เมื่อพ่อบ้านใจกล้าโดนคำสั่ง ให้ล้างรถ เพราะโดนภรรยาทำโทษที่ซื้อของเล่นให้ตัวเองเยอะไปหน่อย หมดงบ
เดือนนี้จึงต้องล้างรถเอง เพราะถ้าไปลงแวกซ์ที่ร้านคาร์แคร์ คงโดนหลายร้อยบาท
ว่าแล้วจึงต้องแวะซื้ออุปกรณ์
1. ถังน้ำ มีอยู่แล้วที่บ้าน (มีอยู๋แล้ว)
2. หัวฉีดต่อสายยาง ซื้อจาก HomePro ราคา 250 บาท (มีอยู๋แล้ว) อันนี้ใช้ดีมากจริงๆ บอกเลย คนล้างรถต้องมี
3. ฟองน้ำกลมสำหรับ ลงแวกซ์ ตกอันนะ 20 บาท (มีอยู๋แล้ว)
4. แชมพูล้างรถ ราคา 129 ซื้อจาก โลตัส
5. ฟองน้ำล้างรถ อันละ 99 ซื้อ 1 แถม 1 จากร้านขายของพวกล้างรถยนต์
6. ครีมแวกซ์ ซื้อจาก Lazada 199
7. ผ้าชาร์มัวร์ เอาไว้เช็ดเปียก ราคา 199 ซื้อจาก โลตัส
8. ผ้าไมโครไฟเบอร์เอาไว้เช็ดแห้ง (มีอยู๋แล้ว)
ขออวดตอนลงแวกซ์เรียบร้อยแล้วก่อนเลยนะครับ
อันนี้บอกเลยว่ารถสภาพ 10 ปี มีรอยเยอะมากครับ พวกข่วนต้นไม้ แต่ลงแวกซ์แล้วก็เงาลื่นขึ้นนะครับ
อันนี้รูปสภาพรถก่อนล้างครับ ค่อนข้างพังระดับ 8 ทั้ง รอยถลอกและคราบฝน
ขั้นตอนง่ายๆ แบบสามีใจกล้าต้องทำได้
1 ฉีดล้างน้ำเปล่าก่อนหนึ่งรอบ ให้ฝุ่นลอย หรือฝุ่นแข็งหลุดไปก่อน
ผมว่าขั้นตอนนี้ยากสุดแล้วครับ เพราะว่า ต้องย้ายรองเท้าหนัง หรืออะไรก็ตามที่เปียกได้ออกไปนอกพื้นที่ก่อน
และพอฉีดหลังคา น้ำมันก็จะกระเด็นไปโดนอีกฝั่ง ดังนั้นถ้าใครมีเทคนิคแบบฉีดล้างรถแล้วไม่กระเด็น รบกวนบอกด้วยนะครับ
2. เทแชมพูล้างรถ ลงที่กะละมัง แล้วค่อยใช้ที่ฉีดน้ำฉีดให้เกิดฟอง เคยถามพวกเจ้าของร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์ว่า ใช้แชมพูคน ไปล้างรถได้ไหม
เขาบอกว่าเป็นสารทำความสะอาดคนละประเภทนะครับ เหมือนแชมพูล้างรถ เขาจะไม่ทำลายพวกสีรถ กะไม่เอาแวกซ์ที่เคยเคลือบไว้ออกครับ
3.จากนั้น เอาฟองน้ำชุบน้ำ โกยโฟม เช็ดจากบนลงล่าง ให้ฝุ่นมันตกลงมาครับ รอบคนจน(คิดว่า)สะอาด (ไม่ได้ใช้เครื่องฉีดแรงๆ แบบคาร์แคร์ ต้องทำใจ)
4. ฉีดน้ำล้างอีกครั้งรอบคัน แล้วใช้ผ้าชาร์มัวร์ เช็ดรถให้แห้ง
5. ผึ่งรถให้แห้งแป๊ปนึง ก่อนลงแวกซ์ โดยใช้บีบแวกซ์บนฟองน้ำกลม แล้วเช็ดวนไปเรื่อยๆ รอบคัน
ที่ใช้ 3M ตัวนี้เพราะเป็นครีมแวกซ์แบบสังเคราะห์ จะใช้ง่ายกว่าขี้ผึ้งแวกซ์ครับ ลงง่ายกว่า เช็ดง่ายกว่า แต่อาจจะไม่หอมธรรมชาติเท่าขี้ผึ้งนำเข้าครับ
6. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดแวกซ์ออก (เอาของเก่าที่มีในบ้านนี่แหละ แต่ต้องซักสะอาด ไม่งั้นอาจจะทิ้งรอยข่วนบนรถได้)
ปล. ผมไม่รอจนมันแห้ง นะครับ เอาพอหมาดๆ จะได้เช็ดง่าย
อันนี้คือมุมเงาสะท้อนหลังทำทุกอย่างเสร็จแล้วนะครับ
โดยสรุป
ใช้เวลา ประมาณ 40 นาที ตั้งแต่ล้างรถ เช็ดแห้ง ลงแวกซ์ ครับ
งบประมาณ เพิ่มเติม ที่ซื้อประมาณ 400 กว่าบาท รวม แชมพู(ใช้ได้4-6 ครั้ง) แวกซ์(ใช้ได้ 8-10 ครั้ง) ฟองน้ำ(20 ครั้ง) ถ้า เคลือบได้สัก 8 ครั้ง ก็ถือว่าตกครั้งนึงกลมๆ ที่ 50-100 กว่าบาท(ราคาประมาณๆครับ)
แต่อาจต้องเสียแรงงานเราแลกนิดนึง
สมมุติว่าเราต้องจ่ายคาร์แคร์ครั้งละ 500 บาท ทำเอง จ่าย 100 บาท เราจะมีส่วนต่าง 400 บาท
เก็บหอมรอมริบสัก 3 เดือน เราจะได้โมเดลใหม่หนึ่งตัว ราคา 1200 [ดีใจจจจจจจ] :]
คราวหน้าถ้าผมมีเทคนิคในการต่อรองขอซื้อโมเดลแปลกๆมาฝากจะ มาแชร์นะครับ
ปล. ขอบคุณศรีภรรยา ที่ถ่ายหลักฐานการโดนทำโทษในครั้งนี้...
[CR] ล้างรถเคลือบแวกซ์เอง ด้วยงบไม่เกินร้อย
เดือนนี้จึงต้องล้างรถเอง เพราะถ้าไปลงแวกซ์ที่ร้านคาร์แคร์ คงโดนหลายร้อยบาท
ว่าแล้วจึงต้องแวะซื้ออุปกรณ์
1. ถังน้ำ มีอยู่แล้วที่บ้าน (มีอยู๋แล้ว)
2. หัวฉีดต่อสายยาง ซื้อจาก HomePro ราคา 250 บาท (มีอยู๋แล้ว) อันนี้ใช้ดีมากจริงๆ บอกเลย คนล้างรถต้องมี
3. ฟองน้ำกลมสำหรับ ลงแวกซ์ ตกอันนะ 20 บาท (มีอยู๋แล้ว)
4. แชมพูล้างรถ ราคา 129 ซื้อจาก โลตัส
5. ฟองน้ำล้างรถ อันละ 99 ซื้อ 1 แถม 1 จากร้านขายของพวกล้างรถยนต์
6. ครีมแวกซ์ ซื้อจาก Lazada 199
7. ผ้าชาร์มัวร์ เอาไว้เช็ดเปียก ราคา 199 ซื้อจาก โลตัส
8. ผ้าไมโครไฟเบอร์เอาไว้เช็ดแห้ง (มีอยู๋แล้ว)
ขออวดตอนลงแวกซ์เรียบร้อยแล้วก่อนเลยนะครับ
อันนี้บอกเลยว่ารถสภาพ 10 ปี มีรอยเยอะมากครับ พวกข่วนต้นไม้ แต่ลงแวกซ์แล้วก็เงาลื่นขึ้นนะครับ
อันนี้รูปสภาพรถก่อนล้างครับ ค่อนข้างพังระดับ 8 ทั้ง รอยถลอกและคราบฝน
ขั้นตอนง่ายๆ แบบสามีใจกล้าต้องทำได้
1 ฉีดล้างน้ำเปล่าก่อนหนึ่งรอบ ให้ฝุ่นลอย หรือฝุ่นแข็งหลุดไปก่อน
ผมว่าขั้นตอนนี้ยากสุดแล้วครับ เพราะว่า ต้องย้ายรองเท้าหนัง หรืออะไรก็ตามที่เปียกได้ออกไปนอกพื้นที่ก่อน
และพอฉีดหลังคา น้ำมันก็จะกระเด็นไปโดนอีกฝั่ง ดังนั้นถ้าใครมีเทคนิคแบบฉีดล้างรถแล้วไม่กระเด็น รบกวนบอกด้วยนะครับ
2. เทแชมพูล้างรถ ลงที่กะละมัง แล้วค่อยใช้ที่ฉีดน้ำฉีดให้เกิดฟอง เคยถามพวกเจ้าของร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์ว่า ใช้แชมพูคน ไปล้างรถได้ไหม
เขาบอกว่าเป็นสารทำความสะอาดคนละประเภทนะครับ เหมือนแชมพูล้างรถ เขาจะไม่ทำลายพวกสีรถ กะไม่เอาแวกซ์ที่เคยเคลือบไว้ออกครับ
3.จากนั้น เอาฟองน้ำชุบน้ำ โกยโฟม เช็ดจากบนลงล่าง ให้ฝุ่นมันตกลงมาครับ รอบคนจน(คิดว่า)สะอาด (ไม่ได้ใช้เครื่องฉีดแรงๆ แบบคาร์แคร์ ต้องทำใจ)
4. ฉีดน้ำล้างอีกครั้งรอบคัน แล้วใช้ผ้าชาร์มัวร์ เช็ดรถให้แห้ง
5. ผึ่งรถให้แห้งแป๊ปนึง ก่อนลงแวกซ์ โดยใช้บีบแวกซ์บนฟองน้ำกลม แล้วเช็ดวนไปเรื่อยๆ รอบคัน
ที่ใช้ 3M ตัวนี้เพราะเป็นครีมแวกซ์แบบสังเคราะห์ จะใช้ง่ายกว่าขี้ผึ้งแวกซ์ครับ ลงง่ายกว่า เช็ดง่ายกว่า แต่อาจจะไม่หอมธรรมชาติเท่าขี้ผึ้งนำเข้าครับ
6. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดแวกซ์ออก (เอาของเก่าที่มีในบ้านนี่แหละ แต่ต้องซักสะอาด ไม่งั้นอาจจะทิ้งรอยข่วนบนรถได้)
ปล. ผมไม่รอจนมันแห้ง นะครับ เอาพอหมาดๆ จะได้เช็ดง่าย
อันนี้คือมุมเงาสะท้อนหลังทำทุกอย่างเสร็จแล้วนะครับ
โดยสรุป
ใช้เวลา ประมาณ 40 นาที ตั้งแต่ล้างรถ เช็ดแห้ง ลงแวกซ์ ครับ
งบประมาณ เพิ่มเติม ที่ซื้อประมาณ 400 กว่าบาท รวม แชมพู(ใช้ได้4-6 ครั้ง) แวกซ์(ใช้ได้ 8-10 ครั้ง) ฟองน้ำ(20 ครั้ง) ถ้า เคลือบได้สัก 8 ครั้ง ก็ถือว่าตกครั้งนึงกลมๆ ที่ 50-100 กว่าบาท(ราคาประมาณๆครับ)
แต่อาจต้องเสียแรงงานเราแลกนิดนึง
สมมุติว่าเราต้องจ่ายคาร์แคร์ครั้งละ 500 บาท ทำเอง จ่าย 100 บาท เราจะมีส่วนต่าง 400 บาท
เก็บหอมรอมริบสัก 3 เดือน เราจะได้โมเดลใหม่หนึ่งตัว ราคา 1200 [ดีใจจจจจจจ] :]
คราวหน้าถ้าผมมีเทคนิคในการต่อรองขอซื้อโมเดลแปลกๆมาฝากจะ มาแชร์นะครับ
ปล. ขอบคุณศรีภรรยา ที่ถ่ายหลักฐานการโดนทำโทษในครั้งนี้...