บทความจาก สิงคโปร์ : วิกฤตการเงิน! สตาร์ดังเอสลีกส่อย้ายมาเล่นไทยลีก

เรื่องโดย RAYMOND THAM
เผยแพร่โดย TODAY
แปลโดย akinson149

S.League footballers eyeing exit amid funding cuts to clubs
นักเตะในเอสลีกหลายคนกำลังมองหาสโมสรใหม่หลังเกิดวิกฤติหลายสโมสรตัดลดงบทำทีม

Five top players are looking to move abroad to Thailand or Malaysia, with more also expressing interest due to fears over salary cuts
ห้าสตาร์ดังในเอสลีก ลีกสูงสุดของสิงคโปร์กำลังอยู่ระหว่างการมองหาสโมสรใหม่เพื่อค้าเเข้งอาชีพแน่นอนว่าพวกเขากำลังมองมาที่ลีกของไทยหรือมาเลย์ สาเหตุหลักๆน่าจะมาจากการวิตกเรื่องภาวะลดงบทำทีม


SINGAPORE — Already plagued by poor attendance and financial woes, the ailing S.League could be dealt yet another blow next season, as the professional league could see an exodus of its top footballers due to the impending funding cuts to the clubs.
จากสิงคโปร์- เนื่องจากจำนวนผู้ชมที่เข้าร่วมชมการเเข่งขันบอลลีกในแต่ละนัดเป็นไปอย่างน่าสงสารและหดหู่เสียเหลือเกิน รวมทั้งหายนะทางการเงินของเเต่ละสโมสรส่งผลให้สโมสรในเอสลีกหรือลีกที่ได้ชื่อว่าเป็นลีกสูงสุดของสิงคโปร์อาจจะได้รับการจัดการใหม่อีกครั้งในฤดูกาลหน้า โดยมีรายงานว่าสโมสรได้เริ่มคุยกับนักเตะอาชีพบางคนเพื่อให้เขาเหล่านั้นสามารถมองหาทีมใหม่ได้โดยสมัครใจและเป็นไปตามนโยบายการลดงบทำทีมของแต่ละสโมสร

TODAY has learnt that five national team players - who are currently playing in the S.League - are looking to leave Singapore to ply their trade overseas, and several more have expressed their interest in moving abroad. Local football agent Abdul Halim Abdul Shukor told TODAY that some footballers here are worried that their salaries could be slashed next season due to the S.League’s potential budget cuts, and five players have entrusted him to help them find a foreign club in Malaysia or Thailand.
สำนักข่าวทูเดย์ได้รับรู้จากบรรดานักเตะอย่างน้อย5คนซึ่งทุกคนติดทีมชาติชุดใหญ่และลงเล่นอาชีพที่เอสลีก พวกเขากล่าวว่าเขากำลังอยู่ระหว่างการมองหาช่องทางไปค้าเเข้งต่างเเดน แม้กระทั่งเอเย่นซ์อย่าง อับดุล ฮาร์ลิม ซูเคอร์ ยังกล่าวกับเราว่า นักเตะหลายคนกังวลเรื่องเงินเดือนของพวกเขาซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องถูกปรับลดลงในฤดูกาลหน้าหลังมีรายงานว่าเอสลีกมีรายได้ไม่สอดคล้องกับรายจ่าย ทั้ง5คนกำลังมองไปที่การเล่นที่ไทยหรือไม่ก็มาเลย์

“Some of these players are currently earning over S$10,000 a month, so they’re worried that a drastic drop in their salaries could affect their livelihoods,” said Halim on Monday (Oct 2).
"บางคนที่นี่ปัจจุบันรับอยู่ราวๆ 10,000 ดอลล่าสิงคโปร์ต่อเดือน พวกเขากังวลว่ามันอาจถูกปรับลดลงเยอะและอาจกระทบชีวิตการเป็นอยู่ของเขาเเละครอบครัว" ฮาร์ลิม กล่าวกับเราเมื่อวันจันทร์นี้

While Halim declined to name his clients, citing confidential negotiations. TODAY understands that the clients in his stable have each earned more than 30 caps for Singapore, with the most experienced player chalking up over 100 international appearances.
ในขณะที่ฮาร์ลิมปฎิเสธที่จะเปิดเผยชื่อนักเตะคนดังกล่าวกับเรา เขาบอกมันเป็นความลับสดยอดแต่เราก็พอเข้าใจและคาดเดาได้ว่านักเตะที่ว่านั้นจะมีหลายคนที่เคยลงเล่นในนามทีมชาติมาเเล้วไม่ต่ำกว่า30นัดและยังมีบางรายที่อาจเป็นสตาร์ดังที่เคยสัมผัสประสบการ์ณในระดับนานาชาติมาเเล้วมากถึง100นัด

Halim said he expects to close deals for two of the footballers in “a few weeks”. He is eyeing clubs in Malaysia and Thailand for his clients, taking advantage of new rules in the two countries’ leagues that will require clubs to sign at least one South-east Asian footballer if they wish to fill their foreign players quota. He is confident of securing clubs for the other players by the end of the year, which is usually when contract negotiations for the Malaysian and Thai leagues begin.
ฮาร์ลิมกล่าว เขาหวังว่าจะปิดดิลกับ2นักเตะในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ และเเน่นอนเป้าหมายหลักคือส่งพวกเขาไปเล่นที่ไทยหรือมาเลย์ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเปิดรับนักเตะในอาเซียนด้วยกฎใหม่ที่ให้โควต้านักเตะอาเซียนเฉพาะโดยไม่คิดเป็นโควต้าต่างชาติ เขามั่นใจในการรักษาความลับของสโมสร(ที่จะย้ายไปเล่น) สำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ ภายในสิ้นปีซึ่งปกติจะเป็นช่วงเริ่มต้นของการเจรจาสัญญาสำหรับลีกมาเลเซียและไทย

He added: “With the new regulations, the Malaysian league is definitely a good prospect for Singapore footballers...The Thai players are already less likely to go there since the contracts in their domestic league are already very high.
"ด้วยกติกาใหม่ ลีกมาเลย์อาจจะเหมาะที่สุดกับนักเตะสิงคโปร์เพราะที่นั่นมีนักเตะไทยไม่มากและพวกเขาก็ไม่อยากไปเล่นที่นั่นเพราะสัญญาและค่าตอบแทนในไทยลีกดีกว่า"

“Of course it’ll be a bit harder for these players, as they’ll be living and working in a different culture, and they must work harder than what they’re used to now. But I believe they’re ready.”
"แน่นอนว่าการเล่นในต่างประเทศจะยากขึ้นเล็กน้อยสำหรับผู้เล่นสิงคโปร์เนื่องจากพวกเขาจะมีชีวิตและทำงานในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและพวกเขาต้องทำงานหนักกว่าสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ตอนนี้ แต่ฉันเชื่อว่าพวกเขาพร้อมแล้ว "

If Halim is successful, the exodus of some of the S.League’s top footballers will almost certainly have a significant impact on a league that is struggling to attract fans to the stadiums. While the S.League saw huge crowds in its early years when it was launched in 1996, crowd attendances have been dwindling for years, with an average of just hundreds turning out for games.
ถ้าสิ่งที่ฮาร์ลิมกำลังทำมันประสบความสำเร็จ การอพยพของเหล่านักฟุตบอลชั้นนำของเอสลีกจะมีผลกระทบอย่างมากต่อลีกและอาจทำให้เอสลีกยิ่งไม่มีคนดู ทั้งๆที่สมค.ต่างพยายามหาวิธีที่จะดึงดูดแฟนๆ ไปเข้าสนาม มีรายงานว่าฝูงชนจำนวนมากตอบรับลีกตัวเองอย่างดีในช่วงเปิดตัวปีแรกๆ (1996) หลังจากนั้นแฟนบอลต่างเข้ามาดูทีมของพวกเขาลดน้อยลงเรื่อยๆ เป็นเวลาติดต่อกันหลายปีจนมีค่าเฉลี่ยล่าสุดเพียงเเค่ร้อยกว่าคนต่อนัดเท่านั้น

News of funding cuts to the S.League - the Republic’s only professional sports league - next season had emerged last month, with media reports stating that Tote Board funding would be slashed by almost half from S$16 million to S$8.5 million. Six local clubs in the nine-team league will be affected as a large portion of their annual budgets of between S$1.2 and S$1.5 million come from the Tote Board. The subsidies, which amount to S$800,000 a year for each club, go towards paying the players’ salaries and other operating expenses. The drastic cuts will further impact the clubs financially after the Ministry of Home Affairs annnounced in July measures to tighten the regulation of jackpot operations in sports clubs.
รายงานข่าวเกี่ยวกับมูลค่าของเอสลีก ลีกอาชีพเพียงลีกเดียวที่สูงสุดของประเทศ ฤดูกาลหน้าได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วโดยมีรายงานจากสื่อระบุว่ากลุ่ม Tote Board ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายหลักของลีกจะให้งบลดลงเกือบครึ่งหนึ่งจากเดิม 16 ล้านเป็น 8.5 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ดังนั้นหกสโมสรท้องถิ่นในลีกและอีกเก้าทีมจะได้รับผลกระทบอย่างมากเพราะงบประมาณรายปีของพวกเขาที่อยู่ระหว่าง S $ 1.2 ล้าน- S $ 1.5 ล้านเหรียญมาจากกลุ่มทุนของ Tote Board ทั้งสิ้น เงินอุดหนุนซึ่งคิดเป็นเงินราวๆ 800,000 เหรียญสิงคโปร์ต่อปีสำหรับแต่ละสโมสรจะต้องนำไปจ่ายเงินเดือนของผู้เล่นและจ่ายค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านอื่นๆจะถูกจัดการใหม่ การปรับลดลงของงบของ Tote Board จะส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินในเเต่ละสโมสรและหลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศได้ประกาศมาตรการในเดือนก. ค. เพื่อกระชับการควบคุมการดำเนินงานของพอร์ตในสโมสรกีฬา นี่คือผลการะทบขนาดใหญ่ต่อเอสลีก


Lim Chim นายใหญ่เอสลีกกับปัญหาลีกไม่บูมที่รอการเเก้ไข

Despite the gloom facing the S.League clubs, members of the local football fraternity told TODAY that the players’ move abroad can only be a boon for Singapore football.
เเม้จะเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังต่อบรรดาสโมสรในเอสลีกแต่หลายคนก็บอกว่าการได้มีโอกาสไปค้าเเข้งยังต่างเเดนอาจจะส่งผลดีต่อตัวนักเตะและทีมชาติก็เป็นได้

“Of course you want your league to have the best players, but then our players can get more exposure playing overseas, said former Malaysian Cup winner Steven Tan.
"แน่นอน..คุณอยากให้ลีกของเรามีนักเตะที่ดีลงเล่นเเต่พวกเขาอาจได้รับสิ่งตอบแทนที่ดีกว่าหากเล่นที่อื่น" สตีเว่น ตัน อดีตนักเตะผู้รับรางวัลมาเลย์คัพ กล่าว

“Getting to play under different coaches, learning different playing styles and observing different players in training… it will ultimately improve the national team.”
"การเล่นกับโค้ชที่หลากหลาย นักเตะจะได้เรียนรู้หลายอย่างทั้งแนวทางการเล่นและประสบการ์ณกับนักเตะภายในทีมในช่วงของการฝึกซ้อม แน่นอน..ทั้งหมดนี่จะช่วยพัฒนาทีมชาติ"

Hougang United head coach Philippe Aw said the impending moves by the senior players will also provide the younger ones with more opportunities in the league.
ฟิลิปป์ อัว เฮดโค้ชทีมฮัวกัง ยูไนเต็ด ชี้ให้เห็นว่าการจากไปของนักเตะรุ่นใหญ่จะเพิ่มโอกาสให้รุ่นน้องได้มีโอกาสลงเล่นมากขึ้น

“The thing is, if we want to improve local football, we need to have a bigger base of players,” said Aw, who was Home United’s youth coach from 2007 to 2012.
"สิ่งที่เห็นคือถ้าเราอยากจะพัฒนาฟุตบอลภายใน เราต้องมีพื้นฐานที่เเข็งแรงอยู่ก่อน (นักเตะหลายคนได้ไปเล่นที่ต่างเเดนในลีกที่ดีกว่า)" อัวกล่าว

“There are a lot of young players who fall out of the system as they never get the opportunity to play in the S.League...this could be a chance for the younger players to step up, prove their worth and make a name for themselves.”
"มีนักเตะรุ่นๆจำนวนไม่น้อยพลาดโอกาสได้ลงเล่นในเอสลีกเพราะปัญหาด้านอายุและประสบการ์ณ (หากรุ่นพี่ย้ายทีมสำเร็จ) มันจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้พวกเขาได้ลงเล่นและสร้างชื่อตัวเอง"

Richard Bok, who coached SAFFC to four titles during his tenure, agreed with Aw’s assessment, as he added: “Yes, the S.League will definitely see a drop in its standard for one to three years...but revamping the league and unearthing more young talent will be better for local football.
ริชาร์จ บุค โค้ชใหญ่ของสโมสร SAFFC สโมสรที่เคยคว่าเเชมป์ในช่วงที่เขารับงาน เห็นด้วยกับอัว แถมยังเสริมด้วยว่า "ถูกต้อง เอสลีกดูเหมือนจะเสื่อมมาตราฐานลงในช่วง 1-3 ปีที่ผ่านมา แต่การปรับปรุงลีกใหม่และเร่งผลิตนักเตะรุ่นใหม่ๆขึ้นมาทดแทนจะส่งผลดีต่อฟุตบอลที่นี่"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  กีฬา ฟุตบอล สโมสรฟุตบอลไทย ฟุตบอลไทย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่