ผมขออธิบายเรื่องของ ยุทธศาสตร์ของสงครามนิวเคลียร์ ก่อนครับ (ในส่วนศัพท์ของ 2 คำนี้)

1. First strike คือการที่ประเทศ A โจมตีประเทศ B ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่มีอานุภาพมาก
จนประเทศ B ไม่สามารถที่จะ โงหัว ขึ้นมาตอบโต้ด้วย second strike ได้ครับ  การโจมตีนี้จะต้องเด็ดขาด
ต้อง surprise และครอบคลุมมากพอ  ที่จะทำให้ประเทศ B หมดความสามารถที่จะยิง Nuclear Missile ตอบโต้ได้

2. Second strike  คือการที่ประเทศหนึ่ง  ประกาศออกมาว่า  หากทางเราโดนท่านโจมตีด้วยนิวเคลียร์
เราก็จะตอบโต้ท่านด้วยการโจมตีนิวเคลียร์ในแบบที่ท่าน ยอมรับไม่ได้   พูดง่าย ๆ คือ
หากเมิงยิง Missile ใส่กู  กูก็จะยิงกลับในแบบที่ล้างบางเมิงไปเลย

ยุทธศาสตร์ของ Second strike นี้  เกาหลีเหนือกำลังทำอยู่อย่างต่อเนื่องครับ  ที่เราเห็นในข่าวบ่อย ๆ
ที่ KIM ออกมาประกาศปาว ๆ ว่า  หากสหรัฐทำโน่น ทำนี่  เกาหลีเหนือจะทำให้สหรัฐต้องย่อยยับจนคาดไม่ถึง
ซึ่งยุทธศาสตร์นี้ใช้กันมานานแล้วครับ  มันคือการป้องปรามอย่างหนึ่ง  เพื่อต้องการมิให้สงครามนิวเคลียร์เกิด นั่นเอง
โดยเอาหลักจิตวิทยาที่ว่า  หากฝ่ายแรกยิงไปแล้ว  ก็มีความเสี่ยงสูงมากที่จะโดนยิงกลับอย่าง มโหฬาร ครับ

ทีนี้ .... ที่คุณ todtoh ถามมาเรื่อง First strike weapons systems  ก็ตอบได้ว่า Missile หรือ อาวุธนิวเคลียร์ใด ๆ
ที่เข้าข่าย First strike weapon นั้น  จะต้องเป็นหัวรบ หรือ ระเบิดนิวเคลียร์ ที่ ใหญ่มาก ใหญ่จนกระทั่งสยบฝ่ายตรงข้าม
มิให้กระทำ second strike ได้เลย  มิฉะนั้นตัวเองจะอ่วมด้วย second strike ครับ  ICBM ขนาดใหญ่ก็สามารถเป็น First strike ได้
เช่น  Trident missiles   LGM-30 Minuteman-III  ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องใช้หัวรบรุ่นล่าสุด อย่าง W-87 Thermonuclear
ที่มีพลังทำลายล้างมากถึง 450 กิโลตัน ..... ส่วน Second strike weapon ส่วนมากก็เป็น Missile ที่ยิงจากเรือดำน้ำ
หรือ SILO ที่ห่างไกลครับ  ก็แล้วแต่ประเทศที่เป็นฝ่าย second strike ว่าจะมีอาวุธใดในมือ (เหลือ) บ้างในการตอบโต้

สรุปแล้ว  ICBM แบบ First strike จะติดตั้งหัวรบขนาดใหญ่  โดยอาจจะใช้ Missile ที่ใกล้กว่านั้นก็ได้
แล้วแต่การประเมินของประเทศผู้เริ่มสงคราม  ส่วน Second strike ประเทศที่สุ่มเสี่ยง (ว่าจะโดนยิงก่อน)
ก็จะวางแผนใว้แล้ว  ว่าจะเตรียมหมัดเด็ดในการตอบโต้อย่างไร  ส่วนมากก็เป็นการยิงตอบโต้จากเรือดำน้ำครับ