สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
น่าสนใจไม่น้อย อ่านความเห็นคนไทยมองการเมืองเยอรมัน เนื่องจากแต่ละคนขาดรายละเอียดข้อเท็จจริง ความคิดเห็นจึงสะท้อนให้เห็นเพียงมุมแคบ จะสรุปออกมาเป็นข้อๆ เท่าที่เห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญ
1) ที่คุณ Pongkm บอกว่า พรรครัฐบาลเสียความนิยมให้พรรคขวาจัดไป 8% คุณใช้ข้อมูลอะไรมาทำการวินิจฉัย? การที่เอาตัวเลขมา บวก-ลบ ง่ายดายแบบนั้นก็จะผิด ให้ดูกราฟวิเคราะห์ข้อมูลเลือกตั้งแล้วจะเห็นว่า CDU/CSU (พรรครัฐบาล) เสียคะแนนไปให้พรรคอะไรบ้าง ? และพรรคละจำนวนเท่าไหร่? แต่ไม่ใช่เสีย 8% ไปให้พรรค AFD
2) คุณอินทรีย์สามก๊กเข้าใจผิดนะครับที่บอกว่า อังกฤษตัดสินใจ Brexit เพราะปัญหาผู้ลี้ภัย ให้ดูข้อมูลดูครับว่าอังกฤษรับผู้ลี้ภัยไปจำนวนทั้งหมดเท่าไหร่ จะเห็นว่าอังกฤษรับผู้ลี้ภัยไปน้อยที่สุดในบรรดาประเทศยุโรปสำคัญๆ ที่ถูกต้องคือชาวอังกฤษมีปัญหากับผู้อพยพจากประเทศสมาชิก อียู ครับที่ตอนนี้เข้าไปอยู่ราวเกือบ 3 ล้านคน โดยมีโปแลนด์มากที่สุดคือ 870,000 คน แต่กระนั้นก็ตามจำนวนของประเทศสมาชิก อียู ที่เข้าไปอยู่ในอังกฤษยังนับว่าเป็นส่วนน้อย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้นผู้อพยพในอังกฤษเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า แต่ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่สามนอกอียู เช่น จีน และ อินเดีย แต่สำหรับผู้ลี้ภัยจากตะวันออกกลางแล้วอังกฤษรับเข้าไปน้อยที่สุด ดูกราฟที่ 2
3) เรื่องที่กล่าวหากันว่า เยอรมนีรับผู้ลี้ภัยเพราะขาดแรงงงานตามที่คุณ อวัยวะชิ้นนั้น คห 3 นั้นดูท่าจะแกะ "ความเขื่อ" นี้ออกได้ยาก ก็จะปล่อยตามเลย คุณต้องทราบก่อนครับว่าการที่พรรคขวาจัดต่อต้านผู้ลี้ภัยนั้น เขาใช้เหตุผผลอะไรที่ต่อต้าน? ไม่ใช่เรื่องแรงงานครับเพราะพวกผู้ลี้ภัย 80% นั้นไม่มีความรู้พอ จำนวนเยอะที่มาจากอัฟกานิสถาน อิรัก ที่เป็น illiterate ด้วยซ้ำ ต้องจ่ายเงินค่าการศึกษาแก่คนเหล่านี้อีกอย่างน้อยๆ 10 ปี
4) ที่ คห 4 บอกว่าบอร์ดพันทิปเยอรมันนี่คือบอร์ดไหนผมก็ไม่ทราบได้ ถ้าหมายถึงบอร์ดที่พวกหัวขวาออกมาชักนำให้คนเกลียดมุสลิมหรือผูลี้ภัยนี่มีเยอะจริงๆ ถ้าอยู่ในภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาเยอรมันเจ้าหน้าที่คงเอาผิดยาก คาดการณ์กันไว้ว่าพรรค AFD จะล้มหายตายจากไปเองเหมือนพรรคนาซี NPD พรรคการเมืองใดก็ตามที่เกิดขึ้นมาด้วยอาศัยกระพือกระแสต่อต้านอะไรก็ตาม โดยที่ไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ พอหมดกระแสต่อต้านนั้นไปพรรคก็จะล้มหายตายจากไปด้วย
อยู่ที่รัฐบาลใหม่ที่สามารถจะดึงความไว้วางใจคนเหล่านี้ ให้กลับมาเชื่อมั่นในการบริหารจัดการของรัฐโดยใช้สติปัญญามากกว่าความโกรธ เกลียด ชิงชัง ต้องรอดูว่ารัฐบาลใหม่จะมีมาตรการอย่างไร
เป็นข่าวแล้วนะครับ แค่ผ่านการเลือกตั้งวันเดียวเท่านั้น พรรคขวาจัด AFD ก็ทะเลาะกันเองอย่างหนักต่อหน้าการประชุมผู้สื่อข่าวเสียแล้ว อย่างที่บอกแล้วคนเหล่านี้ไม่ใช่นักการเมืองที่แท้จริง แต่ตั้งพรรคขึ้นมาด้วยอาศัยสถานะการณ์ผู้ลี้ภัยเท่านั้น
5) คุณ zodiac28 ผมยังเข้าใจว่าคุณสนใจเรื่องประวัติศาสตร์เสียอีก ถ้าคุณคิดว่าคนเยอรมันเดินกันไม่แตกแถวแล้วล่ะก็ จะเกิดการลุกฮือของประชาชนขึ้นมาต่อต้านล้มล้างไกเซอร์ได้อย่างไร? ถ้าไม่ใช่เพราะสงครามโลกครั้งที่ 1 ฮิตเล่อร์ไม่มีทางได้เกิด ทำไมถึงคิดว่าคนเยอรมันถึงเดินตามโปรแกรมที่รัฐบาลตั้งไว้? ในเมืองทุกพรรการเมืองเห็นดีเห็นงามกับการรับผู้ลี้ภัยเหมือนกันหมด ไม่มีพรรคไหนแย้งแมคเคิลเลย ถึงได้ทำให้คนเยอรมันกลุ่มน้อยส่วนหนึ่งโกรธที่นักการเมืองไม่สนใจรับฟังพวกตนเลย จนเกิดพรรค AFD ขึ้นมา
จริงๆ ต้องไปดูผลวิเคราะห์เหุตผลในการเลือกของประชาชนอีกว่า ทำไมถึงเลือกแมคเคิลกลับมา มีออกรายละเอียดมาแล้ว
คุณอาจลืมไปว่าเยอรมนีมีการปกครองแบบประชาธิปไตยเต็มรูปแบบที่ต่างจากไทย นั่นคือทุกๆ คนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเซนเซอร์ การเห็นแตกต่างจึงเป็นเรื่องปกติ ประชาชนไม่มีความเกรงกลัวที่จะต้องเห็นด้วยกับรัฐบาล แถมมีอำนาจในมือที่จะลงคะแนนเอารัฐบาลออกยังได้
แต่ละวันนั้นมีรายการถกเถียงทางการเมืองหลากหลายรายการทั้งทีวี และ วิทยุ ผู้ร่วมมีทั้งนักการเมือง นักวิชาการ และประชาชนแตกต่างเชื้อชาติ ยิว มุสลิม ไม่ใช่แต่เฉพาะเยอรมัน จะวนเวียนกันถูกรับเชิญเปิดโอกาสให้นำประสบการณ์และเสนอความคิดเห็นของตนให้เป็นที่รับทราบ การตัดสินใจเลือกใครจึงผ่านการไตร่ตรองของแต่ละคนมาอย่างดีแล้ว
การเมืองเยอรมันได้พัฒนาจากระบบประชาธิปไตยที่ประชาชนเริ่มต้นเรียกร้องสิทธิจากไกเซอร์ ในเมือประชาชนต้องการมีสิทธิจะบริหารประเทศเองก็ต้องแสดงให้ประชาชนด้วยกันเองประจักษ์ด้วยว่า การอาสาเข้ามาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติย่อมอยู่เหนือสิ่งอื่นใด จึงมีที่มาของคำคมนี้ที่ยังยึดถือเป็นคติเตือนใจนักการเมืองเยอรมันรุ่นต่อมา
1) ที่คุณ Pongkm บอกว่า พรรครัฐบาลเสียความนิยมให้พรรคขวาจัดไป 8% คุณใช้ข้อมูลอะไรมาทำการวินิจฉัย? การที่เอาตัวเลขมา บวก-ลบ ง่ายดายแบบนั้นก็จะผิด ให้ดูกราฟวิเคราะห์ข้อมูลเลือกตั้งแล้วจะเห็นว่า CDU/CSU (พรรครัฐบาล) เสียคะแนนไปให้พรรคอะไรบ้าง ? และพรรคละจำนวนเท่าไหร่? แต่ไม่ใช่เสีย 8% ไปให้พรรค AFD
2) คุณอินทรีย์สามก๊กเข้าใจผิดนะครับที่บอกว่า อังกฤษตัดสินใจ Brexit เพราะปัญหาผู้ลี้ภัย ให้ดูข้อมูลดูครับว่าอังกฤษรับผู้ลี้ภัยไปจำนวนทั้งหมดเท่าไหร่ จะเห็นว่าอังกฤษรับผู้ลี้ภัยไปน้อยที่สุดในบรรดาประเทศยุโรปสำคัญๆ ที่ถูกต้องคือชาวอังกฤษมีปัญหากับผู้อพยพจากประเทศสมาชิก อียู ครับที่ตอนนี้เข้าไปอยู่ราวเกือบ 3 ล้านคน โดยมีโปแลนด์มากที่สุดคือ 870,000 คน แต่กระนั้นก็ตามจำนวนของประเทศสมาชิก อียู ที่เข้าไปอยู่ในอังกฤษยังนับว่าเป็นส่วนน้อย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้นผู้อพยพในอังกฤษเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า แต่ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่สามนอกอียู เช่น จีน และ อินเดีย แต่สำหรับผู้ลี้ภัยจากตะวันออกกลางแล้วอังกฤษรับเข้าไปน้อยที่สุด ดูกราฟที่ 2
3) เรื่องที่กล่าวหากันว่า เยอรมนีรับผู้ลี้ภัยเพราะขาดแรงงงานตามที่คุณ อวัยวะชิ้นนั้น คห 3 นั้นดูท่าจะแกะ "ความเขื่อ" นี้ออกได้ยาก ก็จะปล่อยตามเลย คุณต้องทราบก่อนครับว่าการที่พรรคขวาจัดต่อต้านผู้ลี้ภัยนั้น เขาใช้เหตุผผลอะไรที่ต่อต้าน? ไม่ใช่เรื่องแรงงานครับเพราะพวกผู้ลี้ภัย 80% นั้นไม่มีความรู้พอ จำนวนเยอะที่มาจากอัฟกานิสถาน อิรัก ที่เป็น illiterate ด้วยซ้ำ ต้องจ่ายเงินค่าการศึกษาแก่คนเหล่านี้อีกอย่างน้อยๆ 10 ปี
4) ที่ คห 4 บอกว่าบอร์ดพันทิปเยอรมันนี่คือบอร์ดไหนผมก็ไม่ทราบได้ ถ้าหมายถึงบอร์ดที่พวกหัวขวาออกมาชักนำให้คนเกลียดมุสลิมหรือผูลี้ภัยนี่มีเยอะจริงๆ ถ้าอยู่ในภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาเยอรมันเจ้าหน้าที่คงเอาผิดยาก คาดการณ์กันไว้ว่าพรรค AFD จะล้มหายตายจากไปเองเหมือนพรรคนาซี NPD พรรคการเมืองใดก็ตามที่เกิดขึ้นมาด้วยอาศัยกระพือกระแสต่อต้านอะไรก็ตาม โดยที่ไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ พอหมดกระแสต่อต้านนั้นไปพรรคก็จะล้มหายตายจากไปด้วย
อยู่ที่รัฐบาลใหม่ที่สามารถจะดึงความไว้วางใจคนเหล่านี้ ให้กลับมาเชื่อมั่นในการบริหารจัดการของรัฐโดยใช้สติปัญญามากกว่าความโกรธ เกลียด ชิงชัง ต้องรอดูว่ารัฐบาลใหม่จะมีมาตรการอย่างไร
เป็นข่าวแล้วนะครับ แค่ผ่านการเลือกตั้งวันเดียวเท่านั้น พรรคขวาจัด AFD ก็ทะเลาะกันเองอย่างหนักต่อหน้าการประชุมผู้สื่อข่าวเสียแล้ว อย่างที่บอกแล้วคนเหล่านี้ไม่ใช่นักการเมืองที่แท้จริง แต่ตั้งพรรคขึ้นมาด้วยอาศัยสถานะการณ์ผู้ลี้ภัยเท่านั้น
5) คุณ zodiac28 ผมยังเข้าใจว่าคุณสนใจเรื่องประวัติศาสตร์เสียอีก ถ้าคุณคิดว่าคนเยอรมันเดินกันไม่แตกแถวแล้วล่ะก็ จะเกิดการลุกฮือของประชาชนขึ้นมาต่อต้านล้มล้างไกเซอร์ได้อย่างไร? ถ้าไม่ใช่เพราะสงครามโลกครั้งที่ 1 ฮิตเล่อร์ไม่มีทางได้เกิด ทำไมถึงคิดว่าคนเยอรมันถึงเดินตามโปรแกรมที่รัฐบาลตั้งไว้? ในเมืองทุกพรรการเมืองเห็นดีเห็นงามกับการรับผู้ลี้ภัยเหมือนกันหมด ไม่มีพรรคไหนแย้งแมคเคิลเลย ถึงได้ทำให้คนเยอรมันกลุ่มน้อยส่วนหนึ่งโกรธที่นักการเมืองไม่สนใจรับฟังพวกตนเลย จนเกิดพรรค AFD ขึ้นมา
จริงๆ ต้องไปดูผลวิเคราะห์เหุตผลในการเลือกของประชาชนอีกว่า ทำไมถึงเลือกแมคเคิลกลับมา มีออกรายละเอียดมาแล้ว
คุณอาจลืมไปว่าเยอรมนีมีการปกครองแบบประชาธิปไตยเต็มรูปแบบที่ต่างจากไทย นั่นคือทุกๆ คนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเซนเซอร์ การเห็นแตกต่างจึงเป็นเรื่องปกติ ประชาชนไม่มีความเกรงกลัวที่จะต้องเห็นด้วยกับรัฐบาล แถมมีอำนาจในมือที่จะลงคะแนนเอารัฐบาลออกยังได้
แต่ละวันนั้นมีรายการถกเถียงทางการเมืองหลากหลายรายการทั้งทีวี และ วิทยุ ผู้ร่วมมีทั้งนักการเมือง นักวิชาการ และประชาชนแตกต่างเชื้อชาติ ยิว มุสลิม ไม่ใช่แต่เฉพาะเยอรมัน จะวนเวียนกันถูกรับเชิญเปิดโอกาสให้นำประสบการณ์และเสนอความคิดเห็นของตนให้เป็นที่รับทราบ การตัดสินใจเลือกใครจึงผ่านการไตร่ตรองของแต่ละคนมาอย่างดีแล้ว
การเมืองเยอรมันได้พัฒนาจากระบบประชาธิปไตยที่ประชาชนเริ่มต้นเรียกร้องสิทธิจากไกเซอร์ ในเมือประชาชนต้องการมีสิทธิจะบริหารประเทศเองก็ต้องแสดงให้ประชาชนด้วยกันเองประจักษ์ด้วยว่า การอาสาเข้ามาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติย่อมอยู่เหนือสิ่งอื่นใด จึงมีที่มาของคำคมนี้ที่ยังยึดถือเป็นคติเตือนใจนักการเมืองเยอรมันรุ่นต่อมา
สมาชิกหมายเลข 4002098 ถูกใจ, ที่ใดมีรัก ที่นั่นไม่มีสมาธิ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2774860 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4068313 ถูกใจ, wilhelm ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4051241 สยอง, อวัยวะชิ้นนั้น ถูกใจ, อินทรีสามก๊ก ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 10
คห.6 Search หาได้ไม่ยากหรอกครับ
แต่ถ้าจะอธิบาย จริงแล้วๆ ฝ่ายขวาจัด ฝ่ายซ้าย บริบทแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ แต่ถ้าตามการกำหนดขอบเขตนิยามของวงวิชาการในโลกตะวันตก พอจะอธิบายได้ง่ายๆคือ
ฝ่ายขวา (Conservative) มักตีขลุมฝ่ายที่เป็นอนุรักษ์นิยม ขั้วอำนาจเก่า ซึ่งมักรวมถึงความเป็นทุนนิยมด้วย และมักรวมถึงฝ่ายกษัตริย์นิยม Royalist
ฝ่ายซ้าย (Liberal) มักตีขลุมฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับขั้วอำนาจเก่า เป็นเสรีประชาธิปไตยบ้าง สังคมนิยมบ้าง แต่รวมๆคือฝ่ายที่ตรงข้ามกับอำนาจรัฐและนายทุน ในโลกตะวันตกจึงมักหมายถึงฝั่งที่เข้ากับชนชั้นแรงงาน กรรมาชีพ
แต่ความตลกร้ายอยู่ตรงนี้ครับ ในบางประเทศ ฝ่ายที่ปฏิรูประบอบเก่าทิ้ง โดยอ้างว่า "เพื่อประชาชน" พอได้อำนาจมาจริงๆ มักเป็นแค่ "เปลี่ยนขั้วอำนาจเดิม" สุดท้ายแล้ว อำนาจก็ยังรวมศูนย์ที่คนไม่กี่คนหรือพรรคๆเดียวเท่านั้น เช่นจีน ที่ทุกวันนี้ ก็คือพรรคคอมมิวนิสต์ และบางประเทศ มันคือการเปลี่ยนจากระบอบเก่า มาสู่ระบอบใหม่ที่ "ชาตินิยมขวาจัดกว่าเดิมอีก" เช่น ญี่ปุ่นสมัยปฏิรูป ฝ่ายที่ชนะ ซึ่งในตำราของไทยชอบเรียกว่าฝ่ายหัวก้าวหน้า แต่ในตำราฝรั่งเขาเรียกฝ่ายนี้ว่า Royalist แล้วก็คืนอำนาจให้จักรพรรดิเมจิ นำญี่ปุ่นไปสู่การเป็นรัฐทหารเต็มรูปแบบ สร้างจักรววรรดิญี่ปุ่น นี่คือโคตรขวาตกขอบไปเลยจ้า หรือมีกรณีของสิงคโปร์ ที่หากใครไม่รู้การเมืองสิงคโปร์ จะคิดว่าที่เจริญมาได้เพราะมีเสรีภาพ ประชาธิปไตย บอกว่าเปล่าเลย!!! นี่คือประเทศที่เป็นการปกครองแบบเผด็จการรัฐสภา มีนายกคนเดียวปกครองผูกขาดมานานหลายสิบปี แถมอำนาจก็ส่งต่อให้ลูกหลานด้วย
มันจึงไม่ตายตัว คุณต้องดูว่า ประเทศไทย บริบทแบบไหน สถานการณ์แบบไหน อย่างอังกฤษ มีการสลับไปมาของพรรคที่ชูฝ่ายขวาและซ้าย ส่วนในอเมริกา สองพรรคใหญ่คือเดโมแครต กับ รีพับริกัน ก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของขวาซ้ายเลยแม้แต่น้อย แค่เป็นตัวแทนของกลุ่มทุนนิยมที่เน้นเป้าหมายคนละกลุ่มเท่านั้น ปธน.จากพรรคเดโมในหลายสมัยนี่ไม่ได้มีความเป็นซ้ายเลย
แต่ถ้าจะอธิบาย จริงแล้วๆ ฝ่ายขวาจัด ฝ่ายซ้าย บริบทแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ แต่ถ้าตามการกำหนดขอบเขตนิยามของวงวิชาการในโลกตะวันตก พอจะอธิบายได้ง่ายๆคือ
ฝ่ายขวา (Conservative) มักตีขลุมฝ่ายที่เป็นอนุรักษ์นิยม ขั้วอำนาจเก่า ซึ่งมักรวมถึงความเป็นทุนนิยมด้วย และมักรวมถึงฝ่ายกษัตริย์นิยม Royalist
ฝ่ายซ้าย (Liberal) มักตีขลุมฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับขั้วอำนาจเก่า เป็นเสรีประชาธิปไตยบ้าง สังคมนิยมบ้าง แต่รวมๆคือฝ่ายที่ตรงข้ามกับอำนาจรัฐและนายทุน ในโลกตะวันตกจึงมักหมายถึงฝั่งที่เข้ากับชนชั้นแรงงาน กรรมาชีพ
แต่ความตลกร้ายอยู่ตรงนี้ครับ ในบางประเทศ ฝ่ายที่ปฏิรูประบอบเก่าทิ้ง โดยอ้างว่า "เพื่อประชาชน" พอได้อำนาจมาจริงๆ มักเป็นแค่ "เปลี่ยนขั้วอำนาจเดิม" สุดท้ายแล้ว อำนาจก็ยังรวมศูนย์ที่คนไม่กี่คนหรือพรรคๆเดียวเท่านั้น เช่นจีน ที่ทุกวันนี้ ก็คือพรรคคอมมิวนิสต์ และบางประเทศ มันคือการเปลี่ยนจากระบอบเก่า มาสู่ระบอบใหม่ที่ "ชาตินิยมขวาจัดกว่าเดิมอีก" เช่น ญี่ปุ่นสมัยปฏิรูป ฝ่ายที่ชนะ ซึ่งในตำราของไทยชอบเรียกว่าฝ่ายหัวก้าวหน้า แต่ในตำราฝรั่งเขาเรียกฝ่ายนี้ว่า Royalist แล้วก็คืนอำนาจให้จักรพรรดิเมจิ นำญี่ปุ่นไปสู่การเป็นรัฐทหารเต็มรูปแบบ สร้างจักรววรรดิญี่ปุ่น นี่คือโคตรขวาตกขอบไปเลยจ้า หรือมีกรณีของสิงคโปร์ ที่หากใครไม่รู้การเมืองสิงคโปร์ จะคิดว่าที่เจริญมาได้เพราะมีเสรีภาพ ประชาธิปไตย บอกว่าเปล่าเลย!!! นี่คือประเทศที่เป็นการปกครองแบบเผด็จการรัฐสภา มีนายกคนเดียวปกครองผูกขาดมานานหลายสิบปี แถมอำนาจก็ส่งต่อให้ลูกหลานด้วย
มันจึงไม่ตายตัว คุณต้องดูว่า ประเทศไทย บริบทแบบไหน สถานการณ์แบบไหน อย่างอังกฤษ มีการสลับไปมาของพรรคที่ชูฝ่ายขวาและซ้าย ส่วนในอเมริกา สองพรรคใหญ่คือเดโมแครต กับ รีพับริกัน ก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของขวาซ้ายเลยแม้แต่น้อย แค่เป็นตัวแทนของกลุ่มทุนนิยมที่เน้นเป้าหมายคนละกลุ่มเท่านั้น ปธน.จากพรรคเดโมในหลายสมัยนี่ไม่ได้มีความเป็นซ้ายเลย
Little_playboy ถูกใจ, spanst ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 952658 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1715177 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2774860 ถูกใจ, jo1894 ถูกใจ, sakisaka nadashiko ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1157764 ถูกใจ, ธาราสินธุ์ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4051241 ถูกใจรวมถึงอีก 4 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเยอรมนีดูไม่ค่อยเดือดร้อนจากผู้อพยพละครับ