หากคุณกำลังมองหาเมืองที่วิถีชีวิตเป้นไปอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบกิจกรรมในการผจญภัยมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก จขกท.ขอแนะนำ วังเวียงจากโปร 0 บาทของพี่หางแดงเราได้ทำการรวบรวมสมาชิกกลุ่มในการท่องเที่ยวครั้งนี้ด้วยกัน 9 คน จนล่วงเลยเวลาผ่านมาแรมปีถึงกำหนดการเดินทาง จุดหมายการเดินทางของทริปนี้เริ่มต้นที่ ทอ.ดอนเมิอง-ทอ.อุดรธานี และต่อรถทัวร์ อุดร-วังเวียงซึ่งจะผ่านหนองคายและสะพานมิตรภาพไทยลาว จขกท.เลือกไฟท์บินในช่วงเวลากลางคืนทำให้ต้องจองที่พักอุดร 1 คืน   ซึ่งเราสามารถหาที่พักได้ใกล้ๆบริเวณ บขส.อุดรได้มีหลากหลายราคาให้เลือก หลังจากที่เราการเช็คอินเข้าที่พักแล้ว แนะนำใหเทำการจองตั๋วรถทัวร์สำหรับไปวังเวียง โดยการจองจะต้องใช้หน้าพาสปอร์ตเพื่อใช้สำหรับขึ้นรถไปวังเวียงในช่วงเช้า รถจะออกจาก บขส.อุดรประมาณ 08.30 น.(ข้อมูลการเดินทาง:ไปวังเวียงจากอุดรสามารถไปด้วยรถบัส1รอบ/วัน การวิ่งรถจะมีรถไทยสลับกับรถ สปป.ลาว หรือสามารถต่อรถที่หนองคายแล้วทำการหารถตู้ต่อไปยังวังเวียง)

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารมือเช้า อาหารที่ จขกท.แนะนำให้ลองชิมหากได้มาเยื่อนอุดรก็คงหนีไม่พ้นไข่กะทะ พิกัด:หน้าบขส.ข้างๆโรงแรมศรีตระการ หลังจากทีเราเติมพลังกันเป็นที่เรียบร้อยอยากแนะนำให้เพื่อนๆเตรียมสะเบียงอาหารจำพวกขนมขบเคี้ยวเท่าที่สามารถจะถือไปได้ หลังจากนั่นเราก็มารอเวลาขึ้นรถโดยสาร ในวันที่ จขกท.ไปได้นั่งรถไทย...เย้ๆ การเดินทางจาก บขส.อุดร-วังเวียงนั้น จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6-7ชั่วโมง โดยรถบัสจะแวะให้ผู้โดยสารผ่านจุดตรวจและจะมีการแจกใบเข้า-ออกประเทศตามจุดตรวจ และจะมีการแวะพักให้ทานอาหาร1ครั้ง  โดยเราสามารถแลกเงินไทย/เงินกีบลาว ได้ที่ด่านตรวจผู้โดยสารขาเข้าฝั่งลาว ในวันที่ จขกท.ไปได้แลกในอัตราเลท 1/252kip รวยกันเลยทีเดียว งง! หน้าตาเงินกีบมาก (แนะนำให้ดูเลขก่อนจ่ายทุกครั้ง) จขกท.จอตัดภาพไปที่วังเวียงเลยนะครับ ระหว่างทางก็เล่นเกมส์ซ่อนตาขาวเอาแล้วกัน


เมื่อเดินทางมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารวังเวียง จะมีรถตุ๊กๆไปส่ง ผดส.ในเมืองวังเวียง(ฟรี) เราสามารถซื้อตั๋วขากลับได้ในราคา 90,000 กีบ นั่งรถตุ๊กๆเข้าเมืองกันระยะทางไม่ไกลมาก 5นาทีรถก็จะมาจอดยังตัวเมือง  จขกท.ทำการจองที่พักไว้ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองพอสมควร จึงเลือกใช้บริการเช่ามอเตอร์ไซค์ในราคา 35000 kip(ครึ่งวันบ่าย-เช้า)



ได้รถกันแล้วเราไปตามหาที่พักกัน ที่พัก จขกท.เลือก Riverside bungalow   เนื่องจากติดใจบรรยากาศที่เคยมาเมื่อครั้งก่อนประกอบกับราคาที่ไม่สูงมากนัก เช็คอินเก็บกระเป๋าอย่ารอช้าเวลาทุกนาทีมีค่า  เริ่มต้นสถานที่แรกสะพานส้ม-(บ่อน้ำแร่ถ้ำจัง) เวลาก็ร่วงเลยมา 17.00 น.กันแล้วเห็นที่จะได้แค่ที่เดียวไม่เป็นไรเรามากันหลายคนไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น นางแบบนายแบบโพสท่าเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานน้ำที่บริเวณนี้ค่อนข้างใส่แต่อาจจะไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร ในช่วงเวลาที่ จขกท.ไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวเลยจัดกันไป1เปียก

หลังจากที่เล่นน้ำกันจนหนำใจ  เราก็กลับที่พักระหว่างทางกลับบรรยกาศอาหารที่ห้ามพลาดคือ โรตี/แซนวิช/เบอร์เกอร์  ต้องลองหลากหลายเมนูให้เลือก อิ่มท้องกันแล้วกลับไปอาบน้ำแต่งตัว อย่างที่บอกเวลาทุกนาทีมีค่า ใกล้เวลาค่ำสถานที่รวมตัวของบรรดานักท่องเที่ยวหลากชาติหลายภาษาหนีไม่พ้น ซากูระบาร์     จะคอยบริการฟรีดริงค์ก่อน 21.00 น.





หลังจากที่เมื่อคืนเราสนุกสนานกับซากุระบาร์มาวันนี้เราต้องเสียเหงื่อออกแรงกายกันยาวๆไป โดย จขกท.ได้ทำการจองวันเดย์ทริปไว้ในราคา 270000 kip ซึ่งประกอบกิจกรรม ปีนผาเงิน/Zip line/bluelargoon/ kayak ส่วนกิจกรรม tubing จขกท.ได้ทำการซื้อแยกอีกทริปเนื่องจากเวลาเหลือระหว่างวัน ขอแสดงรายละเอียดทีละกิจกรรมนะครับ
  

การเดินไปบนผาเงินต้องใช้เวลาในการเดินขึ้นประมาณ 40 นาที ระยะทาง 650 เมตร ทางค่อนข้างลำบากระหว่างทางก็แอบพักแวะถ่ายภาพ เหนือยตามๆกันไป แต่พอมาถึงจุดชมวิวแล้วบอกได้คำเดียวว่าคุ้ม

ระหว่างเดินทางเป็นธรรมดาต้องมีแวะพักกันนิดหน่อย เดียวเราไปดูภาพวิวมุมสูงกันนะครับขอลงภาพเยอะหน่อยนะครับแต่ละกิจกรรม



กิจกรรม Zip line/bluelargoon(ข้อมูล Zip line จะมีหลายเจ้าแล้วแต่ว่าเราเลือกซื้อเดย์ทริปที่ไหน สำหรับ จขกท.ได้เล่นที่ bluelargoon) zip line มีระยะทางจำนวนเส้นประมาณ 13 เส้นในใจตอนแรก จขกท.ก็มีอาการกลัวๆนะ หลังจากเส้นแรกผ่านไปได้เส้นสองเส้นสาม....บลาๆถึงเส้นที่13 ก็เด็กลงไปทันตา


แต่แล้วความหวาดเสียวที่มาถึงก็มาอีกระรอก(การโรยตัวจากที่สูง) ณ จุดนี้บอกได้คำเดียวว่ากลัว มีเสียงกรี๊ดกันทุกคน Zip line เสร็จเป็นที่เรียบร้อยเรามาทำการคลายความร้อนกันด้วยการกระโดดน้ำจากต้นไม้ที่มีระดับความสูง2ระดับด้วยกัน มีหรือที่ จขกท.จะไม่เล่นใหญ่โน่นไงปีนอยู่ข้างบนพร้อมกระโดดตั้งแต่ ทอ.ดอนเมืองแล้ว