สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 28
ผมอายุจะ 60 ปีแล้วนะ เลยทันเหตุการณ์ว่าทำไมมันฮิต
มันเป็นยุคต่อเนื่องจากปากกาหัวแร้ง(แก้ไขเพิ่มเติมบางคนก็เรียกปากกาคอแร้งครับ) กับปากกาหมึกซึม
สมัยแรกๆจริงๆ คนรุ่นก่อนๆ นักเขียนรุ่นก่อนใช้ปากกาหัวแร้ง เวลาใช้ต้องจุ่มหมึกในขวด เขียนไปได้ไม่กี่ตัว หมึกหมดก็ต้องจุ่มหมึกอีก นักเขียนสมัยโบราณ อย่างไม้เมืองเดิม ก็ใช้ปากกาพวกนี้
พอตอนหลังมีปากกาหมึกซึม หัวมันก็ลักษณะเหมือนหัวแร้ง แต่มันมีหลอดหมึกข้างในไม่จุ่มหมึก สามารถเขียนต่อเนื่องได้ แต่หัวแร้งยังไม่หมดไปนะ เพราะหัวแร้งราคาถูก 10 -20 บาท สมัยนั้นก็ซื้อได้ แต่ปากกาหมึกซึม มันอันหนึ่ง3-4 ร้อยบาท ยี่ห้อดังๆคือ Parker ถ้าแบบหรูๆ พวกไฮโซใช้ จะมีประดับเพชร ประดับโน่นนี่ ราคาหลายตังค์
ยุคต่อมาคือปากกาลูกลื่น Lancer นี่มาทีหลังนะ ที่ผมเห็นดังๆมาก่อนคือปากกาบิ๊ก ด้ามสีเหลืองๆ เห็นตั้งแต่เด็ก ส่วนLancer จำได้ว่ามีทีแรกตอน ป.5 Lancer ที่มาดังกลบปากกาบิ๊กเพราะมันเขียนลื่นกว่า
แต่ยุคนั้นคนก็ยังใช้ปากกาหมึกซึมอยู่ อาจจะเพราะติด และผู้ใหญ่ คนใหญ่คนโตยังใช้กันอยู่ เวลาเซ็นเช็คต่างๆ เขาว่ากันว่าการปลอมแปลงลายเซ็น ของปากกาหมึกซึมยากกว่า มันเห็นลายเส้นต่อเนื่องไม่ขาดตอน
และที่สำคัญ เวลาวาดรูป ลงลายต่างๆ ปากกาหมึกซึม มันก็กึ่งๆพู่กัน สามารถลากเส้นหนา เส้นบางได้ ลูกลื่นมันเขียนเส้นได้ขนาดเดียวตามหัวปากกา
ปากกาRoting นี่มาดังตอนผมเรียนมัธยม มันเป็นยุคต่อเนื่องจากการใช้ปากกาหมึกซึม มันมาจากพวกเรียนสายช่างเริ่มใช้ก่อน แต่คนที่ติดปากกาหมึกซึม ก็เห็นว่ามันใช้แทนกันได้ เท่ห์ แต่ที่สำคัญที่สุดที่ผมชอบใช้ คือหมึกของRoting มันดำ ดำสนิท และดำสวยมาก
ส่วนดินสอRoting นี่ มาทีหลังปากกาอีกนะ เป็นสิบปี
มันเป็นยุคต่อเนื่องจากปากกาหัวแร้ง(แก้ไขเพิ่มเติมบางคนก็เรียกปากกาคอแร้งครับ) กับปากกาหมึกซึม
สมัยแรกๆจริงๆ คนรุ่นก่อนๆ นักเขียนรุ่นก่อนใช้ปากกาหัวแร้ง เวลาใช้ต้องจุ่มหมึกในขวด เขียนไปได้ไม่กี่ตัว หมึกหมดก็ต้องจุ่มหมึกอีก นักเขียนสมัยโบราณ อย่างไม้เมืองเดิม ก็ใช้ปากกาพวกนี้
พอตอนหลังมีปากกาหมึกซึม หัวมันก็ลักษณะเหมือนหัวแร้ง แต่มันมีหลอดหมึกข้างในไม่จุ่มหมึก สามารถเขียนต่อเนื่องได้ แต่หัวแร้งยังไม่หมดไปนะ เพราะหัวแร้งราคาถูก 10 -20 บาท สมัยนั้นก็ซื้อได้ แต่ปากกาหมึกซึม มันอันหนึ่ง3-4 ร้อยบาท ยี่ห้อดังๆคือ Parker ถ้าแบบหรูๆ พวกไฮโซใช้ จะมีประดับเพชร ประดับโน่นนี่ ราคาหลายตังค์
ยุคต่อมาคือปากกาลูกลื่น Lancer นี่มาทีหลังนะ ที่ผมเห็นดังๆมาก่อนคือปากกาบิ๊ก ด้ามสีเหลืองๆ เห็นตั้งแต่เด็ก ส่วนLancer จำได้ว่ามีทีแรกตอน ป.5 Lancer ที่มาดังกลบปากกาบิ๊กเพราะมันเขียนลื่นกว่า
แต่ยุคนั้นคนก็ยังใช้ปากกาหมึกซึมอยู่ อาจจะเพราะติด และผู้ใหญ่ คนใหญ่คนโตยังใช้กันอยู่ เวลาเซ็นเช็คต่างๆ เขาว่ากันว่าการปลอมแปลงลายเซ็น ของปากกาหมึกซึมยากกว่า มันเห็นลายเส้นต่อเนื่องไม่ขาดตอน
และที่สำคัญ เวลาวาดรูป ลงลายต่างๆ ปากกาหมึกซึม มันก็กึ่งๆพู่กัน สามารถลากเส้นหนา เส้นบางได้ ลูกลื่นมันเขียนเส้นได้ขนาดเดียวตามหัวปากกา
ปากกาRoting นี่มาดังตอนผมเรียนมัธยม มันเป็นยุคต่อเนื่องจากการใช้ปากกาหมึกซึม มันมาจากพวกเรียนสายช่างเริ่มใช้ก่อน แต่คนที่ติดปากกาหมึกซึม ก็เห็นว่ามันใช้แทนกันได้ เท่ห์ แต่ที่สำคัญที่สุดที่ผมชอบใช้ คือหมึกของRoting มันดำ ดำสนิท และดำสวยมาก
ส่วนดินสอRoting นี่ มาทีหลังปากกาอีกนะ เป็นสิบปี
แสดงความคิดเห็น
ทำไม rotring ถึงฮิตในหมู่วัยรุ่นสมัยก่อน ทั้งๆที่เป็นปากกาสำหรับงานเขียนแบบ
ใครมีร็อตติ้งก็ชอบเอามาพกติดกระเป๋าเสื้อนักเรียนโชว์ (ประมาณว่าพกแล้วเท่ห์ซะเหลือเกิน)
ทั้งที่จริงๆเป็นปากกาสำหรับงานเขียนแบบ เป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง
พวกงานช่าง อินทีเรียร์ ตกแต่งภายใน หรือทำกราฟิกอาร์ตเวิร์ค อะไรพวกนี้
เหมาะสำหรับเขียนบนกระดาษไขหรือการดาษอาร์ต
ถ้าเอามาเขียนบนกระดาษปกติสู้ปากกาลูกลื่นถูกๆไม่ได้ด้วยซ้ำ
ไม่เข้าใจว่ากลายเป็นปากกาแฟชั่นยอดฮิตในสมัยก่อนได้ยังไง?