มือกินอาหารด้วย ตลกดี



นอกจากนี้ก็จะมีอีกหลายๆโซนให้เดินชมกันได้ครับ ถ่ายมาไว้นิดหน่อย ขอรวมๆกันมาไว้เลยดีกว่า



จบกันไปกับ Okinawa Churaumi Aquarium ได้มาเห็นกับตา สบายใจแล้ว สนุกดีครับ เป็นสัดเป็นส่วน พนักงานตั้งใจต้อนรับมาก ยิ้มแย้ม โดยรวมๆแล้วแนะนำครับ เสร็จแล้วที่ต่อไปที่เห็นจากรีวิวท่านอื่นๆแล้วรู้สึกอยากไปคือ American Village ครับ ปะ ลุย! เนื่องจากไม่รีบแล้ว ก็เดินทางแบบไม่ขึ้นทางด่วนได้ ไปเรื่อยๆ เด๋วก็ถึงครับ







ที่นี่จะมีนักร้องมาเล่นดนตรีกันหน้าชิงช้าครับ เพราะมากเลย เพราะทุกวง และทุกคนสนุกกับมันมากครับ คนโอกินาวาชอบเต้นรำ ลุกขึ้นเต้นกันสนุกเลย นั่งฟังได้ตั้งแต่เย็นๆยันค่ำๆเลยทีเดียว



หมดไปอีกวัน หมดแรง กลับบ้านนอน ไว้ลุยพรุ่งนี้ต่อ เด๋วมาต่อนะครับ