ก็แค่มีอาการไข้ธรรมดา กับร่างกายที่ค่อนข้างจะผอม น้ำหนักแค่49กก.กับส่วนสูง170 เหล้าไม่เคยกิน บุหรี่ได้กลิ่นควันก็เวียนหัวแล้ว เมียก็ยังไม่มี เที่ยวผู้หญิงก็ไม่เคย ผมรู้ตัวเองดีว่าเปอร์เซนต์ที่ผมจะเป็นเอดส์เเทบจะเป็นศูนย์ ผมอาจจะติดมาจากสาเหตุอื่นก็เป็นได้ แต่ผมไม่คิดจะเพื่อใจไว้แต่อย่างใดเพราะมั่นใจตัวเอง แต่คนที่ไม่มั้นใจในตัวเองและตัวผมคือคนที่เป็นหมอที่ครวจรักษาผมตอนนั้น เป็นหมอผู้หญิงตัวอ้วนๆ วัยประมาณ10ปีก็กระเษียณ ประสบการ์ณก็คงไม่น้อยที่จะตรวจรักษาคนป่วยอย่างผม หลังการซักถามอาการตามธรรมเนียมชองหมอที่ต้องถามคนไข้ทั่วไปแล้ว หมอก็ได้ถามผมคำนึง " เป็นเอดส์มารึป่าว.." ผมตอบหมอคำเดียวว่า"ไม่ "และหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ตอบคำถามใดๆกับหมอคนนั้น แต่กลับกันผมอยากจะถามหมอกลับว่าทำไมหมอถึงถามคนไข้แบบนั้น หมอมีสิทธ์ที่จะถามคำถามนั้นหรือไม่ หมอถามเพื่ออะไร หมอไม่รู้จริงๆว่าคนไข้เป็นอะไร ผมคิดว่าหมอโชคดีมากในวันนี้นที่ถามคำถามนี้กับผม คนที่ให้ความเคารพและให้ความนับถือคนที่เป็นหมอ ถ้าเป็นคนไข้คนอื่นไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหมอในวันนั้น..
ถ้าหมอถามคำถามนี้กับคุณ คุณจะตอบหมอว่าอะไร..
หมอถามว่า"คุณเป็นเอดส์รึป่าว" คุณจะตอบว่าอะไร
ถ้าหมอถามคำถามนี้กับคุณ คุณจะตอบหมอว่าอะไร..