:: Brunei Darussalam : The Warm Heart of Borneo ::

ก่อนอื่นต้องขอกล่าวทักทาย..เพื่อน ๆ ชาวบลูแพลนเน็ตทุกท่าน และต้องกล่าวขออภัยที่หายหน้าหายตาไปนานกว่า 1 ปี หลังจากคลอดกระทู้ “Once in Ethiopia” ไปเมื่อเดือนสิงหาคมปลายปีก่อน ครั้งนี้ขอไปเดินเล่นพักผ่อนจิตใจในประเทศที่ได้ชื่อว่าสงบ สะอาด และเรียบร้อยที่สุดในลำดับต้น ๆ ของทวีปเอเชีย ประเทศที่มีค่าครองชีพสูงพอตัว อันเนื่องมาจากเป็นประเทศรัฐสวัสดิการ ประชาชนอยู่ดีมีสุข แต่เราไม่ได้โฟกัสไปที่เรื่องนั้นครับ เราโฟกัสไปที่ธรรมชาติของประเทศนี้ ประเทศที่มีป่าไม้มากถึงร้อยละ 72 ของพื้นที่ทั้งประเทศ ซึ่งส่งให้มีทรัพยากรสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์มากตามไปด้วย

....หอบขนมนมเนยมาให้พร้อม นั่งจ้องหน้าจอได้เลยครับ ผมกำลังจะเล่าเรื่องประเทศที่คนไทยรู้จักน้อยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน แม้จะอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน แต่เรื่องราวที่ได้รับรู้มา พร้อมกับคำถามสารพัด ..

... บรูไนเป็นประเทศทะเลทรายใช่มั้ย ??
... บรูไนอยู่ใกล้ดูไบมั้ย ? เห็นว่ามีน้ำมันเหมือนกัน
... บรูไนเป็นประเทศที่ร่ำรวยมากสินะ น้ำมันถูก อะไร ๆ ก็น่าจะถูก
... และคำถามที่พีคสุด "จะไปทำอะไรที่นั่น"

ณ ที่แห่งนี้ ...  “เนการาบรูไนดารุสซาลาม..หัวใจอันอบอุ่นแห่งเกาะบอร์เนียว”  

... ผมเริ่มวางแผนการเดินทางไปบรูไนเมื่อช่วงต้นปีนี้เองครับ แต่เนื่องจากคนไทยหากประสงค์จะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศนี้ ๆ ไม่ต้องดำเนินเรื่องขอวีซ่า (Free Visa) สามารถอยู่เที่ยวได้สบายใจ 14 วัน (ผมว่าถ้าจะมาเที่ยวนะ 3 วัน 2 คืนก็หมดประเทศละ) จึงตัดปัญหาส่วนนี้ไป ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วรอเวลาได้เลย บรูไนมีสายการบินแห่งชาติ ชื่อ Royal Brunei Airline บินตรงจากกรุงเทพสู่นครบันดาร์เสรีเบกาวันทุกวัน แต่เราไม่ได้ใช้บริการสายการบินนี้ครับ ด้วยเหตุที่ว่า มันจะได้ต่อเครื่องในมาเลเซียและจะได้มีเรื่องราวให้เล่ายืดไปได้อีกนิดหน่อย แต่จริงกว่านั้น เหตุผลคือ ตั๋วถูกต้องมาก่อน แอร์เอเชียกับการบินไปกลับรวม 4 ไฟล์ท จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ..

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่