เรื่องเล่าของ “ผิวขาดน้ำ” : เคล็ดลับดูแล “ผิวมัน” แต่ “ขาดน้ำ” เดี๋ยวมันเดี๋ยวแห้ง ให้กลับมาฟื้นคืนความสมดุลได้

สวัสดีค่ะทุกคน ^^

มีอะไรดีๆเราก็อยากเอามาแบ่งปันอะเนาะ รีวิวครั้งแรกของเราครั้งนี้เราศึกษาอย่างละเอียดเลย
และรวบรวมวิธีการ,ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้เพื่อลดปัญหา “ผิวมันขาดน้ำ” มาฝากค่ะ




แนะนำสภาพปัญหาผิวกันนิดหน่อย เราเป็นคนผิวมันค่ะ แต่ด้วยอะไรซักอย่างหรือหลายๆอย่าง
ทำให้ช่วง2-3เดือนที่ผ่านมาผิวมันๆของเราเข้าไปอยู่ในสภาวะ “ผิวมันขาดน้ำ”

ก่อนอื่นเลยอยากให้ทำความเข้าใจกันก่อนว่าสภาวะผิวขาดน้ำของคนหน้ามันนั้นไม่ใช่การเปลี่ยนประเภทผิวไปเป็นผิวแห้งนะคะ เป็นแค่สภาวะความแปรปรวนหนึ่งของผิว สามารถหายได้ และสภาวะขาดน้ำนี้เกิดได้กับผิวทุกประเภท ทั้งผิวมัน ผิวแห้ง ผิวธรรมดา


ดูที่แก้มเราดีๆนะคะลอกออกเป็นขุยๆเลย ก่อนจะถ่ายเราล้างหน้า>>หน้าแห้ง
พอช่วงแต่งหน้า>>หน้ามันมากๆ พอแต่งเสร็จ>>แก้มลอก แปรปรวนยิ่งกว่าสาวๆตอนเป็นปจด.

ถ้ามองกันไม่ชัดเปิดดูที่สปอยได้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


วิธีการสังเกตว่าผิวมันๆของเรากำลังขาดน้ำ
1. ล้างหน้าใหม่ๆหน้าแห้งตึง แต่ก็กลับมามันอย่างรวดเร็ว
2. เป็นสิวอุดตันง่าย
3. ผิวเดี๋ยวแห้ง เดี๋ยวมัน รูขุมขนกว้าง ทาแป้งแล้วไม่เรียบ
4. ลูบไปที่หน้าแล้วรู้สึกสาก เหมือนจะมีสิวผด แต่มองไม่เห็นสิว

แล้วทำไมผิวมันๆถึงขาดน้ำได้?
-  การผลัดเซลล์ผิวที่เร็วกว่าปกติ จะเกิดกับคนที่ชอบสครับผิวบ่อยๆ และใช้ ครีมที่มี Vitamin C, AHA มาเป็นเวลานาน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ชะล้างน้ำมันที่เคลือบบนผิวมากเกินไป ทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำออกสู่ภายนอกได้ง่ายขึ้น
- สภาพอากาศที่แปรปรวน
- ดื่มน้ำน้อย และพักผ่อนน้อย

ซึ่งสาเหตุที่บอกมานี้ เราทำครบเลยจ้า ไม่ขาดซักข้อ สมควรรร  555
หลังจากศึกษามาซักพักก็ถึงเวลาโละผลิตภัณฑ์สำหรับหน้ามันต่างๆที่เคยใช้กลับเข้ากรุไปก่อน
และเบิกตัวผลิตภัณฑ์ที่เน้นเรื่องการรักษาสมดุลให้ผิว และเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวมาลงโต๊ะ

1. ใช้คลีนเซอร์ที่คงความชุ่มชื่นให้กับผิว
ก่อนหน้านั้นเราใช้ Plante Sustem Rosakalm cleansing ค่ะบางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อ ซึ่งตัวนี้เราก็ไม่ใช้สูตรสำหรับผิวมันนะคะ แต่เป็นสูตรของผิวบอบบาง แต่พอใช้ตัวนี้ตอนเข้าสู่ยุคผิวขาดน้ำ กลายเป็นว่าเราแสบเฉยเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็นอะไร เลยจัดการแจกจ่ายให้ญาติพี่น้อง

แล้วแอบเอาตัวนี้ของน้องสาวมาลองใช้ Biore เพอร์เฟค มายด์ คลีนซิ่ง ลิควิด ตัวนี้นางเชียร์ให้ใช้นานแล้วแต่เราไม่ค่อยชอบออยเท่าไหร่กลัวเหนอะ ยิ่งหน้ามันๆอยู่เลยเซโนไปพอได้ลองใช้คือความออยที่หยีมาตลอดเจ้าตัวนี้ทำให้เราเปิดใจเลยอะ

ตัวออยตอนนวดหน้ามันไม่หนักมากจนเกินไป และรู้สึกถึงความอุ่นๆด้วย ใช้แค่ 2 ปั้มออกหมด มาสคาร่ากันน้ำก็ไม่เหลือ พอล้างด้วยน้ำตัวออยจะเปลี่ยนเป็นน้ำใสๆ ไม่เหนอะหนะใดๆ ไม่แสบผิวเลยแถมผิวยังรู้สึกนิ่มๆฟิลดีมาก ชุ่มชื่นด้วยไม่แห้งตึง ดีงามมากๆ

ลองมาศึกษาดู ตัวนี้มี Moisture Serum อยู่ 40 % ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นไม่ทำให้หน้าแห้งตึง ก็เลยสอยมาใช้เองเลยจ้า ใช้ง่ายเหมาะกับคนขี้เกียจแบบเรา 5555


2. เปลี่ยนโฟมล้างหน้า
เมื่อก่อนใช้ของ Neutrogena สะใจมาก หน้ามันๆ นี่ไม่เหลือซากน้ำมันใดๆ เรียกได้ว่าขจัดความมันแบบถอนรากถอนโคน แต่เมื่อหน้าเรากำลังเข้าสู่ยุค “ผิวขาดน้ำ” ก็ต้องร้องเพลงห่างกันซักพักกับน้อง Neutrogena

ตัดสินใจไปสอยตัวนี้มาตามคุณสายป่าน  Mizumi Extra Mild Facial Cleanser (ภูมิใจมากได้มาถูก หารกับน้องตอนโปร 555) เอาจริงๆก็เคยใช้ Cleansing water ของเค้าก็ดูโอเค เลยไม่ค่อยกังวลที่จะหยิบมาลอง

ตัวนี้เค้าเคลมว่าอ่อนโยนเป็นพิเศษ รักษาสมดุลความเป็นกรด/ด่างของผิว มีค่าสมดุลใกล้เคียงกับผิว ไม่มีน้ำหอม น้ำมัน แอลกอฮอล์ สาร SLSใดๆ ที่สำคัญ “ลดการชะล้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติเพื่อพื้นฐานผิวที่แข็งแรง” หูยยย ประโยคนี้คือก๊อปจากในgoogle ที่เค้าเคลมไว้ พูดมาซะขนาดนี้อะนะ ซื้อเค้าซะหน่อย 5555

ตอนใช้แรกๆไม่ค่อยคุ้นสัมผัสเท่าไหร่ เพราะ Neutrogena ตัวก่อนหน้าคือฟองเยอะสะใจ ล้างหน้าเสร็จ หน้าเอี๊ยดแห้งสะใจ แต่ตัวนี้นางมาแบบละมุนละไม ฟองต้องบิ้วซักพักกว่าจะได้ฟองออกมานิดๆ แอบขัดใจ แต่ก็ต้องท่องไว้ว่านี่แหละดีต่อหน้าเด้อเธอ มันอ่อนโยนไงเธอถึงเป็นแบบนี้

ตอนใช้รับรู้ได้ถึงความละมุนผิวได้ฟิลลิ่งดีๆไปอีกแบบค่ะ ฟองไม่เยอะแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าไม่สะอาด พอล้างหน้าปุ๊บคือหน้ายังมีความลื่นๆ นุ่ม ไม่แห้ง ไม่ตึง รักษาความชุ่มชื่นกับผิวหน้าได้ดีเลยไม่มีเอี๊ยด ทิ้งหน้าไว้ซักพักก็ยังนิ่มค่ะ แล้วก็ไม่มันขึ้นด้วย รู้สึกดีกับผิวหน้ามากๆ ตอนนี้ตุนกับน้องไว้เพียบกลัวโปรหมด 5555

3. Skin care เวอร์ชั่นอัดน้ำเข้าหน้า
ตบน้ำเข้าหน้า
ตัวนี้ค่ะพรีแบบรีฟิวมากลัวซื้อแบบขวดมาละไม่โอเค ดูจากสภาพถุงก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันดีขนาดไหน เรียกได้ว่ารีดมาใช้จนหยดสุดท้าย ซื้อต่อแน่นอน ตบตัวนี้เข้าไปรู้สึกว่ามันช่วยกักเก็บน้ำได้ดีมากๆๆ เราจะเน้นตบเยอะๆบริเวณแก้มที่จะค่อนข้างแห้งเป็นขุย ใช้แล้วหน้านุ่มผิวเด้งขึ้นเหมือนมันได้รับน้ำแบบเต็มที่

จุดเด่นของตัวนี้ที่ต่างจากฮาดะลาโบะสีอื่นๆคือเป็นเอสเซนส์ในรูปแบบโลชั่นที่เป็นสูตรเข้มข้นพิเศษ ช่วยให้ผิวเก็บความชุ่มชื้นได้ดี อ่อนโยนกับผิวหน้า ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และน้ำหอม

แนะนำให้ตบแค่ตอนกลางคืนก่อนนะคะ ถ้าไม่อยากเป็นสาวเกาหลีดิวอี้ลุคทั้งวัน เพราะนางฉ่ำมากๆ แต่จริงๆตอนเช้าเราแอบๆตบตรงแก้มที่ชอบแห้ง เว้นตรงทีโซนไว้ เพราะออฟฟิศเราหนาวมากกก

ตัวต่อมา

อ่านรีวิวแล้วสอยมาแบบหน้ามืดตามัว คือตัวนี้เลยค่ะ Aqualabel Special Gel Cream
เจลครีมเข้มข้นที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนหน้ามันๆเราเซโนแน่นอน แต่ตอนนี้กลายเป็นลูกรักไปเลย ความเวอร์วังของนางคือความที่นางเป็นได้ทั้ง โลชั่น, เอสเซ้นส์, อิมัลชั่น, ครีม และ มาส์ก ในกระปุกเดียว โอ แม่ เจ้า

วันปกติทั่วไปก่อนนอนเราจะทาหลังตบฮาดะ ใช้ปริมาณไม่เยอะค่ะ ทาแล้วใช้นิ้วกลางและนางค่อยๆนวด ยิ่งเอาไปแช่ตู้เย็นยิ่งสบายผิวค่ะ นวดเพลินเลยผ่อนคลายด้วย ตื่นเช้ามาหน้าอิ่ม ผิวดูดี แต่งหน้าติด ดีงามม

1 วันต่อสัปดาห์เราจะใช้เจ้าตัวเป็นมาส์กหลังจากสครับหน้าค่ะ โดยจะใช้ปริมาณเยอะกว่าปกติหน่อย โบกๆมาส์กหน้าไว้แล้วนอนไปเลย ดีงามมากๆๆๆ

แต่แอบบอกว่าใครทนความเหนอะมากๆไม่ไหว ไม่ต้องโบกเยอะนะคะ ยิ่งถ้าไม่ได้เปิดแอร์นอนจะเป็นการทรมานจิตใจกันเกินไป


4. แม้กระทั่งครีมกันแดดยังต้องชุ่มชื่น

เราเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้
Anessa essence UV Aqua Booster SPF50+ PA++++
ตัวขวดเทานี้จะมีกรดไฮยาลูรอนิคที่จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น แต่ไม่ได้ทำให้หน้าเหนียวนะคะ สบายผิวมากๆ กันน้ำกันเหงื่อได้ดี กันแดดไม่ต้องพูดถึง ดูจำนวน + ตรงชื่อนางก็พอจะรับประกันได้แล้ว แต่ต้องล้างหน้าดีๆนะคะ ไม่งั้นสิวมาแน่นอน

5. ดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ตอบแบบนางงามมากๆ
แต่มันจริงค่ะ เราเป็นคนดื่มน้ำน้อยมาก วันนึงไม่ถึงขวด 500 ml. ด้วยซ้ำค่ะ สาเหตุที่ดื่มน้ำน้อยคือ น้ำมันอยู่ไกลมือ ขี้เกียจเดินไปตู้เย็น เราเลยไปหาซื้อแก้วสวยๆ ไว้เติมน้ำวางไว้ที่โต๊ะทำงาน เดี๋ยวนี้เราดื่มไม่ต่ำกว่า 6 แก้วเลย แรกๆจะไม่ค่อยชิน เข้าห้องน้ำบ่อยมาก เดี๋ยวนี้โปรแล้ว แถมนั่งในออฟฟิศเย็นๆ ปากไม่แห้ง หน้าไม่ตึงด้วย

นอนให้พอ เรานอน 6-8 ชั่วโมง ไม่มีขาดมีเกิน แล้วไม่ใช่ว่านอนดึกตื่นสายนะคะ จะมาบอกว่า “นอนตี 2 ตื่น 9 โมง ก็ 7 ชั่วโมงไม่ใช่หรอ ก็นอนพอไง” อย่ามาๆ ทำแบบนั้นนานๆเข้า ระบบร่างกายพังได้นะคะ การนอนดึกนอกจากฮอร์โมนที่ไม่คงที่น้ำหนักจะเพิ่ม ส่งผลเกือบทุกอย่างในร่างกายรวมถึงผิวด้วย ควรนอนให้เป็นเวลาให้ร่างกายได้ฟื้นฟูได้ทำงานอย่างเต็มที่นะคะ

เอาจริงๆข้อ 5 นี้ยากสุดเลยแต่พอทำได้แล้วรู้สึกว่าคุ้มมากๆ มันไม่ได้ส่งผลดีแค่ผิว แต่มันดีกับทุกๆอย่างในร่างกายเลยทั้งเรื่องขับถ่าย น้ำหนักไม่เหวี่ยง และทำให้รู้ว่าเรามีเวลาชีวิตให้ทำนู่นทำนี่อีกหลายชั่วโมงเลยถ้าเราตื่นเช้า

ทั้งหมดที่เล่ามานี้ เราศึกษามาอย่างตั้งใจเลยค่ะ เพราะจะทำอะไรให้ตัวเองเราก็ต้องทำให้ดีเนอะ พอมันทำแล้วเกิดผลที่ดีจริงๆ เราก็อยากแบ่งปัน

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ นี่เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกของเรา ติชมได้นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่