ว่ากันด้วยเรื่องคู่ชีวิต
คำถาม คู่ชีวิตคืออะไร?
ตอบ คนที่พร้อมจะเดินเคียงข้างกันไปจนวันสุดท้าย ใช่หรือเปล่าไม่รู้ แต่สำหรับเราคือคนที่ไม่ทำให้เราลำบาก ไม่ทำให้เราเหนื่อย ไม่ทำให้เสียใจเราคิดว่าการจะเลือกใครเข้ามาเป็นคู่ชีวิต มันคงดูจากความรักอย่าเดียวไม่ได้ เพราะรักมันไม่พอ.....
จากชีวิตที่ผิดหวัง ไม่สมหวัง จากความรัก ทำให้เจอผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อว่าโต๊ด ก็เป็นผู้ชายที่ น่ารักดี นิสัยดี จริงใจ ถึงแม้จะไม่มีเงินมากมายให้เรา ตอนนั้นเราว่าโอเค ป๊อปปี้เลิฟพอควร
กาลเวลาผ่านไป ความรักที่หวานๆ ก็เริ่มจางลง คนที่รัก คนที่เคยห่วง ก็ไม่ใส่ใจ ละเลย ซึ่งเราก็ไม่เคยทิ้งเขา ยืนเคียงข้างเสมอ นานวัน ไม่ทำงาน ติดเกมส์ ติดเพื่อน รอ...รอโอกาสจากคนอื่นทั้งที่ตัวเองไม่พยายาม ทำงานอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ เล่าให้เราฟังตลอด เพื่อนร่วมงานแกล้ง เจ้านายชัง ในฐานะแฟนก็ไม่ได้พูดอะไรมากบอกแค่ว่าอดทนไปก่อน คนเรายังไม่รู้จักนิสัย ยังไม่สนิทก็แบบนี้แหล่ะ หันมาตอบง่ายๆ เราลาออกแล้ว หาความั่นคงไม่เคยเจอ (ความจริงถ้าไม่รักษาน้ำใจจะบอกว่า “ตัวเมิงอะ ดีแล้วหรอ เที่ยวว่าคนนั้นเลว คนนี้แกล้ง อยากทำงานสบายก็ไม่ขายตูดไป ”
เราก็กลับมานั่งพิจารณาอีกครั้ง ว่าทั้งชีวิต เราจะฝากความหวังไว้กับมันอีกได้ไหม สรุป ให้โอกาสแต่รอบนี้ เราก็ต้องเริ่มเข้ามามีบทบาทในการช่วยตัดสินใจบางเริ่มจาก เข้าเว็บหางานให้ใหม่ เอางานที่สบายที่สุดได้เงินเยอะๆ (สรุปมันไม่ไปสัมภาษณ์) พอเพื่อนมันแนะนำงานให้ เงินเดือนไม่เยอะมาก มันไป ไปได้3วัน วันที่4 ปลุกให้ไปทำงานมันพูดเหมือนเดิมเลย เจ้านายด่า แกล้ง ไม่อยากไป เราก็หางานวนไป ปลุกมันไปทำงานวนไป เป็นเดือนเลย (อยากจะบอกว่า เบื่อมากกกกกก จูงควายลงนาง่ายกว่าขุนมันไปทำงานสะอีก) เราก็กลับมานั่งคิดแล้วว่า ถ้าเราจะมีคู่ชีวิตแบบนี้ เราควรมีต่อไปหรือเลิกกับมันเลยดีกว่า (สรุป ตัดสินใจเลิก...ง่ายมากกกกกกกกกกก ยังไม่ทันพูดไรเลย แค่ไม่โทร.หาโต๊ดแค่ 3วัน โต๊ดพาแฟนใหม่เข้าบ้านเลยจร้า รักเราจริงๆ) ก็ไม่ได้ว่าอะไร ถือสะว่าเลิกกันแล้ว ไม่ด่า ไม่ตบ ไม่ตี ไม่ตาม แต่ก็แอบเสียใจนะ เพราะการที่เราคาดหวังมาโดยตลอด หลงเชื่อคำหวานๆ คำที่สร้างฝัน สัญญาที่จะรักและดูแลกัน มันออกจาก ลมปากของคนที่พูดไม่คิด แต่มันกินใจสำหรับที่ได้ฟัง
ประเด็นคือเราท้อง ตอนที่พยายามหางานให้โต๊ด เพื่อที่จะพามันเข้าบ้านไปบอก ป๊ากับม๊า ว่าโต๊ดดูแลเราได้ ถามว่าบอกโต๊ดไหมว่าเราท้อง บอกนะ แต่ถ้าโต๊ดทำแบบนี้ เราว่าเราเลี้ยงลูกคนเดียวดีกว่าเราทำงานมาก็ต้องแบ่งเงินให้โต๊ดเอาไปเล่นพนับอล เราเก็บไว้คลอดลูกดีกว่า ถามว่าอยากให้ครอบครัวสมบูรณ์ไหม มีพ่อ แม่ ลูก ก็อยากนะ แต่จะให้เราเลี้ยงทั้งลูก ทั้งผัวเราไม่ไหวหรอก
เราตัดสินใจบอกที่บ้าน ว่าเราท้อง ป๊ากับม๊าก็ทำหน้างงๆ ถามว่าโต๊ดจะมาขอเมื่อไหร่ เราบอกไปสั้นๆ ว่าเด็กมีแม่ก็พอ ม๊าร้องไห้หนักมาก เรารู้นะว่าเขาเสียใจ แต่เราไม่ทำร้ายวุ้นที่มีหัวใจในท้องเราได้หรอกเราบอกป๊ากับม๊าเสมอว่า เลี้ยงลูกดีกว่าเลี้ยงแมงดา หลังจากนั้น1เดือน โต๊ดก็โทรมา จะบอกว่าโต๊ดไม่เคยโทรหาเราเลยตั้งแต่เราออกมาวันนั้น
โต๊ด:พูดว่ามีเงินให้ยืมไหม
เรา: (ไม่รู้จะด่าอะไร) ตอบไปว่ามี แต่เอาไว้เลี้ยงลูก ถ้าอยากมีเงินก็ทำงาน แฟนใหม่เธอรวยนิ จำได้ว่าลูกสาวร้านทอง ไม่ไปขอเขาใช้หล่ะ
โต๊ด:พูดต่อว่า ก็เอาเงินลูกมายืมก่อนเดี๋ยวหาได้จะเอามาคืน ลูกก็ลูกเรา เราไม่โกงหรอก
เรา:เออ ลูกเมิงแต่เงินกู เมิงสับสนไรป่าว? วางสายแม้งเลย คนอะไรหน้าจริงๆ
ระหว่างท้องมีคนมาจีบนะ บอกปัดไปทุกคนว่า...ท้อง ทุกคนก็หายหมด555+ แต่มีคนๆหนึ่งเข้ามาคุยกับเราทุกวัน(คนที่รู้จัก) แนะนำเราเรื่องอาหาร การกิน การเดิน จนเราต้องถามเขาว่า จีบเราหรอ? เรามีลูกนะ ยังไม่คลอดเลย เขาตอบว่า ขอเป็นพ่อให้ตัวเล็กได้ไหม เราก็อึ้งไปสักพัก แล้วก็พูดไปว่า จะบ้าหรา+ พร้อมกับหัวเราะ ขอบคุณนะ เราว่าเราเอาเปรียบเธอเกินไป ลูกก็ลูกคนอื่น เธอจะมาผิดชอบทำไม เขาตอบว่า เพราะเราอยากดูแลเธอ และลูก /เราขอบคุณนะ
วันต่อมาหลังเลิกงานเราก็กลับบ้านมาเจอป๊ากับม๊าปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเขามานั่งรอในบ้าน ป๊าบอกว่าเพื่อนมารอ ทันทีที่ป๊าพูดจบ เขาก็พูดว่า ป๊าครับม๊าครับ ผมทำลูกสาวป๊าท้อง ถ้าผมจะมาขอลูกสาวป๊าจะว่าอะไรไหม ประเด็นที่เขายังไม่รู้คือ เขาไม่รู้ว่าป๊ากับม๊า รู้แล้วว่าใครเป็นพ่อเด็ก
ม๊าเลยพูดว่า: ไอ้หนุ่ม ถ้าม๊ายกให้ หนูจะรักลูกสาวม๊าและลูกในท้องให้เหมือนลูกของตัวเองได้ไหม ? (เขาทำหน้านิ่ง) ป๊าพูดว่า:ขอบใจเองนะ ที่มาแสดงความรับผิดชอบทั้งที่ไม่ได้ข้องเกี่ยว วันนี้ยังไม่ต้องให้คำตอบม๊าหรอก เองกลับไปคิดก่อนแล้วกลับมาใหม่ อีกอย่างป๊าคงยกให้ไม่ได้หรอก หากเจ้าตัวเขาไม่ยอม เองไปคุยกับลูกสาวป๊าก่อน ถ้าเองตัดสินใจแล้วคุยกับหมวยเล็กแล้วค่อยมาบอกป๊านะ
เขาเดินกลับไปแบบเศร้าๆ เขาหายไปหลายวันเลยแหล่ะ ส่วนตัวเราเราก็ไม่ได้คาดหวังให้ใครมาดูแลนะ เพราะขนาดพ่อแท้ยังไม่เคยมาแสดงความรับผิดชอบอะไร แต่ถ้าเขาถามเราเราก็คงตอบว่าของแบบนี้มันต้องลองคบกันดูก่อนว่าจะไปด้วยกันได้ไหม จะมาช่วยหรือเพิ่มภาระ เรายากศึกษาก่อน อยู่ๆไลน์ก็เด้งขึ้นมา คนที่ส่งมาคือเขาแหล่ะ ลืมบอกเลยเขาชื่อเภา
เภา:หมวยๆ ไปโรงพยาบาลอีกวันไหนอะ
เรา:เสาร์นี้อะ มีไรป่าว/
เภา:มีสิ เราขอบไปด้วยนะ หมวย เราอยากพาหมวยไปหาหมอ
เรา:เภา...แกจะมาในฐานะอะไร เพื่อหรอ?
เภา: เราขอหมวยคบได้ไหม
เรา:.......คิดนานพอควร และพิมพ์กลับไปว่า อืม...ลองดูละกัน ถ้าไม่โอเคเรากลับมาเป็นเพื่อนกันได้ไหม หมวยไม่อยากเสียเพื่อน
เภา:โอเคเลยหมวย
เภาก็โทร.คุย โทร.ถามมารับที่บ้าน มาส่งที่ทำงาน พาไปโรงพยาบาล ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พยาบาลดุๆคนเดิม
พยาบาล: คุณแม่คะ ทำไมไม่กรองข้อมูลคุณพ่อคะ รอบที่แล้วแจ้งแล้วนะคะว่าต้องกรองข้อมูลให้ด้วย
เรา: ขอโทษด้วยนะคะ เดี๋ยวกับไปกรองให้นะคะ พอดีแฟนไม่ได้มาด้วย ไม่มีข้อมูล
พยาบาล:งั้นเขียนชื่อคุณพ่อไว้นะคะ ดิฉันได้กรอกข้อมูลให้เบื้องต้นก่อน
เรา:รอบหน้าไม่ได้หรอคะ?
อยู่ๆเภาดึงสมุดบันทึกข้อมูลการฝากครรภ์จากมือเราทันทีแล้วกรอกข้อมูลให้
พยาบาล: ไหนบอกว่าแม่ไม่ได้มาด้วย
เภา:อ่อผมไปทานข้าวครับเลยไม่ได้มาพร้อมกัน ส่งเธอขึ้นมายืนเอกสารก่อน ขอโทษด้วยนะครับ ขอบคุณนะครับ
เรา:เภา....แก เอาจริงอะ
เภา:หมวยเอางี้…ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้าถึงวันนั้นไปกันไม่ได้ เราเลิกกัน แกก็คิดว่าเพื่อนมารับเป็นพ่อให้ก็ได้ นิ สูติบัตรลูกจะได้มีพ่อนะ
เรา:ขอบใจแกว่ะ
ความจริงเราก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันหรอกคะ เราสองคนรู้จักกัน ตั้งแต่สมัยหมวยเรียนมหาลัย หมวยขับรถล้มเขาก็มาช่วย เลยทำให้รู้จักกัน คุยกันบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยจีบหมวยนะ หรือว่าตอนนั้นหมวยมีแฟนเลยไม่ได้สนใจ แต่ก็ช่างมันเถอะ หมวยโอเคนะ เขาก็ดีทำมาหากิน ชอบเอาเงินให้หมวย หมวยไม่รับหรอกแค่นี้ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว ตอนนี้ลูกหมวยก็3ขวบแล้ว หมวยก็ยังรักและคบกับเขาอยู่ มีปากเสียงกันบ้าง แต่ไม่รุนแรง ถามว่าตอนนี้รักขนาดไหน ตอบคำเดียวเลยรักมาก...แต่รักไม่เท่าลูก สามี ภรรยา เลิกกันก็คือคนอื่น แต่แม่ลูกเลิกกันไม่ได้หรอก
ถ้าถามถึงโต๊ด โต๊ดก็โทรมานะ เล่าว่าเขามีความสุขดี อยากเจอลูก แต่โต๊ดไม่เคยมาเจอลูกเลยสักครั้ง โต๊ดบอกจะโอนเงินให้ ก็ไม่เคยโอนนะ เราไม่ได้อยากเงินหรอก แต่เราบอกโต๊ดว่า เมื่อไหร่ที่โต๊ดมีงานทำ เงินเหลือพอที่จะแบ่งปันหรืออยากแสดงความรับผิดชอบ โต๊ดค่อยเอาเงินมาให้นะ หมวยอยู่บ้านหลังเดิม ไม่ได้เปลี่ยนที่อยู่ ถ้าไม่อยากมาก็โอนมา แต่โต๊ดไม่ควรเอาเงินของแฟนมาให้เรา เราไม่โอเค หลังจากนั้นโต๊ดก็หายไปจากเรา
คู่ชีวิต คือคนที่ยืนอยู่เคียงข้างเรา หยุดรอเราในวันที่เราล้มลง มีไหล่ให้เราซบในวันที่ท้อ มีคำปลอบใจในวันที่เศร้า มีกันและกัน มีความไว้ใจ ไม่สร้างปัญหาแต่ช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยกันเกื้อกูลกัน เราไม่ควรรักคนที่มีแค่ลมปาก (ความเห็นส่วนตัวนะ) เราไม่ได้เชื่อในความรัก เราเชื่อในเรื่องพรหมลิขิต ที่ลิขิตให้เราจมดิ่งลงก้นมหาสมุทร แล้วส่งลำแสงเล็กๆที่ทำให้เราก้าวมาสู่ผิวน้ำเพื่อขึ้นฝั่ง รักได้แต่อย่าปิดตาตัวเอง หลงเชื่อโดยไม่ได้ลืมหูลืมตา....
“จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ”
หมวย
แล้วคุณหล่ะ คิดว่าชีวิตคู่ คืออะไร
คำถาม คู่ชีวิตคืออะไร?
คำถาม คู่ชีวิตคืออะไร?
ตอบ คนที่พร้อมจะเดินเคียงข้างกันไปจนวันสุดท้าย ใช่หรือเปล่าไม่รู้ แต่สำหรับเราคือคนที่ไม่ทำให้เราลำบาก ไม่ทำให้เราเหนื่อย ไม่ทำให้เสียใจเราคิดว่าการจะเลือกใครเข้ามาเป็นคู่ชีวิต มันคงดูจากความรักอย่าเดียวไม่ได้ เพราะรักมันไม่พอ.....
จากชีวิตที่ผิดหวัง ไม่สมหวัง จากความรัก ทำให้เจอผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อว่าโต๊ด ก็เป็นผู้ชายที่ น่ารักดี นิสัยดี จริงใจ ถึงแม้จะไม่มีเงินมากมายให้เรา ตอนนั้นเราว่าโอเค ป๊อปปี้เลิฟพอควร
กาลเวลาผ่านไป ความรักที่หวานๆ ก็เริ่มจางลง คนที่รัก คนที่เคยห่วง ก็ไม่ใส่ใจ ละเลย ซึ่งเราก็ไม่เคยทิ้งเขา ยืนเคียงข้างเสมอ นานวัน ไม่ทำงาน ติดเกมส์ ติดเพื่อน รอ...รอโอกาสจากคนอื่นทั้งที่ตัวเองไม่พยายาม ทำงานอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ เล่าให้เราฟังตลอด เพื่อนร่วมงานแกล้ง เจ้านายชัง ในฐานะแฟนก็ไม่ได้พูดอะไรมากบอกแค่ว่าอดทนไปก่อน คนเรายังไม่รู้จักนิสัย ยังไม่สนิทก็แบบนี้แหล่ะ หันมาตอบง่ายๆ เราลาออกแล้ว หาความั่นคงไม่เคยเจอ (ความจริงถ้าไม่รักษาน้ำใจจะบอกว่า “ตัวเมิงอะ ดีแล้วหรอ เที่ยวว่าคนนั้นเลว คนนี้แกล้ง อยากทำงานสบายก็ไม่ขายตูดไป ”
เราก็กลับมานั่งพิจารณาอีกครั้ง ว่าทั้งชีวิต เราจะฝากความหวังไว้กับมันอีกได้ไหม สรุป ให้โอกาสแต่รอบนี้ เราก็ต้องเริ่มเข้ามามีบทบาทในการช่วยตัดสินใจบางเริ่มจาก เข้าเว็บหางานให้ใหม่ เอางานที่สบายที่สุดได้เงินเยอะๆ (สรุปมันไม่ไปสัมภาษณ์) พอเพื่อนมันแนะนำงานให้ เงินเดือนไม่เยอะมาก มันไป ไปได้3วัน วันที่4 ปลุกให้ไปทำงานมันพูดเหมือนเดิมเลย เจ้านายด่า แกล้ง ไม่อยากไป เราก็หางานวนไป ปลุกมันไปทำงานวนไป เป็นเดือนเลย (อยากจะบอกว่า เบื่อมากกกกกก จูงควายลงนาง่ายกว่าขุนมันไปทำงานสะอีก) เราก็กลับมานั่งคิดแล้วว่า ถ้าเราจะมีคู่ชีวิตแบบนี้ เราควรมีต่อไปหรือเลิกกับมันเลยดีกว่า (สรุป ตัดสินใจเลิก...ง่ายมากกกกกกกกกกก ยังไม่ทันพูดไรเลย แค่ไม่โทร.หาโต๊ดแค่ 3วัน โต๊ดพาแฟนใหม่เข้าบ้านเลยจร้า รักเราจริงๆ) ก็ไม่ได้ว่าอะไร ถือสะว่าเลิกกันแล้ว ไม่ด่า ไม่ตบ ไม่ตี ไม่ตาม แต่ก็แอบเสียใจนะ เพราะการที่เราคาดหวังมาโดยตลอด หลงเชื่อคำหวานๆ คำที่สร้างฝัน สัญญาที่จะรักและดูแลกัน มันออกจาก ลมปากของคนที่พูดไม่คิด แต่มันกินใจสำหรับที่ได้ฟัง
ประเด็นคือเราท้อง ตอนที่พยายามหางานให้โต๊ด เพื่อที่จะพามันเข้าบ้านไปบอก ป๊ากับม๊า ว่าโต๊ดดูแลเราได้ ถามว่าบอกโต๊ดไหมว่าเราท้อง บอกนะ แต่ถ้าโต๊ดทำแบบนี้ เราว่าเราเลี้ยงลูกคนเดียวดีกว่าเราทำงานมาก็ต้องแบ่งเงินให้โต๊ดเอาไปเล่นพนับอล เราเก็บไว้คลอดลูกดีกว่า ถามว่าอยากให้ครอบครัวสมบูรณ์ไหม มีพ่อ แม่ ลูก ก็อยากนะ แต่จะให้เราเลี้ยงทั้งลูก ทั้งผัวเราไม่ไหวหรอก
เราตัดสินใจบอกที่บ้าน ว่าเราท้อง ป๊ากับม๊าก็ทำหน้างงๆ ถามว่าโต๊ดจะมาขอเมื่อไหร่ เราบอกไปสั้นๆ ว่าเด็กมีแม่ก็พอ ม๊าร้องไห้หนักมาก เรารู้นะว่าเขาเสียใจ แต่เราไม่ทำร้ายวุ้นที่มีหัวใจในท้องเราได้หรอกเราบอกป๊ากับม๊าเสมอว่า เลี้ยงลูกดีกว่าเลี้ยงแมงดา หลังจากนั้น1เดือน โต๊ดก็โทรมา จะบอกว่าโต๊ดไม่เคยโทรหาเราเลยตั้งแต่เราออกมาวันนั้น
โต๊ด:พูดว่ามีเงินให้ยืมไหม
เรา: (ไม่รู้จะด่าอะไร) ตอบไปว่ามี แต่เอาไว้เลี้ยงลูก ถ้าอยากมีเงินก็ทำงาน แฟนใหม่เธอรวยนิ จำได้ว่าลูกสาวร้านทอง ไม่ไปขอเขาใช้หล่ะ
โต๊ด:พูดต่อว่า ก็เอาเงินลูกมายืมก่อนเดี๋ยวหาได้จะเอามาคืน ลูกก็ลูกเรา เราไม่โกงหรอก
เรา:เออ ลูกเมิงแต่เงินกู เมิงสับสนไรป่าว? วางสายแม้งเลย คนอะไรหน้าจริงๆ
ระหว่างท้องมีคนมาจีบนะ บอกปัดไปทุกคนว่า...ท้อง ทุกคนก็หายหมด555+ แต่มีคนๆหนึ่งเข้ามาคุยกับเราทุกวัน(คนที่รู้จัก) แนะนำเราเรื่องอาหาร การกิน การเดิน จนเราต้องถามเขาว่า จีบเราหรอ? เรามีลูกนะ ยังไม่คลอดเลย เขาตอบว่า ขอเป็นพ่อให้ตัวเล็กได้ไหม เราก็อึ้งไปสักพัก แล้วก็พูดไปว่า จะบ้าหรา+ พร้อมกับหัวเราะ ขอบคุณนะ เราว่าเราเอาเปรียบเธอเกินไป ลูกก็ลูกคนอื่น เธอจะมาผิดชอบทำไม เขาตอบว่า เพราะเราอยากดูแลเธอ และลูก /เราขอบคุณนะ
วันต่อมาหลังเลิกงานเราก็กลับบ้านมาเจอป๊ากับม๊าปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเขามานั่งรอในบ้าน ป๊าบอกว่าเพื่อนมารอ ทันทีที่ป๊าพูดจบ เขาก็พูดว่า ป๊าครับม๊าครับ ผมทำลูกสาวป๊าท้อง ถ้าผมจะมาขอลูกสาวป๊าจะว่าอะไรไหม ประเด็นที่เขายังไม่รู้คือ เขาไม่รู้ว่าป๊ากับม๊า รู้แล้วว่าใครเป็นพ่อเด็ก
ม๊าเลยพูดว่า: ไอ้หนุ่ม ถ้าม๊ายกให้ หนูจะรักลูกสาวม๊าและลูกในท้องให้เหมือนลูกของตัวเองได้ไหม ? (เขาทำหน้านิ่ง) ป๊าพูดว่า:ขอบใจเองนะ ที่มาแสดงความรับผิดชอบทั้งที่ไม่ได้ข้องเกี่ยว วันนี้ยังไม่ต้องให้คำตอบม๊าหรอก เองกลับไปคิดก่อนแล้วกลับมาใหม่ อีกอย่างป๊าคงยกให้ไม่ได้หรอก หากเจ้าตัวเขาไม่ยอม เองไปคุยกับลูกสาวป๊าก่อน ถ้าเองตัดสินใจแล้วคุยกับหมวยเล็กแล้วค่อยมาบอกป๊านะ
เขาเดินกลับไปแบบเศร้าๆ เขาหายไปหลายวันเลยแหล่ะ ส่วนตัวเราเราก็ไม่ได้คาดหวังให้ใครมาดูแลนะ เพราะขนาดพ่อแท้ยังไม่เคยมาแสดงความรับผิดชอบอะไร แต่ถ้าเขาถามเราเราก็คงตอบว่าของแบบนี้มันต้องลองคบกันดูก่อนว่าจะไปด้วยกันได้ไหม จะมาช่วยหรือเพิ่มภาระ เรายากศึกษาก่อน อยู่ๆไลน์ก็เด้งขึ้นมา คนที่ส่งมาคือเขาแหล่ะ ลืมบอกเลยเขาชื่อเภา
เภา:หมวยๆ ไปโรงพยาบาลอีกวันไหนอะ
เรา:เสาร์นี้อะ มีไรป่าว/
เภา:มีสิ เราขอบไปด้วยนะ หมวย เราอยากพาหมวยไปหาหมอ
เรา:เภา...แกจะมาในฐานะอะไร เพื่อหรอ?
เภา: เราขอหมวยคบได้ไหม
เรา:.......คิดนานพอควร และพิมพ์กลับไปว่า อืม...ลองดูละกัน ถ้าไม่โอเคเรากลับมาเป็นเพื่อนกันได้ไหม หมวยไม่อยากเสียเพื่อน
เภา:โอเคเลยหมวย
เภาก็โทร.คุย โทร.ถามมารับที่บ้าน มาส่งที่ทำงาน พาไปโรงพยาบาล ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พยาบาลดุๆคนเดิม
พยาบาล: คุณแม่คะ ทำไมไม่กรองข้อมูลคุณพ่อคะ รอบที่แล้วแจ้งแล้วนะคะว่าต้องกรองข้อมูลให้ด้วย
เรา: ขอโทษด้วยนะคะ เดี๋ยวกับไปกรองให้นะคะ พอดีแฟนไม่ได้มาด้วย ไม่มีข้อมูล
พยาบาล:งั้นเขียนชื่อคุณพ่อไว้นะคะ ดิฉันได้กรอกข้อมูลให้เบื้องต้นก่อน
เรา:รอบหน้าไม่ได้หรอคะ?
อยู่ๆเภาดึงสมุดบันทึกข้อมูลการฝากครรภ์จากมือเราทันทีแล้วกรอกข้อมูลให้
พยาบาล: ไหนบอกว่าแม่ไม่ได้มาด้วย
เภา:อ่อผมไปทานข้าวครับเลยไม่ได้มาพร้อมกัน ส่งเธอขึ้นมายืนเอกสารก่อน ขอโทษด้วยนะครับ ขอบคุณนะครับ
เรา:เภา....แก เอาจริงอะ
เภา:หมวยเอางี้…ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้าถึงวันนั้นไปกันไม่ได้ เราเลิกกัน แกก็คิดว่าเพื่อนมารับเป็นพ่อให้ก็ได้ นิ สูติบัตรลูกจะได้มีพ่อนะ
เรา:ขอบใจแกว่ะ
ความจริงเราก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันหรอกคะ เราสองคนรู้จักกัน ตั้งแต่สมัยหมวยเรียนมหาลัย หมวยขับรถล้มเขาก็มาช่วย เลยทำให้รู้จักกัน คุยกันบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยจีบหมวยนะ หรือว่าตอนนั้นหมวยมีแฟนเลยไม่ได้สนใจ แต่ก็ช่างมันเถอะ หมวยโอเคนะ เขาก็ดีทำมาหากิน ชอบเอาเงินให้หมวย หมวยไม่รับหรอกแค่นี้ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว ตอนนี้ลูกหมวยก็3ขวบแล้ว หมวยก็ยังรักและคบกับเขาอยู่ มีปากเสียงกันบ้าง แต่ไม่รุนแรง ถามว่าตอนนี้รักขนาดไหน ตอบคำเดียวเลยรักมาก...แต่รักไม่เท่าลูก สามี ภรรยา เลิกกันก็คือคนอื่น แต่แม่ลูกเลิกกันไม่ได้หรอก
ถ้าถามถึงโต๊ด โต๊ดก็โทรมานะ เล่าว่าเขามีความสุขดี อยากเจอลูก แต่โต๊ดไม่เคยมาเจอลูกเลยสักครั้ง โต๊ดบอกจะโอนเงินให้ ก็ไม่เคยโอนนะ เราไม่ได้อยากเงินหรอก แต่เราบอกโต๊ดว่า เมื่อไหร่ที่โต๊ดมีงานทำ เงินเหลือพอที่จะแบ่งปันหรืออยากแสดงความรับผิดชอบ โต๊ดค่อยเอาเงินมาให้นะ หมวยอยู่บ้านหลังเดิม ไม่ได้เปลี่ยนที่อยู่ ถ้าไม่อยากมาก็โอนมา แต่โต๊ดไม่ควรเอาเงินของแฟนมาให้เรา เราไม่โอเค หลังจากนั้นโต๊ดก็หายไปจากเรา
คู่ชีวิต คือคนที่ยืนอยู่เคียงข้างเรา หยุดรอเราในวันที่เราล้มลง มีไหล่ให้เราซบในวันที่ท้อ มีคำปลอบใจในวันที่เศร้า มีกันและกัน มีความไว้ใจ ไม่สร้างปัญหาแต่ช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยกันเกื้อกูลกัน เราไม่ควรรักคนที่มีแค่ลมปาก (ความเห็นส่วนตัวนะ) เราไม่ได้เชื่อในความรัก เราเชื่อในเรื่องพรหมลิขิต ที่ลิขิตให้เราจมดิ่งลงก้นมหาสมุทร แล้วส่งลำแสงเล็กๆที่ทำให้เราก้าวมาสู่ผิวน้ำเพื่อขึ้นฝั่ง รักได้แต่อย่าปิดตาตัวเอง หลงเชื่อโดยไม่ได้ลืมหูลืมตา....
“จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ”
หมวย
แล้วคุณหล่ะ คิดว่าชีวิตคู่ คืออะไร