สวัสดีค่ะ คือเราเป็นคนชอบดูหนัง ดูซีรีส์ ที่ล่าสุดเวิ่นเว้อกับซีรีส์เรื่องหนึ่งมาก เรียกได้ว่าฟลัดสเตตัสจนเพื่อนอยากดอันฟอล แถมแท็กทวิตเตอร์หาเพื่อนเม้ากันตลอด วันนี้เลยขอมาแชร์ความประทับใจว่าทำไมเราถึงเครซี่เรื่องนี้มากๆ เราว่าเป็นซีรีส์ที่อาจจะดูแล้วมึนๆ สักหน่อย แต่ก็ตรงกับชีวิตสมัยยุคนี้สุดๆ (ยุคที่ทุกอย่างคือโซเชียล) ที่สำคัญ ยุคที่มีหนังออนไลน์มากมาย
ซึ่งซีรีย์ที่เรากำลังจะพูดถึง มาจากของ KTC ที่เป็นคนทำซีรีย์ออกมาให้เราดูถึง 4 ตอน และแต่ละตอนจะปล่อยทีละวีค ทำให้คนอยากดูแบบเราอยากดูเพิ่มไปอีก และเรื่องนี้มันเซอร์มากจริงๆ ทั้งพล็อต ทั้งโปรดักชั่นที่ดูลงทุนมาก ภาพสวยจะเราไล่แคปมาเซฟเก็บไว้ เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทางแบรนด์จะได้อะไร เพราะมันไม่มีการสอดแทรกโปรดักส์ขายของใดๆ เลย ทำให้คนดูอย่างเรามีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ก็ต้องขอขอบคุณ และหวังว่าจะสร้างงานสนุกๆ มาให้คนตื่นเต้นกันอีก
ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องย่อๆ ให้ฟังก่อนละกันเผื่อใครอยากให้เราบิ้ว
มันเป็นเรื่องของกระป๋องที่เรียกว่า E-V-E กระป๋องประสบการณ์ ที่เราอยากเสพประสบการณ์ใคร ก็ซื้อกระป๋องคนนั้น เช่น เราอยากได้กระป๋องประสบการณ์ของพี่ตูน บอดี้สแลม พอเปิดกระป๋องปุ๊ปเราก็สามารถสัมผัสประสบการณ์เดียวกับพี่ตูน ไม่ว่าจะตอนร้องเพลง วิ่งมาราธอน โดยกระป๋องจะแบ่งเป็นตอนให้เราเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตของคนนั้นไปเรื่อยๆ ตราบใดที่เขายอมขายประสบการณ์ตัวเองเพื่ออัดกระป๋อง ที่ดูเหมือนกระป๋องน้ำอัดลมตามภาพนี้
ฉะนั้น ในโลกของ CAN ถ้าเรามีประสบการณ์เจ๋งๆ เช่น ผจญภัยในป่าดงดิบ ดำน้ำในหมู่เกาะที่ไม่มีคนรู้จัก ก็สามารถนำประสบการณ์ที่ว่ามาขายได้ โดยตัวดำเนินเรื่องนี้ชื่อ “ม่อน” จะเป็นนักรีวิวกระป๋องประสบการณ์ คล้ายๆ กับพวกนักวิจารณ์ให้ดาวหนังนั่นล่ะค่ะ ทำดีก็ได้ 5 ดาวไปอะไรประมาณนั้น และดูจริตของม่อนจะไม่ชอบกระป๋องพวกผจญภัยแนวปีนเขา กระโดดบันจี้จัมพ์สักเท่าไร นางจะหวงเกรด ไม่ให้ดาวเยอะ
แต่ความงกเกรดของม่อนนั้น กลับมีกระป๋องประสบการณ์ที่ตามติ่งอย่างไม่น่าเชื่อ คือ กระป๋อง Pairry เป็นเรื่องราวของความรักระหว่างแพร์รี่ ลูกคุณหนูสุดชิค กับแฟนช่างภาพสุดเซอร์ ซึ่งภาพที่ออกมาก็คล้ายเราตามไอจีดารา หรือดูเรียลลิตี้โชว์นั่นเอง
จากนี้ไปเราจะติดสปลอยล์ไว้แน่นๆ เลยนะคะ กลัวโดนตี ><
ถ้าใครอยากดูซีรีย์แบบไม่เสีย อรรถรส ให้ข้ามสปอยล์นี้ไปก่อน แล้วค่อยกลับมาอ่าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระป๋องประสบการณ์ของแพร์รี่ เราจะเห็นแฟนนางคอยเอาใจแบบนี้ ทาเล็บให้ เอาใจสารพัด เชื่อเถอะว่าผู้หญิงทุกคนก็อยากได้ได้แฟนที่สวีท และทำตัวหวาน แทคแคร์กันแบบนี้ทั้งนั้น
กระป๋อง Pairry Vol.9 คือตอนที่ม่อนติดเหมือนเด็กดมกาว ด้วยความที่เจ้ากระป๋องประสบการณ์ นั้นเคลมว่าคนเปิดสามารถสัมผัสประสบการณ์เดียวกับเจ้าของ จึงเดาได้ไม่ยากว่า ผู้หญิงที่ตามกระป๋องแพร์รี่น่าจะฟินกับแฟนนางไปด้วย เช่นเดียวกับม่อน ที่ดูจะฟินมาก อย่างซีนนี้
เวลาเปิดกระป๋องประสบการณ์จะมีควันพุ่งออกมาจากกระป๋อง จากนั้นคนใช้ก็สามารถนั่งฟินนอนฟินกับประสบการณ์ตรงหน้าได้ อย่างซีนนี้ม่อนจะได้รับประสบการณ์แบบแพร์รี่ มีแฟนสุดหล่อคอยเอาใจ
ชีวิตม่อนก็วนเวียนอยู่กับการรีวิวกระป๋องประสบการณ์ ซึ่งกลายเป็นอาชีพหลักของม่อน เวลาว่างๆ ก็เสพกระป๋องแพร์รี่ จนกระทั่งมีเหตุให้เจอกับเรื่องราวที่ทำให้ม่อนเข้าใจความหมายของคำว่าประสบการณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงนี้เองทำให้คนดูได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับเธอ
ซีรีส์ทำออกมาอย่างฉลาด แทรกสัญลักษณ์ให้เราตีความ แต่ตอนแรกจะมึนๆ สักหน่อย แต่ดูตอนต่อไป เราจะเข้าใจว่าซีรีส์ต้องการอะไร อย่างกระป๋องประสบการณ์นี้ก็เหมือนกับเรื่องราวในโซเชียลออนไลน์ เราเองก็ชอบตามเพจหนัง เพจท่องเที่ยว เพจอาหาร และฟอลไอจีที่เราชอบ เราตามอ่านรีวิวหนัง ร้านอาหาร และเครื่องสำอางต่างๆ ซึ่งเราเองก็พร้อมเชื่อถ้าเจ้าของเพจเป็นคนที่ตามมานาน ซึ่ง Can สะท้อนมุมนี้ได้อย่างดี ม่อนจึงมีอาชีพประหลาดๆ อย่างรีวิวเวอร์ คอยให้ดาวกระป๋องประสบการณ์ที่น่าสนใจ เหมือนกับบล็อกเกอร์ หรืออินฟลูด้านต่างๆ รีวิวร้านอาหาร เครื่องสำอาง หรือสถานที่ท่องเที่ยว
แล้วมันก็ทำให้เราคิดว่า หลายครั้งเราพร้อมจะเชื่อบทวิจารณ์ หรือเรื่องราวในโซเชียลทันที ราเมนร้านนี้ไม่อร่อย ครีมยีห้อนี้ใช้แล้วหน้าพัง
.
.
ไปจนถึงดาราคนนี้แย่งแฟนชาวบ้าน อย่างล่าสุดเลยเงาสะท้อนในมีด (หน้าแหกกันหมดจ้า) เราพร้อมจะเชื่อเรื่องเหล่านี้โดยไม่คิดจะออกไปหาความจริงเลยแม้แต่น้อย
.
.
ที่พูดแบบนี้ ไม่ใช่ว่าตัวเองดีนะคะ เพราะเราเองก็เป็นอยู่บ่อยๆ เพจที่เราเป็นติ่งเขา ตามมานาน เขาพูดอะไร เราก็พร้อมจะเชื่อแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเลย
ด้วยเหตุนี้ พอดูแล้วก็แอบจุกอกอยู่เหมือนกัน และที่จุกมากที่สุดก็คือเรื่องของกระป๋องประสบการณ์ ที่ Can ทำให้เรากลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ชีวิตเราวนเวียนแค่คอนโด ที่ทำงาน และมือถือหรือเปล่า เราก็เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งค่ะ ตื่นเช้ามาทำงาน หลังเลิกงานก็กลับบ้าน ชีวิตดูจะผจญภัยหน่อยก็แค่นั่งพี่วินในซอยมาที่รถไฟฟ้าในตอนเช้าเท่านั้น ส่วนตอนเย็นก็เดินเวิ่นเว้อตามห้าง หาอะไรกิน ไม่ก็ดูหนัง ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ และเชื่อมั้ยว่าเราเซฟ link แหล่งท่องเที่ยวไว้เยอะมาก แต่ก็ไม่เคยได้ไปสักที อ้างเรื่องเวลาบ้าง เรื่องคนไปด้วยบ้าง
นอกจากนี้ เรื่องของแม่ ทำให้การดู Can ของเราอินหนักมาก T_T
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใน Can ความสัมพันธ์ของม่อนกับแม่ไม่ดีเท่าไรนัก แม่ไม่เห็นด้วยที่ม่อนติดกระป๋องมากเกินไป กลับกันม่อนก็ว่าแม่อยู่ติดบ้าน ไม่ยอมออกไปไหนตั้งแต่พ่อตาย
ความสัมพันธ์ของเรากับแม่ไม่ค่อยดีเท่าไร โทรหากันแป๊ปเดียวก็มีเรื่องขุ่นใจ ทะเลาะกันทุกครั้ง เราอยากทำตัวน่ารักกับแม่มาโดยตลอด แต่ไม่ค่อยสำเร็จเท่าไร T_T พอดู Can เลยแอบน้ำตาร่วงอยู่หลายรอบ เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายอะไร คนที่คอยอยู่ข้างๆ เราก็คือแม่จริงๆ
ซีนนี้ดูแล้วน้ำตาแตกมาก เวลาไปเจอเรื่องแย่ๆ มาแล้วกลับมาตายรังที่บ้าน แม่มักถามว่าหิวมั้ย และทำอะไรให้กินทุกที
ซึ่งปลายนี้ปีนี้ เราตั้งใจจะพาแม่ไปเที่ยวทะเล นอนโรงแรมดีๆ หน่อย ถ้าทริปนี้รอด ค่อยจูงมือกันไปเที่ยวญี่ปุ่นต่อไป 555
เราชอบประโยคตรง tagline ตอนท้ายที่ว่า ประสบการณ์ให้ความหมายกับชีวิต ตรงนี้เป็นกำลังใจให้เรามาก เราเป็นคนขี้กลัว อยากเริ่มทำอะไรใหม่ๆ ก็ไม่กล้า กังวลร้อยแปด จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง แต่พอดูเรื่องนี้จบก็ทำให้คิดว่า ต่อให้เราเจอประสบการณ์ไม่ดียังไง แต่มันก็เป็นบทเรียนที่ดี อาจทำให้เราเรียนรู้ อาจทำให้เราแกร่งขึ้น และอาจทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น เราชอบฉากสุดท้ายนี้มากเลย หวังว่าจะมีโอกาสออกเดินทางแบบนี้สักครั้ง
เตือน! สปลอย์ข้างล่างนี้เป็นตอนจบ อย่าเพิ่งกดดู ถ้าไม่อยากเสียอรรถรส
ใครสนใจตามดูได้ตามลิ้งนี้ได้เลยนะคะ มีทั้งหมด 4 ตอน
‘Can the series’ ทั้งเตือนใจ ทั้งเสียดสี แล้วสุดท้ายเราได้อะไรจากเรื่องนี้
ซึ่งซีรีย์ที่เรากำลังจะพูดถึง มาจากของ KTC ที่เป็นคนทำซีรีย์ออกมาให้เราดูถึง 4 ตอน และแต่ละตอนจะปล่อยทีละวีค ทำให้คนอยากดูแบบเราอยากดูเพิ่มไปอีก และเรื่องนี้มันเซอร์มากจริงๆ ทั้งพล็อต ทั้งโปรดักชั่นที่ดูลงทุนมาก ภาพสวยจะเราไล่แคปมาเซฟเก็บไว้ เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทางแบรนด์จะได้อะไร เพราะมันไม่มีการสอดแทรกโปรดักส์ขายของใดๆ เลย ทำให้คนดูอย่างเรามีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ก็ต้องขอขอบคุณ และหวังว่าจะสร้างงานสนุกๆ มาให้คนตื่นเต้นกันอีก
https://goo.gl/A4sfCS
มันเป็นเรื่องของกระป๋องที่เรียกว่า E-V-E กระป๋องประสบการณ์ ที่เราอยากเสพประสบการณ์ใคร ก็ซื้อกระป๋องคนนั้น เช่น เราอยากได้กระป๋องประสบการณ์ของพี่ตูน บอดี้สแลม พอเปิดกระป๋องปุ๊ปเราก็สามารถสัมผัสประสบการณ์เดียวกับพี่ตูน ไม่ว่าจะตอนร้องเพลง วิ่งมาราธอน โดยกระป๋องจะแบ่งเป็นตอนให้เราเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตของคนนั้นไปเรื่อยๆ ตราบใดที่เขายอมขายประสบการณ์ตัวเองเพื่ออัดกระป๋อง ที่ดูเหมือนกระป๋องน้ำอัดลมตามภาพนี้
แต่ความงกเกรดของม่อนนั้น กลับมีกระป๋องประสบการณ์ที่ตามติ่งอย่างไม่น่าเชื่อ คือ กระป๋อง Pairry เป็นเรื่องราวของความรักระหว่างแพร์รี่ ลูกคุณหนูสุดชิค กับแฟนช่างภาพสุดเซอร์ ซึ่งภาพที่ออกมาก็คล้ายเราตามไอจีดารา หรือดูเรียลลิตี้โชว์นั่นเอง
จากนี้ไปเราจะติดสปลอยล์ไว้แน่นๆ เลยนะคะ กลัวโดนตี ><
ถ้าใครอยากดูซีรีย์แบบไม่เสีย อรรถรส ให้ข้ามสปอยล์นี้ไปก่อน แล้วค่อยกลับมาอ่าน
แล้วมันก็ทำให้เราคิดว่า หลายครั้งเราพร้อมจะเชื่อบทวิจารณ์ หรือเรื่องราวในโซเชียลทันที ราเมนร้านนี้ไม่อร่อย ครีมยีห้อนี้ใช้แล้วหน้าพัง
.
.
ไปจนถึงดาราคนนี้แย่งแฟนชาวบ้าน อย่างล่าสุดเลยเงาสะท้อนในมีด (หน้าแหกกันหมดจ้า) เราพร้อมจะเชื่อเรื่องเหล่านี้โดยไม่คิดจะออกไปหาความจริงเลยแม้แต่น้อย
.
.
ที่พูดแบบนี้ ไม่ใช่ว่าตัวเองดีนะคะ เพราะเราเองก็เป็นอยู่บ่อยๆ เพจที่เราเป็นติ่งเขา ตามมานาน เขาพูดอะไร เราก็พร้อมจะเชื่อแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเลย
นอกจากนี้ เรื่องของแม่ ทำให้การดู Can ของเราอินหนักมาก T_T