ผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้หญิง แต่แอบแฟนมาคุยกับเราซึ่งเป็นสาวประเภทสอง เค้ารู้สึกดีกับเราจริงๆมั้ยคะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเรา ประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว เราจะพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ให้กระชับที่สุด เพราะมันค่อนข้างจะมีรายละเอียดเยอะ ... เราเป็นสาวประเภทสอง อายุใกล้ๆ เลข 3 แล้ว ไม่ได้เนียนนี สวยเหมือนผู้หญิงอะไรมากมาย ไม่มีแฟน แต่ก็มีคนคุยๆ เลิกๆ มาตลอด เราทำงานประจำ เป็นสาวออฟฟิศธรรมดาๆ จนเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว เราเล่นแอพหาเพื่อนคุย(โลกของผึ้ง) เจอผู้ชายคนหนึ่ง อายุน้อยกว่าเรา 1 ปี หน้าตาก็โอเค (หมายถึงรูปในแอพนะ แต่ตัวจริงดูดีกว่านั้น) เราเป็นฝ่ายแอดเค้าไปก่อน แล้วน้องเค้าก็รับแอดแต่ก็ไม่ได้คุย จนน้องเค้าเป็นฝ่ายทักมาเองก่อนถึงได้คุยกัน น้องเค้าเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียง และตอนนี้ทำงานอยู่ในบริษัทฯ ตรวจสอบบัญชี โปรไฟล์ดีขนาดนี้ เราก็เลยคุย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่า ก็คงคุยเล่นๆ ไป แต่ในความเป็นจริง คือ เราคุยกันแบบข้ามวันเลย เราก็เลยรู้สึกว่า เออ น้องคนนี้ มาแปลกๆ จากนั้น น้องก็ขอ call หาในแอพ แต่ว่ามันหลุดบ่อย เราก็เลย ให้เบอร์โทรเราไป แต่น้องเค้าก็ไม่ยอมโทรมา พอ call อีกที ได้โอกาส ก็เลยถาม ปรากฎว่าน้องมีแฟนอยู่แล้ว และคบกันมาเป็น 10 ปี ที่ไม่กล้าโทรออกเพราะแฟนน้องจะเชคเบอร์โทร ... ตอนนั้นเราก็แอบใจหายเล็กน้อย คือ ถ้าถึงขนาดแฟนเชคเบอร์โทร คนนี้คงมีประวัติไม่ธรรมดามาก่อน ซึ่งก็จริงตามนั้น น้องบอกว่าเคยแอบคุยกับคนอื่นแล้วแฟนจับได้ ... ตลอด 2-3 วันที่คุย เราเองก็รู้สึกโอเค ถ้าต้องหยุดคุยเลยรู้สึกเสียดาย เพราะเราเองก็กลัวเค้าจะมีปัญหากับแฟน ... สุดท้าย เราก็แพ้ในความสม่ำเสมอ แถมมีเล่นกีต้าร์ให้ฟังทางโทรศัพท์ด้วย เราก็เพ้อๆ เคลิ้มๆ ใจจริงก็อยากจะเลิกคุยนั่นแหล่ะ แต่ขอเจอสักหน่อยดีกว่า น้องเค้าเลยมาหาที่ห้อง ตอนนั้นก็ดึกพอสมควร ก็ได้คุยกัน เราโอเคเลยแหล่ะ แต่น้องเค้าดูแบบ แพรวแพราวมาก คำพูดคำจา ไม่ซื่อเหมือนหน้าตาที่ดูตี๋ๆ ใส่แว่นเลย จนน้องเค้าเผลอหลับไป บนที่นอนเรา เราก็ไม่มีที่นอน เลยนั่งทำงานที่โต๊ะทำงาน จนถึงเช้า เราก็อาบน้ำ เก็บของ พอดีเราจะกลับบ้านต่างจังหวัด พอน้องเค้าตื่นมาก็ถามว่า ทำไม่พี่ไม่นอน เราก็ไม่ได้ตอบอะไร ใจจริง เราก็กลัวนั่นแหล่ะ กลัวจะไปทำอะไรน้องเค้า ไม่ใช่ว่าจะกลัวน้องเค้ามาทำอะไรเราหรอก 555 ... น้องเค้าให้เราติดรถไปด้วยเพราะที่ที่เราจะไปขึ้นรถ มันเป็นทางผ่านพอดี ... พอเราถึงบ้าน ก็โทรคุยกับน้องเค้า บางคืนก็คุยจนเกือบตีสาม เอาจริงๆ ใจเราก็เริ่มไปละ พอวันกลับ เราซื้อขนมมาฝากพี่ๆที่ออฟฟิศ เราก็เลยซื้อมาฝากน้องเค้าด้วย ... จากนั้นเราก็ได้เจอกันอีก น้องมาเอาขนมที่หอเรา (จริงๆมันเป็นแผนที่อยากเจอ) น้องก็ค้างที่หอเรา อีกคืน ตอนเช้าก็กลับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนคืนที่ 3 ก็มีเรื่องจนได้ คืนนั้น พอน้องมาถึงห้องเราได้สักพัก โทรศัพท์ก็ดังขึ้น สรุปคือ แฟนน้อง เชคโลเคชั่น แล้วคงเจอความผิดปกติ เลยบุกมาถึงคอนโดที่น้องอยู่ (แฟนน้องเค้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน) น้องพูดกับเราว่า “ผมงานเข้าแล้วพี่ แต่ผมคงไม่กลับคอนโด ให้เค้านึกไปว่าผมหนีเที่ยวแล้วกัน จากนั้นน้องเค้าก็มานอน” ... จากนั้นก็มีเหตุการณ์รายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะเลย น้องเค้าจะเป็นฝ่ายติดต่อมาเองตลอด น้องเค้าจะทักมาในแอพ บางทีก็มีโทรคุยกัน เรามีโอกาสได้คุยกันตลอด ตั้งแต่เช้า ตื่นขึ้นมา ระหว่างเวลาทำงาน พักกลางวัน พักเบรค จนเลิกงาน เราเดินทางกลับบ้าน ไม่เคยหายไปเลย ความสัมพันธ์มันก็ค่อยๆเปลี่ยนไป จนมีอยู่วันหนึ่ง หลังจากที่คุยกันได้เกือบเดือน ไลน์ของเรามีเพื่อนเพิ่มมาจากเบอร์โทร เป็นแฟนของน้องเค้า เรารู้เพราะเราเคยเห็นหน้าใน IG เราก็เลยแคปรูป แล้วส่งไปให้น้องเค้าดู แล้วบอกว่า ผญ. คนนี้ หน้าคุ้นๆ เนาะ เราคงไปต่อไม่ได้แล้วละ ใจเราตอนนั้นคือ อยากเลิกคุยแล้ว สงสารแฟนเค้าด้วย แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่จะไปแอบคุยกับแฟนคนอื่น ตอนนั้น เราได้โอกาสพอดี เราต้องไปธุระต่างจังหวัด ไกลพอสมควร ก็เลย ไม่ได้เจอน้องเค้า ในช่วง2วันนั้น เวลาคุยกันในแอพ เราเองก็จะไม่ค่อยตอบ ไม่ยอมโทรคุย พยายามจะตัด จนเรากลับมาทำงานวันจันทร์ ตอนเช้า น้องก็พูดว่า เลิกคุยก็ได้ ไม่อยากให้เราไม่สบายใจ ก็พูดร่ำลากันดิบดี แต่ก็ไม่มีใครลบเพื่อนจากในแอพ สุดท้ายก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม (ช่วงนี้ก็มีเหตุการณ์ปลีกย่อยอีกที่ทำให้ได้กลับมาคุยกัน) ... ตอนนั้น เรายอมรับกับตัวเองเลยว่า เราชอบน้องเค้าไปแล้ว ฝ่ายน้องเอง ก็รุกไม่หยุดเลย วันไหนว่างก็มาหาตลอด แต่ก็จะมาช่วงดึกๆ เพราะต้องรอให้มั่นใจว่าแฟนหลับแล้วถึงมาหาเราได้ แล้วจะทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่คอนโด ตอนเช้าก็กลับแต่เช้า แต่ก็มีบางครั้งตื่นสาย กลับไปช้า แฟนน้องเค้ามาหาถึงคอนโด เพราะโทรมาหาตอนเช้าแล้วไม่รับสาย ... เราโทรคุยกันทุกวัน ไม่เคยหาย บางทีเราเองก็สงสัย ว่าจะทำดีกับเราทำไม เราเป็นคนธรรมดามา ordinary สุดๆ ไม่มีอะไรดึงดูด น่าสนใจมากพอที่จะต้องมาทำอะไรให้ แถมไม่ใช่ ผญ. อีก เราจะปรึกษาเพื่อนตลอด ว่าควรทำไงดี เพื่อนบอกเรามักจะบอกว่า ก็ดูๆไป คุยๆไป สนุกๆ ขำๆ อย่าไปจริงจัง แต่แบบ คือ ใจเราตอนนั้น มันไม่ใช่แล้ว น้องเค้ากลายเป็นคนที่เราอยากทำอะไรดีๆให้ เวลาเราเดินทางไปไหน ได้ทานอะไร เราก็จะซื้อกลับมาฝากน้องเค้าด้วยเสมอ รวมไปถึงดูแลเรื่องอื่นๆ เล็กๆน้อยให้ เช่น ตัดขนจมูกให้ เราเองคิดว่าที่มันมาได้ไกล คงเป็นเพราะเราเป็นคนชอบเอาใจ และ น้องเค้าก็เหงาๆอยู่ด้วย ... ความสัมพันธ์ของข้องน้องกับแฟน (ตามที่น้องเล่าให้ฟัง) คบกันมาตั้งแต่ ม.ปลาย แฟนจะอายุมากกว่า 1 ปี แฟนจบมัธยมก่อน แฟนเข้ามาเรียนในมหาลัย น้องก็อยู่ ม.6 พอเข้ามหาลัย ก็เรียนคนละที่ เรียนสาขาวิชาเหมือนกัน แต่ก็มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตมาก น้องกลัวแฟนมาก เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมกลัวขนาดนั้น เรียนอยู่คนละที่ แต่ก็สามารถคุมพฤติกรรมได้ ตามจิก ตามเชค น้องจะมีฉายาว่า  “...(ชื่อน้อง)...ปาฏิหาริย์หลังเที่ยงคืน” คือถ้าจะไปไหน ต้องรอหลังเที่ยงคืน (แฟนคงหลับแล้ว) ถึงออกไปไหนต่อไหนได้ น้องผู้ชาย เคยแอบคุยกับคนอื่น สองครั้ง ครั้งแรก ตอนเรียนมหาลัย ครั้งที่สองคือช่วงทำงาน แล้วก็เรา เป็นครั้งที่ 3 แฟนน้องเป็นคนเก่งมาก เรียนเก่ง ทำงานเก่ง บ้านฐานะดี ตอนนี้มีแผนกำลังจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ มีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน มีแผนจะแต่งงานกันช่วงอายุ 35-36 น้องผู้ชายเอง ก็จะชอบพูดให้ฟังว่า มันก็รู้สึกกดดันที่แฟนต้องคอยคุมขนาดนี้ แต่เป็นเพราะยอมมาตั้งแต่แรก ก็เลยต้องยอมตลอด ถ้าจะให้เลิก ก็คงไม่เลิก ก็รักนั่นแหล่ะ แต่มันรู้สึกเครียด ไม่อิสระ แต่มันก็ทำให้ชีวิตดีขึ้น น้องเคยบอกว่า ถ้าได้กลับมาโสดอีกครั้ง ก็อยากจะโสดไปนานๆเลย ... ความสัมพันธ์ ดำเนินมาสักระยะ ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนไปอีก คำเรียกแทนตัวเองก็เปลี่ยนไปจาก พี่ – ผม ก็กลายเป็น เธอ – เธอ, เธอจ๋า – เธอ และมันยังมีเหตุการณ์ดีๆ ที่น้องเค้าทำให้ เช่น ตอนเช้าขับรถไปส่งเราถึงที่ทำงาน ไปนั่งรอเราที่ร้านเสริมสวยเวลาเราไปสระผม ช่วงกลางวันวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เวลาเราไม่ได้ไปไหนก็แวะมาหาบ้าง ถ้าวันไหนมานอนด้วยก่อนนอนก็จะหวีผมให้ กล้าเดินจับมือเรา ขอถ่ายรูปคู่กับเรา แต่ความสัมพันธ์มันก็จะเป็นแบบลับๆ เรามักจะเป็นฝ่ายระวังตัวเองแทนน้องเค้ามากๆ เราจะไม่โทรหาถ้าน้องไม่บอกให้โทร เวลาเจอกันข้างนอก เช่น เวลาเดินในห้าง ก็จะเจอกับแบบหลบๆ คุยกัน 2-3 คำ ก็กลับ เวลาเรางอนหรือไม่พอใจอะไร ก็จะรู้ตลอด แล้วก็จะซักตลอดด้วย จนกว่าเราจะยอมพูด จะกว่าจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไร จะต้องแก้ยังไง ช่วงที่เราทำงานหนักๆ เลิกงานดึก ก็จะคอยถามตลอดว่าเป็นไงบ้าง จนบางทีเราก็รู้สึกว่า เอาเวลาให้เราขนาดนี้ จะเอาเวลาที่ไหนให้แฟน ... ความสัมพันธ์ มันเริ่มลึกซึ้งไปอีก เปลี่ยนเป็นการคบ ฟังดูอาจจะไม่ค่อยน่าเชื่อ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ น้องบอกว่าความรู้สึกตอนนั้นมันเกินกว่าชอบไปแล้ว เราเองก็จะบอกน้องตลอดว่า จะพูดความรู้สึกอะไรออกมาให้คิดดีๆ มันมีผลต่อใจเรา น้องบอกว่าอยากคบ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติ น้องเค้าก็เอาใจใส่เราจริงๆ แคร์เราทุกเรื่อง แต่เราเองกลับรู้สึกอึดอัด มันไม่เหมือนการคบ มันเป็นการบังคับให้เราคุยกับน้องเค้าแค่คนเดียว ช่วงท้ายๆ ก่อนที่จะเลิกกัน เรากับน้องมีปัญหากันบ่อย คือ น้องเค้าขอเชคโทรศัพท์เรา น้องเค้าขอดูแชทจากแอพหาเพื่อนแอพอื่นๆที่เราเล่น แล้วบอกให้เราลบ ทั้งลบแอพ ลบเพื่อน ขอดูไลน์ เราเองก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เราพูดเสมอว่า มาถึงตรงนี้ เราก็ถือว่าทำผิดมากแล้ว ถ้าโดนจับได้ ยังไงก็ต้องเลิกอยู่ดี เธอคงไม่เลือกเราอยู่แล้ว ดังนั้นตอนนี้ เธอก็เหมือนคนที่เราคุยด้วยคนนึง เราก็ถือว่ายังโสด จะคุยกับใครก็ได้ แรกๆ น้องก็โอเค เราจะไปกินข้าวกับใคร ก็จะบอกน้องไว้ เช่นเดียวกัน เวลาน้องจะไปกินข้าวกับแฟน จะไปหาแฟน ก็จะบอกเราไว้เหมือนกัน เราเคยทะเลาะกันหนักๆ เพราะเรานัดเจอกับคนอื่นแล้วไม่ได้บอกน้องเค้า น้องมาจับได้ทีหลัง ก็เลยทะเลาะกันหนักเลย น้องถอดแหวนที่เราให้ไว้ทิ้ง เราก็เสียใจ ไม่กลับห้อง แล้วก็ปิดโทรศัพท์ น้องมาหาเราที่ห้อง ไม่เจอ ก็เลยเขียนจดหมายทิ้งไว้ ฟังดูดราม่านะ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ จนตอนนี้ ยังอดคิดไม่ได้ว่ามีเหตุผลอะไร ทำไมความสัมพันธ์มันเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ ... แต่สุดท้ายความสัมพันธ์มันก็จบลง เพราะแฟนน้องเค้าจับได้ น้องไปงานวันเกิดเพื่อนแล้วเมา ไม่ได้เคลียร์โทรศัพท์ เพื่อนๆโทรให้แฟนน้องมารับ เราก็ทักไปหาพอดี เพราะน้องเค้าบอกว่า ถ้ากลับแล้วจะโทรหา เรารอจนเกือบตี4 ไม่ติดต่อมาเลยทักไป ตอนนั้นโทรศัพท์อยู่ในมือแฟนน้องเค้าพอดี ทุกอย่างที่คุยกัน มันชัดเจน ดิ้นไม่หลุด แฟนน้องเค้าแอดเฟรนเรามาในแอพนั้นแหล่ะ แล้วก็ด่าเราว่าแรด คำด่านี้มันเบสิคมากสำหรับเรา แต่ ณ เวลานั้น เรากลับรู้สึกเจ็บมาก สุดท้ายน้องเค้าก็ทิ้งเรา เราเองก็เข้าใจแหล่ะ คบกันเงียบๆ ก็เลิกกันไปแบบเงียบๆ เรียกร้องอะไรก็ไม่ได้ เพราะมันผิดมาตั้งแต่เริ่ม เราไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ใช่คนในอนาคต เค้าคงเหงาแล้วมาเจอเราพอดี ตอนที่โดนทิ้งเราก็เสียใจ มันมีอะไรหลายๆอย่างที่อยากถาม อยากบอก อยากทำให้ แต่มันก็หมดโอกาสแล้ว เราให้เพื่อนติดต่อน้องไปหลังจากนั้น 3 อาทิตย์ เราก็ได้คุยกัน น้องเค้าบอกว่า ตอนนี้ ใช้ชีวิตยากขึ้นกว่าเดิมไปอีก แฟนเชคทุกอย่าง มันยากมากที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ จะไปต่อก็ลำบาก คงต้องจบเพียงแค่นี้ เรามักจะพูดกับน้องเค้า แนวประชดว่าเราไม่เรียกร้องอะไรหรอก ปล่อยให้ความสัมพันธ์มันอยู่แค่ให้ห้องสี่เหลี่ยม ในจอสี่เหลี่ยมแค่นั้น น้องเค้าก็จะบอกตลอดว่าอยากได้อะไร ให้บอกมา เค้าจะทำให้ ไม่อยากให้เรารู้สึกโดนเอาเปรียบ แต่เราเองก็ไม่เคยพูด ไม่เคยขอเลย จริงๆ แล้วตอนนั้นมันมีสิ่งอยากได้ และมันก็ไม่ได้ยากอะไรเลย แค่พาเราไปกินข้าวบ้างแค่นั้น เพราะตั้งแต่คบกันมา ยังไม่เคยกินข้าวด้วยกันเลย เวลาเจอกันข้างนอก ก็ได้แค่คุย ที่เราไม่กล้าขอเพราะเรากลัวน้องจะอึดอัด เราไม่ได้สวยมาก ดูออกว่าเป็นกะเทย กลัวคนจะมอง แล้วอีกอย่างแฟนน้องเค้าก็คุมค่าใช้จ่ายด้วย ให้เงินใช้เป็นอาทิตย์ เลยไม่อยากขออะไร ตอนนี้ เราเองก็ดีขึ้น ค่อยๆทำใจได้ แต่มันก็จะติดปัญหาตรงชื่อของน้องเค้า มันเป็นชื่อภาษาอังกฤาที่มีอยู่ในเครื่องมืออิเลกทรอนิกส์แทบทุกชนิด เห็นปุ่มกดที่มีชื่อนี้ทีไร ก็นึกถึงตลอด คงจะเก็บความรู้สึกดีๆไว้เป็นนแรงบันดาลใจในการทำงาน ในการใช้ชีวิต เพราะน้องเค้าเป็นคนเก่ง ทำงานเก่ง ดนตรี กีฬา ก็ได้ เราชอบคนมี passion เพราะเราเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน มีสิ่งที่ชอบทำอื่นๆนอกเหนือจากการทำงาน บางทีมันก็อาจจะดูไร้สาระแต่น้องเค้าก็เค้าใจเรา ... เราก็ไม่เข้าใจน้องเค้าว่าเข้ามาในชีวิตเราทำไม แต่มันไม่มีโอกาสที่จะหาคำตอบแล้ว ก็ต้องตามนั้น ใช้ชีวิตต่อไป ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่