กระทู้นี้เป็น Part ต่อจาก Autumn around Korea ล่าใบไม้เปลี่ยนสี 4 เมือง โซล ซกโซ จอนจู พาจู
https://ppantip.com/topic/36926792 ซึ่งตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงจอนจูกันได้ 1 วันแล้วค่ะ
หลังจากเมื่อวานเราใส่ชุดฮันบกเดินรอบ "จอนจูฮันนกมาอึล" กันไปแล้ววันนี้เราจะใส่ชุดนักเรียนเกาหลี "คโยบก"
เที่ยวกัน จริงๆเมืองนี้เรียกได้ว่าไม่ต้องเตรีมชุดมาก็ได้คะ ... มาเช่าชุดใส่อินๆ เพราะเราเช่ากันที่พักเลยใส่ได้ทั้งวัน ^^
-------------------------------------------------------------------------------------
ตอน ๖ ฝันเป็นจริง เมื่อฉันได้เป็น “ซูฮี” คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
-------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้ตื่นเต้นฝุดๆ เพราะนัดกับออมม่าว่าจะเช่าชุด “คโย-บก” ก็คือชุดนักเรียนเกาหลีสมัยก่อน ที่ถ้าใครได้ดูเรื่อง The classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต ชุดนั้นเลยยยยยยยยย


ออมม่าบอกว่าให้ไปหาไรกินตอนเช้าก่อนแล้วค่อยกลับมาเจอกันสัก 9 โมงครึ่ง เราก็เลยไปเดินหาไรกินย่านถนนเมนเพราะในหมู่บ้านยังคงหลับใหล

ถนนเมนก็มีเพียงร้านกาแฟที่เปิดเช้า เลยเข้าไปสั่ง Panini หรืออิตาเลียนแซนด์วิช มักใช้ขนมปังอิตาเลี่ยนหรือฝรั่งเศสหรือขนมปังตระกูล Artisan ( Artisan คือการทำด้วยมือแบบโบราณ ๆ เลี่ยงการใช้เครื่องจักรมากที่สุด) ที่นี่ถือว่าอร่อยเลย

กินเสร็จก็ยังไม่ถึงเวลา เลยเดินมาเที่ยววังโบราณ "คยองกีจอน" (Gyeonggijeon) จุดนี้ก็เป็น 1 ในไฮไลท์ของที่นี่ พระราชวังคยองกี เป็นวังเก่าซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์แทโจ (King Tae-jo) กษัตริย์องค์แรกแห่งราชวงศ์โชซอน ตั๋วค่าเข้าชมเพียงแค่ 1000 วอนเท่านั้น
นี่เหมือนวังลับในเรื่อง Princess hour เลยอ่ะ
วังโซ อยู่ไหนเพคะ
ป่าไผ่ ก็จะดูญี่ปุ่นหน่อยๆ
แล้วก็จะเบลอหน่อยๆ

ภายในมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในสมัยราชวงศ์โชซอนอยู่ด้วย วังนี้เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงเย็น สำหรับช่วงฤดูร้อนจะเปิดถึงหกโมงเย็น ส่วนฤดูหนาวจะเปิดถึงแค่ห้าโมงเย็นเท่านั้น เราแอบเสียดายที่เมื่อวานมัวแต่ใส่ชุดฮันบกเดินเตร็ดเตร่อยู่นอกวัง ถ้าใส่ชุดฮันบกเข้ามาเดินในวังจะอินมากๆเลยยยย
เดินจนได้เวลานัดกับออมม่า เราก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ท้าดา ใส่แล้วอินมากเลยค่า ซื้อกลับบ้านได้มั้ยชุดนี้?

เราเดินขึ้นไปดูจุดชมวิวหมู่บ้านจากมุมสูง แล้วก็ข้ามถนนไป “หมู่บ้านจามาน”

ด้วยความหนาว น้องสาวกลายเป็นอปป้าไปแล้วค่ะ

“หมู่บ้านจามาน” ที่เค้าเรียกกันว่าหมู่บ้านสีลูกกวาด เป็นหมู่บ้านเล็กๆบนเนินเขา ที่คนในหมู่บ้านพร้อมใจกันวาดภาพทาสีบ้านเป็นรูปหน้ารักๆเต็มไปหมด

ดูด้วยตามันก็งั้นๆนะ แต่พอเข้าเฟรมแล้วอะไรๆมันก็ดูน่ารักดี

เห็นรูปนี้แล้วนึกถึงชื่อเพจอีกเพจนึงของเราเอง @ออมม่าย๊า

เห็นมะพอเข้าเฟรมปุ๊บ งานศิลป์มันก็จะสวยปั๊บ

เดินไปเดินมาก็มาเจอร้านกาแฟบนเนิน กาแฟคงไม่ไหวแล้ว แต่โยเกิร์ตปั่นก็รสชาติดี๊ดีย์ค่ะ
เผลอมากกกกกกกกกกกกก
เจ้าของร้านกาแฟชวนไปดูโฮมสเตย์ ตอนกลางคืนนี่จะเห็น หมู่บ้านจอนจูฮันนกทั้งหมู่บ้านเลย

เราเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ ชมวิวและใบไม้เปลี่ยนสีให้หนำใจก่อนจะต้องลาเมืองจอนจูไปอีกครั้ง (และเดี๋ยวจะกลับมาอีกครั้ง กะว่าจะกลับไปพาองค์ชายสี่ส่วนตัว และองค์ชายตัวน้อยมาด้วยพร้อมหน้าเลย) เห็นเค้าเดินคู่กันมันก็คิดถึงเน้อ

อุโมงค์ที่ไม่เกี่ยวกับอะไร แต่คิดถึงมุนกึนยองตาละห้อยร้องหา "พี่ชายยยยยยยยยยยยยยยย"

เดินผ่านโรงเรียนขงจื้อ (Jeonju Hyanggyo) หรือ "จอนจู ฮยางคโย" ที่นี่ในสมัยโชซอลเป็นโรงเรียนสอนหนังสือสำหรับบัณฑิตและนักปราชญ์ทั้งหลาย ก็เลยมีการมาถ่ายทำเรื่องบัณฑิตหน้าใสที่มิกกี้ยูชอนเป็นพระเอกและกัปตันยูเป็นพระรองนั่นเองจ้า
ปัจจุบันที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟรี และภายในยังคงมีการเรียนการสอนอยู่ แต่เป็นการสอนภาษาจีนสำหรับคนท้องถิ่นและผู้สูงอายุ

นั่งอ่านจดหมายรักฉบับ Classic แพ๊บบบบ


ฝากท้องไว้ที่จอนจูอีกซักมื้อ ... เป็นมื้อที่ชอบชื่อร้านมากเลย “ออมม่าซุน” ฝีมือแม่ มันต้องอร่อยแน่ๆ เรากินกิมจิจิเกกันเป็นหม้อใหญ่ๆเดือดปุดๆกันแบบนี้เลยค่า ชิ้นเนื้อก็ให้มาชิ้นใหญ่โตอลังการแบบกินหมูย่างเกาหลีออริจินอล สมกับเป็นฝีมือแม่จริงๆ เข้มข้น นัวๆ รสชาติที่ต้องจดจำอีกแล้ว แล้วเราก็กลับไปเปลี่ยนชุด คืนสภาพเตรียมตัวเข้าโซล

จริงๆแพลนไว้ว่าจะกลับประมาณเที่ยง ไปๆมาก็บ่ายสองแล้วจ้า ออมม่าก็ยังเป็นห่วงว่าจะทันรถมั้ย? เราเลยบอกว่าไม่ต้องห่วงนะ เราไม่ได้จองไว้ ถ้ามีก็กลับโซล ถ้าไม่มีเดี๋ยวกลับมานอนนี่อีกคืน ฮ่าฮ่า

กลับมาก็เย็นๆจนจะมืดค่ำเลยเอากระเป๋าไปเก็บที่พักแล้วจะออกไปหาอะไรกินแถวมออีฮวา
เป็นมื้อง่ายๆ ข้าวแกงกะหรี่ กับ ข้าวทงคัตสึ ในตรอกซอกซอยมออีฮวานั่นเอง

Preview ตอน ๗ English Village – Heyri art village – เตร็ดเตร่ชมซากุระฮันกัง – ลุยงานต่อดิวงานกับ Seoul wedding Agency – จบที่ ทัคคัลบิ ชินชน อร่อยที่สุดในสามโลก แนะนำโดย Naver 맛집