ไม่ได้นั่งเครื่องบินมานานแล้ว จนกระทั่งเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนนี่แหละ

ไม่ได้นั่งเครื่องบินมานานแล้ว ด้วยเหตุว่าผมรำคาญกระบวนการของมัน ตั้งแต่การจองตั๋ว การขึ้นเครื่อง การนั่งเครื่อง ตลอดไปจนถึงการลงจากเครื่องซึงมีขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย จึงที่ผ่านมาเวลาต้องเดินทางไกล ถ้าไม่ไปรถทัวร์ ผมก็ปั่นจักรยานไปตลอด ฮา

กระทั่งเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนนี่แหละ หลานมีธุระอยากจะให้ผมไปหาที่ระยองโดยด่วน เขาก็เลยซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับให้ จึงทำให้ผมต้องนั่งเครื่องอีกครั้ง

นั่งเครื่องบินครั้งนี้รู้สึกขัดใจขึ้นไปอีก เพราะมันไม่เพียงแต่ให้เอาโทรศัพท์กับกระเป๋าเดินทางใส่ตะกร้าลากเข้าเครื่องสแกนเท่านั้น แต่มันยังให้ล้วงเอากระเป๋าสตังค์ออกมา และถอดเข็มขัดใส่ไปในตะกร้าด้วย แค่กระเป๋าสตังค์ก็พอทน แต่ให้ถอดเข็มขัดนี่สิ ผมว่ามันน่ารำคาญเอามาก ๆ ทีเดียว อีกอย่าง โดยส่วนตัวผมเองนั้นไม่ได้คาดเข็มขัดเอาหล่อแต่อย่างใด แต่คาดเพื่อมัดกางเกงไว้กับเอวไม่ให้หลุดลุ่ยออกมาต่างหาก พอโดนมันบอกให้ถอดเข็มขัด ทันทีที่ปลดเข็มออกจากรู ไม่ทันได้ดึงสายเข็มขัดออกมาจากหูกางเกงด้วยซ้ำ กางเกงก็ร่วงจากเอวลงไปกองอยู่กับพื้นเสียแล้ว ฮร๊ายยยยย อับอายขายขี้หน้าผู้คนแทบจะแทรกพื้นสนามบินหนีกันเลยทีเดียว เม่งเอ้ย!

ขากลับมาขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ผมอุตส่าห์คิดว่าในเมืองหลวงมันคงจะมีเครื่องไม้เครื่องมือในการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยกว่าต่างจังหวัด มันคงจะไม่ให้ถอดเข็มขัดออกมาสแกนหรอก แต่ที่ไหนได้มันให้ถอดเหมือนกัน อิตอนขาไปผมกางเกงหลุดไปทีหนึ่งแล้ว มันจึงได้บทเรียนทำให้ผมต้องระมัดระวังให้มากขึ้นเป็นพิเศษ คราวนี้ระหว่างปลดเข็ดขัดก็เบ่งพุงไปด้วยเพื่อจะได้ช่วยพยุงกางเกงไว้ไม่ให้หลุดร่วงลงมาอีก แต่พอเอาเข็มขัดใส่ตะกร้าเสร็จเรียบร้อยก็ลืมตัว พอก้าวขาจะเข้าประตูก็เผลอคลายลมเบ่ง เม่ง! กางเกงร่วงลงไปกองที่พื้นอีกจนได้

อับอายขายขี้หน้าทั้งขาไปขากลับ สลัด!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่