ห้องเพลงคนรากหญ้า *พักยกการเมือง* มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม..มีแต่เสียง 21/9/2017 "ย้อนรอยซ้อเจ็ดโดนตีหัวแตก"

กระทู้คำถาม
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ วันนี้ MC จะพาเพื่อนๆพักยกการเมืองลองย้อนรอยไปดูเรื่องราวของซ้อเจ็ด คอลัมนิสต์บันเทิงประจำ แมเนเจอร์ ออนไลน์ ผู้ขายเรื่องราวใต้สะดือของดาราและคนดังกระตุ้นยอดผู้ชมเว็บไซท์ แมเนเจอร์ ออน ไลน์ แหล่งรวมสาวก นสพ ผู้จัดการ และ astv กันครับ ส่วนตัวแล้วเมื่อก่อนก็เคยดูรายการของคนที่ถูกสงสัยว่าเป็นซ้อเจ็ดแล้วมาถูกตีหัวในภายหลังอยู่บ่อยๆผ่านช่องรายการเคเบิ้ลทีวีครับผม


ซ้อเจ็ด เป็นนามปากกาของนักเขียนผู้ไม่ประสงค์จะออกนามจริง เขียนบทความในผู้จัดการออนไลน์เกี่ยวกับดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียง โดยมีข้อมูลจากวงใน หรือข้อมูลที่สำคัญ ลักษณะการเขียน ผู้เขียนจะไม่กล่าวชื่อดาราคนนั้นว่าเป็นใครแต่จะพูดเป็นคำใบ้ต่างๆ แทน เช่น คุณป้าหน้าบาน น้องตาโตเสียงแผด นางเอกหน้าคม เป็นต้น และเปิดให้มีผู้เข้าไปอ่านเป็นจำนวนมากและแสดงความคิดเห็นต่างๆกันไป นอกจากข่าวในเว็บออนไลน์แล้ว คอลัมน์ซ้อเจ็ดมีบริการรับฟังข่าวผ่านโทรศัพท์มือถือ

ในปี พ.ศ. 2543 ในขณะนั้นผู้จัดการออนไลน์มียอดคนอ่านเพียง 3,000 คนต่อวัน (อยู่อันดับ 40 ในตอนนั้น) สนธิ ลิ้มทองกุล มีคำสั่งมายังผู้ที่ใช้นามปากกาว่า ซ้อเจ็ด เปิดคอลัมน์ซุบซิบเพื่อดึงคนอ่านให้ได้หลักหมื่น โดยนามปากกา “ซ้อเจ็ด” เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่มีการอุ้มฆ่าของตระกูลวิญญรัตน์ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการซอสปรุงรสยี่ห้อภูเขาทอง ซึ่งคนที่ถูกอุ้มคนสุดท้ายเป็นซ้อคนที่เจ็ด โดยการเขียนจะอัปโหลดเรื่องราวใหม่ๆ ทุกเย็นวันศุกร์ สุดสัปดาห์ แต่พอเกิดเหตุการณ์ช่วงก่อนปฏิวัติ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ที่มีการข่มขู่จะปิดผู้จัดการออนไลน์ จึงทำให้ซ้อเจ็ดหายไปชั่วคราว

หลังจากนั้น 2 ปี จึงกลับมาพร้อมเปลี่ยนชื่อจาก คอลัมน์ “บีบสิว” มาเป็น “บีบสิวหัวช้าง” โดยเปลี่ยนมาอัปเดตเรื่องใหม่ทุกเย็นวันจันทร์แทน โดยตีแผ่เรื่องราว ของนักการเมืองและครอบครัว ดารา นักร้อง

สไตล์การเขียน
คาแร็กเตอร์ของซ้อเจ็ดที่ถูกสร้างคือเป็น“สตรีวัยกลางคน อายุ 45 ปี ผมหยักศก อกอิ่ม รูปร่างสมส่วน สุขภาพดี หน้าตาสดใส ไม่นิยมการแต่งหน้า เป็นภริยาท่านทูตต่างชาติ รสนิยมดี การศึกษาดี เป็นคนสู่รู้ มีอารมณ์ขัน ตลกร้าย ตรงไปตรงมา กระนั่นแม้จะปากคอจัดจ้าน ในความดิบนั้นก็มีมโนธรรม มีคุณธรรมแฝงอยู่ในบางเรื่อง”

ผลงานชิ้นแรกๆ ที่สร้างชื่อให้ซ้อเจ็ด เช่นเรื่อง เกย์ ชู้ ยิ้ม มั่วยา ขายตัว รวมไปถึงเรื่องราวใหญ่โตอย่าง นักการเมืองโกงกินชาติ โดยเขียนในรูปแบบสาธยายแบบเผ็ดร้อน รุนแรง ด้วยการบรรยายโวหาร กล่าวถึงคนอื่นโดยไม่ใช่อักษรย่อ มีการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ซึ่งเป็นการสร้างจุดขายที่แตกต่างจากข่าวซุบซิบยุคเก่า รวมถึงการบัญญัติศัพท์ใหม่ๆ เช่น ซินาอ้า

แม้จะเป็นข่าวที่มีลักษณะแบบปากต่อปาก แต่ซ้อเจ็ดก็ต้องนำข้อมูลมาตรวจสอบก่อนเขียนทุกครั้ง 3-4 รอบ รวมถึงความถูกต้องในการใช้ภาษา และการดูตัวบทกฎหมายว่าจะถูกฟ้องหรือไม่ สิ่งที่เขียนมีข้อเท็จจริง 60% และเรื่องแต่งขึ้นอีก 40% เพื่อให้เรื่องราวมีสีสันด้วยภาษาที่น่าดึงดูด

การหาข่าว
ในช่วงปีแรก ซ้อเจ็ดเขียนข่าวทุกข่าวด้วยตัวเอง จากนั้นเริ่มมีทีมเข้ามาช่วย จาก 3 คนเป็น 5 คน ซึ่งซ้อเจ็ดจะเป็นคนกลั่นกรองและเรียบเรียงสำนวนด้วยตัวเอง เพื่อให้งานเขียนดูมีตรรกะมากขึ้น การเก็บข้อมูล นำมาจากตามวงเหล้า ตามผับ ตามบาร์ “เด็กเที่ยว” และ “สาวไซด์ไลน์” ที่มีประสบการณ์ตรง บางครั้งข้อมูลเชิงลึกก็มีการแลกกับเงินค่าเรื่อง 2,500 บาท ก็มี

อิทธิพล
อิทธิพลในการเขียนของซ้อเจ็ด คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และยาขอบ ที่มีการเขียนเรื่องโดยใช้ กลยุทธ์ร้อยเรียงเหมือนเรื่องสั้น เพื่อให้อ่านสนุก น่าติดตาม ซ้อเจ็ดยังส่งผลต่ออิทธิพลให้เกิดคอลัมน์ประเภทซุบซิบ ในนิตยสารบันเทิงตามมา ซ้อเจ็ดวิจารณ์ไว้ว่า "บางเล่มใช้คำแรงจนดูโง่เกินไป เราแรงจริง เราถ่อย เราดิบ แต่เราไม่ต่ำ ไม่โลว์เทสต์ เราเป็นเมียท่านทูตนะ อย่างน้อยก็จบเอกชนสตรีชั้นนำ " และซ้อเจ็ดเล่าว่า "เกินครึ่งของหัวหน้าข่าวบันเทิงในนิตยสารแนวนี้เคยเป็นลูกน้องซ้อเจ็ดมาก่อน"

ความนิยม
จากการจัดอันดับของทรูฮิตในปี 2551 พบว่า www.manager.co.th อยู่อันดับที่ 4 ซึ่งคอลัมน์ซ้อเจ็ดเป็นส่วนสำคัญของผู้จัดการออนไลน์ แต่ละเรื่องมีจำนวนคนอ่านผ่านเว็บไซต์ของผู้จัดการออนไลน์ ไม่ต่ำกว่า 50,000 ครั้ง ขณะที่บางเรื่องพุ่งขึ้นสูงเกิน 100,000 ครั้ง (ไม่นับรวมการอ่านจากเว็บไซต์อื่นที่นำไปโพสต์ต่ออีกที) และยอดการค้นหาชื่อ ซ้อเจ็ด จากกูเกิล มีสูงถึง 100,000 รายการ ส่วนคอลัมน์ของซ้อเจ็ดเองเป็นตัวอย่างของเว็บบอร์ดที่มีการตอบกระทู้มากที่สุด ตั้งแต่หลักหลายร้อยจนทะลุหลักพัน ในขณะที่ซ้อเจ็ดเป็นที่นิยมของแฟนคลับ ในทางตรงกันข้ามก็มีศัตรู คู่กรณีเช่นกัน ถึงกับมีพระเอกคาสโนวาประกาศจะล่าซ้อเจ็ด ด้วยค่าหัว 70 ล้านบาท  และจากกรณีต่อพงษ์ เศวตามร์ บรรณาธิการข่าวบันเทิง หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน และ ASTVผู้จัดการออนไลน์ที่เคยคนร้ายใช้เหล็กแป๊บตีที่ศีรษะจนแตกเลือดอาบ เคยสัมภาษณ์ว่า เมทนี บุรณศิริ คิดว่าต่อพงษ์เป็นคนเขียนคอลัมน์ซ้อเจ็ด ใน ASTVผู้จัดการออนไลน์ แต่ต่อพงษ์ยืนกรานว่าไม่ได้เขียน



รูปแบบข่าวที่มีลักษณะเป็นข่าวเมาท์ ข่าวซุบซิบ ซึ่งซ้อเจ็ดมีชื่อเสียงความโด่งดังจากเรื่องงานเขียนถูกต้องและเป็นจริง อย่างกรณีนางเอกเบนโล ก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง และด้วยเหตุที่ซ้อเจ็ด กล้า ที่จะฉะกับดารา ไฮโซ นักการเมือง ทำให้ได้รับความนิยมจากแฟนคลับ อีกทั้ง “ความน่าเชื่อถือ” ก็เป็นส่วนหนึ่งของความนิยมนี้

ความสนใจของตัวซ้อเจ็ด กับผู้อ่าน ตั้งข้อสังเกตจากความเห็นที่โพสต์ไว้ในเว็บไซต์และความสงสัยใคร่รู้ของคนชอบท่องเว็บฯ ซึ่งมักมีคำถามประเภท 'ซ้อเจ็ด เป็นใคร? ชายหรือหญิง? เกย์หรือกะเทย? ซึ่งเกิดขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆ และมีเสียงคาดเดาว่า ซ้อเจ็ดคือใคร เดากันไปบ้างว่า คือ สันติ เศวตวิมล บ้างก็ว่าเป็น ดร. เสรี วงษ์มณฑา หรือบอกว่าเป็น ต้อย แอคเนอร์ ก็มี


ส่วนทาง pantip เองในขณะที่เกิดเรื่องซ้อเจ็ดถุกตีหัวนั้น ก็มีการตั้งกระทู้จากเพื่อนสมาชิก ณ เวลานั้น เพื่อสอบถามความเห็นของเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน

ขาใหญ่ทะเลาะกัน นีโน่ Vs ต่อพงษ์ (ซ้อ7!?) คุณชอบฝ่ายใหน ?

“ต่อพงษ์” แฉ “นีโน่” โทร.คุกคามก่อนถูกตีหัวแตก

“ต่อพงษ์” บก.บันเทิง ASTVผู้จัดการรายวัน ให้การกับตำรวจกรณีถูกมือมืดตีหัวแตก น่าจะเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวบันเทิง แฉ ก่อนถูกทำร้าย “นีโน่” โทร.คุกคามหลายครั้ง หลังเข้าใจว่าตนถูกพาดพิงในคอลัมน์ดังของผู้จัดการออนไลน์ จึงเกิดความไม่พอใจ ผู้เสียหาย เผย ยังไม่ปักใจเชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นคนกระทำ แต่ยันไม่มีศัตรูที่ไหน


...............................................................................................

นีโน่โต้จ้างคนตีหัวต่อพงษ์ลั่นไม่ใช่กุ๊ย

'นีโน่' โต้จ้างคนตีหัว'ต่อพงษ์' ลั่นไม่ใช่กุ๊ยมีการศึกษาพอ ให้ทนายดูทางฝ่ายโน้น ก่อนฟ้องกลับ


นักแสดงหนุ่ม'นีโน่ เมทนี บูรณศิริ' รีบออกมาจัดแถลงข่าวทันที เมื่อถูกซ้อ 7 ของ เว็บไซต์ผู้จัดการเขียนข่าวพาดพิงให้เสียหายกล่าวหาว่าเป็นเกย์ ทั้งนี้ หนุ่มนีโน่ ถึงกับยอมไม่ได้ หลังจากที่ "ต่อพงษ์ เศวตามร์" บรรณาธิการข่าวบันเทิง หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน และ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ให้สัมภาษณ์เชื่อมโยงไปถึงหนุ่มนีโน่ เมื่อได้ถูกคนทำร้ายเอาของแข็งตีที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บเมื่อเช้าผ่านมา งานนี้เจ้าตัวได้มาพร้อมทนาย ม.ร.ว.ปรฉัตร ฉัตรชัย ที่รายการโอโน่โชว์ บ.ทีวี ธันเดอร์ พร้อมกับชี้แจ้งทั้งหมด

จากคุณ : vierzig   - [ 17 ก.พ. 52 19:46:51 ]



ผลสำรวจความเห็นจากผุ้เข้าร่วม 100 คน และความเห็นต่างๆมีตามนี้








http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2009/02/A7536814/A7536814.html

MC ไม่ขอสนับสนุนความรุนแรงทุกประเภท ไม่ว่าจะเกิดจากเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องที่เกิดจากโลกออนไลน์  แต่สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่าคุณนีโน่กับคุณต่อพงษ์(ผู้ที่ถูกมองว่าเป็นซ้อ7) ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรกับเขา ว่าทำไมจึงมาถึงขั้นหัวร้างข้างแตก  จึงไม่ขอออกความเห็นใดๆกับเรื่องนี้ เพียงแค่นำเสนอมุมมองของเพื่อนสมาชิกในยุคนั้นว่ามองเรื่องราวที่เกิดนี้กันอย่างไร และความเห็นเอนเอียงไปทางฝ่ายไหนมากกว่ากันเท่านั้น








ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น....

ดาวใจ ไพจิตร ทำไมถึงทำกับฉันได้เม่าโศก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ปล.หลังจากส่งกระทู้เสร็จ MC ยังติดงานอยู่ แล้วเลิกงานจะกลับมาใหม่ครับผม
อัศวินขี่ม้าขาว
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การ์ตูนการเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่