ฮาโหลลลลลลลลลลลล ต้องว่างแน่ๆ ถึงแวะมาเขียนรีวิวได้ พอดีเข้าห้องน้ำแล้วเหลือบไปเห็นแชมพูสระผมที่วางเรียงรายอยู่ (ยังไม่รวมที่อยู่ในตู้ที่ยังไม่ได้ใช้นะ) เป็นคนขี้ซื้อมากค่ะ แชมพูสระผมกลิ่นหอมๆ ยิ่งขวดไหนใช้ดีนี่มีไปตำซื้อใช้ต่อก็มี
พื้นฐานเป็นคนผมบางมาก และชอบทำสีผมบ่อย เดือนครึ่งเปลี่ยนทีค่ะ ล่าสุดไปทำผมบลอนด์มาออกสีขาวๆ เทาๆ พอใจมากกกก แต่ก็ต้องแลกกับความผมร่วงบ้างเวลาสระ จะสังเกตุได้ตามรูท่อระบายน้ำ และแปรงหวีผมค่ะ รีวิวนี้เลยขอรวบยอดชมพูที่ชอบมากกกกกกก เป็นพิเศษ ใช้เป็นประจำมารีวิวให้ดูกัน เผื่อสาวผมบางคนไหนจะมีใจรักในการทำสีผมแบบนี่ จะได้ไกด์ไลน์ไอเท็มดีๆเอาไปตำใช้ต่อๆกันเด้อออ
เซ็ทแรก ภูมิจนำเสนอมากค่ะ เป็นตระกูลของ Lush ทั้งหมด แบรนด์นี้เค้าจะorganic นิดๆ ตรงจริตสาวผมบาง ที่ไม่ควรโฟกัสเคมีเข้ามาในชีวิตมาก ชอบใจมากยิ่งตอนนี้มี Shop ในไทย โอ้โหววว ชะนีนี่พลาดซะที่ไหน ไปซื้อมาใช้กันค่ะ สำหรับของ Lush แชมพูเค้าจะมีทั้งแบบก้อนสบู่ และแบบเป็นครีมแชมพูค่ะ ส่วนตัวชอบแบบครีมแชมพูมากกว่ากลิ่นก็จะแบบไม่สมุนไพร ก็ผลไม้จ๋า หอมหวานไปเลย ดีอะ เลิ่ฟฟฟฟฟ แต่สระแล้วผมจะสากๆ นิดนึง ต้อใช้ครีมนวด แล้วก็พวกน้ำมันบำรุงเส้นผมหน่อย ตอนไดร์ผมคือรู้เลยจ้าว่าผมแห้งหนักมาก แต่ก็ยังรักและคิดที่จะซื้อต่อไป เพราะความที่มันหอมนี่แหละ ตัดใจไม่ลงจริงๆ
ขวด 1: Lush Rehab Shampoo
ขนาด 100 g. ราคา : 590 บาท
กลิ่น : เลิฟกลิ่นนี้มั่กๆ มันจะหอมอ่อนๆ มิ้นท์ นิดๆ แต่ด้วยความที่มันหอมอ่อนๆอะค่ะ สระเสร็จแล้วผ่านกรมวิธีเป่าเอย หนีบเอย สรุปสักพักไม่ถึงครึ่งวันกลิ่นหายจ้า แต่ก็ไม่ได้เหม็นมากมาย(ถ้าไม่มีเหงื่อออกหนักๆนาจา)
ขวด 2 : Lush Daddy-O Shampoo
สำหรับสาวๆ ที่ทำสีผมสว่าง โทน บลอนด์ ชมพูม่วงในตำนานจากค่าย Lush มาแล้วจ้า ตัวนี้ภูมิใจนำเสนอค่ะ ใครที่เจอปัญหาทำสีผมแนวสว่างแล้วสีเฟดเร็วเว่อร์ แนะนำเลยจ้าดีจริง สิบ สิบ สิบไปเลย ตัวนีจะช่วยล้างให้เม็ดสีผมโทนเหลือง/บลอนด์/ เทา ซีดจางลง เอ้อคือมันดี มันวิเศษ สาวผมสีไปตำๆด่วนๆ
ขนาด 100 g. ราคา : 590 บาท
กลิ่น : กลิ่นแบบฟรุทตี้เว่อร์ หอมแบบรุนแรงอะ ไดร์ผมแล้วอะไรแล้ว กลิ่นก็ยังหอมติดทนอยู่ ตั้งแต่ใช้มาก กลิ่นเจ้าขวดนี้คือติดทนนานสุดละในบรรดาแชมพูทั้งหลายของ Lush เนี่ยย
ช่วยคงสภาพเม็ดสีผมได้ดีไหม?
ดีในระดับนึงนะ แต่หลังสระมันจะแห้งๆหน่อย ต้องบำรุง คงเป็นเพราะตัวนี้ออแกนิคจ๋า ไม่ใช่แชมพูผสมครีมนวด แต่ถ้าใช้เอาขำๆ รักในกลิ่นก็พอไปวัดไปวาได้ค่ะ
ขวด 3 : Lush American Cream
ขนาด 100 g. ราคา : 590 บาท
กลิ่น : อันนี้ก็ลูกรักเหมือนกัน กลิ่นหอมหวาน สตอร์เบอร์รี่ ผสมวานิลลา ติดทนนานตัวน้ตำแล้วตำอีก ใช้มาหลายขวดมาก เพราะครีมนวดเค้าหอมจริง แต่เสียดายที่มันดูไม่ได้ช่วยถนอมผมมากเท่าไร เพราะคำว่าครีมนวดในมโนจิตของเราคือ เออใช้เสร็จผมต้องลื่นๆไม่พันกันล่ะ แต่นี่ก็ยังพันกันอยู่เบาๆ แต่เอาเถอะ ใจมันรักจริงๆ
สำหรับเซ็ทสอง ขอเอาใจสาวผมบางกันหน่อยเมื่อก่อนเคยลองใช้แชมพูพวกที่ผสมตัวยาจ๋าๆ อย่าง Selsun, Sebamed แล้วรู้สึกว่าไม่ตรงจริตตัวเอง เพราะความที่มันยาจ๋าๆ กลิ่นมันก็จะแบบอ่อนๆ นี่ก็รับไม่ได้เหมือนกันอะ ทุนเดิมคือสาวผมหอมไง ก็เลยมาค้นพบสิ่งนี้ที่เรียกว่า
[CR] ครึ่งปี 8 ขวด รวบยอดแชมพูที่ใช้ ของน้องนีผมบาง + ทำสี
พื้นฐานเป็นคนผมบางมาก และชอบทำสีผมบ่อย เดือนครึ่งเปลี่ยนทีค่ะ ล่าสุดไปทำผมบลอนด์มาออกสีขาวๆ เทาๆ พอใจมากกกก แต่ก็ต้องแลกกับความผมร่วงบ้างเวลาสระ จะสังเกตุได้ตามรูท่อระบายน้ำ และแปรงหวีผมค่ะ รีวิวนี้เลยขอรวบยอดชมพูที่ชอบมากกกกกกก เป็นพิเศษ ใช้เป็นประจำมารีวิวให้ดูกัน เผื่อสาวผมบางคนไหนจะมีใจรักในการทำสีผมแบบนี่ จะได้ไกด์ไลน์ไอเท็มดีๆเอาไปตำใช้ต่อๆกันเด้อออ
เซ็ทแรก ภูมิจนำเสนอมากค่ะ เป็นตระกูลของ Lush ทั้งหมด แบรนด์นี้เค้าจะorganic นิดๆ ตรงจริตสาวผมบาง ที่ไม่ควรโฟกัสเคมีเข้ามาในชีวิตมาก ชอบใจมากยิ่งตอนนี้มี Shop ในไทย โอ้โหววว ชะนีนี่พลาดซะที่ไหน ไปซื้อมาใช้กันค่ะ สำหรับของ Lush แชมพูเค้าจะมีทั้งแบบก้อนสบู่ และแบบเป็นครีมแชมพูค่ะ ส่วนตัวชอบแบบครีมแชมพูมากกว่ากลิ่นก็จะแบบไม่สมุนไพร ก็ผลไม้จ๋า หอมหวานไปเลย ดีอะ เลิ่ฟฟฟฟฟ แต่สระแล้วผมจะสากๆ นิดนึง ต้อใช้ครีมนวด แล้วก็พวกน้ำมันบำรุงเส้นผมหน่อย ตอนไดร์ผมคือรู้เลยจ้าว่าผมแห้งหนักมาก แต่ก็ยังรักและคิดที่จะซื้อต่อไป เพราะความที่มันหอมนี่แหละ ตัดใจไม่ลงจริงๆ
ขวด 1: Lush Rehab Shampoo
ขนาด 100 g. ราคา : 590 บาท
กลิ่น : เลิฟกลิ่นนี้มั่กๆ มันจะหอมอ่อนๆ มิ้นท์ นิดๆ แต่ด้วยความที่มันหอมอ่อนๆอะค่ะ สระเสร็จแล้วผ่านกรมวิธีเป่าเอย หนีบเอย สรุปสักพักไม่ถึงครึ่งวันกลิ่นหายจ้า แต่ก็ไม่ได้เหม็นมากมาย(ถ้าไม่มีเหงื่อออกหนักๆนาจา)
ขวด 2 : Lush Daddy-O Shampoo
สำหรับสาวๆ ที่ทำสีผมสว่าง โทน บลอนด์ ชมพูม่วงในตำนานจากค่าย Lush มาแล้วจ้า ตัวนี้ภูมิใจนำเสนอค่ะ ใครที่เจอปัญหาทำสีผมแนวสว่างแล้วสีเฟดเร็วเว่อร์ แนะนำเลยจ้าดีจริง สิบ สิบ สิบไปเลย ตัวนีจะช่วยล้างให้เม็ดสีผมโทนเหลือง/บลอนด์/ เทา ซีดจางลง เอ้อคือมันดี มันวิเศษ สาวผมสีไปตำๆด่วนๆ
ขนาด 100 g. ราคา : 590 บาท
กลิ่น : กลิ่นแบบฟรุทตี้เว่อร์ หอมแบบรุนแรงอะ ไดร์ผมแล้วอะไรแล้ว กลิ่นก็ยังหอมติดทนอยู่ ตั้งแต่ใช้มาก กลิ่นเจ้าขวดนี้คือติดทนนานสุดละในบรรดาแชมพูทั้งหลายของ Lush เนี่ยย
ช่วยคงสภาพเม็ดสีผมได้ดีไหม?
ดีในระดับนึงนะ แต่หลังสระมันจะแห้งๆหน่อย ต้องบำรุง คงเป็นเพราะตัวนี้ออแกนิคจ๋า ไม่ใช่แชมพูผสมครีมนวด แต่ถ้าใช้เอาขำๆ รักในกลิ่นก็พอไปวัดไปวาได้ค่ะ
ขวด 3 : Lush American Cream
ขนาด 100 g. ราคา : 590 บาท
กลิ่น : อันนี้ก็ลูกรักเหมือนกัน กลิ่นหอมหวาน สตอร์เบอร์รี่ ผสมวานิลลา ติดทนนานตัวน้ตำแล้วตำอีก ใช้มาหลายขวดมาก เพราะครีมนวดเค้าหอมจริง แต่เสียดายที่มันดูไม่ได้ช่วยถนอมผมมากเท่าไร เพราะคำว่าครีมนวดในมโนจิตของเราคือ เออใช้เสร็จผมต้องลื่นๆไม่พันกันล่ะ แต่นี่ก็ยังพันกันอยู่เบาๆ แต่เอาเถอะ ใจมันรักจริงๆ
สำหรับเซ็ทสอง ขอเอาใจสาวผมบางกันหน่อยเมื่อก่อนเคยลองใช้แชมพูพวกที่ผสมตัวยาจ๋าๆ อย่าง Selsun, Sebamed แล้วรู้สึกว่าไม่ตรงจริตตัวเอง เพราะความที่มันยาจ๋าๆ กลิ่นมันก็จะแบบอ่อนๆ นี่ก็รับไม่ได้เหมือนกันอะ ทุนเดิมคือสาวผมหอมไง ก็เลยมาค้นพบสิ่งนี้ที่เรียกว่า