สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
คาตาลัน เดิมในอดีตเป็นเคาท์ตี้ ออฟ บาร์เซโลน่า เป็นเคาท์ตี้อิสระ ต่อมา ท่านเคาท์Ramon Berenguer IVเเห่งบาร์เซโลน่า อภิเษกสมรสกับ สมเด็จพระราชินีนาถPetronillaเเห่งราชอาณาจักรอารากอน เมื่อท่านเคาท์เเก่อสัญกรรมในปี1162 เจ้าชายAlfonsoขึ้นเป็น Count Alfonso of Barcelona เเละองค์ราชินีสวรรคตในปี1194 ท่านเคาท์เเห่งบาร์เซโลน่า ในฐานะรัชทายาทเเห่งอารากอน จึงขึ้นเป็น พระเจ้าAlfonso II เเห่งอารากอน พระองค์จึงผนวกCounty of Barcelona ที่มีศักดิต่ำกว่า เข้ากับ Kingdom of Aragon ที่มีศักดิศูงกว่า โดยทรงย้ายราชธานีจาก ซาราโกซ่า มายัง บาร์เซโลน่า ซึ่งติดทะเลเเละเจริญกว่า นับจากนั้น ชาวคาตาลันจึงเข้าเป็นส่วนหนึ่งเเละเป็นผู้นำราชอาณาจักรอารากอน
อารากอน มีรัฐเพื่อนบ้านที่เป็นราชอาณาจักรเหมือนกัน นามว่า คาสติล เเอนด์ เลออง (ต่อมาคือ พวกมาดริด) ซึ่งสองรัฐนี้มีศัตรูร่วมกันคือ พวกมุสลิมทางใต้ ทั้งสองรัฐจึงมีการเเต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กัน เเต่รัฐทั้งสองก็ต่างคนต่างอยู่จนกระทั่ง พระเจ้ามาตินเเห่งอารากอนเเละที่2เเห่งชิชิลีเสด็จสวรรคตในปี1410 โดยไม่มีทายาทตามกฎหมายที่มีชีวิต ราชสมบัติอารากอนเเละซิชิลีก็ว่างลงถึงสองปี (ได้ราชสมบัติซิชิลีจากการที่พระราชโอรสที่ขึ้นครองราชยต่อจากพระมเหสี เเละเมื่อพระราชโอรสสวรรคตก่อนตน ราชสมบัติจึงตกมาสู่พระองค์) เพราะมีผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ถึง 5 คน ได้เเก่ 1.ดยุคAlfonso I เเห่งเเกนเดีย พระราชนัดดาของพระเจ้าJames II เเห่งอารากอน (ต่อมาท่านดยุคเเก่กรรมในปี1412 ก่อนได้ขอยุติ ดยุคAlfonso II โอรส ก็มิได้อ้างสิทธิ์ อนุชาJohnจึงอ้างสิทธ์ต่อมาเชษฐา) 2.เจ้าชายเฟอร์ดินานด์เเห่งคาสติล พระปิตุลาผู้สำเร็จราชการเเห่งคาสติล เจ้าราชภาติยะของพระเจ้ามาร์ติน (ความจริงสายนี้ ควรเป็นพระเจ้าJohn II เเห่งคาสติล เป็นผู้อ้างสิทธิ์ เเต่พระองค์มีราชบัลลังก์คาสติลอยู่เเล้ว Queen Motherจึงให้พระปิตุลาเฟอร์ดินานด์อ้างสิทธิ์เเทน) 3.เคาท์Fredericเเห่งLuna พระราชนัดดานอกกฎหมายของพระเจ้ามาร์ติน 4.เคาท์James IIเเห่งอูเกล พระเทวันของพระเจ้ามาร์ติน 5.ดยุคLouis IIIเเห่งอองจู พระราชนัดดาของพระเจ้าJohn I เเห่งอารากอน พระเชษฐาของพระเจ้ามาร์ติน ในตอนเเรกผู้สนับสนุนเเต่ละฝ่ายก็ทำสงครามกันปะปราย ในที่สุดจึงการประชุมเพื่อหาข้อยุติ โดยให้ตัวเเทนจากภาคส่วนต่างๆ ออกคะเเนนเสียง เรียกว่า Compromise of Caspe ได้เเก่ ตัวเเทนจากอารากอน 3 ท่าน ตัวเเทนจากบาเลนเซีย 3 ท่าน เเละ ตัวเเทนจากคาตาลัน 3 ท่าน ผลก็คือ เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ได้รับเลือก 5 เสียง เคาท์เจมส์ที่2 ได้ 2 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง พระราชปิตุลาเเห่งคาสติลเเละพระราชภาติยะเเห่งอารากอนจึงขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่1เเห่งอารากอนเเละซิชิลี เป็นการสิ้นสุดราชวงศ์บาร์เซโลน่า เริ่มต้นราชวงศ์ Trastámaraเเห่งคาสติลในอารากอน
นับจากนั้นสองอาณาจักรทั้งคาสติลเเละอารากอนก็เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะเป็นราชวงศ์เดียวกันเเละพันธมิตรกัน ความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะนี้ จนกระทั่ง เกิดการสมรสครั้งใหญ่ในคาบสมุทรไอบิเรีย ก็คอ การสมรสระหว่าง พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่2เเห่งอารากอน กับ สมเด็จพระราชินีนาถอิสเบลล่าเเห่งคาสติล เเต่การสมรสครั้งนี้ไม่มีผลทำให้เกิดการรวมอาณาจักรเเต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างจัดการบ้านเมืองของตนเองไม่ข้องเกี่ยวกัน เป็นเพียงพันธมิตรกัน โดยทั้งสองพระองค์ได้ร่วมกันทำสงครามขับไล่มุสลิมออกจากคาบสมุทรไอบิเรียได้สำเร็จ ต่อมา ในปี1504 สมเด็จพระนางเจ้าอิสเบลล่าเเห่งคาสติลสวรรคต เจ้าหญิงโจเเอนนา พระราชธิดาเเห่งคาสติลเเละอารากอน จึงสืบราชสมบัติจากพระราชมารดาเป็น สมเด็จพระราชินีนาถโจเเอนนาเเห่งคาสติล ในขณะที่พระนางเจ้าประทับอยู่ที่เเคว้นเบอร์กันดีของพระสวามี ดยุคฟิลิปเเห่งเบอร์กันดี พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่2เเห่งอารากอนได้เป็นผู้สำเร็จราชการเเทนพระราชธิดาในคาสติล เเต่ได้รับการต่อต้านจากชนชั้นสูงในคาสติล เมื่อสมเด็จพระนางเจ้านิวัติคาสติล ชาวคาสติลเห็นว่าควรตั้งพระราชสวามี "ดยุคเเห่งเบอรกันดี"เป็นผู้สำเร็จราชการเเทนพระองค์ จึงสถาปนาเป็นพระเจ้าฟิลิปเเห่งคาสติล เเต่พระเจ้าฟิลิปทำหน้าที่ได้เเค่ปัเดียวจึงสวรรคต พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่2เเห่งอารากอน จึงเป็นผู้สำเร็จราชการเเทนพระองค์เเห่งคาสติลอีกครั้ง เเละจับสมเด็จพระราชินีนาถโจเเอนนา ซึ่งสติวิปลาสขังไว้ในปราสาท ต่อมาในปี1516 พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่2เเห่งอารากอนสวรรคต สมเด็จพระราชินีนาถโจเเอนนาเเห่งคาสติล ผู้เสียสติ จึงเสวยราชย์ในฐานะสมเด็จพระราชินีนาถเเห่งอารากอนอีกตำเเหน่ง กลายเป็น ขุนนางของทั้งสองอาณาจักรเห็นสมควรให้พระราชโอรสองค์โตของพระนาง "เจ้าชายชาร์ล ดยุคเเห่งเบอรกันดี" ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ร่วมกันกับพระราชมารดา ทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการ กลายเป็น "พระเจ้าคาร์ลอสที่1เเห่งคาสติลเเละอารากอน" ต่อมาพระองค์ก็ให้เรียกอาณาจักรทั้งสองรวมกันว่า "สเปน"
ต่อมา พระเจ้าคาร์ลอสที่1เเห่งสเปน ได้รับเลือกให้สิบราชสมบัติจากพระราชอัยกา เป็น "จักรพรรดิชาร์ลที่5เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์" โดยทรงครองดินเเดนสเปน เยอรมัน อิตาลี เเละเบอร์กันดี ต่อมาสมเด็จพระราชินีนาถโจเเอนนาสวรรคตในปี1555 ทำให้ราชวงศ์Trastámaraสิ้นสุดลง จักรพรรดิชาร์ลกลายเป็นกษัตริย์สเปนพระองค์เดียว เริ่มยุคสมัยราชวงศ์Habsburgเเห่งสเปน เเต่เนื่องจากดินเเดนที่มีมากเกินไป เกิดปัญหายุ่งยาก พระองค์จึงเเบ่งดินเเดนเป็นสองส่วนเเล้วสละราชสมบัติ ส่วนเเรก คือ สายสเปน ได้เเก่ สเปน เบอร์กันดี เเละดินเเดนในอิตาลี ให้พระราชโอรส"พระเจ้าฟิลิเปที่2เเห่งสเปน" เเละส่วนที่2 คือ สายออสเตรีย ได้เเก่ ดินเเดนโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ออสเตรีย ให้พระอนุชา"จักรพรรดิเฟอร์ดินานด์ที่1เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์"
ราชวงศ์Habsburgปกครองสเปนไปเรื่อยๆ ใช้มาดริดเป็นราชธานี จนกระทั่งพระเจ้าคาร์ลอสที่2เเห่งสเปนสวรรคตโดยไม่มีทายาทในปี1700 จึงมีการอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ 2 ฝ่าย ฝ่ายเเรกได้เเก่ ราชวงศ์บูร์บองของฝรั่งเศส เจ้าชายฟิลิป ดยุคเเห่งอองจู เป็นพระราชนัดดาในพระเจ้าหลุยส์ที่14 กับราชินีมาเรีย เทเรซ่า พระเชษฐภคนีของพระเจ้าคาร์ลอสที่2เเห่งสเปน ฝ่ายที่สอง คือ ราชวงศ์Habsburgสายออสเตรีย เนื่องจากจักรพรรดิชาร์ลที่6เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระราชนัดดาในจักรพรรดินีมาเรีย เเอนนา พระราชธิดาในพระเจ้าฟิลิเป้ที่3เเห่งสเปน ทั้งสองฝ่ายจึงทำสงครามเพื่อเเย่งชิงราชสมบัติกัน ชาวสเปนที่รวมเป็นหนึ่งก็เเตกเเยกอีกครั้ง ชาวคาสติลอยู่ฝ่ายราชวงศ์บูร์บอง มีฝรั่งเศสหนุน เเต่ชาวอารากอนอยู่ฝ่ายราชวงศ์Habsburg มีโรมันอันศักดิสิทธิ์ สหราชอาณาจักร หนุน สงครามทำกันทั้งให้โลกเก่าเเละโลกใหม่ จนกระทั่งในปี1714ทั้งสองฝ่ายยุติศึก ตกลงยินยอมให้เจ้าชายฟิลิป ดยุคเเห่งอองจู ขึ้นเป็น พระเจ้าฟิลิเป้ที่5เเห่งสเปน โดยทรงต้องสละสิทธิ์ในราชบัลลังก์ฝรั่งเศส ห้ามให้ฝรั่งเศสเเละสเปนมีกษัตริยพระองค์เดียวกัน สเปนเสียดินเเดนราบต่ำเเละในอิตาลีให้ออสเตรีย เสียชิซิลีให้ราชวงศ์ซาวอย เสียยิปรอนตาร์ให้อังกฤษ นับจากนั้นราชวงศ์บูร์บองก็ตั้งมั่นในสเปน (ถึงเเม้จะมีราชวงศ์โบนาปาร์ตขั้นประมาณ 13 ปี)
ต่อมาเเนวคิดสาธารณรัฐ เผยเเพร่เข้ามายังสเปน เเคว้นคาตาลันดูเหมือนจะเป็นฐานที่มั่นเเห่งความคิดนี้ ต่อมาในปี 1868 มีการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ในสเปน ปลดสมเด็จราชินีนาถอิสเบลล่าที่2ออกจากราชบัลลังก์ คณะปฏิวัติอัญเชิญเจ้าชายอมาดิโอ้เเห่งซาวอย ขึ้นครองราชย์ เพียง 3 ปี ทรงสละราชสมบัติ สเปนจึงเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ (หากสืบค้น ประธานาธิบดีส่วนใหญ่เป็นชาวคาตาลัน) เพียงเเค่ 3 ปี ประชาชนเรียกร้องกษัตริย์ รัฐบาลจึงอัญเชิญเจ้าชายอัลฟองโซ พระราชโอรสของราชินีอิสเบลล่าที่2 เป็นพระเจ้าอัลฟองโซที่12 ต่อมาในปี1931 ด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเสียอาณานิคม ผลการเลือกตั้งฝ่ายล่มเจ้าชนะอย่างถล่มทลาย พระเจ้าอัลฟองโซที่13จึงเสด็จหนีไปโรม สาธารณรัฐจึงจัดตั้งขึ้น
ในปี1936 รัฐบาลสาธารณรัฐได้ดำเนินนโยบายฝ่ายซ้าย ทำให้ฝ่ายขวาไม่พอใจจึงก่อกบฏนำโดยนายพลFrancisco Franco ได้นำกำลังทหารเข้ายึดอำนาจจากฝ่ายซ้าย ฝ่ายซ้ายต้องหลบหนีเข้าที่มั่นในบาร์เซโลน่า ซึ่งชาวคาตาลันให้การสนับสนุน ฝ่ายขวาสามารถยึดมาดริดได้สำเร็จ ในที่สุดในปี1939 ฝ่ายขวาสามารถทำลายฝ่ายซ้ายได้ทั้งหมด นายพลFrancisco Francoขึ้นเป็นประมุขเเห่งสเปน ปกครองสเปนด้วยระบอบเผด็จการทหาร ท่านได้ออกกฎห้ามพูดภาษาท้องถิ่นในประเทศ เช่น ภาษาคาตาลัน ภาษาบาสก์ เป็นต้น นำเงินของรัฐเเละอิทธิพลทางการเมืองสนับสนุนสโมสรเรอัล มาดริด เพื่อกำราบบาร์เซโลน่า เป็นต้น จนกระทั่งในปี1975 Francisco Franco ถึงเเก่อสัญกรรม พินัยกรรมของนายพลได้กำหนดให้ เจ้าชายฮวนคาร์ลอส พระราชนัดดาในพระเจ้าอัลฟองโซที่13 ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ เป็นประมุขของรัฐต่อจากตน
เมื่อสเปนกลับสู่ราชอาณาจักรในระบอบประชาธิปไตย เเคว้นคาตาลันกลายเป็นเเคว้นที่มีGDPในระดับสูงสุดของสเปน เป็นรัฐอุตสาหกรรม เสียภาษีมาก ทำรายได้ให้ประเทศมาก เมื่อสเปนเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ ชาวคาตาลันก็คิดว่าตนเเบกประเทศ บวกกับความรู้สึกชาตินิยม เเละประวัติวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จึงทำให้เกิดการเรียกร้องเอกราชในหลายครั้ง
อารากอน มีรัฐเพื่อนบ้านที่เป็นราชอาณาจักรเหมือนกัน นามว่า คาสติล เเอนด์ เลออง (ต่อมาคือ พวกมาดริด) ซึ่งสองรัฐนี้มีศัตรูร่วมกันคือ พวกมุสลิมทางใต้ ทั้งสองรัฐจึงมีการเเต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กัน เเต่รัฐทั้งสองก็ต่างคนต่างอยู่จนกระทั่ง พระเจ้ามาตินเเห่งอารากอนเเละที่2เเห่งชิชิลีเสด็จสวรรคตในปี1410 โดยไม่มีทายาทตามกฎหมายที่มีชีวิต ราชสมบัติอารากอนเเละซิชิลีก็ว่างลงถึงสองปี (ได้ราชสมบัติซิชิลีจากการที่พระราชโอรสที่ขึ้นครองราชยต่อจากพระมเหสี เเละเมื่อพระราชโอรสสวรรคตก่อนตน ราชสมบัติจึงตกมาสู่พระองค์) เพราะมีผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ถึง 5 คน ได้เเก่ 1.ดยุคAlfonso I เเห่งเเกนเดีย พระราชนัดดาของพระเจ้าJames II เเห่งอารากอน (ต่อมาท่านดยุคเเก่กรรมในปี1412 ก่อนได้ขอยุติ ดยุคAlfonso II โอรส ก็มิได้อ้างสิทธิ์ อนุชาJohnจึงอ้างสิทธ์ต่อมาเชษฐา) 2.เจ้าชายเฟอร์ดินานด์เเห่งคาสติล พระปิตุลาผู้สำเร็จราชการเเห่งคาสติล เจ้าราชภาติยะของพระเจ้ามาร์ติน (ความจริงสายนี้ ควรเป็นพระเจ้าJohn II เเห่งคาสติล เป็นผู้อ้างสิทธิ์ เเต่พระองค์มีราชบัลลังก์คาสติลอยู่เเล้ว Queen Motherจึงให้พระปิตุลาเฟอร์ดินานด์อ้างสิทธิ์เเทน) 3.เคาท์Fredericเเห่งLuna พระราชนัดดานอกกฎหมายของพระเจ้ามาร์ติน 4.เคาท์James IIเเห่งอูเกล พระเทวันของพระเจ้ามาร์ติน 5.ดยุคLouis IIIเเห่งอองจู พระราชนัดดาของพระเจ้าJohn I เเห่งอารากอน พระเชษฐาของพระเจ้ามาร์ติน ในตอนเเรกผู้สนับสนุนเเต่ละฝ่ายก็ทำสงครามกันปะปราย ในที่สุดจึงการประชุมเพื่อหาข้อยุติ โดยให้ตัวเเทนจากภาคส่วนต่างๆ ออกคะเเนนเสียง เรียกว่า Compromise of Caspe ได้เเก่ ตัวเเทนจากอารากอน 3 ท่าน ตัวเเทนจากบาเลนเซีย 3 ท่าน เเละ ตัวเเทนจากคาตาลัน 3 ท่าน ผลก็คือ เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ได้รับเลือก 5 เสียง เคาท์เจมส์ที่2 ได้ 2 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง พระราชปิตุลาเเห่งคาสติลเเละพระราชภาติยะเเห่งอารากอนจึงขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่1เเห่งอารากอนเเละซิชิลี เป็นการสิ้นสุดราชวงศ์บาร์เซโลน่า เริ่มต้นราชวงศ์ Trastámaraเเห่งคาสติลในอารากอน
นับจากนั้นสองอาณาจักรทั้งคาสติลเเละอารากอนก็เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะเป็นราชวงศ์เดียวกันเเละพันธมิตรกัน ความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะนี้ จนกระทั่ง เกิดการสมรสครั้งใหญ่ในคาบสมุทรไอบิเรีย ก็คอ การสมรสระหว่าง พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่2เเห่งอารากอน กับ สมเด็จพระราชินีนาถอิสเบลล่าเเห่งคาสติล เเต่การสมรสครั้งนี้ไม่มีผลทำให้เกิดการรวมอาณาจักรเเต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างจัดการบ้านเมืองของตนเองไม่ข้องเกี่ยวกัน เป็นเพียงพันธมิตรกัน โดยทั้งสองพระองค์ได้ร่วมกันทำสงครามขับไล่มุสลิมออกจากคาบสมุทรไอบิเรียได้สำเร็จ ต่อมา ในปี1504 สมเด็จพระนางเจ้าอิสเบลล่าเเห่งคาสติลสวรรคต เจ้าหญิงโจเเอนนา พระราชธิดาเเห่งคาสติลเเละอารากอน จึงสืบราชสมบัติจากพระราชมารดาเป็น สมเด็จพระราชินีนาถโจเเอนนาเเห่งคาสติล ในขณะที่พระนางเจ้าประทับอยู่ที่เเคว้นเบอร์กันดีของพระสวามี ดยุคฟิลิปเเห่งเบอร์กันดี พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่2เเห่งอารากอนได้เป็นผู้สำเร็จราชการเเทนพระราชธิดาในคาสติล เเต่ได้รับการต่อต้านจากชนชั้นสูงในคาสติล เมื่อสมเด็จพระนางเจ้านิวัติคาสติล ชาวคาสติลเห็นว่าควรตั้งพระราชสวามี "ดยุคเเห่งเบอรกันดี"เป็นผู้สำเร็จราชการเเทนพระองค์ จึงสถาปนาเป็นพระเจ้าฟิลิปเเห่งคาสติล เเต่พระเจ้าฟิลิปทำหน้าที่ได้เเค่ปัเดียวจึงสวรรคต พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่2เเห่งอารากอน จึงเป็นผู้สำเร็จราชการเเทนพระองค์เเห่งคาสติลอีกครั้ง เเละจับสมเด็จพระราชินีนาถโจเเอนนา ซึ่งสติวิปลาสขังไว้ในปราสาท ต่อมาในปี1516 พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่2เเห่งอารากอนสวรรคต สมเด็จพระราชินีนาถโจเเอนนาเเห่งคาสติล ผู้เสียสติ จึงเสวยราชย์ในฐานะสมเด็จพระราชินีนาถเเห่งอารากอนอีกตำเเหน่ง กลายเป็น ขุนนางของทั้งสองอาณาจักรเห็นสมควรให้พระราชโอรสองค์โตของพระนาง "เจ้าชายชาร์ล ดยุคเเห่งเบอรกันดี" ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ร่วมกันกับพระราชมารดา ทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการ กลายเป็น "พระเจ้าคาร์ลอสที่1เเห่งคาสติลเเละอารากอน" ต่อมาพระองค์ก็ให้เรียกอาณาจักรทั้งสองรวมกันว่า "สเปน"
ต่อมา พระเจ้าคาร์ลอสที่1เเห่งสเปน ได้รับเลือกให้สิบราชสมบัติจากพระราชอัยกา เป็น "จักรพรรดิชาร์ลที่5เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์" โดยทรงครองดินเเดนสเปน เยอรมัน อิตาลี เเละเบอร์กันดี ต่อมาสมเด็จพระราชินีนาถโจเเอนนาสวรรคตในปี1555 ทำให้ราชวงศ์Trastámaraสิ้นสุดลง จักรพรรดิชาร์ลกลายเป็นกษัตริย์สเปนพระองค์เดียว เริ่มยุคสมัยราชวงศ์Habsburgเเห่งสเปน เเต่เนื่องจากดินเเดนที่มีมากเกินไป เกิดปัญหายุ่งยาก พระองค์จึงเเบ่งดินเเดนเป็นสองส่วนเเล้วสละราชสมบัติ ส่วนเเรก คือ สายสเปน ได้เเก่ สเปน เบอร์กันดี เเละดินเเดนในอิตาลี ให้พระราชโอรส"พระเจ้าฟิลิเปที่2เเห่งสเปน" เเละส่วนที่2 คือ สายออสเตรีย ได้เเก่ ดินเเดนโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ออสเตรีย ให้พระอนุชา"จักรพรรดิเฟอร์ดินานด์ที่1เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์"
ราชวงศ์Habsburgปกครองสเปนไปเรื่อยๆ ใช้มาดริดเป็นราชธานี จนกระทั่งพระเจ้าคาร์ลอสที่2เเห่งสเปนสวรรคตโดยไม่มีทายาทในปี1700 จึงมีการอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ 2 ฝ่าย ฝ่ายเเรกได้เเก่ ราชวงศ์บูร์บองของฝรั่งเศส เจ้าชายฟิลิป ดยุคเเห่งอองจู เป็นพระราชนัดดาในพระเจ้าหลุยส์ที่14 กับราชินีมาเรีย เทเรซ่า พระเชษฐภคนีของพระเจ้าคาร์ลอสที่2เเห่งสเปน ฝ่ายที่สอง คือ ราชวงศ์Habsburgสายออสเตรีย เนื่องจากจักรพรรดิชาร์ลที่6เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระราชนัดดาในจักรพรรดินีมาเรีย เเอนนา พระราชธิดาในพระเจ้าฟิลิเป้ที่3เเห่งสเปน ทั้งสองฝ่ายจึงทำสงครามเพื่อเเย่งชิงราชสมบัติกัน ชาวสเปนที่รวมเป็นหนึ่งก็เเตกเเยกอีกครั้ง ชาวคาสติลอยู่ฝ่ายราชวงศ์บูร์บอง มีฝรั่งเศสหนุน เเต่ชาวอารากอนอยู่ฝ่ายราชวงศ์Habsburg มีโรมันอันศักดิสิทธิ์ สหราชอาณาจักร หนุน สงครามทำกันทั้งให้โลกเก่าเเละโลกใหม่ จนกระทั่งในปี1714ทั้งสองฝ่ายยุติศึก ตกลงยินยอมให้เจ้าชายฟิลิป ดยุคเเห่งอองจู ขึ้นเป็น พระเจ้าฟิลิเป้ที่5เเห่งสเปน โดยทรงต้องสละสิทธิ์ในราชบัลลังก์ฝรั่งเศส ห้ามให้ฝรั่งเศสเเละสเปนมีกษัตริยพระองค์เดียวกัน สเปนเสียดินเเดนราบต่ำเเละในอิตาลีให้ออสเตรีย เสียชิซิลีให้ราชวงศ์ซาวอย เสียยิปรอนตาร์ให้อังกฤษ นับจากนั้นราชวงศ์บูร์บองก็ตั้งมั่นในสเปน (ถึงเเม้จะมีราชวงศ์โบนาปาร์ตขั้นประมาณ 13 ปี)
ต่อมาเเนวคิดสาธารณรัฐ เผยเเพร่เข้ามายังสเปน เเคว้นคาตาลันดูเหมือนจะเป็นฐานที่มั่นเเห่งความคิดนี้ ต่อมาในปี 1868 มีการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ในสเปน ปลดสมเด็จราชินีนาถอิสเบลล่าที่2ออกจากราชบัลลังก์ คณะปฏิวัติอัญเชิญเจ้าชายอมาดิโอ้เเห่งซาวอย ขึ้นครองราชย์ เพียง 3 ปี ทรงสละราชสมบัติ สเปนจึงเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ (หากสืบค้น ประธานาธิบดีส่วนใหญ่เป็นชาวคาตาลัน) เพียงเเค่ 3 ปี ประชาชนเรียกร้องกษัตริย์ รัฐบาลจึงอัญเชิญเจ้าชายอัลฟองโซ พระราชโอรสของราชินีอิสเบลล่าที่2 เป็นพระเจ้าอัลฟองโซที่12 ต่อมาในปี1931 ด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเสียอาณานิคม ผลการเลือกตั้งฝ่ายล่มเจ้าชนะอย่างถล่มทลาย พระเจ้าอัลฟองโซที่13จึงเสด็จหนีไปโรม สาธารณรัฐจึงจัดตั้งขึ้น
ในปี1936 รัฐบาลสาธารณรัฐได้ดำเนินนโยบายฝ่ายซ้าย ทำให้ฝ่ายขวาไม่พอใจจึงก่อกบฏนำโดยนายพลFrancisco Franco ได้นำกำลังทหารเข้ายึดอำนาจจากฝ่ายซ้าย ฝ่ายซ้ายต้องหลบหนีเข้าที่มั่นในบาร์เซโลน่า ซึ่งชาวคาตาลันให้การสนับสนุน ฝ่ายขวาสามารถยึดมาดริดได้สำเร็จ ในที่สุดในปี1939 ฝ่ายขวาสามารถทำลายฝ่ายซ้ายได้ทั้งหมด นายพลFrancisco Francoขึ้นเป็นประมุขเเห่งสเปน ปกครองสเปนด้วยระบอบเผด็จการทหาร ท่านได้ออกกฎห้ามพูดภาษาท้องถิ่นในประเทศ เช่น ภาษาคาตาลัน ภาษาบาสก์ เป็นต้น นำเงินของรัฐเเละอิทธิพลทางการเมืองสนับสนุนสโมสรเรอัล มาดริด เพื่อกำราบบาร์เซโลน่า เป็นต้น จนกระทั่งในปี1975 Francisco Franco ถึงเเก่อสัญกรรม พินัยกรรมของนายพลได้กำหนดให้ เจ้าชายฮวนคาร์ลอส พระราชนัดดาในพระเจ้าอัลฟองโซที่13 ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ เป็นประมุขของรัฐต่อจากตน
เมื่อสเปนกลับสู่ราชอาณาจักรในระบอบประชาธิปไตย เเคว้นคาตาลันกลายเป็นเเคว้นที่มีGDPในระดับสูงสุดของสเปน เป็นรัฐอุตสาหกรรม เสียภาษีมาก ทำรายได้ให้ประเทศมาก เมื่อสเปนเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ ชาวคาตาลันก็คิดว่าตนเเบกประเทศ บวกกับความรู้สึกชาตินิยม เเละประวัติวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จึงทำให้เกิดการเรียกร้องเอกราชในหลายครั้ง
แสดงความคิดเห็น
ทำไมกาตาลุญญาถึงมีแนวคิดจะแยกตัวออกจากสเปนครับ
ในประวัติศาสตร์ เค้าเป็นคนละประเทศกันมาก่อนเหรอครับ