ขอเกิ่ลก่อนนะครับ นี่เป็นเรื่องราวเรื่องแรกของผมที่จะได้เขียนลงไปในนี้นะครับ
ผมอายุ 27 ปี แฟนผมอายุ 34 ปี ซึ่งห่างกัน 7 ปี
เรื่องราวความรักของผมเกิดขึ้นเมื่อตอนวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ผมขอไม่บอกและกันนะครับว่าเราเจอกันได้ยังไง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตัวผมเองอยู่แถวศาลายา แฟนผมอยู่ที่บางแสน ซึ่งเราทั้ง 2 คนเองก็ไม่คิดว่าเราจะมากันถึงจุดนี้ได้
จุดนี้ที่ว่าก็คือ ตัวผมเองก็ยังคิดเลยว่า ผมจะสามารถขับรถไปหาเเฟนผม(สมัยที่ยังไม่ได้คบกัน) ได้สักกี่ครั้งกันเชียว? แต่แฟนของผมก็ไม่เคยขับรถไปหาผู้ชายก่อนเลยสักครั้งเดียว ซึ่งครั้งแรกที่เราได้เจอกัน มันเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผมได้คุยกับเค้า ก่อนที่ผมจะชักชวนแฟนของผมไปเที่ยวที่กาญจนบุรี เพราะตอนนั้นใจจริงของผม ผมไปเที่ยวผมก็อยากพาคนที่ผมอยากพาไปด้วยกัน ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมทำให้เค้าขับรถมาหาผมได้ยังไง แต่มีหนึ่งเหตุผลที่ผมได้ให้เค้าไปก็คือ ตัวผมเองมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และกำลังรอวันผ่าตัด ผมก็เลยอยากให้เค้าไปเที่ยวกับผม (อาจจะดูเห็นเเก่ตัวไป) แต่ผมอาจจะได้คิวผ่าตัดแล้วเดินไม่ได้เป็นเดือนก่อนที่จะได้ไปเที่ยวก็ได้
พอถึงวันที่เราได้ไปเที่ยวกัน แฟนของผมเลิกงานในเย็นวันศุกร์ก็ได้ขับรถมาจากบางแสน เพื่อมากับผม บอกตรงๆนะ ผมเป็นผู้ชายก็จริงแต่ผมก็ให้เกียรติแฟนของผมนะครับ และพอเราได้พบกันคืนวันนั้นผมก็ได้ขับรถไปนอนพักที่ตัวเมืองกาญฯ จนกระทั่งถึงตอนเช้า เราก็เดินทางต่อไปยังที่พักที่ได้จองไว้(เเพ) และผมก็ได้ทำให้แฟนของผมมาเที่ยวพักผ่อนได้อย่างสบายใจ
จนกลับมาถึงกทมในวันอาทิตย์เราก็ได้แยกย้ายกัน แฟนของผมก็กลับบ้านที่บางแสน แต่พอหลังจากนั้นตัวผมเองก็ลังเลใจว่าผมจะไปหาเค้าที่บางแสนบ้างดีมั้ย?
แต่ผมก็ตัดสินใจขับรถไปในสัปดาห์ถัดมา และในใจผมก็คิดว่า (กูจะมาได้สักกี่ครั้งว้า) ซึ่งถ้าพูดภาษาบ้านๆก็เหมือนกับใจแลกใจ เค้ามาหาผมได้ ผมก็ต้องไปหาเค้าได้สิวะ
แต่พอเวลาผ่านไปนานวันเข้า เราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น เราคุยกันทุกวัน ผมตื่นนอนก็โทรหาเค้า เย็นก็โทรหา ก่อนนอนก็โทรหา เรา VDO Call คุยกันทุกวัน กล้าพูดเรื่องที่ไม่สามารถพูดกับคนอื่นๆได้ เรามีการปรึกษากับปัญหาต่างๆที่เราทั้ง 2 ได้เจอ และช่วยกันแนะนำเเก้ไขปัญหากันไป แต่ปัญหาของแฟนผมอาจจะค่อนข้างเยอะ เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาดของแฟนผมเองในอดีต ไม่ว่าจะหนี้สินหรือเรื่องงาน และผมก็เพิ่งมารู้ว่าแฟนของผมมีลูกมาแล้วคนหนึง เทอบอกผมตอนที่ผมนอนผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาล ผมเองก็ผิดหวังที่ผมอยากให้คนที่เราอยากให้อยู่ใกล้เราที่สุด มาอยู่ข้างๆเรา แต่แฟนของผมก็ไม่ได้มา
หลังจากที่ผมออกจาก รพ. เทอก็ได้บอกผมว่าเทอมีเรื่องอึดอัดที่อยากจะพูดก็คือเรื่องลูก แต่ด้วยตัวผมและครอบครัวของผม ไม่มองว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นปัญหาสำหรับครอบครัวผม เพราะตัวแฟนผมก็กลัวที่ผมจะรับไม่ได้เช่นกัน แต่ปรากฏว่าผมไม่ได้เอาเรื่องของลูกเค้ามาเป็นปัญหาสำหรับความรักของผม จนกระทั่งเเฟนผมได้ขับรถมาเยี่ยมผมที่บ้าน แต่มาแค่แป๊ปเดียว จนตัวผมก็อยากจะไปอยู่ในเค้าดูแลผมที่คอนโดของแฟนผม ผมจึงตัดสินใจไปอยู่กับแฟนของผมเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังผ่าตัด
(คลิ๊กลิ้งเพื่อดูรูป)
[img]http://www.mx7.com/i/01c/wrtnsd.jpg[/img]
ซึ่งแฟนของผมก็ดูแลผมดีมาก ในเวลาที่เค้าทำงาน พอมีจังหวะออกมาได้สักพัก เทอก็จะรีบขับรถมาหาผมที่คอนโดแล้วเอาข้าว เอาน้ำมาให้ผมกินตลอดอาทิตย์นั้น เพราะตัวผมเองก็ต้องใช้ไม้เท้า 2 ข้างในการช่วยเดิน ซึ่งผมประทับใจกับแฟนของผมมาก จนผ่านไปกระทั่งผมสามารถเดินได้บ้างแล้ว ผมก็เริ่มขับรถมาหาแฟนผมทุกอาทิตย์
และปกติเวลาที่ผมได้มาบางแสนผมก็อยากจะไปนั่งกินข้าวที่ร้านอาหารของน้องชายแฟนผม จากนั้นก็ต่อด้วยการดูหนังเรื่องต่างๆ และส่วนใหญ่เราจะมาจบที่สุดท้ายก็คือ ริมทะเลหาดวอน เพราะเทอบอกผมว่า ตัวเทอเองบ้านอยู่นี่ก็จริง แต่เทอก็ไม่เคยได้ออกมาลองนั่งหรือลองมาสักครั้ง กลายเป็นผมได้พาแฟนผมมาเปิดประสบการณ์ครั้งแรกพร้อมผม แฟนของผมเค้ารู้สึกดีมากๆ ผมก็มีความสุขที่ทำให้เค้าได้ยิ้มและสบายใจ
ต่อด้วยปัญหาที่เริ่มเข้ามาหาแฟนผม เรื่องเงิน เรื่องรถที่ขายออกไม่ค่อยได้แบบเมื่อก่อน ทำให้ตัวเเฟนผมต้องมีเรื่องเครียด แต่ผมก็อยู่กับเค้าเสมอแม้วันเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน งานก็เริ่มเข้ามาเยอะ แฟนผมก็ต้องทำงานจาก 6 วันเป็น 7 วัน จนดูเหมือนว่าเราจะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม ผมก็เป็นคนไปหาเค้าเองทุกอาทิตย์ ซึ่งเเฟนผมก็อยากมาหาผมที่บ้าน แต่เทอก็ต้องรีบกลับ ผมจึงตัดสินใจว่าถ้าเค้ามา เราก็อยากให้เค้านอนพัก ผมจึงต้องรับหน้าที่ในการขับรถไปหาที่บางเเสนทุกอาทิตย์
ซึ่งในช่วงแรกๆ ผมยอมรับว่าผมอาจจะกดดันเค้ามากเกินไป มันจึงส่งผลให้เกิดปัญหาระหว่างเรา 2 คน และไม่ได้คุยกันเกือบ 2 อาทิตย์ จนผมทนไม่ไหวผมคงจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว โดยวันนั้นที่ผมเดินทางไปที่จะง้อเค้า ผมก็ติดดอกกุหลาบไปหนึ่งดอกพร้อมกับความในใจและความจริงใจที่จะไปพูดกับเค้า พอเราได้เจอกันเราก็นั่งคุยกันอยู่ในรถเกือบ 1 ชม และมันก็ผ่านปัญาครั้งนั้นไปได้ด้วยดี ด้วยการสรุปว่าผมจะไม่ไปกดดันที่อยากให้เค้ามาหาผมที่บ้านมากนักแล้ว
หลังจากนั้นทุกอย่างที่เรื่องก็เริ่มดีขึ้นมา แต่แฟนของผมเค้าจะมีนิสัยบุคลิกฟอร์มเยอะ ซึ่งเวลาผมบอกว่าผมคิดถึงเค้าและผมถามกลับ เทอก็จะเลี่ยงที่จะตอบ จนผมเค้นไปนิดๆจนเทอตอบมาคำว่า อืมมมมมม ผมก็ขยี้เข้าไปอีกจนได้รับคำตอบออกมาตามที่ใจผมอยากได้
แฟนของผมเป็นผู้หญิงที่เก่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา และเทอเป็น ผญ ที่มีค่ามากสำหรับตัวผม (เพราะตัวผมก็อยากมีครอบครัว) แม้เทอจะเป็นคนที่มีฟอร์มเยอะไปหน่อย แต่ผมก็มีความสุขที่ได้คุยได้อยู่กับแฟนผมทุกครั้ง เทอจะไม่ค่อยกล้าแสดงออกกับผมสักเท่าไหร่
จนมาถึงวันที่ผมเกิดปัญหากับเค้าอีกครั้ง ก็คือเมื่อวันที่ 9 กันยายานที่ผ่านมา ผมก็ขับรถไปหาเค้าตามปกติ(เเต่ไม่บอกแฟน) แต่ไม่เจอรถเค้าจอดอยู่ที่บ้าน ผมก็เลยต้องกลับออกมาไปนั่งรออยู่ที่ริมทะเล และเมื่อผมกดโทหาก็ไม่มีการรับสาย ตามมาด้วยข้อความในเเชทไลน์ ว่าเค้ากำลังโมโหกับการตามหาลูกสาวของตัวเค้าอยู่ ซึ่งผมตั้งใจมาแค่กินข้าวกับแฟนของผม แต่ผมก็ไม่ได้คิดมาก คิดในใจเเค่ว่า เด่วรอเเฟนผมเคลียธุระให้เสดก่อนค่อยเจอก็ได้
แต่สิ่งที่ได้รับจากนั้นภายในไม่กี่นาที่ว่า
🎈 เทอ
🎈 เรายังไม่อยากคุยไรกับคัย เราไม่ไหว เราโมโห
🎈 เราหาลูกไม่เจอ
🎈 เราติดต่อลูกไม่ได้
🎈 แค่นี้ก่อน
จนผมก็เข้าใจอารมณ์ของเเฟนผม ผมก็เลยนิ่งแล้วก็ค่อยๆคุย ประคับประคองกันเพื่อที่จะดีอีกครั้ง เเต่....
🎈 ขอบคุน
🎈 สำหรับทุกอย่างนะเทอ
🎈 ขอโทดสำหรับทุกอย่างด้วยเหมือนกัน
🎈 เค้าคงไม่มีเวลาจะดูแลใครหรือมีเวลาให้ใครได้
🎈 เค้าไม่ไหว
แต่เทอก็ยัง..
🎈เค้าไม่อยากให้คนที่รักเรา มาจมปลักกับเรา
🎈เราไม่อยากให้เทอต้องมาเสียความรุ้สึก
🎈 เค้าไม่มีเวลาให้คัย
🎈 เทอเข้าใจเราป่ะ
🎈 ตอนนี้เราต้องหาเวลาที่จะต้องแก้ปันหาที่หนักมาก ณ ตอนนี้
🎈เราคงไม่เหมาะที่จะมีคัยหรอก
🎈เราอยากให้เทอเจอคนที่ดีกว่าเรา
🎈 เค้าไม่มีเวลาให้คัย
🎈 เค้าค้องเจอกับปันหามากมายเหลือเกิน
พอผมบอกว่าให้ใจเย็นๆ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด เค้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และผมพร้อมที่จะอยู่กับเค้า แต่คำตอบที่ได้รับ
🎈เราไม่มีเวลาเอาใจใคร
🎈เค้าอยากยุ่คนเดียว
🎈 เราไม่ต้องการให้ใครมาสู้กับเรา
🎈 เราไม่อยากให้ใครมาจมปลักอยู่กับเรา
🎈 เธอไม่ไปเดี๋ยวเราไปเอง
ปัญหาก็คือผมควรจะทำยังไง ในเมื่อผมรักเค้ามาก
ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้คือแฟนผมเค้าเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในความใส่ใจกับผม จากที่เค้าเเทบไม่ได้จะมาดูแลผมมากนัก แต่เทอก็เริ่มทำตั้งแต่วันที่ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปบางแสน เพือไปนั่งกินข้าวกันที่ร้านน้องชายแฟนผม เค้าก็เริ่มมีก็เช็ดเหงื่อให้ผมบ้าง เวลาอยู่ในรถ 2 คนก็เรื่มจับหน้าผมบ้าง จนครั้งสุดท้ายคือตอนที่เเฟนผมไปเปิดบูธขายรถ Isuzu ที่ตลาดนัดนินจา ของคุณอิชิตัน ผมก็ได้ติดรถไปด้วยเพราะว่าเพิ่งจะเดินทางมาถึง ผมก็อยากใช้เวลากับเค้าให้อย่างคุ้มค่า ก็นอนรอจนเทอเลิกงานประมาน 4 ทุ่ม และก็กลับไปส่งแฟนผมที่บ้าน แต่พอถึงบ้าน ปกติแล้วผมจะได้แค่นั่งรออยู่เเต่ในรถของผม แต่คราวนี้เเฟนผมก็เริ่มชวนเข้าบ้านด้วยแล้ว เเต่อยู่เเต่ข้างล่างนะครับ และผมก็กลับบ้านด้วยความปกติ เพียงแค่หลังจากอาทิตย์นั้นผ่านไป ก็มาเกิดเหตุการณ์สำคัญที่เล่ามาด้านบน
เลยอยากจะถามความคิดเห็นเพื่อนๆครับ ว่าผมควรทำยังไงดี เพราะตอนนี้ที่ผมกำลังพิมพ์อยู่ ผมก็ยังไปบางเเสนมา 3 อาทิตย์ติดแล้ว แต่ไม่ได้เจอกัน เพราะบางทีรถอยู่เเต่คนไม่อยู่ เเต่บางทีก็รถไม่อยุ คนไม่อยู่ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวครับ รบกวนเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านทีนะครับ
จากวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เราก็ไม่ได้คุยไลน์หรือโทหากันเลย เพราะส่วนตัวผมเห็นคำที่เค้าพิมมาว่า ''ถ้าผมไม่ไป เค้าจะไปเอง'' มันทำให้ผมท้อมาก เพราะผมไม่ใช่ผู้ชายที่โมโหร้าย จนมาถึงช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ยังตีรถไปบางแสนอีกเช่นเคย แต่เราก็ไม่ได้เจอกัน เจอกันครั้งสุดท้ายตอนแฟนผมให้เพื่อนๆเค้าขนเหล้าเบียร์ขึ้นไปดื่มกันบนคอนโด ในตอนนั้นผมก็รู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นเค้าเพียงเเค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีครับ?
ขอชี้แจงต่อนะครับ คือหลังจากที่มีปัญหาเรื่องกดดันเทอ พอเราเคลียกันแล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เทอเริ่มพูดถึงอนาคตของเรา 2 คน ผมก็มีแพลนในใจผม ผมจึงพาเทอไปดูที่ดินของผมที่อยากจะทำร้านเป็นธุรกิจส่วนตัว เทอยังบอกต่อด้วยเลยว่าดีสิ พร้อมเสนอการชี้เเนะมาว่าเด่วถึงตอนนั้นเอารถของ 2 คนขายละซื้อรถดีๆสักคันก็พอ เราทั้งคู่ก็วางแผนเรื่องอนาคตกันไว้
และพอหลังจากเกิดเรื่องล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาในเเชท ผมเองก็ไม่ได้หายไปไหน เเค่ไม่ได้คุยไม่ได้ทักกัน เเต่ถึงเวลาผมก็ไปบางแสนโดยที่ไม่ได้หวังว่าจะเจอหรือไม่เจอเค้า ผมทำแบบนี้จนมาถึงทุกวันนี้ ผมไปที่บ้านเค้า ก็เหนรถเค้าจอดอยู่ก็ไม่กล้าโทร ได้เเต่นั่งดูอย่างงั้นวันบะ 2-3 ชม ผมก็สบายใจ แต่พอมาถึงอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเห็นเทอได้ลงรุปในเฟส ซึ่งเป็นรูปที่เทอนั่งเล่นอยู่ที่หาดวอนตอนกลางคืนที่ผมพาเทอไปครั้งแรกสำหรับเทอ พร้อมกับใส่เสื้อเเจ็คเก็ตที่เป็นเสื้อคู่ที่เค้าซื้อมาให้ผมเช่นเดียวกัน มันจึงทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่า เค้าสื่ออะไรถึงผมบ้างมั้ย"???
และล่าสุดเมื่อวานตอนเช้าเค้าก็ Live สดใน IG จากที่เค้าไม่เคยทำก็เป็นแบบถ่ายพวงมาลัยรถขณะที่เทอขับอยู่บนทางด่วยบูรพาวิถี แต่ที่สำคัญคือเพลงที่เทอเปิดฟังอยู่ในตอนนั้น มันเป็นเพลงของบอย ชื่อการเปลี่ยนแปลง เทอเลือกถ่ายตอนช่วง "เธอนำความรักแท้จริงเข้ามาผูกพันในหัวใจ
และวันนี้ฉันเปลี่ยนไป ตั้งแต่เมื่อฉันรู้จัก และฉันได้มาพบเธอ มันทำให้ฉันต้องเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงหัวใจฉันไป
ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ที่ฉันไม่เคยพบเจอ เพราะสำหรับฉันแต่ก่อน ความรักคือการคว้ามา แต่ในวันนี้ฉันเปลี่ยนความรักคือการให้ไป เพิ่งจะรู้และเข้าใจ เมื่อฉันได้มารักเธอ" ผมจึงอยากรู้ว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่ มันใช่ผมหรือเปล่า เพราะผมก็สอนอะไรเค้าไปเยอะ
รบกวนผู้รู้!! มาลองอ่านปัญญาความรักของหนุ่ม Biker 27 กับเซลล์สาวขายรถวัย 34 ที่ห่างกัน 7 ปี
ผมอายุ 27 ปี แฟนผมอายุ 34 ปี ซึ่งห่างกัน 7 ปี
เรื่องราวความรักของผมเกิดขึ้นเมื่อตอนวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ผมขอไม่บอกและกันนะครับว่าเราเจอกันได้ยังไง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตัวผมเองอยู่แถวศาลายา แฟนผมอยู่ที่บางแสน ซึ่งเราทั้ง 2 คนเองก็ไม่คิดว่าเราจะมากันถึงจุดนี้ได้
จุดนี้ที่ว่าก็คือ ตัวผมเองก็ยังคิดเลยว่า ผมจะสามารถขับรถไปหาเเฟนผม(สมัยที่ยังไม่ได้คบกัน) ได้สักกี่ครั้งกันเชียว? แต่แฟนของผมก็ไม่เคยขับรถไปหาผู้ชายก่อนเลยสักครั้งเดียว ซึ่งครั้งแรกที่เราได้เจอกัน มันเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผมได้คุยกับเค้า ก่อนที่ผมจะชักชวนแฟนของผมไปเที่ยวที่กาญจนบุรี เพราะตอนนั้นใจจริงของผม ผมไปเที่ยวผมก็อยากพาคนที่ผมอยากพาไปด้วยกัน ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมทำให้เค้าขับรถมาหาผมได้ยังไง แต่มีหนึ่งเหตุผลที่ผมได้ให้เค้าไปก็คือ ตัวผมเองมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และกำลังรอวันผ่าตัด ผมก็เลยอยากให้เค้าไปเที่ยวกับผม (อาจจะดูเห็นเเก่ตัวไป) แต่ผมอาจจะได้คิวผ่าตัดแล้วเดินไม่ได้เป็นเดือนก่อนที่จะได้ไปเที่ยวก็ได้
พอถึงวันที่เราได้ไปเที่ยวกัน แฟนของผมเลิกงานในเย็นวันศุกร์ก็ได้ขับรถมาจากบางแสน เพื่อมากับผม บอกตรงๆนะ ผมเป็นผู้ชายก็จริงแต่ผมก็ให้เกียรติแฟนของผมนะครับ และพอเราได้พบกันคืนวันนั้นผมก็ได้ขับรถไปนอนพักที่ตัวเมืองกาญฯ จนกระทั่งถึงตอนเช้า เราก็เดินทางต่อไปยังที่พักที่ได้จองไว้(เเพ) และผมก็ได้ทำให้แฟนของผมมาเที่ยวพักผ่อนได้อย่างสบายใจ
จนกลับมาถึงกทมในวันอาทิตย์เราก็ได้แยกย้ายกัน แฟนของผมก็กลับบ้านที่บางแสน แต่พอหลังจากนั้นตัวผมเองก็ลังเลใจว่าผมจะไปหาเค้าที่บางแสนบ้างดีมั้ย?
แต่ผมก็ตัดสินใจขับรถไปในสัปดาห์ถัดมา และในใจผมก็คิดว่า (กูจะมาได้สักกี่ครั้งว้า) ซึ่งถ้าพูดภาษาบ้านๆก็เหมือนกับใจแลกใจ เค้ามาหาผมได้ ผมก็ต้องไปหาเค้าได้สิวะ
แต่พอเวลาผ่านไปนานวันเข้า เราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น เราคุยกันทุกวัน ผมตื่นนอนก็โทรหาเค้า เย็นก็โทรหา ก่อนนอนก็โทรหา เรา VDO Call คุยกันทุกวัน กล้าพูดเรื่องที่ไม่สามารถพูดกับคนอื่นๆได้ เรามีการปรึกษากับปัญหาต่างๆที่เราทั้ง 2 ได้เจอ และช่วยกันแนะนำเเก้ไขปัญหากันไป แต่ปัญหาของแฟนผมอาจจะค่อนข้างเยอะ เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาดของแฟนผมเองในอดีต ไม่ว่าจะหนี้สินหรือเรื่องงาน และผมก็เพิ่งมารู้ว่าแฟนของผมมีลูกมาแล้วคนหนึง เทอบอกผมตอนที่ผมนอนผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาล ผมเองก็ผิดหวังที่ผมอยากให้คนที่เราอยากให้อยู่ใกล้เราที่สุด มาอยู่ข้างๆเรา แต่แฟนของผมก็ไม่ได้มา
หลังจากที่ผมออกจาก รพ. เทอก็ได้บอกผมว่าเทอมีเรื่องอึดอัดที่อยากจะพูดก็คือเรื่องลูก แต่ด้วยตัวผมและครอบครัวของผม ไม่มองว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นปัญหาสำหรับครอบครัวผม เพราะตัวแฟนผมก็กลัวที่ผมจะรับไม่ได้เช่นกัน แต่ปรากฏว่าผมไม่ได้เอาเรื่องของลูกเค้ามาเป็นปัญหาสำหรับความรักของผม จนกระทั่งเเฟนผมได้ขับรถมาเยี่ยมผมที่บ้าน แต่มาแค่แป๊ปเดียว จนตัวผมก็อยากจะไปอยู่ในเค้าดูแลผมที่คอนโดของแฟนผม ผมจึงตัดสินใจไปอยู่กับแฟนของผมเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังผ่าตัด
(คลิ๊กลิ้งเพื่อดูรูป) [img]http://www.mx7.com/i/01c/wrtnsd.jpg[/img]
ซึ่งแฟนของผมก็ดูแลผมดีมาก ในเวลาที่เค้าทำงาน พอมีจังหวะออกมาได้สักพัก เทอก็จะรีบขับรถมาหาผมที่คอนโดแล้วเอาข้าว เอาน้ำมาให้ผมกินตลอดอาทิตย์นั้น เพราะตัวผมเองก็ต้องใช้ไม้เท้า 2 ข้างในการช่วยเดิน ซึ่งผมประทับใจกับแฟนของผมมาก จนผ่านไปกระทั่งผมสามารถเดินได้บ้างแล้ว ผมก็เริ่มขับรถมาหาแฟนผมทุกอาทิตย์
และปกติเวลาที่ผมได้มาบางแสนผมก็อยากจะไปนั่งกินข้าวที่ร้านอาหารของน้องชายแฟนผม จากนั้นก็ต่อด้วยการดูหนังเรื่องต่างๆ และส่วนใหญ่เราจะมาจบที่สุดท้ายก็คือ ริมทะเลหาดวอน เพราะเทอบอกผมว่า ตัวเทอเองบ้านอยู่นี่ก็จริง แต่เทอก็ไม่เคยได้ออกมาลองนั่งหรือลองมาสักครั้ง กลายเป็นผมได้พาแฟนผมมาเปิดประสบการณ์ครั้งแรกพร้อมผม แฟนของผมเค้ารู้สึกดีมากๆ ผมก็มีความสุขที่ทำให้เค้าได้ยิ้มและสบายใจ
ต่อด้วยปัญหาที่เริ่มเข้ามาหาแฟนผม เรื่องเงิน เรื่องรถที่ขายออกไม่ค่อยได้แบบเมื่อก่อน ทำให้ตัวเเฟนผมต้องมีเรื่องเครียด แต่ผมก็อยู่กับเค้าเสมอแม้วันเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน งานก็เริ่มเข้ามาเยอะ แฟนผมก็ต้องทำงานจาก 6 วันเป็น 7 วัน จนดูเหมือนว่าเราจะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม ผมก็เป็นคนไปหาเค้าเองทุกอาทิตย์ ซึ่งเเฟนผมก็อยากมาหาผมที่บ้าน แต่เทอก็ต้องรีบกลับ ผมจึงตัดสินใจว่าถ้าเค้ามา เราก็อยากให้เค้านอนพัก ผมจึงต้องรับหน้าที่ในการขับรถไปหาที่บางเเสนทุกอาทิตย์
ซึ่งในช่วงแรกๆ ผมยอมรับว่าผมอาจจะกดดันเค้ามากเกินไป มันจึงส่งผลให้เกิดปัญหาระหว่างเรา 2 คน และไม่ได้คุยกันเกือบ 2 อาทิตย์ จนผมทนไม่ไหวผมคงจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว โดยวันนั้นที่ผมเดินทางไปที่จะง้อเค้า ผมก็ติดดอกกุหลาบไปหนึ่งดอกพร้อมกับความในใจและความจริงใจที่จะไปพูดกับเค้า พอเราได้เจอกันเราก็นั่งคุยกันอยู่ในรถเกือบ 1 ชม และมันก็ผ่านปัญาครั้งนั้นไปได้ด้วยดี ด้วยการสรุปว่าผมจะไม่ไปกดดันที่อยากให้เค้ามาหาผมที่บ้านมากนักแล้ว
หลังจากนั้นทุกอย่างที่เรื่องก็เริ่มดีขึ้นมา แต่แฟนของผมเค้าจะมีนิสัยบุคลิกฟอร์มเยอะ ซึ่งเวลาผมบอกว่าผมคิดถึงเค้าและผมถามกลับ เทอก็จะเลี่ยงที่จะตอบ จนผมเค้นไปนิดๆจนเทอตอบมาคำว่า อืมมมมมม ผมก็ขยี้เข้าไปอีกจนได้รับคำตอบออกมาตามที่ใจผมอยากได้
แฟนของผมเป็นผู้หญิงที่เก่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา และเทอเป็น ผญ ที่มีค่ามากสำหรับตัวผม (เพราะตัวผมก็อยากมีครอบครัว) แม้เทอจะเป็นคนที่มีฟอร์มเยอะไปหน่อย แต่ผมก็มีความสุขที่ได้คุยได้อยู่กับแฟนผมทุกครั้ง เทอจะไม่ค่อยกล้าแสดงออกกับผมสักเท่าไหร่
จนมาถึงวันที่ผมเกิดปัญหากับเค้าอีกครั้ง ก็คือเมื่อวันที่ 9 กันยายานที่ผ่านมา ผมก็ขับรถไปหาเค้าตามปกติ(เเต่ไม่บอกแฟน) แต่ไม่เจอรถเค้าจอดอยู่ที่บ้าน ผมก็เลยต้องกลับออกมาไปนั่งรออยู่ที่ริมทะเล และเมื่อผมกดโทหาก็ไม่มีการรับสาย ตามมาด้วยข้อความในเเชทไลน์ ว่าเค้ากำลังโมโหกับการตามหาลูกสาวของตัวเค้าอยู่ ซึ่งผมตั้งใจมาแค่กินข้าวกับแฟนของผม แต่ผมก็ไม่ได้คิดมาก คิดในใจเเค่ว่า เด่วรอเเฟนผมเคลียธุระให้เสดก่อนค่อยเจอก็ได้
แต่สิ่งที่ได้รับจากนั้นภายในไม่กี่นาที่ว่า
🎈 เทอ
🎈 เรายังไม่อยากคุยไรกับคัย เราไม่ไหว เราโมโห
🎈 เราหาลูกไม่เจอ
🎈 เราติดต่อลูกไม่ได้
🎈 แค่นี้ก่อน
จนผมก็เข้าใจอารมณ์ของเเฟนผม ผมก็เลยนิ่งแล้วก็ค่อยๆคุย ประคับประคองกันเพื่อที่จะดีอีกครั้ง เเต่....
🎈 ขอบคุน
🎈 สำหรับทุกอย่างนะเทอ
🎈 ขอโทดสำหรับทุกอย่างด้วยเหมือนกัน
🎈 เค้าคงไม่มีเวลาจะดูแลใครหรือมีเวลาให้ใครได้
🎈 เค้าไม่ไหว
แต่เทอก็ยัง..
🎈เค้าไม่อยากให้คนที่รักเรา มาจมปลักกับเรา
🎈เราไม่อยากให้เทอต้องมาเสียความรุ้สึก
🎈 เค้าไม่มีเวลาให้คัย
🎈 เทอเข้าใจเราป่ะ
🎈 ตอนนี้เราต้องหาเวลาที่จะต้องแก้ปันหาที่หนักมาก ณ ตอนนี้
🎈เราคงไม่เหมาะที่จะมีคัยหรอก
🎈เราอยากให้เทอเจอคนที่ดีกว่าเรา
🎈 เค้าไม่มีเวลาให้คัย
🎈 เค้าค้องเจอกับปันหามากมายเหลือเกิน
พอผมบอกว่าให้ใจเย็นๆ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด เค้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และผมพร้อมที่จะอยู่กับเค้า แต่คำตอบที่ได้รับ
🎈เราไม่มีเวลาเอาใจใคร
🎈เค้าอยากยุ่คนเดียว
🎈 เราไม่ต้องการให้ใครมาสู้กับเรา
🎈 เราไม่อยากให้ใครมาจมปลักอยู่กับเรา
🎈 เธอไม่ไปเดี๋ยวเราไปเอง
ปัญหาก็คือผมควรจะทำยังไง ในเมื่อผมรักเค้ามาก
ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้คือแฟนผมเค้าเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในความใส่ใจกับผม จากที่เค้าเเทบไม่ได้จะมาดูแลผมมากนัก แต่เทอก็เริ่มทำตั้งแต่วันที่ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปบางแสน เพือไปนั่งกินข้าวกันที่ร้านน้องชายแฟนผม เค้าก็เริ่มมีก็เช็ดเหงื่อให้ผมบ้าง เวลาอยู่ในรถ 2 คนก็เรื่มจับหน้าผมบ้าง จนครั้งสุดท้ายคือตอนที่เเฟนผมไปเปิดบูธขายรถ Isuzu ที่ตลาดนัดนินจา ของคุณอิชิตัน ผมก็ได้ติดรถไปด้วยเพราะว่าเพิ่งจะเดินทางมาถึง ผมก็อยากใช้เวลากับเค้าให้อย่างคุ้มค่า ก็นอนรอจนเทอเลิกงานประมาน 4 ทุ่ม และก็กลับไปส่งแฟนผมที่บ้าน แต่พอถึงบ้าน ปกติแล้วผมจะได้แค่นั่งรออยู่เเต่ในรถของผม แต่คราวนี้เเฟนผมก็เริ่มชวนเข้าบ้านด้วยแล้ว เเต่อยู่เเต่ข้างล่างนะครับ และผมก็กลับบ้านด้วยความปกติ เพียงแค่หลังจากอาทิตย์นั้นผ่านไป ก็มาเกิดเหตุการณ์สำคัญที่เล่ามาด้านบน
เลยอยากจะถามความคิดเห็นเพื่อนๆครับ ว่าผมควรทำยังไงดี เพราะตอนนี้ที่ผมกำลังพิมพ์อยู่ ผมก็ยังไปบางเเสนมา 3 อาทิตย์ติดแล้ว แต่ไม่ได้เจอกัน เพราะบางทีรถอยู่เเต่คนไม่อยู่ เเต่บางทีก็รถไม่อยุ คนไม่อยู่ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวครับ รบกวนเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านทีนะครับ
จากวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เราก็ไม่ได้คุยไลน์หรือโทหากันเลย เพราะส่วนตัวผมเห็นคำที่เค้าพิมมาว่า ''ถ้าผมไม่ไป เค้าจะไปเอง'' มันทำให้ผมท้อมาก เพราะผมไม่ใช่ผู้ชายที่โมโหร้าย จนมาถึงช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ยังตีรถไปบางแสนอีกเช่นเคย แต่เราก็ไม่ได้เจอกัน เจอกันครั้งสุดท้ายตอนแฟนผมให้เพื่อนๆเค้าขนเหล้าเบียร์ขึ้นไปดื่มกันบนคอนโด ในตอนนั้นผมก็รู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นเค้าเพียงเเค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีครับ?
ขอชี้แจงต่อนะครับ คือหลังจากที่มีปัญหาเรื่องกดดันเทอ พอเราเคลียกันแล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เทอเริ่มพูดถึงอนาคตของเรา 2 คน ผมก็มีแพลนในใจผม ผมจึงพาเทอไปดูที่ดินของผมที่อยากจะทำร้านเป็นธุรกิจส่วนตัว เทอยังบอกต่อด้วยเลยว่าดีสิ พร้อมเสนอการชี้เเนะมาว่าเด่วถึงตอนนั้นเอารถของ 2 คนขายละซื้อรถดีๆสักคันก็พอ เราทั้งคู่ก็วางแผนเรื่องอนาคตกันไว้
และพอหลังจากเกิดเรื่องล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาในเเชท ผมเองก็ไม่ได้หายไปไหน เเค่ไม่ได้คุยไม่ได้ทักกัน เเต่ถึงเวลาผมก็ไปบางแสนโดยที่ไม่ได้หวังว่าจะเจอหรือไม่เจอเค้า ผมทำแบบนี้จนมาถึงทุกวันนี้ ผมไปที่บ้านเค้า ก็เหนรถเค้าจอดอยู่ก็ไม่กล้าโทร ได้เเต่นั่งดูอย่างงั้นวันบะ 2-3 ชม ผมก็สบายใจ แต่พอมาถึงอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเห็นเทอได้ลงรุปในเฟส ซึ่งเป็นรูปที่เทอนั่งเล่นอยู่ที่หาดวอนตอนกลางคืนที่ผมพาเทอไปครั้งแรกสำหรับเทอ พร้อมกับใส่เสื้อเเจ็คเก็ตที่เป็นเสื้อคู่ที่เค้าซื้อมาให้ผมเช่นเดียวกัน มันจึงทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่า เค้าสื่ออะไรถึงผมบ้างมั้ย"???
และล่าสุดเมื่อวานตอนเช้าเค้าก็ Live สดใน IG จากที่เค้าไม่เคยทำก็เป็นแบบถ่ายพวงมาลัยรถขณะที่เทอขับอยู่บนทางด่วยบูรพาวิถี แต่ที่สำคัญคือเพลงที่เทอเปิดฟังอยู่ในตอนนั้น มันเป็นเพลงของบอย ชื่อการเปลี่ยนแปลง เทอเลือกถ่ายตอนช่วง "เธอนำความรักแท้จริงเข้ามาผูกพันในหัวใจ
และวันนี้ฉันเปลี่ยนไป ตั้งแต่เมื่อฉันรู้จัก และฉันได้มาพบเธอ มันทำให้ฉันต้องเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงหัวใจฉันไป
ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ที่ฉันไม่เคยพบเจอ เพราะสำหรับฉันแต่ก่อน ความรักคือการคว้ามา แต่ในวันนี้ฉันเปลี่ยนความรักคือการให้ไป เพิ่งจะรู้และเข้าใจ เมื่อฉันได้มารักเธอ" ผมจึงอยากรู้ว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่ มันใช่ผมหรือเปล่า เพราะผมก็สอนอะไรเค้าไปเยอะ