[CR] S I N G A P O R E....จะมีอะไร..?!...Day1

ประเดิม Review แรกใน Pantip ด้วย Singapore Trip ที่ไปมาเมื่อปีก่อน Trip นี้ซ่าส์คนเดียว แบบมึนๆ ด้วยอารมณ์ล้วนๆ...อารมณ์เหนื่อยๆ เพลียๆ อยากหาที่พัก Recharge เพิ่มพลังใจซะหน่อย...ไม่ทันไรก็ได้ตั๋วไปกลับมาครอบครอง...Trip ใกล้ๆ แถมตั๋วไม่แพง มีเวลาไม่กี่วันก็เที่ยวได้แล้ว...ไปเที่ยวกันเลย...ด้วย FD353  

ถึง Singapore ก็ประมาณสี่ทุ่ม รีบต่อรถไฟฟ้าเข้าเมืองทันที อย่างแรกที่ต้องทำคือหาที่พักคืนนี้ก่อน สุดท้ายก็จบที่นี่ http://www.bunchostel.com/


โรงแรมชิคๆ แต่เนื่องจากอยู่ย่าน Little India


ห้องพักที่นี่สะอาด มีห้องแยก Male - Female Dome ห้อง 4 - 6 คน ถ้าไปเป็นกลุ่มทั้งผู้หญิงผู้ชายก็สามารถเปิดห้อง Mix Dome ได้นะคร้า


ราคาห้องพักอยู่ที่ 28-30 SGD ข้อดีอีกอย่างนึงของที่นี่คือ ห้องน้ำนอกจากจะแยกห้องน้ำหญิงกับห้องน้ำชายแล้ว ยังต้องใช้ Key Card เพื่อเข้าห้องน้ำด้วย ก็ดูปลอดภัยดีนะเราว่า


เช้าแรกที่ Singapore ภาวนาให้ฝนไม่ตก เพราะเพื่อนที่ไปเที่ยวก่อนหน้าเรา 2-3 วัน เจอฝน บรรยากาศวันนี้ก็ครึ้ม เดาใจดิน ฟ้า อากาศยาก เลยตั้งใจจะเก็บสถานที่ชิคๆ ที่อยากไปให้ได้มากที่สุด ออกจากโรงแรมปุ๊ป ก็มุ่งหน้าสู่ Rocher MRT เก็บบรรยากาศระหว่างทางไปด้วย ที่ Singapore เราจะเห็นจักรยานจอดตามข้างทางเต็มไปหมด ทำให้บรรยากาศยิ่งดู Art มากๆ แต่ละมุมอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องออกมาถ่าย


ไม่มี Plan เที่ยว มีหนังสือ 1 เล่ม ที่เลือกมาแล้วตอนอยู่บนเครื่องว่าอยากไปที่นี่ที่นั่น แต่ก็ไม่ได้ศึกษาขนาดที่ว่าต้องแวะที่ไหนก่อนตามลำดับ 1 - 2 - 3 ทำให้ตัดสินใจมุ่งหน้าไปซื้อ Tourist Pass ก่อน ลักษณะของ Tourist Pass ก็คล้ายๆ บัตรเบ่ง สามารถเลือกเหมาวันได้ 1 วัน 2 วัน หรือ 3 วัน โดยราคา 20, 26 และ 30 SGD ตามลำดับ โดย 10 SGD เป็น retal deposit สามารถ refund เงินคืนได้


แต่เนื่องจาก Rocher MRT Station ไม่มีที่จำหน่าย Tourist Pass โชคดีนะที่เปิดอ่านในหนังสือก่อน ถ้าจำไม่ผิด Ticket Office ที่จะสามารถซื้อ Tourist Pass ได้จะมีที่ Changi Airport, China Town MRT Station และ Bugis MRT Station ซึ่ง Bugis อยู่ใกล้ที่พักที่สุด เลยไปเริ่มที่ Bugis MRT Station แทน Rocher MRT Station เพื่อความประหยัดเลือกซื้อ Tourist Pass แบบ 3 วัน 30 SGD จะได้ลั้ลลาได้อย่างเต็มที่ไปเลย


เริ่มออกลั้ลลากันได้กว่า กับที่แรกที่อยากไปที่สุด ที่ “Red Dot Museum”


ซึ่งสามารถเดินทางด้วยบัตรเบ่ง  จาก Bugis MRT Station มุ่งหน้าสู่ Tanjong Pagar MRT Station ออก Exit E เดินตาม GPS ไปอีกนิดหน่อยถึงถึงแล้ว


Red Dot Museum อาคารพิพิธภัณฑ์สีแดงที่รวบรวมผลิตภัณฑ์แนวความคิดสร้างสรรเอาไว้ มีร้านกาแฟสำหรับนั่งพักผ่อนด้วยน้า ที่สำคัญมีห้องน้ำที่สะอาดมากๆ


Red Dot Museum นอกเหนือจากเป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์แนวความคิดสร้างสรรต่างๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นสำนักงานของบริษัทด้านครีเอทีฟ อีกหลายๆ บริษัทด้วยน้า


เดินถ่ายไปหลายแชะ เข้าไปดูด้านในกันดีกว่า


มีบริษัทไหนอยู่ที่นี่บ้างน้า ส่องได้จากนี่เลย


ส่องใกล้ๆ ซิ.... “มีไปรษณีย์มาส่งแล้วค่ะ...ตู้เต็มแล้วอิอิ”


ครั้งนี้ไม่ได้เข้าไปดูข้างในพิพิธภัณฑ์ เพราะเป็นพวกไม่ได้เข้าถึงงานศิลปะขนาดนั้น เลยออกมาเดินเก็บภาพด้านนอกต่อซะหน่อย


และแล้วก็เจ็บตัว เนื่องจากรูปนี้ต้องตั้งจากอีกฝั่งถนน ตั้งเวลากล้อง แล้ววิ่งไปอีกฝั่ง เพื่อขึ้นไปยืนบนแท่นเหลืองๆ แล้วความซุ่มซ่ามก็ทำให้เจ็บตัวจนได้ ลื่นล้มลงมากระแทกแท่นที่นอนล้มอยู่ เจ็บมากบอกเลย จัดไปอีกซักรูป แต่ขอท่านั่งชิวๆ ก็แล้วกันนะ


ซักเริ่มหิวแล้วอะ ไปหาอะไรอร่อยๆ กินดีกว่า เก็บอุปกรณ์แบกหามต่อ ก่อนซ่าส์ต้องเพิ่มพลังซะหน่อย


ไหนๆ ก็อยู่แถวถนน Maxwell แล้วก็ไปจัด ข้าวมันไก่เทียนเทียนใน Maxwell Food Center ย่าน Chinatown เลยดีกว่า...หิวแล้ววววว!!!


อิ่มแล้วเดินเที่ยวต่อได้ มุ่งหน้าสู่ย่าน China Town ที่นี่ปักหมุดไว้ที่ วัดพระเขี้ยวแก้ว หรือ Buddha Tooth Relic Temple


วัดนี้เป็นวัดชื่อดังที่สุดในย่านนี้ ซึ่งเป็นวัดที่มีพิพิธภัณฑ์อยู่ภายใน และเป็นที่โด่งดังเพราะว่ามีการเก็บพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว ของพระพุทธเจ้า ไว้ที่ชั้นบนสุด ในหนังสือเค้าว่างั้นนะ


ไหว้พระเสร็จแล้ว ก็แวะถ่ายรูปรอบๆ แถวๆ นี้อีกนิดหน่อย


ตึกและอาคารย่านนี้มีลักษณะเฉพาะ ดูโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ดีคร้า


จากนั้นก็เดินมุ่งหน้าสู่ Ann Siang Road  ถนนสายสั้นๆ ย่าน Chinatown เป็นถนนที่มีความ Art และมีความน่ารัก


ถนนตลอดทั้งสายยังคงรักษาโครงสร้างตึกเก่าๆ แลดูมีเสน่ห์ ส่วนภายนอกฉาบด้วยสีสันโทนลูกกวาด มีร้านต่างๆ เยอะแยะเลย ทั้งร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ร้านของเล่นย้อนยุค ร้านกาแฟ เดินเล่นถ่ายรูปจนเพลินเลย


การเดินทางไปชิคๆ ที่ถนนเส้นนี้จาก Chinatown MRT Station ออก Exit A เดินมาตาม Smith Street จนเจอถนนใหญ่แล้วข้ามไปฝั่งตรงข้าม เดินไปทางขวาจะเจอป้าย Ann Siang Road


ยังไม่หายเหนื่อย บวกกับฟ้าฝนที่เป็นใจ เดินหน้าสู่สถานที่ๆ ปักหมุดที่ต่อไปนั่นคือ ซอยสุดแนวสถานที่รวมตัวของวัยรุ่นของ Singapore นั้นก็คือ “Haji Lane”


สำหรับ “Haji Lane” นั้นเป็นถนนเล็กๆแห่งนึงใน Singapore ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ ร้านอาหาร ร้านนั่งดื่มชิวๆ ที่มีการตกแต่งร้านที่น่ารัก หลากหลายแนว


ถนนตลอดทั้งสายมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมว๊ากกก!!!...ร้านแต่ละร้านก็จะออกแบบตกแต่งกันหลากหลายแนว


ทั้งแนว Art แบบ Dark - Grey หรือจะแนว Graphic แนวๆ


รับรองว่าใครที่ได้มาเดินย่านนี้ ถ้าไม่ได้ของติดไม้ติดมือก็ต้องอิ่มท้อง หรือไม่ก็ต้องได้ภาพถ่ายสวยๆ ชิคกลับไปอย่างแน่นอน


ไม่แปลกเลยที่ถนนสายนี้จะดูคึกคัก และเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว


สนุกมากตลอดการเดินเล่นถ่ายรูปที่นี่ แทบจะตั้งกล้องถ่ายได้ทุกมุมของถนน “Haji Lane” ถ่ายรูปได้ตลอดสายจริงๆ ทั้งกับมุมน่ารักๆ ของร้านต่างๆ หรือการตกแต่งตามกำแพงของสองฝั่งถนน


สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบความ Art ต้องห้ามพลาดกับการแวะมาเที่ยวที่ถนนสายนี้น้า


สำหรับวิธีเดินทางมาที่ “Haji Lane” นั้นก็ไม่ยากเลยคร้า


จาก Bugis MRT Station ออก Exit B จากนั้นแนะนำให้ตาม GPS ไปค่ะ เดินไม่ไกลมาก รับรองคุ้มค่า หายเหนื่อย เพราะขนาดสถานที่ก่อสร้างก็ยังเป็นฉากให้เก็บภาพชิคๆ กลับมาได้เลย กับที่นี่ “Haji Lane”


เดินแชะตลอดสาย เริ่มจะเย็นแล้ว ตาม Plan ที่อยากไปสถานที่ต่อไปคือ “Marina Barrage” อยากไปที่นี่เพื่อเก็บภาพพระอาทิตย์ตก ตั้งใจไว้อย่างนั้น


“Marina Barrage” ก็เหมือนสวนสาธารณะลอยฟ้าด้านบนนั้นปลูกหญ้าไว้ให้นั่งเล่น หรือทำกิจกรรมได้ ชาวสิงคโปร์จะมานั่งปิคนิคกันที่นี่ บางคนก็มาเล่นว่าวกับครอบครัว แอบผิดหวังเล็กน้อยเพราะไม่สามารถเก็บภาพมุมกว้างที่สวยกว่านี้ได้ เนื่องจากบริเวณนั้นกำลังก่อสร้าง ทำให้ทัศนียภาพแย่ไปเล็กน้อย เลยตัดสินใจเดินต่อเพื่อไปรอเก็บภาพ “Singapore Flyer” ยามค่ำคืน ระหว่างทางผ่านมาที่นี่ สวนน้ำพุ “Children's Garden” เลยแวะเก็บภาพบรรยากาศเด็กๆ ซะหน่อย


ก่อนที่จะไปหาที่นั่งชิวๆ รอดูพระอาทิตย์ตกดินและแสงสีของ Singapore ยามค่ำคืน


เดินต่อไปอีกหน่อย ก็เจอ “Supertree Grove”  กลุ่มต้นไม้ยักษ์ จำนวน 18 ต้น เป็นรูปแบบของสวนแนวตั้งที่มีความสูงถึง 25-50 เมตร หรือประมาณตึก 16 ชั้น มองเห็นได้จากที่ไกลๆ ที่ด้านบนของต้นไม้ยักษ์มีการติด Solar cell เพื่อใช้เก็บเป็นพลังงานส่องสว่างในเวลากลางคืน


สามทุ่มกว่าแล้ว ร่างไม่ไหวแต่ใจยังสู้อยู่ เลยเดินต่อไปชมแสงสียามค่ำคืนของสิงค์โปร์อีกซักหน่อย เริ่มจาก “Marina Bay Sands Hotel” ตึกสูงที่ออกแบบสร้างเป็นรูปไพ่ 3 สำรับเรียงกัน แล้ววางทับด้วยเรืออยู่ด้านบนที่เรียกกันว่า “Sands Sky Park” ที่เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก ไม่ได้ขึ้นไปดูหรอกนะ review เค้าว่างั้น ถัดมาทาง คือ ตึกรูปดอกบัวเป็น “The Art Science Museum” ที่ออกแบบให้มีประโยชน์ใช้สอยอย่างดี ทั้งรองรับน้ำฝนให้ไหลลงมารูตรงกลาง เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นน้ำสำหรับทำเป็นน้ำตก และน้ำใช้ในห้องน้ำ และแต่ละกลีบของดอกบัวก็ถูกตกแต่งให้เป็นแกลลอรี่ให้ผู้คนเข้าไปชม


“สะพาน Helix” เป็นสะพานรูปเกลียวที่เชื่อมต่อจากฝั่งโรงละคร Esplanade ไปยังฝั่ง Marina Bay Sands เป็นอีกจุดชมวิวที่คนมักมาถ่ายรูปกัน ขอซักแชะก่อนจะหาทางกลับที่พัก


หมดไปแล้วสำหรับการเริ่ม Trip วันแรกที่นี่ Singapore กลับที่พัก มาพร้อมกับ Mama Cup 555 รีบกลับไปพักเพื่อจะได้ซ่าส์ในวันพรุ่งนี้ดีกว่า...แล้วเจอกัน Day2 นะคะ...
ชื่อสินค้า:   Singapore
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่