[CR] รีวิว : รองพื้น YSL All Hours + วิธีใช้ยังไงให้คุ้มรีวิว


สวัสดีค่ะ พบกันอีกเช่นเคย วันนี้วี่มีรองพื้นอีกตัวที่น่าสนใจจะมารีวิวให้ทุกคนได้ชมกันกับเจ้า YSL All Hours Encre De Peau รองพื้นที่มาแรงและน่าสนใจที่สุดอีกตัวในปีนี้ ด้วยเฉดสีที่มีให้เลือกเยอะถึง 22 เฉดสี และคำเคลมว่าทนทนซะเหลือเกิน ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง แล้วใช้แบบไหนหรอไอ้คุ้มๆ เนี่ย ตามมาเลย


เกริ่นก่อนว่าวี่ได้เจ้า All Hours มานานพอสมควร นานพอที่จะเอามารีวิวให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ คือได้รองพื้นมาตั้งแต่ออกมาแรกๆ เลยค่ะ สีที่วี่เลือกมาคือ #B10 นั่นคือขาวที่สุดในไลน์เบส ซึ่งรองพื้น YSL รุ่นนี้มี 3 โทนหลักๆ คือ เหลือง #BD กลาง #B(เบสกลางไม่ขาวไม่เหลืองจนเกินไป) และขาวชมพู #BR ที่จริงวี่ขาวออกโทนชมพู แต่ด้วยความอยากเพลย์เซฟและเอามาต่อยอดได้เลยเลือก #B10 เบสกลางมาก็แล้วกัน


เจ้า YSL All Hours นี่เคลมมาว่าทน สำหรับวี่จัดให้เป็นรองพื้นประเภท Full Coverage เลยล่ะ นอกจากจะทนจริงตามคำเคลม ยังคุมมันได้ในระดับหนึ่ง อาจจะไม่ได้รู้สึกแห้งแมตต์ทั้งวัน แต่บอกเลยว่าไม่เยิ้ม คนผิวแห้งก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่อาจจะชอบตัวคุชชั่นของเขามากกว่า และในด้านของการปกปิด วี่ว่ารองพื้นตัวนี้ทำได้ดีทีเดียวค่ะ แม้ในสีที่ขาวที่สุดอย่าง #B10 ก็ปิดรอยดำรอยแดงได้ดี


นอกจากความทนทาน ก็ยังมีกลิ่นรองพื้นที่ไม่เหม็น เป็นกลิ่นที่ดีอะ หอมอ่อนๆ ส่วนตัวใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ก่อสิวอุดตัน ถือว่าทำได้ดีมาก ปกติวี่แพ้รองพื้นแบรนด์ฝรั่งกระจาย แต่ YSL รอดค่ะซิส แต่อีกเรื่องที่อยากแนะนำว่าตัวรองพื้นจะดรอปสีลงหลังทาไปประมาณ 5 - 10 นาที เวลาเลือกสีต้องเผื่อดีๆ คำนวนหน่อยว่าใช้แล้วชอบลงแป้งเพิ่มไหม เผื่อสีแป้งเอาไว้ด้วย เผื่อตอนดรอปเอาไว้ด้วยนะคะ


นอกจาก #B10 วี่ก็ยังโดน #B80 มาด้วย และนี่คือความคุ้มค่าที่แสนลงตัว สำหรับคนที่ลังเล ไม่รู้จะเอาสีอะไรดี หรือคนที่ชอบแต่งหน้า แต่งครีเอทลุคโดนใช้รองพื้นหลายๆ สี วี่แนะนำให้ซื้อ #B80 มาผสมกับ ตระกูล #BD ตระกูล #B จะทำให้แตกสีออกไปได้หลากหลายขึ้นเยอะ วันนี้วี่ก็จะมาผสมให้ดูด้วยว่ามันจะได้เฉดสีประมาณไหน


เจ้า #B80 เป็นสีที่เข้มเกือบที่สุดในทั้งหมด (#B90เข้มมาก เข้มที่สุดในไลน์) สำหรับคนที่อยากทำแทน ก็สามารถผสมสีเข้าด้วยกัน หรือจะเอาไว้ใช้สำหรับคอนทัวร์หน้าก็เก๋และเซฟเงินได้จากการต้องหารองพื้นหลายๆ สีมาเล่น และสำหรับวี่ วี่ว่าคุ้ม เพราะวี่สามารถผสมสีที่ต้องการเท่าไหร่ก็ได้จากการมีรองพื้นแค่ 2 ขวดเท่านั้น แต่บอกก่อนนะว่าวี่ชอบแต่งหน้า และครีเอทลุคมากมาย มันดีกว่าวี่ไปซื้อสีมาอีกหลายๆ สี ถ้าใครที่มองว่าเป็นการสิ้นเปลืองก็ซื้อสีที่จริตสีเดียวไปไม่ต้องมาดราม่ากับวี่ แต่ถ้าใครชอบความหลากหลายของเฉดโทนวิธีนี้ก็ถือว่าคุ้ม เหมือนมีรองพื้นหลาย 10 สีอยู่ในมือ


และนี่คือสวอชสี ออริจินัล และสีที่วี่ผสมขึ้นมา โดยการใช้อัตราส่วนตามที่เขียนไว้ในภาพ วี่วัดจากการกดปั๊ม 1 ต่อ 1 ก็จะได้สีที่เหมาะสำหรับคอนทัวร์พอดี หรือใครที่ผิวกลางๆ อาจจะซื้อ #B10 มาทำไฮไลท์เฉดดิ้งใบหน้าด้วยก็เก๋เหมือนกัน เท่ากับเราจะได้ทั้ง ไฮไลท์ คอนทัวร์ และรองพื้นเนื้อเดียวกันทั้งหมด อ่อ แต่ถ้าใครกลัวว่าผสมไปแล้วจะชมพู แนะนำไปเลือกสีตระกูล #BD มาผสมเอานะจ๊ะ





อันนี้วี่จะใช้การผสม #B10 2 ส่วน กับ #B80 1 ส่วนในการลงหน้าวันนี้นะคะ มันจะเข้มกว่าผิวจริงสักหน่อย วี่อยากได้ความแทนนิดๆ และถ่ายรูปมันขึ้นกล้องดี


ลงไปครึ่งหน้า สักเกตุความปกปิดที่ดีเยี่ยม ตัวรองพื้นไม่ได้รู้สึกหนักหน้าเท่า Full Coverage อื่นๆ ค่อนข้าเบา และให้ความเป็นผิว




จากนั้นลงให้ทั่ว แล้วคอนทัวร์ด้วย #B10 + #B80 สัดส่วน 1 ต่อ 1 ข้อควรระวังอีกอย่างคือรองพื้นแห้งไวสักหน่อย ปาดแล้วรีบเบลนด์กันนะจ๊ะ อย่ามั่วเอ้อระเหยนาน เดี๋ยวจะไม่นัว



หลังจากนั้นก็ลงแป้งฝุ่นทรานลูเซนท์เซ็ตอีกที ก็จะได้ผิวหน้าที่แมตต์ และติดทนทั้งวัน หลังจากลองใช้แล้วก็คิดว่าสีมันไม่ดรอปลงหลังจาก 10 นาทีแรกแล้วค่ะ คือยิงยาวเลย แล้วก็ไม่แตกเป็นร่องๆ ถือว่าดีงามสมราคาเลยล่ะ ขวดนึงปริมาณ 25 มล. สำหรับวี่ใช้ได้ 6 เดือน เอาแบบใช้ประจำนะ แต่ถ้าอาทิตย์นึงครั้ง สองครั้ง ใช้ได้ยาวแรมปีจ้า


ราคาอยู่ที่ 2500 บาท แต่ช่วงนี้เหมือนยังมีโปรลดที่พารากอนนะ เหลือ 2300 ประมาณนี้ ใครที่มองไว้อยู่วี่บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง มันสมคำเคลมแล้วเป็นรองพื้นอีกตัวนึงเลยที่วี่คาดว่าจะซื้อซ้ำแน่นอนค่า

ชื่อสินค้า:   YSL All Hours Foundation
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่