[CR] ความลับฉบับนักเดินทาง ตอน อินโดนีเซีย

ซาลามัต เซียง เสียงทักทายดังขึ้นในความฝัน ตื่นขึ้นมาพบกับความจริง เอ๊ะนี่ใกล้ถึงวันเดินทางแล้ว ...
ความลับฉบับนักเดินทางที่อยากจะนำมาแบ่งปันในตอนนี้ ขอพาย้อนเวลากลับไปก่อนถึงวันเดินทาง 1 เดือน หลังกลับมาจากไปอลเวงที่เมียรมาร์ จุดเริ่มต้นของความคิดที่จะไปเยือนอินโดนีเซียมันเริ่มต้นขึ้นจากการได้พูดคุยกับเพื่อนชาวอินโดนีเซียผ่านทางกลุ่ม ASEAN คุยกันไปคุยกันมาจบด้วยการชวนกันไปเที่ยวซะงั้น ตอนแรกผมกะไว้ว่าจะไปเที่ยวฮ่องกงเพราะเพื่อนกลับจากลอนดอนมาทำงานที่ฮ่องกงพอดี ตอนนั้นคิดในใจ "I จะไปไหนดี" ภูเขาไฟก็อยากเห็น ฮ่องกงก็อยากไป เงินก็มีอยู่อย่างจำกัด เเต่ที่ไม่จำกัดคือเวลา แต่บทสรุปความกระวนกระวายใจนี้ คือ ไปแมร่งทั้งสองประเทศเลย หัวเราะ และแล้วการวางแผนมันก็เริ่มขึ้น รวบรวมวิชาการบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่าง Money ให้ใช้ได้กับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างไม่จำกัด ไม่โม่แล้วคัฟ ลุยกันเลยดีกว่า
#แผนการเป็นอย่างงี้คัฟ
...ไปเยือน อินโดนีเซีย 9 วัน, ฮ่องกง 7 วัน แต่จะเป็นการเดินทางแบบ Transfer จากอินโดนีเซียไปฮ่องกง โดยเเวะเปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซีย ซึ่งการเดินทางแบบนี้ตะ๋วเครื่องบินจะถูกกว่าการเดินทางไปทีละประเทศแบบจากไทยไปอินโดนีเซีย แล้วกลับมาไทยไปฮ่องกงใหม่ จากที่จะได้จ่ายแบบ 4 เที่ยว ก็ได้จ่ายแค่ 3 เที่ยว แต่ได้นั่ง 4 flight และได้เที่ยว 3 ประเทศ แต่กระทู้นี้ผมจะขอรีวิวเฉพาะการเดินทางในอินโดนีเซียแบบจบบริบูรณ์ ซึ่งมันอาจจะอย่างหน่อยๆ ภาพก็อาจจะมืดๆ ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ก็จะอัฟให้เยอะที่สุด 55+
ก่อนวันเดินทางสองสัปดาห์ I ได้รับโทรศัพท์จากสายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเชีย โทรมาพูดอะไรก็ไม่รู้เป็นภาษษอังกฤษเเต่จับใจความได้ว่า เที่ยวบินที่จะบินไปกัวลาลัมเปอร์จากอินโดนีเซียนั้นเปลี่ยนเวลาออกจากปกติ 11.30 น. เป็นเวลา 05.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น OMG เขาถามประมาณว่าจะเปลี่ยนวันเดินทางหรือเปลี่ยนเที่ยวบินหรือจะขอคืนเงินไม่ ผมตอบไปว่า "ํYa I confirm to fly this Flight" ไม่รู้ว่าผมพูดถูดไหม แต่เขาก็ตอบ OK ผมก็ OK วางสายตุ้ดๆๆ 55+ ความกังวลเริ่มเข้ามาในว่าจากที่จะได้ไปนอนที่จาการ์ตาซึ่งจองที่พักและจ่ายตังค์ไปแล้วในวันกลับนั้นจะต้องทำยังไง แล้วก็มีเวลาในการรอเปลี่ยนเครื่องมากขึ้น ทันใดนั้น I ก็ไม่รีรอที่จะรีบดำเนินการขอ Refund เพราะยังมีเวลาให้ Refund ได้พอดี ทาง expedia เขาจะดำเนินการให้ภายใน 2 สัปดาห์ อันที่จริงเขาก็ดำเนินการให้หลังจากที่เราดำเนินการยกเลิกการจองไม่กี่ชั่วโมง แต่ที่นานเพราะเราต้องรอธนาคารโอนเงินกลับบัญชีเราอีกที แอบกังวลไม่นิดล่ะ กลัวจะได้เงินคืนไม่ทันก่อนวันเดินทาง คือแบบว่าจะได้เงินไปสบทบกันอีกสักนิด อีกอย่างการเดินทางภายในอินโดนีเซียโดยรถไฟระหว่างเมืองนั้นเราต้องจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้านะครับ เพราะมันจะเต็มเร็วมาก จองและจ่ายออนไลน์ได้ที่เว็ปนี้คับ https://en.tiket.com/ แต่เพื่อนผมบอกจะจ่ายให้ก่อน ไม่นานเขาก็ส่งตั๋วออนไลน์มาให้ผม ถ้าผมไม่ไปล่ะจะทำยังไง 55+ แต่มันคงไม่เกิดขึ้นเพราะผมก็จองตั๋วเครื่องบินแล้วเช่นกัน
-----------
I จะเดินทางไปทั้งหมด 4 เมืองใหญ่ของอินดดนีเซียบนเกาะชวา ได้แก่ Jakarta, Bandung, Semarung และ Yogyakarta โดย 4 เป้าหมายหลักคือ
1) ไปดูสถานที่ที่จะใช้เเข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 และสำนักงานเลขาธิการอาเซียนที่เมือง Jakarta
2) ไปดูภูเขาไฟและสัมผัสอากาศเย็นที่เมือง Bandung
3) ไปดูหมู่บ้านสลัมสีรุ้งแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของอินโดนีเซียที่เมือง Semarung
4) ไปดูความมหัศจรรย์ของพุทธสถานของศาสนาพุทธที่ยิ่งหใญ่ที่สุดในโลกอย่างบุโรพุทโธที่ตั้งอยู่ห่างเมือง Yogyakarta ไม่กี่กิโลเมตร
----------
...30 สิงหาคม 2560 เป็นอีกครั้งที่ผมเดินทางจากบ้านนอกจะไปต่างประเทศ จากเด็กโง่ๆ จะไปโกอินเตอร์อีกครั้ง เดินทางคนเดียวโดดเดี่ยวในไทยเพื่อไปเจอเพื่อนชาวมุสลิม เพื่อที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนนอกจากหน้าบน Facebook เราพวกเรารู้สึกไว้ใจกันหลังจากได้พูดคุยกันมาสักพัก ผมก็อยากจะไปฝึกใช้ภาษาอังกฤษ ก็เลยตัดสินใจไป จองตั๋วเครื่องบิน Low cost airline ชั้น  Economic class ของสายการบินหางแดง  ทันทีที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง สิ่งแรกที่ต้องทำคือมาดูตารางเที่ยวบิน ต้องมาถึงสนามบินอย่างช้าสุด 3 ชั่วโมงเพื่อทำการ Check-in
ผมไม่เคยกลัวที่จะเดินทางคนเดียว อันที่จริงผมก็ไม่ได้เดินทางคนเดียวขนาดนั้น เพื่อนร่วมทางอัดกันมาเต็มลำเลยเลย 55+
จากนั้นก็ไป exchange money จากเงินไปเป็นสกุลเงินร IDR (รูเปีย) ผมแลกไป 200 บาท ได้มา 60,000 รูเปีย สาเหตุที่แลกไปน้อยเพราะว่าผมมีเงินดอลล่าร์ติดตัวอยู่แล้ว 100 ดอลล่าร์ ซึ่งเพื่อนก็แนะนำว่าให้ไปแลกที่สนามบินนานาชาติโซอิคาร์โน-ฮัตตา (CGK) เลย
ส่วนซิมเน็ตที่จะใช้ในอินโดนีเซียถ้ามาประมาณ 9 วันเขาปนะนำให้ใช้ simPATI ซึ่งรองรับ 4G ราคารวมเน็ต 100,000 รูเปีย (การใช้เงินรูเปียในอินโดนีเซียผมจะจะเอา rate 400 หารตลอด) ได้เน็ตมา 6GB โดยซิมนี้อย่าไปหาซื้อในสนามบินนานาชาติโซอิคาร์โน-ฮัตตา (CGK) นะคับ มันแพง ออกมาซื้ออยู่ที่สถานี Gambir แต่อันนี้เพื่อนที่โน้นซื้อไว้รอล่ะ สบายเลย แต่ถ้าซื้อซิมเน็ตที่ไทยไปราคา 399 บาท 4GB ใช้ได้แค่ 8 วัน
passport พร้อม เงินพร้อม ก็ได้เวลาเข้า Gate กันเเล้ว
คนไทยสามารถเดินเข้า Gate ด้วย autogate ได้เลย
จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอน security แบบตสำรองนำขึ้นเครื่องได้ ไม่เกิน 32,000 mAh โดยห้ามนำโหลดใต้ท้องเครื่องโดยเด็ดขาด ขอเหลว 1 ชิ้นห้ามเกิน 100 มิลลิกรัม หรือสามารถนำขึ้นเครื่องได้รวมกันทั้งหมด 1,000 มิลลิกรัม โดยกรณีนี้ของเหลวแต่ละชิ้นห้ามมีปริมาณเกิน 100 มิลลิกรัม ซึ่งจะดูจากปริมาณที่เขียนไว้ข้างขวด ถึงแม้ของเหลวในบรรจุภัณฑ์จะไม่เกิน 100 มิลลิกรัมก็ตาม ปริมาณจะยึดตามปริมาณที่บรรจุไว้บนบรรจุภัณฑ์
เข้ามาใน Gate เรียบร้อย เพื่อนที่ผมชวนไปทริปนี้ด้วยแต่มันไม่ได้ไปโทรมาพอดี โม้กันเพลินเลย จนสายการบินประกาศให้ขึ้นเครื่อง ในขณะเดียวกันพึ่งรู้ตัวว่ามานั่งรออยู่ผิด Gate เพราะมั่วแต่มาชาร์ตโทรศัพท์ เกือบตกเครื่องซะเเล้วตรู 55+
เครื่องออกเวลา 11.25 น. เดินทางถึง Soekarno-Hatta Airport, Jakarta เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่ง ซึ่งเวลาอินโดนีเซียเหมือนกับไทย จากนั้น  Shuttle bus ก็มารับเราเข้าสู่ Terminal
Soekarno-Hatta Airport มีทั้งหมด 3 Terminal โดย Terminal 1, 2 สภาพค่อนข้างเก่า ใช้รับผู้โดยสารสำหรับ Low cost Airline สิ่งเเรกเมื่อถึงสนามบินให้เดินไป Immigration หรือด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อน ส่วนใบ ตม. ของอินโดนีเซียสามารถหาดูตัวอย่างได้ตามเว็ปอื่นนะคับ ผมเคยถ่ายไว้ในโทรศํพท์ตอนเขียนมันแต่ตอนนี้มานั่งเขียนรีวิวแล้วหาไม่เจอซะงั้น 55+
เดินออกมาจาก Immigration จะเจอร้านแลกเงิน ผมเลือกมาเเลกที่บูธนี้ ป้ายสีแดงๆ นะคับ ไม่มีค่า commission ด้วย ผมแลกไป 100 ดอลล่าร์ ได้เงินมา 1,317,000 รูเปีย เป็นเศรษฐีกันเลยทีเดียว hehehe
เดินออกมาจาก Terminal มาอ่านป้าย Public Transportation และหาคำว่า Damri ซึ่งจะเป็นรถบัสเข้าเมือง (เดินออกจาก terminal แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือ) โดย Damri bus เป็นของรัฐบาล ดังนั้นค่ารถก็จะถูกแน่นอน  
ในเดือนสิงหาคม 2017 จะมีการเปิดใช้รถไฟเชื่อมระหว่าง terminal ทั้ง 3 อีกหนึ่งทางเลือกนอกเหนือจาก free shutter bus และเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเซียนเกมส์ 2018 ด้วย อีกอย่างที่นี้มี free WIFI
เดินมาเรื่อยๆ ซึ่งก็ไกลนิสนึง จะมาเจอที่ขายตั๋วของ Damri bus ไปลง Gambir station ซึ่งเป็น hub ของเมือง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ อนุสาวรีย์แห่งชาติอินโดนีเซีย หรือ National Monument (MONAS)
รถจะออกทุกๆ 30 นาที
ลงรถแล้วเดินเข้ามาใน Gambir station ที่นี่มี Free WIFI ภารกิจต่อมาคือตามล่าหาเพื่อนอินโดนีเซียที่ร้านแมคฯ ในสถานีแห่งนี้ ในที่สุดเราก็เจอกัน เจอกันครั้งแรกทุกคน friendly มาก และสิ่งที่เขาพูดออกมาประโยคเเรกคือ "สวัสดีครับ" อึ่งไปพักหนึ่ง รู้สึกดีใจมากๆ (นึกในใจ..รอดตายแล้วตรู 55+) ลืมแนะนำเพื่อน คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม ชื่อ Naindi ส่วนเสื้อแดงชื่อ Sandy ทั้งสองคนเคยมาเที่ยวไทย โดยเฉพาะ Sandy เคยมาเป็นนักศึกษาเเลกเปลี่ยนที่ ม.ธรรมศาสตร์ we r speak English อมยิ้ม21
จาก Gambir station นั่ง Taxi Uber ไป Juanda station เพื่อไปนั่ง sky train ไปที่พัก (ขอทำความเข้าใจกันก่อนนะคับว่า Gambir station คือจุดศูนย์กลางสถานีรถไฟระหว่างเมืองต่างๆ ส่วน Juanda station คือสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ Gambir station มากที่สุดและสามารถไฟสถานีรถไฟฟ้าในเมืองสายอื่นๆได้จาก Juanda station) ค่า Uber ไป Juanda station ราคา 10,500 รูเปีย ประมาณนี้ ไม่แพง โคตะระถูกมาก สิ่งที่อยากบอกมาเลยสำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งที่นี้ทุกอย่างถูกมาก โหลด App  Uber, Grab taxi, Go jek, Grab bike ไปด้วยเลย อยากใช้บริการอะไรก็เรียกอันนั้นเลยคับ หรทอลองเปรียบเทียบราคาดูได้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากราคาน้ำมันที่ถูกมากๆ ลิตรละประมาณ 13 บาท (ไม่ต้องแปลกใจเพราะบ้านเขามีบ่อน้ำมัน 55+) มาถึง  Juanda station เราต้องไปซื้อตั๋วรถไฟก่อนนะครับ มีตู้ให้ซื้อที่สถานี โดยอัะนดับแรกเราต้องจ่ายค่ามัดจำบัตร E-ticket ของรถไฟก่อนราคา 10,000 รูเปีย อายุบัตรใช้ได้ 7 วัน เราก็ค่อยมาเเลกคืน หรือถ้าอยู่นานกว่า 7 วันก็เเลกใหม่แค่นั้นอะคับ บัตรนี้ใช้ได้เฉพาะรถไฟฟ้าภายในเมืองจาการ์ตาเท่านั้นส่วนค่ารถไฟก็แสนถูกมาก เราคา 2,000-4,000 รูดปีย เท่านั้น เรานั่งจาก Juanda station ไป Jakartakota Station จ่ายแค่ 3,000 รูเปีย เท่านั้น พอดีที่พักที่เราจองไว้อยู่ในเขต Old town, North Jakarta
อารมณ์การนั่งรถไฟนี้นี่ก็จะออกแนวๆ ญี่ปุ่นหน่อยๆ เนื่องจากเป็นรถไฟที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นนั่นเอง
ตอนแรกๆ ก็กำลังจะนึกว่าเป็นญี่ปุ่น พอมองไปรอบๆ เท่านั้นแหละ อิสลามชัดๆ อากาศแมร่งก็โคตะระร้อน
ระบบรางของที่นี่ถือว่าครอบคลุมเมืองมากกว่าเมื่อเทียบกับกรุงเทพมหานครของเรา รถไฟฟ้าของบ้านเขาก็วิ่งเร็วกว่าด้วย หรือว่ารถไฟฟ้าบ้านเราทางโค้งมันเยอะเลยวิ่งช้า 55+
Jakartakota Station ถือว่าเป็นสถานีกลางของรถไฟฟ้าของเมือง ลักษณะโครงสร้างคล้ายกับสถานีหัวลำโพงมาก
.
ไปอาบน้ำแปปงับ ไซบีเรียนฮัสกี้
ชื่อสินค้า:   backpacker
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่