แชร์การไล่ หรือกำจัดแมลงสาบ จากประสบการณ์จริง ทำมาหลายปีจนถึงปัจจุบัน รวบรวมมาเขียนเพื่อหลายๆ คน ที่กำลังหาวิธีไล่ หรือกำจัดแมลงสาบโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง
ก่อนอื่นขอเกร่นที่มาหรือแรงบันดาลใจก่อน เรื่องมีอยู่ว่าตอนเด็กๆ ได้ไปอาศัยที่บ้านปู่ย่า ซึ่งพอตกกลางคืนจะมีแมลงสาบออกมามากมาย นับไม่ได้ บินบ้าง ไต่บ้าง เต็มไปหมด ชั้นสองที่นอนไม่มีห้องน้ำ ต้องลงมาเข้าชั้นล่าง แต่พอมาเจอสภาพแบบนี้ ถ้ากลั้นจนเช้าได้ จะกลั้น ถ้าไม่ไหวก็ลุยกัน แต่แปลกพอตอนเช้าจะไม่เห็นเลยแม้แต่ตัวเดียว หรือถ้าวันไหนฝนตก แมลงสาบก็จะขึ้นมาจากท่อระบายน้ำเป็นร้อยๆ ตัว สมัยก่อนก็เหยียบอย่างเดียว ไม่อยากให้เข้าบ้าน แต่ต้องใส่รองเท้าไม่กล้าเหยียบขาเปล่า เดี๋ยวมันเหม็นติดเท้า เดี๋ยวจะติดเชื้อโรค มันเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ไม่ชอบแมลงสาบตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่ถึงกลับเกลียดหรือกลัวมาก ในขณะที่น้องสาวจะเกลียดและกลัวมาก ต่อมาย้ายไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ แรกๆ ที่บ้านก็มีการฉีดปลวกทุกปี ก็ไม่ค่อยจะเจอพวกแมลงสาบนัก ต่อมาไม่ค่อยได้ฉีดเลยเจอบ่อยขึ้น น้องสาวก็ใช้บ้านแมลงสาบตลอด ส่วนผู้เขียนชอบใช้เหยื่อพิษมากกว่า เพราะจะเห็นผลได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามจะได้ผลเฉพาะในช่วงแรกๆ เท่านั้น ต่อมาแมลงสาบมันฉลาด มันจะไม่กินเหยื่อพิษอีก ก็จะใช้ไม่ได้ผล ประกอบกับทางคุณแม่ไม่อยากฆ่าสัตว์ เลยทำได้เพียงพักเดียว ส่วนน้องสาวถ้าเจอแมลงสาบก็จะบอกแม่ทันที แม่ก็จะจับไปปล่อยให้ เป็นเช่นนี้ตลอด ญาติรู้เรื่องเข้าเลยมีความคิดว่าทำไมไม่จับเอง ต้องใช้แม่ตลอด น้องสาวบอกว่าจะกล้าจับ ญาติเลยมีความคิดว่า ถ้าไม่กล้าจับมือเปล่าก็ใช้ตัวช่วยสิ ก็เลยเป็นที่มาของการทำที่จับแมลงสาบขึ้น ได้ที่จับแมลงสาบออกมาดังรูป
ที่จับนี้ ทำไม่ยาก แค่ตัดเอาพื้นออกแล้วทำเป็นตัวเสียบเปิดปิดติดแทน ใช้งานง่ายแค่ครอบไปที่ตัวแมลงสาบก็ใช้ได้แล้ว ไม่ต้องกลัวว่ามันจะบินเข้ามาหา แต่ต้องใช้ทักษะนิดหน่อยกรณีมันไม่อยู่นิ่งๆ หรือเข้ามุมอับไม่สามารถครอบได้ แต่ถ้าเกาะอยู่บนกำแพงหรือยืนอยู่บนพื้นโล่งๆ ก็สบาย หลังจากครอบแล้วก็เลื่อนที่ปิด ทำให้แมลงสาบถูกขัง จะหนีออกไปไม่ได้ เสร็จแล้วก็เอาไปปล่อยนอกบ้าน ถ้าจับได้ตอนกลางคืน ก็ทิ้งไว้ แล้วตอนเช้าค่อยเอาไปปล่อย ข้อดีของที่จับแมลงสาบคือมันใส มองเห็นได้ว่าจับได้หรือเปล่า (ถ้าใสเกิน ก็จะเห็นได้ชัดเกินความต้องการ) และสามารถเลื่อนเปิดปิดช่องได้ เวลาจะปล่อยก็สะดวก ตอนนี้เลยมีที่จับแมลงสาบวางไว้ทุกที่และหลายขนาด เจอตอนไหนก็จับได้เลย ถ้าใช้อันใหญ่ สำหรับคนกลัวจะชอบมากและใช้จับสะดวก แต่ถ้าพื้นที่ครอบไม่พอก็จะใช้อันใหญ่ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนมาใช้อันเล็กแทน ที่จับนี้แทบจะไม่ค่อยมีข้อเสียเลย ที่พอเห็นข้อเสียได้คือจับได้ทีละตัวเท่านั้น เวลาเจอมากกว่า 1 ตัว เมื่อจับตัวแรกได้แล้ว ไม่รู้ตัวที่สองตัวที่สามมันวิ่งไปไหนแล้ว ยิ่งถ้าเจอที หลายๆ ตัวมาก ไม่รู้ทำไง ผู้เขียนก็แอบใช้ไบกอนบ้าง ทีเดียวจอด เป็นอันว่าลดปัญหาไปเปาะหนึ่งในกรณีที่เจอแมลงสาบ แต่สำหรับตัวที่ไม่เจอละ เคยศึกษามาว่าถ้าเจอแมลงสาบกี่ตัวก็ตาม จำนวนตัวที่หลบซ่อนอยู่จะมากกว่าจำนวนแมลงสาบที่พบเจอมากกว่า 10 เท่า กล่าวคือ ถ้าพบแมลงสาบ 1 ตัว (ผู้เขียนมักเรียกว่าแมลงสาบหลงทาง เพราะนานๆ เจอที) จะมีตัวที่ซ่อนอยู่ไม่ต่ำกว่า 10 ตัว หลังจากนั้นได้ศึกษาเรื่องของแมลงสาบเยอะมากๆ ทำให้ทราบว่าแมลงสาบหายใจทางท้อง ถ้าท้องของมันโดนน้ำสบู่ น้ำผงซักฟอก หรือน้ำผสมแชมพู มันก็จะหายใจไม่ได้และตายในที่สุด เป็นวิธีกำจัดที่ใช้สิ่งของรอบตัวเรา โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีเลย แค่เตรียมขวดฉีดน้ำ หรือใช้ขวดยาสระผมหมดแล้วก็ได้ ผสมน้ำสบู่หรือผงซักฟอกหรือแชมพูเตรียมไว้ เวลาเจอบีบขวดฉีดน้ำให้โดนท้องของมัน แค่นี้ก็เรียบร้อย ไม่วิ่งไปวิ่งมา พล่านไปทั่วเหมือนโดนไบกอน พอมีวิ่งบ้างแต่ไม่มาก แต่ถ้าโดนแค่หลังของมัน จะใช้ไม่ได้ผล อย่างไรก็ตามเนื่องจากที่บ้าน ไม่ต้องการให้ฆ่าแมลงสาบเลยไม่ค่อยได้ใช้วิธีนี้ ยกเว้นกรณีที่จำเป็น เข้าเรื่องต่อ แล้วตัวที่ไม่เจอละทำไง เหยือพิษก็ใช้ได้ผลเฉพาะในครั้งแรกๆ ต่อมาก็ใช้ไม่ได้ผล ต้องเปลี่ยนชนิดของเหยื่อพิษไปเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่ต้องการฆ่ามันละทำไงดี ดูในหลายๆเวปบอกวิธีล่อไว้ มีเวบหนึ่งบอกให้ทำขวดดักโดยให้ตัดขวดโออิชิ แล้วพลิกด้านฝาขวด ทำเป็นเหมือนกับกรวยน้ำ ดังรูป
ทาน้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูบนกรวย ใส่อาหารล่อ แล้ววางไว้ตรงมุมถังขยะ ข้างหรือหลังตู้ ใต้เตียง หรือบริเวณที่เราสงสัยว่ามันชอบมาเดินเล่น ที่นี้แล้วจะใช้อาหารอะไรล่อดี บางเวปบอกน้ำหวานบ้าง ของที่กินเหลือบ้าง ยิ่งมีกลิ่นเหม็นเน่าบ้างยิ่งดี อาหารสุนัขหรืออาหารแมว เป็นต้น แต่ที่บ้านมีมด คิดว่าขืนใช้ของพวกนี้มดมาเต็มแน่ เลยใช้เบียร์แทน แปลกวางเป็นสัปดาห์มดไม่มาสักตัว ใช้เบียร์นิดเดียวให้มีกลิ่นก็พอ ผลที่ได้คือมีแมลงสาบลงไปเกือบทุกวัน ตัวเดียวบ้างหลายตัวบ้าง นึกว่าที่บ้านจะมีแต่พันธ์อเมริกา ที่ไหนได้พันธ์ยุโรปก็มี หลายหลากเผ่าด้วย สงสัยพวกนี้ชอบดื่มเบียร์กัน มีข้อสังเกตุนิดหนึ่ง ถ้าจุดที่วางเป็นมุมอับ มืด จะได้ผลดี ในกรณีที่ใส่เบียร์มาเกินไป ระดับน้ำสูงเกินครึ่งเซ็นต์พบว่าแมลงสาบมักจะจมน้ำตาย อันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าแมลงสาบหายใจทางท้องจริงๆ คุณแม่ไม่อยากให้มันตาย ผู้เขียนเลยต้องพยายามใส่ไม่ให้ถึงครึ่งเซ็นต์ ถ้าไม่ติดสัก 2-3 วัน ก็เปลี่ยนที่ แสดงว่าไม่ใช่จุดที่แมลงสาบชอบมาเดินเล่น เบียร์ที่เทในขวดดักแล้วใช้ได้ประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นไม่พบว่ามีแมลงสาบมาติด ในกรณีที่มีแมลงสาบมาติด ถ้าไม่ตายก็นำไปปล่อย (บางครั้งลืมปล่อย ตายไปหลายตัว) แล้วก็ทิ้งขวดดักลงถังขยะ เคยเอาขวดดักมารีไซเคิล โดยล้างให้สะอาด นำไปใส่เบียร์ แล้ววางล่อไว้ พบว่าใช้ได้อีกแค่ครั้ง สองครั้งเท่านั้น แล้วแมลงสาบมันจะไม่มาติดอีก ผู้เขียนเข้าใจว่าเวลาแมลงสาบมันอยู่ในขวด มันจะอึ หรือปล่อยสารบางอย่างในขวดนั้น เพื่อเตือนพรรคพวกของมันว่าในนี้มีอันตราย อย่าเข้ามา ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ขวดดักซ้ำๆ หลายๆครั้ง ได้ ขวดเบียร์ที่หมดแล้วก็ใช้ได้ แค่เอาน้ำมันทาที่ปากขวด แล้ววางขวดให้ฝาขวดผิงกำแพงบริเวณที่พบแมลงสาบบ่อยๆ เช่นกำแพงตรงถังขยะเป็นต้น มักจะได้แมลงสาบติดมาดังภาพ
ในกรณีใต้ตู้ ใต้เตียง ปกติจะไม่สามารถเอาขวดดักไปวางได้ จึงได้ออกแบบขวดดักใหม่ ดังภาพ สามารถวางได้ทุกที สะดวกมาก ไม่ต้องเก็บหรือเช็คทุกวัน เพราะมีที่ว่างให้มันเข้าไปได้หลายตัว ส่วนเบียร์ที่ใช้ล่อก็ใส่นิดเดียว บางครั้งก็ใส่กระดาษทิสชู่ที่ใช้เช็คน้ำเบียร์ที่หกเข้าไปด้วยเลย ก็สามารถใช้ได้ผล ตามรูป (เนื่องจากมาเก็บรูปในระยะหลังๆ แล้ว แม้วางไว้ทั้งสัปดาห์ ก็พบแมลงสาบไม่มากนัก)
อย่างไรก็ตาม เมื่อดักบ่อยๆ จำนวนตัวและครั้งที่ติดก็น้อยลงไปเรื่อยๆ มันคงจะบอกเพื่อนๆ มันว่าอย่าไปดื่มเบียร์นะ เดี๋ยวจะโดนอุ้มหายตัวไป ระยะหลังจึงติดไม่ค่อยบ่อย หรือไม่ก็จำนวนของแมลงสาบคงลดน้อยลงไปมากแล้ว
ที่นี้มาคิดว่าผู้เขียนจะทำให้บ้านไม่มีแมลงสาบหรือมีให้น้อยที่สุดได้อย่างไร เพราะแมลงสาบแพร่พันธ์เร็วมาก รบกันมาหลายรุ่นแล้ว ไม่จบซักที เลยคิดว่าต้องใช้ 2 กลยุทธ์ควบคู่กัน กลยุทธ์แรก เป็นการกำจัดหรือเอาออกจากพื้นที่ ทั้งที่เห็นตัวและไม่เห็นตัว ซึ่งได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว กลยุทธ์ที่สอง เป็นการป้องกัน คือ ทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้แมลงสาบตัวใหม่ๆ มันเข้ามาในบ้านอีก หรือตัวเก่าๆ ที่ยังอยู่และสามารถออกไปเองได้ (ไม่ได้เป็นแมลงสาบหลงทาง ติดอยู่ในห้องที่ปิดตาย) หลังจากทดลองมาหลายวิธี พบว่าวิธีต่างๆ ด้านล่างนี้ ได้ผลเป็นที่พอใจในระดับหนึ่ง
1. รักษาความสะอาด และกำจัดเศษอาหารให้หมด แม้ว่าแมลงสาบจะกินได้เกือบทุกอย่าง และอดน้ำได้ถึง 7 วัน แต่มันก็ชอบเศษอาหารและอยู่ในที่ชื่นแฉะมากกว่า การกำจัดอาหารโปรดของมัน จึงทำให้โอกาสที่มันจะเข้ามาลดน้อยลง ดังนั้นวิธีนี้เพียงอย่างเดียวจึงได้ผลเพียงแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น (อย่างไรก็ตามหัวข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าไม่ตั้งต้นให้ดีแล้ว แม้วิธีที่สอง และสาม จะมีประสิทธิภาพเพียงไร ก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ ดังที่คาดหวังได้)
2. ใช้ EM เข้มข้นหรือน้ำชีวภาพเข้มข้น เทใส่ในรูท่อระบายน้ำ ท่อน้ำทิ้งตามห้องน้ำและห้องครัวทุกเดือน แมลงสาบมันไม่ชอบของพวกนี้ ทำให้มันไม่ค่อยขึ้นมาทางท่อระบายน้ำเหล่านี้ ดังนั้นวิธีนี้จึงได้ผลในระดับหนึ่ง เช่นกัน
3. ใช้เครื่องไล่แมลงสาบที่มีประสิทธิภาพ ได้ไปศึกษาเครื่องไล่หลายตัว พบว่าในท้องตลาดมีหลากหลายให้เลือก และมีหลายระดับราคา ผู้เขียนได้ทำการทดสอบหลายเครื่อง พบว่ามีเครื่องไล่ตัวหนึ่ง มีประสิทธิภาพและใช้ได้ผลจริง จึงทำการติดตามผลต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อยืนยัน ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ ผู้เขียนเลยซื้อมาติดหลายจุดที่บ้าน และบอกต่อกับเพื่อนๆ ถึงประสิทธิภาพของเครื่องตัวนี้ เพื่อให้ไปลองใช้กัน ผลตอบรับที่ได้ ส่วนใหญ่เป็นที่น่าพอใจ ผู้เขียนเลยนำมาบอกต่อกัน เครื่องไล่รุ่นนี้ ผู้เขียนสั่งซื้อเข้ามา ไม่มีขายในเมืองไทย จริงๆ ในเมืองไทยก็มีขายเครื่องไล่กันเยอะ ผู้เขียนไม่ขอวิจารณ์เครื่องที่ไม่เข้าตา ในตลาดเห็นหลายเครื่อง เดี๋ยวจะถูกฟ้องร้อง (ผู้เขียนเข้าใจว่าเครื่องที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงหรือสูงกว่าเครื่องที่ผู้เขียนใช้ มีอยู่ แต่ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกที่ผู้เขียนนำมาทดลอง) สำหรับข้อดี ข้อเสีย ของเครื่องไล่รุ่นนี้ครับ ข้อดี คือ
1. เครื่องนี้ไล่ได้ทั้งแมลงสาบ หนู ยุง ตัวไร ตัวเรือด ตัวเห็บ ตัวหมัด แมงมุม แต่ผู้เขียนเน้นแมลงสาบและหนูเป็นหลัก (กรณีของหนู อยู่ๆที่ทำงานเกิดมีหนูขึ้น เลยเอามาลองใช้ดู พบว่าใช้ได้ผล แต่ต้องปิดทางเข้าของหนูให้หมดเท่าที่ทำได้ เพื่อลดโอกาสที่หนูจะเข้ามา คราวหน้าจะผู้เขียนแชร์ประสบการณ์ไล่หนูให้ฟัง)
2. เครื่องไล่นี้ปล่อยทั้งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ และคลื่นอัลตราโซนิค โดยเฉพาะคลื่นอัลตราโซนิคจะมีฟังก์ชั่นการเปลี่ยนแปลงความถี่โดยอัตโนมัติ เพื่อมิให้สัตว์หรือแมลงที่ต้องการขับไล่ เกิดความชินกับคลื่นความถี่ เหมือนกับเครื่องที่ปล่อยคลื่นความถี่คงที่ตลอดเวลา
3. มีฟังก์ชันสามารถกดเลือกเพื่อเพิ่มความเข้มของคลื่นอัตราโซนิคได้ ไว้ใช้ในช่วงที่ไม่อยู่บ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไล่
อย่างไรก็ตามเครื่องรุ่นนี้ก็มีข้อเสียนะครับ อย่างแรกเลย ถ้ากดเลือกเพิ่มความเข้มของคลื่นอัตราโซนิค ไม่ใช่แค่สัตว์หรือแมลงครับ คนก็อยู่ไม่ได้ครับ ข้อเสียต่อครับ เครื่องนี้มักจะได้ผลน้อยกับแมลงสาบตัวเล็กๆ สีชาๆ หรือเพื่อนผู้เขียนชอบเรียกว่าแมลงสาบคอนโดครับ พวกนี้มาทางท่อระบายน้ำ ทางแก้คือผู้เขียนแนะให้เพื่อนให้ผงจุลินทรีย์ใส่ในท่อระบายน้ำทุกเดือน ช่วยลดไปได้เยอะครับ และทำให้ท่อระบายน้ำไม่มีกลิ่นอีกด้วย
หลังจากพบคำตอบและสามารถจัดการกับแมลงสาบจนได้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้ว จึงต้องการแชร์เพื่อเป็นความรู้ให้กับผู้ที่สนใจต่อไป ที่แชร์ก็เพราะเข้าใจความรู้สึกของตนเองตอนที่อยากจะจัดการให้เรื่องนี้มันจบ ไม่มากวนใจอีกต่อไป สินค้าต่างๆ จริงๆ แล้ว หากผู้อ่านสนใจสามารถทำได้เอง หรือ สั่งซื้อได้เองจากร้านที่ไว้ใจได้นะครับ หรือจะติดต่อผู้เขียนได้ทาง หลังไมค์หรือทางไลน์ครับ bankcozy
แชร์การไล่ หรือกำจัดแมลงสาบ จากประสบการณ์จริง
ก่อนอื่นขอเกร่นที่มาหรือแรงบันดาลใจก่อน เรื่องมีอยู่ว่าตอนเด็กๆ ได้ไปอาศัยที่บ้านปู่ย่า ซึ่งพอตกกลางคืนจะมีแมลงสาบออกมามากมาย นับไม่ได้ บินบ้าง ไต่บ้าง เต็มไปหมด ชั้นสองที่นอนไม่มีห้องน้ำ ต้องลงมาเข้าชั้นล่าง แต่พอมาเจอสภาพแบบนี้ ถ้ากลั้นจนเช้าได้ จะกลั้น ถ้าไม่ไหวก็ลุยกัน แต่แปลกพอตอนเช้าจะไม่เห็นเลยแม้แต่ตัวเดียว หรือถ้าวันไหนฝนตก แมลงสาบก็จะขึ้นมาจากท่อระบายน้ำเป็นร้อยๆ ตัว สมัยก่อนก็เหยียบอย่างเดียว ไม่อยากให้เข้าบ้าน แต่ต้องใส่รองเท้าไม่กล้าเหยียบขาเปล่า เดี๋ยวมันเหม็นติดเท้า เดี๋ยวจะติดเชื้อโรค มันเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ไม่ชอบแมลงสาบตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่ถึงกลับเกลียดหรือกลัวมาก ในขณะที่น้องสาวจะเกลียดและกลัวมาก ต่อมาย้ายไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ แรกๆ ที่บ้านก็มีการฉีดปลวกทุกปี ก็ไม่ค่อยจะเจอพวกแมลงสาบนัก ต่อมาไม่ค่อยได้ฉีดเลยเจอบ่อยขึ้น น้องสาวก็ใช้บ้านแมลงสาบตลอด ส่วนผู้เขียนชอบใช้เหยื่อพิษมากกว่า เพราะจะเห็นผลได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามจะได้ผลเฉพาะในช่วงแรกๆ เท่านั้น ต่อมาแมลงสาบมันฉลาด มันจะไม่กินเหยื่อพิษอีก ก็จะใช้ไม่ได้ผล ประกอบกับทางคุณแม่ไม่อยากฆ่าสัตว์ เลยทำได้เพียงพักเดียว ส่วนน้องสาวถ้าเจอแมลงสาบก็จะบอกแม่ทันที แม่ก็จะจับไปปล่อยให้ เป็นเช่นนี้ตลอด ญาติรู้เรื่องเข้าเลยมีความคิดว่าทำไมไม่จับเอง ต้องใช้แม่ตลอด น้องสาวบอกว่าจะกล้าจับ ญาติเลยมีความคิดว่า ถ้าไม่กล้าจับมือเปล่าก็ใช้ตัวช่วยสิ ก็เลยเป็นที่มาของการทำที่จับแมลงสาบขึ้น ได้ที่จับแมลงสาบออกมาดังรูป
ที่จับนี้ ทำไม่ยาก แค่ตัดเอาพื้นออกแล้วทำเป็นตัวเสียบเปิดปิดติดแทน ใช้งานง่ายแค่ครอบไปที่ตัวแมลงสาบก็ใช้ได้แล้ว ไม่ต้องกลัวว่ามันจะบินเข้ามาหา แต่ต้องใช้ทักษะนิดหน่อยกรณีมันไม่อยู่นิ่งๆ หรือเข้ามุมอับไม่สามารถครอบได้ แต่ถ้าเกาะอยู่บนกำแพงหรือยืนอยู่บนพื้นโล่งๆ ก็สบาย หลังจากครอบแล้วก็เลื่อนที่ปิด ทำให้แมลงสาบถูกขัง จะหนีออกไปไม่ได้ เสร็จแล้วก็เอาไปปล่อยนอกบ้าน ถ้าจับได้ตอนกลางคืน ก็ทิ้งไว้ แล้วตอนเช้าค่อยเอาไปปล่อย ข้อดีของที่จับแมลงสาบคือมันใส มองเห็นได้ว่าจับได้หรือเปล่า (ถ้าใสเกิน ก็จะเห็นได้ชัดเกินความต้องการ) และสามารถเลื่อนเปิดปิดช่องได้ เวลาจะปล่อยก็สะดวก ตอนนี้เลยมีที่จับแมลงสาบวางไว้ทุกที่และหลายขนาด เจอตอนไหนก็จับได้เลย ถ้าใช้อันใหญ่ สำหรับคนกลัวจะชอบมากและใช้จับสะดวก แต่ถ้าพื้นที่ครอบไม่พอก็จะใช้อันใหญ่ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนมาใช้อันเล็กแทน ที่จับนี้แทบจะไม่ค่อยมีข้อเสียเลย ที่พอเห็นข้อเสียได้คือจับได้ทีละตัวเท่านั้น เวลาเจอมากกว่า 1 ตัว เมื่อจับตัวแรกได้แล้ว ไม่รู้ตัวที่สองตัวที่สามมันวิ่งไปไหนแล้ว ยิ่งถ้าเจอที หลายๆ ตัวมาก ไม่รู้ทำไง ผู้เขียนก็แอบใช้ไบกอนบ้าง ทีเดียวจอด เป็นอันว่าลดปัญหาไปเปาะหนึ่งในกรณีที่เจอแมลงสาบ แต่สำหรับตัวที่ไม่เจอละ เคยศึกษามาว่าถ้าเจอแมลงสาบกี่ตัวก็ตาม จำนวนตัวที่หลบซ่อนอยู่จะมากกว่าจำนวนแมลงสาบที่พบเจอมากกว่า 10 เท่า กล่าวคือ ถ้าพบแมลงสาบ 1 ตัว (ผู้เขียนมักเรียกว่าแมลงสาบหลงทาง เพราะนานๆ เจอที) จะมีตัวที่ซ่อนอยู่ไม่ต่ำกว่า 10 ตัว หลังจากนั้นได้ศึกษาเรื่องของแมลงสาบเยอะมากๆ ทำให้ทราบว่าแมลงสาบหายใจทางท้อง ถ้าท้องของมันโดนน้ำสบู่ น้ำผงซักฟอก หรือน้ำผสมแชมพู มันก็จะหายใจไม่ได้และตายในที่สุด เป็นวิธีกำจัดที่ใช้สิ่งของรอบตัวเรา โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีเลย แค่เตรียมขวดฉีดน้ำ หรือใช้ขวดยาสระผมหมดแล้วก็ได้ ผสมน้ำสบู่หรือผงซักฟอกหรือแชมพูเตรียมไว้ เวลาเจอบีบขวดฉีดน้ำให้โดนท้องของมัน แค่นี้ก็เรียบร้อย ไม่วิ่งไปวิ่งมา พล่านไปทั่วเหมือนโดนไบกอน พอมีวิ่งบ้างแต่ไม่มาก แต่ถ้าโดนแค่หลังของมัน จะใช้ไม่ได้ผล อย่างไรก็ตามเนื่องจากที่บ้าน ไม่ต้องการให้ฆ่าแมลงสาบเลยไม่ค่อยได้ใช้วิธีนี้ ยกเว้นกรณีที่จำเป็น เข้าเรื่องต่อ แล้วตัวที่ไม่เจอละทำไง เหยือพิษก็ใช้ได้ผลเฉพาะในครั้งแรกๆ ต่อมาก็ใช้ไม่ได้ผล ต้องเปลี่ยนชนิดของเหยื่อพิษไปเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่ต้องการฆ่ามันละทำไงดี ดูในหลายๆเวปบอกวิธีล่อไว้ มีเวบหนึ่งบอกให้ทำขวดดักโดยให้ตัดขวดโออิชิ แล้วพลิกด้านฝาขวด ทำเป็นเหมือนกับกรวยน้ำ ดังรูป
ทาน้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูบนกรวย ใส่อาหารล่อ แล้ววางไว้ตรงมุมถังขยะ ข้างหรือหลังตู้ ใต้เตียง หรือบริเวณที่เราสงสัยว่ามันชอบมาเดินเล่น ที่นี้แล้วจะใช้อาหารอะไรล่อดี บางเวปบอกน้ำหวานบ้าง ของที่กินเหลือบ้าง ยิ่งมีกลิ่นเหม็นเน่าบ้างยิ่งดี อาหารสุนัขหรืออาหารแมว เป็นต้น แต่ที่บ้านมีมด คิดว่าขืนใช้ของพวกนี้มดมาเต็มแน่ เลยใช้เบียร์แทน แปลกวางเป็นสัปดาห์มดไม่มาสักตัว ใช้เบียร์นิดเดียวให้มีกลิ่นก็พอ ผลที่ได้คือมีแมลงสาบลงไปเกือบทุกวัน ตัวเดียวบ้างหลายตัวบ้าง นึกว่าที่บ้านจะมีแต่พันธ์อเมริกา ที่ไหนได้พันธ์ยุโรปก็มี หลายหลากเผ่าด้วย สงสัยพวกนี้ชอบดื่มเบียร์กัน มีข้อสังเกตุนิดหนึ่ง ถ้าจุดที่วางเป็นมุมอับ มืด จะได้ผลดี ในกรณีที่ใส่เบียร์มาเกินไป ระดับน้ำสูงเกินครึ่งเซ็นต์พบว่าแมลงสาบมักจะจมน้ำตาย อันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าแมลงสาบหายใจทางท้องจริงๆ คุณแม่ไม่อยากให้มันตาย ผู้เขียนเลยต้องพยายามใส่ไม่ให้ถึงครึ่งเซ็นต์ ถ้าไม่ติดสัก 2-3 วัน ก็เปลี่ยนที่ แสดงว่าไม่ใช่จุดที่แมลงสาบชอบมาเดินเล่น เบียร์ที่เทในขวดดักแล้วใช้ได้ประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นไม่พบว่ามีแมลงสาบมาติด ในกรณีที่มีแมลงสาบมาติด ถ้าไม่ตายก็นำไปปล่อย (บางครั้งลืมปล่อย ตายไปหลายตัว) แล้วก็ทิ้งขวดดักลงถังขยะ เคยเอาขวดดักมารีไซเคิล โดยล้างให้สะอาด นำไปใส่เบียร์ แล้ววางล่อไว้ พบว่าใช้ได้อีกแค่ครั้ง สองครั้งเท่านั้น แล้วแมลงสาบมันจะไม่มาติดอีก ผู้เขียนเข้าใจว่าเวลาแมลงสาบมันอยู่ในขวด มันจะอึ หรือปล่อยสารบางอย่างในขวดนั้น เพื่อเตือนพรรคพวกของมันว่าในนี้มีอันตราย อย่าเข้ามา ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ขวดดักซ้ำๆ หลายๆครั้ง ได้ ขวดเบียร์ที่หมดแล้วก็ใช้ได้ แค่เอาน้ำมันทาที่ปากขวด แล้ววางขวดให้ฝาขวดผิงกำแพงบริเวณที่พบแมลงสาบบ่อยๆ เช่นกำแพงตรงถังขยะเป็นต้น มักจะได้แมลงสาบติดมาดังภาพ
ในกรณีใต้ตู้ ใต้เตียง ปกติจะไม่สามารถเอาขวดดักไปวางได้ จึงได้ออกแบบขวดดักใหม่ ดังภาพ สามารถวางได้ทุกที สะดวกมาก ไม่ต้องเก็บหรือเช็คทุกวัน เพราะมีที่ว่างให้มันเข้าไปได้หลายตัว ส่วนเบียร์ที่ใช้ล่อก็ใส่นิดเดียว บางครั้งก็ใส่กระดาษทิสชู่ที่ใช้เช็คน้ำเบียร์ที่หกเข้าไปด้วยเลย ก็สามารถใช้ได้ผล ตามรูป (เนื่องจากมาเก็บรูปในระยะหลังๆ แล้ว แม้วางไว้ทั้งสัปดาห์ ก็พบแมลงสาบไม่มากนัก)
อย่างไรก็ตาม เมื่อดักบ่อยๆ จำนวนตัวและครั้งที่ติดก็น้อยลงไปเรื่อยๆ มันคงจะบอกเพื่อนๆ มันว่าอย่าไปดื่มเบียร์นะ เดี๋ยวจะโดนอุ้มหายตัวไป ระยะหลังจึงติดไม่ค่อยบ่อย หรือไม่ก็จำนวนของแมลงสาบคงลดน้อยลงไปมากแล้ว
ที่นี้มาคิดว่าผู้เขียนจะทำให้บ้านไม่มีแมลงสาบหรือมีให้น้อยที่สุดได้อย่างไร เพราะแมลงสาบแพร่พันธ์เร็วมาก รบกันมาหลายรุ่นแล้ว ไม่จบซักที เลยคิดว่าต้องใช้ 2 กลยุทธ์ควบคู่กัน กลยุทธ์แรก เป็นการกำจัดหรือเอาออกจากพื้นที่ ทั้งที่เห็นตัวและไม่เห็นตัว ซึ่งได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว กลยุทธ์ที่สอง เป็นการป้องกัน คือ ทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้แมลงสาบตัวใหม่ๆ มันเข้ามาในบ้านอีก หรือตัวเก่าๆ ที่ยังอยู่และสามารถออกไปเองได้ (ไม่ได้เป็นแมลงสาบหลงทาง ติดอยู่ในห้องที่ปิดตาย) หลังจากทดลองมาหลายวิธี พบว่าวิธีต่างๆ ด้านล่างนี้ ได้ผลเป็นที่พอใจในระดับหนึ่ง
1. รักษาความสะอาด และกำจัดเศษอาหารให้หมด แม้ว่าแมลงสาบจะกินได้เกือบทุกอย่าง และอดน้ำได้ถึง 7 วัน แต่มันก็ชอบเศษอาหารและอยู่ในที่ชื่นแฉะมากกว่า การกำจัดอาหารโปรดของมัน จึงทำให้โอกาสที่มันจะเข้ามาลดน้อยลง ดังนั้นวิธีนี้เพียงอย่างเดียวจึงได้ผลเพียงแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น (อย่างไรก็ตามหัวข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าไม่ตั้งต้นให้ดีแล้ว แม้วิธีที่สอง และสาม จะมีประสิทธิภาพเพียงไร ก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ ดังที่คาดหวังได้)
2. ใช้ EM เข้มข้นหรือน้ำชีวภาพเข้มข้น เทใส่ในรูท่อระบายน้ำ ท่อน้ำทิ้งตามห้องน้ำและห้องครัวทุกเดือน แมลงสาบมันไม่ชอบของพวกนี้ ทำให้มันไม่ค่อยขึ้นมาทางท่อระบายน้ำเหล่านี้ ดังนั้นวิธีนี้จึงได้ผลในระดับหนึ่ง เช่นกัน
3. ใช้เครื่องไล่แมลงสาบที่มีประสิทธิภาพ ได้ไปศึกษาเครื่องไล่หลายตัว พบว่าในท้องตลาดมีหลากหลายให้เลือก และมีหลายระดับราคา ผู้เขียนได้ทำการทดสอบหลายเครื่อง พบว่ามีเครื่องไล่ตัวหนึ่ง มีประสิทธิภาพและใช้ได้ผลจริง จึงทำการติดตามผลต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อยืนยัน ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ ผู้เขียนเลยซื้อมาติดหลายจุดที่บ้าน และบอกต่อกับเพื่อนๆ ถึงประสิทธิภาพของเครื่องตัวนี้ เพื่อให้ไปลองใช้กัน ผลตอบรับที่ได้ ส่วนใหญ่เป็นที่น่าพอใจ ผู้เขียนเลยนำมาบอกต่อกัน เครื่องไล่รุ่นนี้ ผู้เขียนสั่งซื้อเข้ามา ไม่มีขายในเมืองไทย จริงๆ ในเมืองไทยก็มีขายเครื่องไล่กันเยอะ ผู้เขียนไม่ขอวิจารณ์เครื่องที่ไม่เข้าตา ในตลาดเห็นหลายเครื่อง เดี๋ยวจะถูกฟ้องร้อง (ผู้เขียนเข้าใจว่าเครื่องที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงหรือสูงกว่าเครื่องที่ผู้เขียนใช้ มีอยู่ แต่ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกที่ผู้เขียนนำมาทดลอง) สำหรับข้อดี ข้อเสีย ของเครื่องไล่รุ่นนี้ครับ ข้อดี คือ
1. เครื่องนี้ไล่ได้ทั้งแมลงสาบ หนู ยุง ตัวไร ตัวเรือด ตัวเห็บ ตัวหมัด แมงมุม แต่ผู้เขียนเน้นแมลงสาบและหนูเป็นหลัก (กรณีของหนู อยู่ๆที่ทำงานเกิดมีหนูขึ้น เลยเอามาลองใช้ดู พบว่าใช้ได้ผล แต่ต้องปิดทางเข้าของหนูให้หมดเท่าที่ทำได้ เพื่อลดโอกาสที่หนูจะเข้ามา คราวหน้าจะผู้เขียนแชร์ประสบการณ์ไล่หนูให้ฟัง)
2. เครื่องไล่นี้ปล่อยทั้งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ และคลื่นอัลตราโซนิค โดยเฉพาะคลื่นอัลตราโซนิคจะมีฟังก์ชั่นการเปลี่ยนแปลงความถี่โดยอัตโนมัติ เพื่อมิให้สัตว์หรือแมลงที่ต้องการขับไล่ เกิดความชินกับคลื่นความถี่ เหมือนกับเครื่องที่ปล่อยคลื่นความถี่คงที่ตลอดเวลา
3. มีฟังก์ชันสามารถกดเลือกเพื่อเพิ่มความเข้มของคลื่นอัตราโซนิคได้ ไว้ใช้ในช่วงที่ไม่อยู่บ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไล่
อย่างไรก็ตามเครื่องรุ่นนี้ก็มีข้อเสียนะครับ อย่างแรกเลย ถ้ากดเลือกเพิ่มความเข้มของคลื่นอัตราโซนิค ไม่ใช่แค่สัตว์หรือแมลงครับ คนก็อยู่ไม่ได้ครับ ข้อเสียต่อครับ เครื่องนี้มักจะได้ผลน้อยกับแมลงสาบตัวเล็กๆ สีชาๆ หรือเพื่อนผู้เขียนชอบเรียกว่าแมลงสาบคอนโดครับ พวกนี้มาทางท่อระบายน้ำ ทางแก้คือผู้เขียนแนะให้เพื่อนให้ผงจุลินทรีย์ใส่ในท่อระบายน้ำทุกเดือน ช่วยลดไปได้เยอะครับ และทำให้ท่อระบายน้ำไม่มีกลิ่นอีกด้วย
หลังจากพบคำตอบและสามารถจัดการกับแมลงสาบจนได้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้ว จึงต้องการแชร์เพื่อเป็นความรู้ให้กับผู้ที่สนใจต่อไป ที่แชร์ก็เพราะเข้าใจความรู้สึกของตนเองตอนที่อยากจะจัดการให้เรื่องนี้มันจบ ไม่มากวนใจอีกต่อไป สินค้าต่างๆ จริงๆ แล้ว หากผู้อ่านสนใจสามารถทำได้เอง หรือ สั่งซื้อได้เองจากร้านที่ไว้ใจได้นะครับ หรือจะติดต่อผู้เขียนได้ทาง หลังไมค์หรือทางไลน์ครับ bankcozy