ทำไม iPhone ถึงมีประสิทธิภาพเทียบเท่า Samsung ทั้งๆที่ ให้สเปคต่ำกว่าเป็นเท่าตัว…..

กระทู้คำถาม
วันนี้ผมมาออกตัวให้ค่ายผลไม้และอธิบายให้คนไม่รู้ในภาษาที่เข้าใจง่ายๆ ก่อนอื่นผมบอกเลย ผมเป็นติ่งผลไม้ที่ใช้ซัมซุงมาตลอดชีวิต 55555 เหตุผลนะหรอ ง่ายๆครับ ไม่มีตังค์ซื้อผลไม้มาใช้

    มาเข้าเรื่องครับ “แอปเปิ้ลให้เทคโนโลยีที่มีสเปคน้อยกว่าซัมซุงถึง 5 ปี” นี่คือความจริงที่เลี่ยงไม่ได้ ยังไงน่ะหรอ iPhone X ในปี 2017 ให้ชิปเซ็ตที่ A11 ที่มีแกนประมวลผลถึง 6 แกน เยอะใช่ไหมล่ะ แต่!! ซัมซุง S3 ให้มา 8 แกนตั้งแต่ปี 2012!! โทรศัพท์ที่เปิดตัวในปีเดียวกันอย่าง iPhone 4s ให้มาที่ 2 แกน นี่คือความเป็นจริงครับ ติ่งผลไม้ไม่ต้องออกตัวมาปกป้อง มันคือความจริง แล้วทำไมประสิทธิภาพถึงอยู่ในเกรดเดียวกัน ตัวแปรสำคัญมันอยู่ตรงนี้ครับ OS โอเอสก็คือระบบปฏิบัติการนั่นแหละ ใน PC ก็คือ วินโดว์ หรือ OSX ส่วนในโทรศัพท์ที่เป็นเจ้าตลาดตอนนี้ก็มี iOS ของไอโฟน และ Android ของซัมซุง แล้วมันสำคัญยังไง เรามาทำความรู้จักทั้งคู่ก่อน

Android คือระบบปฏิบัติการที่แพร่หลายมากๆ อาจจะมากที่สุดด้วยซ้ำ ถ้าไม่นับแค่ซัมซุง แอนดรอยด์คือระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Google แล้วคำถามคือ Google ใช้เครื่องไหนเป็นเกณฑ์ คำตอบคือ Nexus เน็กซัสเป็นหนูทดลองของ Google โดยแต่ละปีจะเปลี่ยนรุ่นไปเรื่อยๆ เช่น บางปีใช้ HTC บางปีใช้ Moto และถ้ามือถือค่ายไหนอยากใช้แอนดรอยด์ ก็จ่ายตังมาแล้วเอาไปพัฒนาต่อเองเพื่อให้มือถือค่ายตัวเองใช้ได้ เช่น สมมุติว่าปีนี้ Google พัฒนา แอนดรอยด์ 10.0 ชื่อรุ่นปูไทย โดยเลือก Huawei mate11 เป็นรุ่นทดลอง Android ปูไทย เมื่อพัฒนาเสร็จ ซัมซุงมาขอซื้อแอนดรอยด์ตัวนี้ไปใส่ในซัมซุง S10 ซัมซุงจะต้องนำปูไทยไปพัฒนาต่อยอดเพื่อเอาไปใช้ใน S10 เพราะ S10 กับ mate11 มีฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นปูไทยจึงต้องถูกลดทอนหรือเพิ่มบางอย่างเข้าไป เพื่อให้ S10 สามารถใช้งานปูไทยได้ และก่อนหน้านั้น ซัมซุงจะต้องใส่กล้องเทพ ชิปเซ็ตแรงเวอร์ และแรมมหาศาลลงไปใน S10 เพราะว่า ปูไทยถูกสร้างมาเพื่อโทรศัพท์รุ่นอื่น ไม่ใช่ S10 ดังนั้น กล้อง 80 ล้านอาจจะถูกดึงประสิทธิภาพออกมาแค่ 12 ล้าน สรุปง่ายๆ Android ถูกสร้างเพื่อใช้งานร่วมกับ Nexus ในแต่ละปี ซัมซุงจึงต้องสร้างมือถือสเปคสูงเพื่อให้มือถือของตัวเองอยู่ใน S Class

iOS คือระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Apple แล้วแอปเปิ้ลใช้เครื่องไหนเป็นเกณฑ์ ก็ iPhone นั่นแหละ iOS ถูกสร้างขึ้นเพื่อไอโฟนโดยเฉพาะ และไม่อนุญาตให้มือถือค่ายอื่นนำไปใช้ (เรียกว่างกก็ได้ 5555) ทุกปีที่แอปเปิ้ลเปิดตัวไอโฟน แอปเปิ้ลจะเปิดตัว iOS ใหม่ด้วยทุกครั้ง นั่นเป็นเพราะ iOS ถูกพัฒนาเพื่อให้ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ของไอโฟนโดยเฉพาะเสมอๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมไอโฟนรุ่นเก่าๆ อัพ iOS แล้วเครื่องมีปัญหา เพราะ iOS รุ่นใหม่ถูกสร้างมาเพื่อไอโฟนในปีนั้นเท่านั้น อาจจะมีบ้างที่อัพแล้วไม่มีปัญหา เหตุผลคือ เพราะฮาร์ดแวร์มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากครับ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่เก่าลงไปสัก 2-3 ปี การันตีได้เลย ว่ามันต้องมีปัญหาแน่นอน แล้วแต่ว่าจะมากหรือน้อย

ยกตัวอย่างความแตกต่างของ Android และ iOS เมื่อทำงานกับโทรศัพท์ที่สเปคแตกต่างกัน

ผมขอข้าม Nexus ไปเลย เพราะ ไม่เป็นที่นิยม แต่จะขอเปรียบเทียบโทรศัพท์รุ่นตลาดๆ

1. ความลื่นไหล ความลื่นไหลคือปัจจัยแรกในการเลือกซื้อโทรศัพท์ของผม ความลื่นไหลเกิดจากความเร็วในการประมวลผลของสมอง หรือในโทรศัพท์คือ ชิปเซ็ต iPhone X ให้มาที่ 6 แกน (ไม่ทราบความเร็ว) แต่ซัมซุงให้มา 8 ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว แต่ความลื่นไหลเท่ากัน ถามว่าเพราะอะไร คำตอบคือ ระบบปฏิบัติการ iOS สามารถดึงประสิทธิภาพ 6 หัวของไอโฟนออกมาได้ 100% เต็ม ส่วนแอนดรอยด์ ที่ถูกพัฒนามาเพื่อ Nexus จะสามารถดึงได้แค่ 80-90% ของ 8 แกน

2. แบตเตอร์รี่ ผมใช้เกณฑ์ง่ายๆ ปกติโทรศัพท์จะใช้งานได้ 1 วันเท่ากัน 100% ในตอนเช้า และกลับมาชาร์ตในตอนเย็น แต่ถ้าพูดถึงขนาดของแบต S4 ให้มา 2600 ในขณะที่ i5 ที่เปิดตัวในปีเดียวกันให้มาแค่ 1400-1500 (เกือบครึ่งต่อครึ่ง -_-“) แต่มันกลับใช้งานได้เท่าๆกัน เพราะอะไร คำตอบเดิมครับ ระบบปฏิบัติการ iOS ช่วยหยุดการทำงานบางตัวลงเพื่อประหยัดแบต ในขณะที่ Android พร้อมจะรันทุกสิ่งอย่างให้คุณ แม้คุณไม่ได้ใช้งานมัน ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป

3. ความเสถียร หลายคนใช้คำๆนี้ในชีวิตประจำวัน แต่เอาเข้าจริงๆกลับไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ผมก็ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรมาอธิบายมัน แต่ความเสถียรอธิบายง่ายๆให้เห็นภาพคือ มอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง วิ่งด้วยความเร็ว 60 กม/ชม. ตั้งแต่ กรุงเทพถึงเชียงใหม่ ในแต่ละเส้นทางที่วิ่งผ่านไป ชะลอและเร่งความเร็ว ไม่เกิน 2 กม/ชม. อันนี้คือมีความเสถียร และถ้าไม่เสถียรล่ะ มอเตอร์ไซค์อีกคัน วิ่งด้วยความเร็ว 120 กม/ชม. จากกรุงเทพไปเชียงใหม่ แต่พอไปถึงปทุม ก็ชะลอเหลือ 20 พอไปถึงอยุธยา เร่งไป 140 พอถึงลำพูน เหลือ 5 พอเข้าเชียงใหม่เร่งไป 100 นี่คือความไม่เสถียร แอนดรอยด์จะทำงานแบบคันที่ 2 บางจังหวะก็เร็วปรู๊ดปร๊าด บางจังหวะก็แลคจนเด้งออก ส่วนไอโฟนก็ไม่ใช่ไม่แลค มันก็มีบ้างแต่ในรุ่นใหม่ล่าสุดของแต่ละปีจะมีโอกาสเด้งน้อยกว่า แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่ากว่าที่อัพ iOS รุ่นใหม่นี่เด้งกันเป็นลูกปิงปองเลยทีเดียว

4. กราฟฟิค ตัวนี้ใช้การประมวลผลของ GPU ส่วนตรงนี้ผมไม่ค่อยทราบรายละเอียด แต่ถ้าเอาเรื่องของความละเอียดจอ ผมขอแบ่งแบบนี้จะได้เข้าใจง่ายๆ ขนาดจอไม่มีกับความละเอียด ความละเอียดขึ้นอยู่กับ PPI หรือ Pixel Per Inch แปลเป็นไทย คือ จำนวนเม็ดสีใน 1 ตารางนิ้ว ตัวนี้ ไอโฟนให้น้อยมาแต่ไหนแต่ไร แต่ไอโฟนเขามีเทคโนโลยีพิเศษที่เหนือกว่าแอนดรอยด์อยู่ตัวนึง คือ การเรียงเม็ดสีทั่วๆไปจะเรียงแบบตารางธรรมดาๆ แต่ไอโฟนเขาเรียงแบบ ขนมเปียกปูน มันทำให้สายตาของเรามองเห็นภาพได้คมชัดมากขึ้น ส่วนเทคโนโลยีของซัมซุงเขามี AMOLED หลายคนเอาไปคุย ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน AMO คืออะไรผมไม่รู้ แต่ LED มันคือหลอดไฟขนาดเล็ก นี่ไม่มุขนะ สาระจริงๆ ซัมซุงใช้ AMOLED มาเป็นจุดขาย จอแบบ AMOLED คือจอที่ใช้หลอดไฟหลอดเล็กๆ แสดงสีต่างๆ และแสดงสีดำได้ดำสนิท เพราะ มันสามารถปิดตัวเองได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโหมด Super Saving Mode ของซัมซุงถึงสามารถอยู่ได้เป็นวันๆ ก็เล่นปิดหลอดไฟบางดวงไปเลย ส่วนกราฟฟิคในแอพต่างๆก็ง่ายๆเลย เพราะแอพในแอพสโตร์ของแอปเปิ้ลถูกผู้พัฒนาเขียนมาเพื่อให้ไอโฟนใช้งาน ส่วนแอพเดียวกันในเพลย์สโตร์ คนเขียนจะต้องเขียนให้โทรศัพท์สารพัดรุ่นสามารถใช้ได้ แอปเปิ้ลจึงดึงประสิทธิภาพได้ดีกว่า และที่สำคัญมันอยู่ตรงนี้อย่างที่บอกไปตอนแรก กราฟฟิคขึ้นอยู่กับการประมวลผลของ GPU ซัมซุงเองก็สั่งGPUรุ่นท็อปๆตามท้องตลาด มาใช้ร่วมกับ ชิปเซ็ตตัวท็อปๆตามท้องตลาด แล้วมันจะประสานงานกันได้ดีแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่มันตัวท็อปอ่ะ ต้องดีแหละ ส่วนแอปเปิ้ลน่ะหรอ พี่แกออกแบบเองทั้ง ชิปเซ็ตและGPU พอออกแบบเสร็จก็ส่งให้ซัมซุงผลิต -_-“ เพราะงั้น มันก็น่าจะทำงานร่วมกันได้ดีกว่าแหละ คิดว่าอ่ะนะ

ส่วนตัวอื่นๆที่เหลือก็มีคำตอบเดียวกัน คือ iOS ช่วยให้ไอโฟนดึงประสิทธิภาพออกมาได้ทั้ง 100% มันจึงมีประสิทธิภาพโดยรวมเทียบเท่าโทรศัพท์ที่มีสเปคสูงกว่าเป็นเท่าตัว

สรุป  ::: ที่ผมสาธยายมาทั้งหมดเหมือนจะบอกว่าไอโฟนดีกว่า แต่ ผมขอบอกตรงๆว่าผมใช้ซัมซุงครับ ทำไมน่ะหรอ คุณลองคิดดูสิ ฮาร์ดแวร์ที่สเปคต่ำกว่าเกือบเท่าตัว แอปเปิ้ลกลับคิดราคาเท่ากับหรือสูงกว่าซัมซุง เราจ่ายเงิน 3 หมื่นเพื่อหวังสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถให้เราได้ แต่เขากลับไม่ให้ ในขณะที่ซัมซุงพยายามให้ทุกอย่างที่สามารถให้ได้ โอเค คุณอาจจะบอกว่าเป็นค่า iOS แล้ว Android ไม่มีค่าใช้จ่าหรอ Google ก็ต้องใช้เงินในการพัฒนาเช่นกัน อาจจะมากกว่าด้วย เพราะ Google ต้องพัฒนาเพื่อโทรศัพท์ทุกรุ่น ลองคิดง่ายๆ ถ้าไอโฟนหันมาใช้แอนดรอยด์ รับรองว่าแอปเปิ้ลจะง่อย-ไม่ต่างจาก J1 แต่คิดในทางกลับกัน ถ้าวันไหนแอปเปิ้ลผลิตไอโฟนที่มีสเปคในทางตัวเลขเท่าซัมซุง เราจะได้สมาร์ทโฟนที่มีขุมกำลังเทียบเท่า PC เลยทีเดียว ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ผมอยากจะแนะนำการเลือกโทรศัพท์ของคุณว่า “ซื้อไปเถอะครับ เงินก็เงินคุณ โทรศัพท์มันจะดีไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบมันมั้ย ถ้าคุณชอบมัน คุณจะมองข้ามข้อเสียของมันไปเอง แต่ถ้าคุณไม่ชอบมัน คุณจะมองข้ามข้อดีของมันไป เพราะงั้นอยากได้รุ่นไหนก็ซื้อครับ”
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก
กระทู้นี้ถูกลบโดยระบบอัตโนมัติทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศการสนทนา ของเพื่อนสมาชิกโดยรวมค่ะ

ความคิดเห็นนี้ได้ถูก ppantip.com ลบออกไปจากระบบแล้ว หากเนื้อหาที่ถูกลบยังคงถูกนำไปแสดงใน application หรือเว็บไซต์ใดๆ
ทาง ppantip.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆด้วย การดำเนินการทางกฎหมายกรุณาติดต่อผู้พัฒนา application หรือเว็บไซต์นั้นๆโดยตรงค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่