ยอดดาวยิงแห่งเม็กซิโก ''ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ บัลคาซาร์'' หรือที่เรารู้จักกันในนาม ''ชิชาริโต้'' ที่แปลเป็นไทยว่า ''ถั่วน้อย''
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเซอร์ไพรส์แฟนบอล โดยการดึง ''ชิชาริโต้'' มาจากสโมสรทีมชีวาส เดอ กัวดาลาฮาร่า ในประเทศเม็กซิโก
ท่ามกลางความงุนงงของแฟนบอลว่า ''เจ้าเด็กคนนี้คือใคร?'' (ตอนนั้นชิชาริโต้อายุเพียง 22 ปี) แต่เจ้าตัวใช้เวลาไม่นานสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลปีศาจแดงได้ทันที โดยลงเล่นเป็นทางการครั้งแรกเป็นตัวสำรองในเกมพบ เชลซี ในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ ในเกมนั้นชิชาริโต้ทำได้ 1 ประตู(เป็นการทำประตูที่แปลกด้วย ยิงอัดหน้าตัวเองเข้า) จบเกมนั้น แมนยู เอาชนะเชลซีไป 3-1
ตอนแรกชิชาริโต้ต้องตกเป็นตัวเลือกที่ 3 ในตำแหน่งกองหน้า โดยมี รูนี่ย์ กับ เบอร์บาตอฟ เป็นตัวเลือกที่ 1-2 ตามลำดับ "ชิชาริโต้'' มักได้รับบทซูเปอร์ซับ แล้วก็ทำได้ดีด้วยเปลี่ยนมายิงท้ายเกมได้บ่อย และได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องเพราะในช่วงนั้น รูนี่ย์มีปัญหากับทีม และมีอาการบาดเจ็บด้วย และชิชาริโต้ก็เริ่มมายึดตัวจริงได้ในท้ายๆฤดูกาล และสามารถพาแมนยูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 19 ได้สำเร็จ พาทีมเข้ารอบรองเอฟเอ คัพ และก็พาทีมเข้าชิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนลีกในปี 2011 แม้สุดท้าย แมนยูจะพ่ายแพ้ต่อบาร์เซโลน่า ไป 3-1 ในนัดชิงก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงฤดูกาลแรกของเจ้าตัวในยุโรปก็ถือว่า มาไกลเกินกว่าจะคิดได้แล้ว
จบฤดูกาลแรกในลีกยุโรปชิชาริโต้ทำประตูรวมทุกรายการไปทั้งสิ้น 20 ประตู
-------------------------------------------------------------------------
2011 - 2012
ฤดูกาลที่สองของเจ้าตัวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ''ชิชาริโต้'' ยังคงเป็นส่วนสำคัญของทีม แม้จะไม่ฮอตเหมือนฤดูกาลแรก แต่โดยรวมก็ถือว่ายังไม่แย่เท่าไร
---------------------------------------------------------------
2012 - 2013
ฤดูกาลที่สามกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้แมนยูไปคว้าตัว ''โรบิน ฟาน เพอร์ซี่'' มาร่วมทีม แน่นอนว่า ''ชิชารฺโต้'' ก็ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสันอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 20 มาครองได้
และฤดูกาลนี้ก็เป็นฤดูกาลสุดท้ายของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน(เรื่องราวของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กันสันไว้จะพูดถึงในคร้งหน้า)
------------------------------------------------------------------------
2013 - 2014 (ฤดูกาลที่สี่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
หลังการวางมือของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน แมนยูก็เริ่มเข้าสู่ยุคตกต่ำโดยเริ่มที่การเข้ามาของ เดวิด มอยส์ ''ชิชาริโต้'' ยังคงเป็นตัวเลือกรอง และผลงานทีมโดยรวมก็ไม่ดี เดวิด มอยส์ โดนปลด แมนยูจบที่ 7 ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน
-------------------------------------------------------------------------
2014 - 2015
การเข้ามาของหลุยส์ ฟานกัล ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ เป็นการเดินทางครั้งใหม่ของ ''ชิชาริโต้'' โดยเจ้าตัวเลือกที่จะย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด แบบยืมตัว 1 ฤดูกาล แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าต้องไปเป็นตัวเลือกรองของ ''เบนเซม่า'' แต่ ''ชิชาริโต้'' ก็ทำผลงานได้ดี แม้ส่วนใหญ่จะเป็นตัวสำรอง แต่เมื่อได้รับโอกาสก็มักจะไม่พลาด และก็ทำผลงานได้ดีเข้าตาหลายๆทีมในเวลานั้นที่ต้องการดึงไปรวมทีม
-----------------------------------------------------------------------
2015 - 2016
"ชิชาริโต้'' กลับมาจากยืมตัว โดยต้นฤดูกาลลงเล่นภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟานกัล ในสีเสื้อแมนยู แต่ก็ทำผลงานได้ไม่ดี เป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆของทีม และไม่ได้แสดงให้เห็นว่า ''สำคัญ''
การออกเดินทางอีกครั้งจึงเริ่มต้น โดยครั้งนี้เป็น ''ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น'' ยอดทีมจากลีกเยอรมัน คว้าตัวเขาไปร่วมทีมแบบถาวร และก็ถือเป็น ''การเกิดใหม่'' ของ ''ชิชาริโต้'' ด้วย โดยฤดูกาลนั้นเจ้าตัวทำผลงานได้ดี และก็ยิงประตูถล่มทลาย
-----------------------------------------------------------------------
2016 - 2017
ในฤดูกาลนี้ ''ชิชาริโต้'' ยังคงยิงประตูได้เรื่อยๆ และก็เป็นตัวหลักของทีม
--------------------------------------------------------------------
2017 - 2018
''การกลับมาสู่เวทีพรีเมียร์ลีก''
ในฤดูกาลนี้ เวสแฮม ยูไนเต็ด ซื้อตัว ''ชิชาริโต้'' มาร่วมทีม ถือเป็นการสร้างทีมใหม่ เพื่อเป้าหมายสร้างความยิ่งใหญ่ในอนาคต แม้การกลับมาคราวนี้เจ้าตัวไม่ใช่เด็กอีกแล้ว หลังการเดินทางอันแสนยาวนาน ปัจจุบัน ''ชิชาริโต้'' กลายเป็นนักเตะมากประสบการณ์ และเป็นดาวยิงเบอร์หนึ่งอย่างแท้จริงของทีมขุนค้อน การกลับมาพรีเมียร์ลีกคราวนี้เราต้องรอดูว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด แต่เท่าที่ผ่านมาก็สามารถถพูดได้เต็มปากว่า ''ชิชาริโต้ เป็นนักเตะเม็กซิโกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้!''
ในนามทีมชาติเม็กซิโก ''ชิชาริโต้'' ก็ประสบความสำเร็จ เป็นตัวหลักดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมมาอย่างยาวนาน โดยปัจจุบันเป็นเจ้าของสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของทีมชาติเม็กซิโก!!
------------------------------------------------------------------------
ความเห็นส่วนตัวเมื่อได้เห็น ''ชิชาริโต้'' ครั้งแรก
ในวันนั้นไม่เคยคิดว่านักเตะคนนี้จะเป็นนักเตะที่สุดยอดได้เลย(ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ) หลังจากผ่านไปหนึ่งฤดูกาลก็เห็นถึงสัญชาตญาณ ความเร็ว และไหวพริบการทำประตูที่ดี เห้ย!! นักเตะคนนี้ไม่ธรรมดานี่หว่า สามารถเบียดเบอร์บาตอฟ ไปนั่งสำรองในช่วงท้ายฤดูกาลนั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดา เป็นซูเปอร์ซับที่สุดยอดคนหนึ่งเลย มีการเข้าฮอสที่ดี แต่น่าเสียดายชิชาริโต้ไม่ใช่นักเตะประเภทชงเองกินเอง และเก็บบอลได้ นี่เป็นสิ่งที่กองหน้าคนนี้ขาด ไม่น่าเชื่อเผลอเดี๋ยวผ่านไป 7 ปีแล้ว ที่เห็นนักเตะคนนี้ลงสนาม เวลาเดินไปวัยมาก ต่างคนต่างเติบโต ทั้งคนดูและก็นักเตะเอง โลกดำเนินไปเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือ ''ชิชาริโต้'' ได้เข้ามาอยู่ในดวงใจของผมเรียบร้อยแล้ว วันแรกที่เคย ''อคติ'' จนถึงวันนี้ได้จางหายไปหมดแล้ว
เชื่อว่าหลังจากนี้ ''ชิชาริโต้'' จะเป็นชื่อที่จะเป็นที่จดจำของแฟนฟุตบอลไปตลอดกาล
สุดท้ายขอเชิญชวนเพื่อนแวะไปเยี่ยมชมเพจพูดคุยเรื่องฟุตบอล กีฬา หนัง เกม เพลง และอื่นๆ ได้นะครับที่ลิ้งข้างล่าง จะกด Like หรือไม่ก็ไม่ว่ากันครับ แต่อยากชวนให้คุยกัน ^^
https://www.facebook.com/Chekie-1067083510064457/
ชวนคุยภาษาฟุตบอล ''ชิชาริโต้'' ยอดดาวยิงจากเม็กซิโก
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเซอร์ไพรส์แฟนบอล โดยการดึง ''ชิชาริโต้'' มาจากสโมสรทีมชีวาส เดอ กัวดาลาฮาร่า ในประเทศเม็กซิโก
ท่ามกลางความงุนงงของแฟนบอลว่า ''เจ้าเด็กคนนี้คือใคร?'' (ตอนนั้นชิชาริโต้อายุเพียง 22 ปี) แต่เจ้าตัวใช้เวลาไม่นานสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลปีศาจแดงได้ทันที โดยลงเล่นเป็นทางการครั้งแรกเป็นตัวสำรองในเกมพบ เชลซี ในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ ในเกมนั้นชิชาริโต้ทำได้ 1 ประตู(เป็นการทำประตูที่แปลกด้วย ยิงอัดหน้าตัวเองเข้า) จบเกมนั้น แมนยู เอาชนะเชลซีไป 3-1
ตอนแรกชิชาริโต้ต้องตกเป็นตัวเลือกที่ 3 ในตำแหน่งกองหน้า โดยมี รูนี่ย์ กับ เบอร์บาตอฟ เป็นตัวเลือกที่ 1-2 ตามลำดับ "ชิชาริโต้'' มักได้รับบทซูเปอร์ซับ แล้วก็ทำได้ดีด้วยเปลี่ยนมายิงท้ายเกมได้บ่อย และได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องเพราะในช่วงนั้น รูนี่ย์มีปัญหากับทีม และมีอาการบาดเจ็บด้วย และชิชาริโต้ก็เริ่มมายึดตัวจริงได้ในท้ายๆฤดูกาล และสามารถพาแมนยูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 19 ได้สำเร็จ พาทีมเข้ารอบรองเอฟเอ คัพ และก็พาทีมเข้าชิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนลีกในปี 2011 แม้สุดท้าย แมนยูจะพ่ายแพ้ต่อบาร์เซโลน่า ไป 3-1 ในนัดชิงก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงฤดูกาลแรกของเจ้าตัวในยุโรปก็ถือว่า มาไกลเกินกว่าจะคิดได้แล้ว
จบฤดูกาลแรกในลีกยุโรปชิชาริโต้ทำประตูรวมทุกรายการไปทั้งสิ้น 20 ประตู
-------------------------------------------------------------------------
2011 - 2012
ฤดูกาลที่สองของเจ้าตัวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ''ชิชาริโต้'' ยังคงเป็นส่วนสำคัญของทีม แม้จะไม่ฮอตเหมือนฤดูกาลแรก แต่โดยรวมก็ถือว่ายังไม่แย่เท่าไร
---------------------------------------------------------------
2012 - 2013
ฤดูกาลที่สามกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้แมนยูไปคว้าตัว ''โรบิน ฟาน เพอร์ซี่'' มาร่วมทีม แน่นอนว่า ''ชิชารฺโต้'' ก็ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสันอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 20 มาครองได้
และฤดูกาลนี้ก็เป็นฤดูกาลสุดท้ายของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน(เรื่องราวของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กันสันไว้จะพูดถึงในคร้งหน้า)
------------------------------------------------------------------------
2013 - 2014 (ฤดูกาลที่สี่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
หลังการวางมือของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน แมนยูก็เริ่มเข้าสู่ยุคตกต่ำโดยเริ่มที่การเข้ามาของ เดวิด มอยส์ ''ชิชาริโต้'' ยังคงเป็นตัวเลือกรอง และผลงานทีมโดยรวมก็ไม่ดี เดวิด มอยส์ โดนปลด แมนยูจบที่ 7 ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน
-------------------------------------------------------------------------
2014 - 2015
การเข้ามาของหลุยส์ ฟานกัล ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ เป็นการเดินทางครั้งใหม่ของ ''ชิชาริโต้'' โดยเจ้าตัวเลือกที่จะย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด แบบยืมตัว 1 ฤดูกาล แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าต้องไปเป็นตัวเลือกรองของ ''เบนเซม่า'' แต่ ''ชิชาริโต้'' ก็ทำผลงานได้ดี แม้ส่วนใหญ่จะเป็นตัวสำรอง แต่เมื่อได้รับโอกาสก็มักจะไม่พลาด และก็ทำผลงานได้ดีเข้าตาหลายๆทีมในเวลานั้นที่ต้องการดึงไปรวมทีม
-----------------------------------------------------------------------
2015 - 2016
"ชิชาริโต้'' กลับมาจากยืมตัว โดยต้นฤดูกาลลงเล่นภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟานกัล ในสีเสื้อแมนยู แต่ก็ทำผลงานได้ไม่ดี เป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆของทีม และไม่ได้แสดงให้เห็นว่า ''สำคัญ''
การออกเดินทางอีกครั้งจึงเริ่มต้น โดยครั้งนี้เป็น ''ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น'' ยอดทีมจากลีกเยอรมัน คว้าตัวเขาไปร่วมทีมแบบถาวร และก็ถือเป็น ''การเกิดใหม่'' ของ ''ชิชาริโต้'' ด้วย โดยฤดูกาลนั้นเจ้าตัวทำผลงานได้ดี และก็ยิงประตูถล่มทลาย
-----------------------------------------------------------------------
2016 - 2017
ในฤดูกาลนี้ ''ชิชาริโต้'' ยังคงยิงประตูได้เรื่อยๆ และก็เป็นตัวหลักของทีม
--------------------------------------------------------------------
2017 - 2018
''การกลับมาสู่เวทีพรีเมียร์ลีก''
ในฤดูกาลนี้ เวสแฮม ยูไนเต็ด ซื้อตัว ''ชิชาริโต้'' มาร่วมทีม ถือเป็นการสร้างทีมใหม่ เพื่อเป้าหมายสร้างความยิ่งใหญ่ในอนาคต แม้การกลับมาคราวนี้เจ้าตัวไม่ใช่เด็กอีกแล้ว หลังการเดินทางอันแสนยาวนาน ปัจจุบัน ''ชิชาริโต้'' กลายเป็นนักเตะมากประสบการณ์ และเป็นดาวยิงเบอร์หนึ่งอย่างแท้จริงของทีมขุนค้อน การกลับมาพรีเมียร์ลีกคราวนี้เราต้องรอดูว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด แต่เท่าที่ผ่านมาก็สามารถถพูดได้เต็มปากว่า ''ชิชาริโต้ เป็นนักเตะเม็กซิโกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้!''
ในนามทีมชาติเม็กซิโก ''ชิชาริโต้'' ก็ประสบความสำเร็จ เป็นตัวหลักดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมมาอย่างยาวนาน โดยปัจจุบันเป็นเจ้าของสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของทีมชาติเม็กซิโก!!
------------------------------------------------------------------------
ความเห็นส่วนตัวเมื่อได้เห็น ''ชิชาริโต้'' ครั้งแรก
ในวันนั้นไม่เคยคิดว่านักเตะคนนี้จะเป็นนักเตะที่สุดยอดได้เลย(ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ) หลังจากผ่านไปหนึ่งฤดูกาลก็เห็นถึงสัญชาตญาณ ความเร็ว และไหวพริบการทำประตูที่ดี เห้ย!! นักเตะคนนี้ไม่ธรรมดานี่หว่า สามารถเบียดเบอร์บาตอฟ ไปนั่งสำรองในช่วงท้ายฤดูกาลนั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดา เป็นซูเปอร์ซับที่สุดยอดคนหนึ่งเลย มีการเข้าฮอสที่ดี แต่น่าเสียดายชิชาริโต้ไม่ใช่นักเตะประเภทชงเองกินเอง และเก็บบอลได้ นี่เป็นสิ่งที่กองหน้าคนนี้ขาด ไม่น่าเชื่อเผลอเดี๋ยวผ่านไป 7 ปีแล้ว ที่เห็นนักเตะคนนี้ลงสนาม เวลาเดินไปวัยมาก ต่างคนต่างเติบโต ทั้งคนดูและก็นักเตะเอง โลกดำเนินไปเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือ ''ชิชาริโต้'' ได้เข้ามาอยู่ในดวงใจของผมเรียบร้อยแล้ว วันแรกที่เคย ''อคติ'' จนถึงวันนี้ได้จางหายไปหมดแล้ว
เชื่อว่าหลังจากนี้ ''ชิชาริโต้'' จะเป็นชื่อที่จะเป็นที่จดจำของแฟนฟุตบอลไปตลอดกาล
สุดท้ายขอเชิญชวนเพื่อนแวะไปเยี่ยมชมเพจพูดคุยเรื่องฟุตบอล กีฬา หนัง เกม เพลง และอื่นๆ ได้นะครับที่ลิ้งข้างล่าง จะกด Like หรือไม่ก็ไม่ว่ากันครับ แต่อยากชวนให้คุยกัน ^^
https://www.facebook.com/Chekie-1067083510064457/